‘รถวิ่งอำพราง’ จากความลับในอดีต กลับกลายเป็นช่องทางโปรโมตในปัจจุบัน

Photo credit: Cars Coops

เมื่อครั้งในอดีตมันแทบจะเป็นความลับสุดยอดของค่ายบริษัทรถ แต่ปัจจุบันมันได้กลายเป็นเรื่องสุดแสนจะธรรมดาทั่วไป ซึ่งเกือบทุกครั้งที่มีการเปิดตัวรถอย่างเป็นทางการ ก็มักจะมีรูปรถหลุดออกมาว่ากำลังวิ่งอำพรางทดสอบอยู่ตามถนนเส้นต่างๆ ทั่วเมืองไทย โดยมีสัญญาณที่แอบแฝงประมาณว่า “ขายแน่นอน แต่ขอรออีกสักแป๊บ”

เนื่องด้วยปัจจัยอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้บริษัทรถต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด จากที่เคยเป็นเรื่องคอขาดบาดตายในอดีต ก็ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาในปัจจุบัน ซึ่งเราจะมาพูดถึงเรื่อง ‘รถวิ่งอำพราง’ จากความลับในอดีต กลับกลายเป็นช่องทางโปรโมตในปัจจุบัน

(BYD ATTO3 วิ่งทดสอบในไทย ก่อนเปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว) Photo credit: BYD Thailand

ในอดีต

ในยุคสมัยที่ยังไม่มีเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียต่างๆ แบบในปัจจุบัน การจะติดตามข่าวสารยานยนต์ใหม่ๆ นั้นก็ต้องผ่านการซื้อนิตยสารหรือหนังสือเป็นหลัก เท่ากับว่าเวลามีรูปถ่ายรถวิ่งอำพรางออกมา จะมีกลุ่มคนที่รู้เรื่องไม่เยอะมาก เพราะจะมีเพียงคนที่อ่านนิตยสารรถยนต์เท่านั้นที่ทราบ

นั่นก็เพราะมันเป็นเรื่องของธุรกิจแบบเน้นๆ ในอดีตที่บริษัทต้องการปิดบังให้เป็นความลับมากที่สุด เพราะกลัวคู่แข่งล่วงรู้ถึงรถรุ่นใหม่ที่กำลังจะวางขาย ซึ่งคู่แข่งอาจจัดโปรโมชั่นแบบเน้นๆ เพื่อเตะตัดขารถรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว ทำให้กลุ่มคนที่รอซื้ออาจเปลี่ยนใจไป และยังไม่นับเรื่องการช่วงชิงเปิดตัวรถรุ่นใหม่ตัดหน้า ไม่ว่าจะเป็นการออกรุ่นพิเศษ หรือมีการปรับสีสันใหม่ เพียงเท่านี้ก็สามารถเรียกความสนใจได้แล้ว

นอกจากนี้ มันยังส่งผลเสียต่อทางบริษัทเองอีกต่างหาก ตามปกติค่ายรถจะมีการยุติสายพานผลิตรถรุ่นเดิมไปก่อนที่รถรุ่นใหม่จะเปิดตัว แต่รถรุ่นเดิมที่ผลิตออกมาก็จะไปตกค้างอยู่ที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายไม่มากก็น้อย ซึ่งปกติของคนที่ต้องการซื้อรถใหม่ไปใช้งาน คงไม่มีใครอยากซื้อรถที่กำลังจะตกรุ่นในราคาเต็มแบบไม่มีส่วนลดอย่างแน่นอน ทำให้ถ้ามีรูปหลุดของรถวิ่งอำพรางออกมา ดูอย่างไรก็ไม่เป็นผลดีต่อทางบริษัทจริงๆ

ตัวแปรสำคัญ

‘กล้องถ่ายภาพ’ ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน ในช่วงเวลาที่โลกยังมีแค่กล้องฟิล์ม ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสะดวกสบายในการใช้งานยังเทียบไม่ได้กับกล้องในปัจจุบัน และคนทั่วไปก็ไม่ได้พกกล้องไปไหนเป็นปกติอยู่แล้ว ทำให้การเจอรถวิ่งอำพรางวิ่งทดสอบอยู่บนท้องถนน ก็แทบไม่มีโอกาสถ่ายรูปได้เลยแม้แต่น้อย ยกเว้นแค่คนที่ตั้งใจจะไปหาถ่ายจริงๆ นั่นล่ะ

(กล้องฟิล์มในอดีต) Photo credit: value.camera

เพราะการถ่ายภาพเป็นหนึ่งตัวแปรที่สำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งปัจจุบันที่มือถือสมาร์ทโฟนสามารถถ่ายรูปออกมาได้มีคุณภาพ และปัจจุบันมือถือสมาร์ทโฟนก็แทบเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายคนเราแล้ว การที่จะหยิบขึ้นมาถ่ายรูปในช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถทำได้ง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก สิ่งนี้ก็ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญในเรื่องของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงก็คือ ‘โซเชียลมีเดีย’ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดกระแส ได้ไม่ยากเย็น และใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยโซเชียลมีเดียมีจุดแข็งที่น่าพูดถึงก็คือ ‘การสื่อสารสองทาง’ อธิบายง่ายๆ ก็คือมันสามารถโต้ตอบกันได้ ไม่มีการสื่อสารช่องทางเดียว อย่างเช่น หนังสือ เป็นต้น

ปัจจุบัน

เพราะปัจจัยทั้งสองอย่างที่กล่าวมา มันทำให้รถวิ่งอำพรางในปัจจุบันไม่สามารถปิดเป็นความลับได้อีกต่อไป และบริษัทรถก็ต้องมีการปรับความคิดใหม่ จากที่เคยพยายามปิดบังให้เป็นความลับมากมาย ในตอนนี้ ยิ่งรถใกล้จะเปิดตัวเท่าไหร่ ก็ยิ่งวิ่งให้เห็นแบบทั่วถนนเมืองไทยเลยทีเดียว และยิ่งมีรูปเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดียมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีมากเท่านั้น

นอกจากนี้ แต่ละบริษัทจะมีการเปิดเผยว่าในปีนั้นๆ จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่กี่รุ่นเป็นปกติอยู่แล้ว พร้อมกับรถยนต์ที่ขาย ซึ่งไม่ได้ทำตลาดในไทยเพียงเท่านั้น ซึ่งอาจได้เห็นรุ่นใหม่เปิดตัวที่ต่างประเทศไปก่อนหน้าตั้งหลายเดือนอีกต่างหาก เรียกง่ายๆ ว่ามันแทบจะไม่สามารถปิดบังอะไรได้แล้วในปัจจุบัน สิ่งเดียวที่สามารถปิดบังได้ก็คือ ‘ราคาจำหน่ายในไทย’ เพียงเท่านั้น

(Toyota C-HR วิ่งทดสอบในไทย ก่อนเปิดตัวในปี ค.ศ. 2017) Photo credit: thaitoyotachr

ในแง่ของการแข่งขัน ธุรกิจปัจจุบันก็เปลี่ยนไปเช่นกัน การเตะตัดขาแบบในยุคก่อนไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป เพราะผู้ซื้อมีข้อมูลมากมายให้ค้นหา ตั้งแต่ข้อมูลว่าจะมีรถกี่รุ่นเปิดตัวในปีนั้นๆ ตลอดจนเรื่องการสอบถามราคาจำหน่ายของรถที่กำลังจะตกรุ่นจากเซลล์ที่ขาย ซึ่งคุณไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลาแต่อย่างใด โปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ นั้นสามารถสอบถามได้อย่างง่ายดาย ทำให้สามารถค้นหาราคาโปรโมชั่นเพื่อให้ถูกใจที่สุดได้แบบง่ายๆ

เพราะความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้มุมมองอะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป ทั้งนี้ ถ้าบริษัทรถต้องการให้รถรุ่นใหม่เป็นความลับจริงๆ ก่อนที่จะเปิดตัวนั้น เพียงแค่ไปใช้ห้องวิจัยของบริษัทก็ถือเป็นอันจบ ซึ่งเทคโนโลยีปัจจุบันของห้องทดสอบรถยนต์นั้น เรียกได้ว่าสามารถจำลองได้ทุกรูปแบบการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่ต่างกัน ความลาดชันของถนน ตลอดจนสามารถทดสอบได้อย่างต่อเนื่องยาวนานเป็นเดือนๆ แบบไม่ดับเครื่องยนต์

(ห้องทดสอบ) Photo credit: Ford News Europe

เนื่องด้วยทุกอย่างถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และมีการเก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ซึ่งมองมุมไหนก็ดูสมเหตุสมผลกว่าการเลือกวิ่งแบบจริงจังนอกห้องทดสอบ แต่หากอยากลองขับบนถนนจริงๆ ก็สามารถไปเช่าสนามแข่งรถในการขี่ทดสอบได้เช่นกัน สถานที่ปิดจึงยังกุมความลับของบริษัทยานยนต์ได้อย่างมิดชิด

ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่ได้อธิบายไป จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การนำรถที่ยังไม่เปิดตัวมาวิ่งอำพรางโชว์ตัวไปตามท้องถนนนั้นเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดของบริษัทรถในปัจจุบันเสียมากกว่า เรียกได้ว่าทั้งวิ่งทดสอบ และก็โชว์รถคันจริงไปด้วย เปรียบเสมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวนั้นล่ะ