‘ฟอร์ด’ (Ford) ฉลองครบรอบ 119 ปี ด้วยการเปิดคลังข้อมูลแห่งประวัติศาสตร์สู่สาธารณะครั้งแรกพร้อมกันทั่วโลก ผ่านช่องทางออนไลน์ภายใต้ชื่อเว็บไซต์ Ford Heritage Vault นี่ไม่ใช่เว็บขายรถฟอร์ด ไม่ใช่เว็บรีวิวรถของฟอร์ด แต่คือ ‘ความทรงจำ’ จากอดีตสู่ปัจจุบัน ที่จะบอกเล่าเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของแบรนด์รถอเมริกันที่ก่อตั้งมานานกว่าศตวรรษ

‘เฮนรี ฟอร์ด’ (Henry Ford) ผู้ก่อตั้งบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ เคยกล่าวไว้ว่า “When everything seems to be going against you, remember that the airplane takes off against the wind, not with it.” (เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปฏิปักษ์ต่อคุณ สิ่งหนึ่งที่ควรระลึกไว้เสมอคือ เครื่องบินนั้นบินต้านลม ไม่ใช่ด้วยลม) และ 119 ปีที่แบรนด์รถยนต์บินสูงผ่านอุปสรรครอบด้านตั้งแต่ยุคเครื่องยนต์สันดาปเริ่มต้น สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกหนของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า  ทุกเรื่องเล่าคงปราศจากอรรถรส หากผู้ฟังไม่เห็นภาพความสำเร็จ และทุกความสำเร็จคงไร้ค่า หากไม่รู้ที่มาที่ไป นี่คือ ‘ภาพเล่าเรื่อง’ ของแบรนด์ Ford ตลอด 119 ปี ‘Ford Heritage Vault’

ศูนย์รวมประวัติศาสตร์รถยนต์ Ford – “Ford Heritage Vault” 

เป็นมากกว่าแค่เว็บไซต์ทั่วไปเพราะ Ford Heritage Vault คือคลังข้อมูลประวัติศาสตร์ออนไลน์อย่างเป็นทางการของแบรนด์ฟอร์ด ซึ่งได้ทำการเปิดตัวสู่สาธารณะชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา ฟอร์ดได้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อแฟนๆ ทั่วโลกของรถค่ายนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงประวัติศาสตร์ของรถจากฟอร์ดได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญ ยังสามารถนำไปใช้ส่วนตัวได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เว็บไซต์นี้ เป็นคลังข้อมูลออนไลน์ที่ครอบคลุมมากที่สุดของรถฟอร์ด

ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าที่ถูกเก็บไว้

ภายในเว็บไซต์จะประกอบไปด้วยรูปภาพความละเอียดสูงของรถทั้งหมดจากแบรนด์ฟอร์ด ลินคอล์น และอีกหลากหลายแบรนด์ในเครือของ Ford Motor Company ซึ่งมีมากกว่า 5,000 รายการในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1903-2003 โดยมี ‘เท็ด ไรอัน’ (Ted Ryan) ผู้จัดการคลังข้อมูลของฟอร์ดเป็นผู้ดูแล พร้อมกับทีมงานคลังข้อมูลที่ใช้เวลาถึง 2 ปีในการค้นหา จัดเตรียม คัดสรร เพื่อให้ได้ภาพถ่ายคุณภาพสูงอันทรงคุณค่าออกมาสู่สายตาสาธารณชนและแฟนๆ ให้คนรุ่นใหม่ได้รู้และเข้าใจในประวัติศาสตร์ของรถฟอร์ดแต่ละรุ่น

เท็ดเผยว่า “พวกเราได้สร้างในสิ่งที่ไม่เคยทำกันมาก่อน คลังข้อมูลประวัติศาสตร์ของเรามีขึ้นมากว่า 70 ปี” 

“และตอนนี้เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้เผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ให้แก่สาธารณชนเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นเพียงก้าวแรกของหลายๆ สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต” 

กลิ่นอายแห่งกาลเวลาที่สัมผัสได้อีกครั้ง

ผู้ใช้งานเว็บไซต์จะสามารถเลือกค้นหาได้ตามปี แบรนด์ และรุ่นของรถ โดยที่จะมีประเภทของรูปภาพ 2 แบบคือ ประเภทภาพถ่ายรถและโบรชัวร์ของรถ เป็นเหมือนเครื่องไทม์แมชชีนที่จะพาทุกคนที่ใช้งานเว็บไซต์นี้ได้เห็น

ภาพหายากและไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน อาทิ โบรชัวร์ของ Ford Torino ปี ค.ศ. 1973 ซึ่ง Turn Back Time กลับมาเป็นที่นิยมและรถสะสมในคนรุ่นใหม่ หรือดีไซน์ของโบรชัวร์ Ford Mustang ปี ค.ศ. 1965 ที่นับวันจะหาตัวรถสวยๆ วิ่งบนถนนช่างยากยิ่ง และประวัติศาสตร์อีกมากมายจะอยู่ที่นี่เพื่อให้ทุกคนเข้าไปสัมผัส

‘เซียร่า คาสทีล’ (Sierra Casteel) ทีมพัฒนาคลังข้อมูลให้กับโปรเจกต์ Ford Heritage Vault กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “นอกจากภาพต่างๆ ที่มีในคลัง โบรชัวร์เหล่านี้จะเสริมข้อมูลและความประทับใจให้แก่ผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ความเป็นมา และชุดแต่งของฟอร์ดได้ดียิ่งขึ้นไปอีก”

จากเดิมที่เป็นเพียงข้อมูลภายในของ Ford เท่านั้น โปรเจกต์นี้จะนำพาทุกข้อมูลมุ่งสู่โลกดิจิทัล เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพแห่งประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง น่าหลงใหล ความมหัศจรรย์ของมนุษยชาติที่โผบินโต้ลมอุปสรรค และความคิดสร้างสรรค์ เซียร่ากล่าวเพิ่มเติมว่า “เดิมทีข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลออฟไลน์ ซึ่งเราได้ทุ่มเทอย่างมากเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นขึ้นมาบนโลกดิจิทัล ด้วยความตั้งใจให้ทุกคนเข้าถึงคลังข้อมูลออนไลน์ของเราและนำไปใช้ได้”

ฟอร์ด – แบรนด์รถยนต์อันดับต้นๆ ของโลกที่ไม่มีใครไม่รู้จัก กับการมีอายุเข้าสู่ขวบปีที่ 119 และก้าวผ่านยุคเปลี่ยนถ่ายอุตสาหกรรมยานยนต์อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรถไร้มลพิษ รถไร้คนขับ รถ EV 100% การมาของ Ford Heritage Vault ไม่ได้เป็นเพียงแค่เว็บไซต์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นการบอกแฟนคลับของรถฟอร์ดกลายๆ ด้วยว่าพวกเขานั้น ‘พร้อมแล้ว’ ที่จะก้าวสู่ยุคใหม่ ต้อนรับแรงคลื่นเปลี่ยนถ่ายอุตสาหกรรม เริ่มต้นพัฒนารถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ เปลี่ยนฐานการผลิตไปที่ประเทศจีนมากขึ้น และประกาศยกเลิกผลิตรถที่ใช้เครื่องยนต์ภายในปี ค.ศ. 2035 การปรับตัวเหล่านี้ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า ฟอร์ดพร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในศตวรรษที่ 2 ของแบรนด์

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Ford Heritage Vault