ถ้าให้สรุปสั้นๆ ถึงเรื่องราวของรถยนต์ที่เกิดขึ้นในปีนี้แล้วล่ะก็ คงไม่มีเรื่องไหนใหญ่โตไปกว่ากระแสของรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง จนคาดการณ์ได้ว่าในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะดุเดือดขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่าตัว แต่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็จะได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะมีตัวเลือกของรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกหลายรุ่นหลายราคาจำหน่าย
นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นเรื่องใหญ่สุดแล้ว พวกรถยนต์ไฮบริด (Hybrid) ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเหตุผลมาจากความประหยัดในอัตราบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและความสะดวกสบายในการขับขี่ใช้งาน คุณไม่ต้องกังวลในเรื่องการชาร์จไฟเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า เพราะรถยนต์ไฮบริดยังมีเครื่องยนต์ที่เป็นกำลังหลักอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องในบางจังหวะของการขับขี่เพียงเท่านั้น ซึ่งรถยนต์ไฮบริดไม่ใช่ของใหม่ในไทย ผู้คนคุ้นชินเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องปรับตัวเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า
สิ่งหนึ่งที่ทำให้รถยนต์พลังงานทางเลือกทั้งแบบไฟฟ้าและไฮบริดได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนต้องพูดถึง สิ่งที่เป็นตัวเร่งเร้าอย่างดีจะเป็นอะไรไม่ได้เลย นอกจากเรื่องราคาพลังงานเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากปีก่อนๆ พอสมควร ซึ่งใครที่ใช้รถยนต์คงรับรู้ได้อย่างแน่นอน โดยช่วงที่พีคที่สุดในปี 2022 ราคาของน้ำมันวี-เพาเวอร์และแก๊สโซฮอล์ 95 ขึ้นไปแตะทะลุลิตรละ 50 บาท
เมื่อน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาที่เพิ่มขึ้นสูงพอสมควร ประกอบกับผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือกอื่นๆ ในการเดินทางสักเท่าไหร่ ปัจจัยนี้เองทำให้บรรดารถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดได้รับความนิยมแบบก้าวกระโดด ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นภาพรวมแบบสรุปของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดที่เกิดขึ้นในปี 2022
แม้จะบอกว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาก แต่ตลาดรถยนต์สันดาปก็ยังมีขนาดที่ใหญ่กว่ามากๆ อยู่ดี โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (เครื่องยนต์ไม่เกิน 1,200 cc.) ที่ยังคงได้รับความนิยมเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย ส่วนหนึ่งมาจากสาเหตุที่ว่าเป็นรถยนต์รุ่นเริ่มต้น ราคาค่าตัวไม่สูง การซ่อมบำรุงรักษาไม่แพง ดูแลง่าย ไม่จุกจิก ตลอดจนเรื่องความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้เองทำให้ตลาดกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กในไทยยังคึกคักอยู่เหมือนเดิม
ตัวเลือกในตลาดกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายแบรนด์ก็ว่าได้ หากมองภาพรวมในเรื่องของเครื่องยนต์และเทคโนโลยีของแต่ละเจ้า เรียกได้ว่าไม่มีความแตกต่างไปจากกันและกันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ใกล้เคียงกันมากๆ จะมีเพียงแค่ Nissan Almera และ Honda City ที่เครื่องยนต์จะมีระบบอัดอากาศ (เทอร์โบ) เพิ่มเติมเข้ามาด้วย ซึ่งในปี 2022 ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วล่ะก็ เบอร์หนึ่งในเรื่องยอดขายของกลุ่มรถขนาดเล็กต้องตกเป็นของ Toyota Yaris Ativ และ Yaris Hatchback นั้นล่ะ
สำหรับตลาดรถกระบะในไทยซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทยมายาวนาน ด้วยความอเนกประสงค์ในการใช้งาน และตัวถัง 3 รูปแบบที่จะตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ตลอดจนราคาเริ่มต้นที่ไม่ได้สูงไปกว่ากลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กสักเท่าไหร่ ทำให้ตลาดรถกระบะในไทย มีขนาดของมาร์เก็ตแชร์ที่ใหญ่ติดระดับโลก และมีการแข่งขันที่สูงมาโดยตลอด แต่ในภาพรวมของเทคโนโลยีต่างๆ ของรถกระบะจะไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษก็ว่าได้ในตลาดรถกระบะ เครื่องยนต์ที่นิยมมักจะเป็นดีเซล เพราะเป็นมาตรฐานที่ให้ทั้งความทนทานและแรงบิดที่ยอดเยี่ยมในรอบเครื่องยนต์ต่ำ จนในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา บริษัท Toyota ก็ได้นำเสนอรถกระบะต้นแบบที่ใช้พลังงานเลือกเป็นไฟฟ้า ซึ่งเอามาโชว์ให้ดูถึงสองโมเดล ได้แก่ Toyota Hilux Revo BEV และ Toyota IMV 0
ทั้งนี้ Toyota Hilux Revo BEV ได้มีการกำหนดแบบคร่าวๆ ว่าจะมีการเปิดตัวเพื่อวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2023 โดยปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลสเปกใดๆ เกี่ยวกับรถออกมาแม้แต่น้อย แต่ทางวิศวกรผู้พัฒนาได้บอกใบ้ว่าพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าเทียบเท่าเครื่องยนต์สันดาป V8 เลยทีเดียว ต้องรอดูกันต่อไปว่ารถกระบะไฟฟ้าของ Toyota จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ในตลาดรถกระบะในไทยหรือไม่
เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ารถกระบะกว่าครึ่งที่ถูกซื้อจะถูกใช้ในเชิงพาณิชย์ ในรูปแบบต่างๆ ที่เน้นการใช้งานหนัก ทำให้รถต้องมีความทนทานและดูแลรักษาง่าย ซึ่งการมาของ Toyota Hilux Revo BEV จะสามารถตีตลาดกลุ่มผู้ใช้รถเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่ ดูเป็นอะไรที่ท้าทายบริษัทพอสมควร เช่นเดียวกับแบรนด์คู่แข่งเจ้าอื่นๆ ที่น่าจะจับตาดูทิศทางของรถกระบะไฟฟ้าอย่างไม่ละสายตาแน่นอน
นอกจากรถกระบะไฟฟ้าที่ดูเป็นกระแสให้พูดถึงในบ้านเราแล้ว ยังมีรถกระบะอีกรุ่นที่เปิดตัวในปี 2022 ให้น่าพูดถึงอย่างมาก รุ่นนั้นก็คือ Ford Ranger RAPTOR 3.0 V6 ซึ่งเราต้องลืมภาพความประหยัด ความรักษ์โลกไปได้เลย เพราะมันเป็นรถกระบะที่ออกมาเพื่อสร้างความสะใจในการขับขี่แบบเน้นๆ ด้วยราคาค่าตัวที่ 1.86 ล้านบาท กับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ขนาด 3,000 cc. พร้อมระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบคู่ มอบกำลังแรงม้าสูงสุดที่ 397 แรงม้า (PS) โดยคุณไม่ต้องการไปถามหาความประหยัดจากรถกระบะรุ่นนี้แต่อย่างใด ตัวเลขเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 8.7 กม./ลิตร เพียงเท่านั้น
สำหรับตลาดรถกระบะในไทย เราสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน หากเป็นฝั่งกระบะที่ใช้งานในเชิงพาณิชย์ก็จะเน้นความทนทาน ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้มีการลดขนาดเครื่องยนต์ดีเซลให้เล็กลงมาเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้อัตราบริโภคน้ำมันที่ดีที่สุด และรถก็มีราคาเริ่มต้นที่ไม่ได้สูง ในทางกลับกัน ถ้าใครอยากได้กระบะที่เน้นสมรรถนะในการขับขี่ก็มีให้คุณเลือกซื้อได้เช่นกัน ในปี 2023 ตลาดรถกระบะก็จะมีตัวเลือกอย่างรถไฟฟ้าเพิ่มเข้ามา เรียกได้ว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันดุเดือดพอสมควร
เรียกได้ว่าภาพรวมหลักๆ ของรถยนต์ในไทยประจำปี 2022 ถือว่าเป็นช่วงกระแสพลังงานทางเลือกใหม่อย่างทางไฟฟ้ากำลังมา ซึ่งค่ายรถยนต์แบรนด์ต่างๆ เตรียมพร้อมปรับตัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่สำหรับตลาดของรถยนต์สันดาปก็ไม่ได้ดรอปลงแต่อย่างใด ยังมีรถยนต์โมเดลใหม่ๆ เปิดตัวในปีนี้เช่นกัน
สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด หรือรถยนต์สันดาปก็ตาม อยากแนะนำให้เลือกซื้อตามความชื่นชอบของคุณเป็นหลัก ทุกอย่างล้วนมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป มันไม่มีรถยนต์รุ่นดีที่สุดแน่นอน แต่จะมีรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณแน่นอน ทั้งหมดนี้เป็นภาพรวมของรถยนต์ที่เกิดขึ้นในปี 2022 โดยเราแบ่งออกเป็น 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ กระแสของรถยนต์ไฟฟ้ากับรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ขนาดเล็ก และรถกระบะในไทย