Auto

#รักจะเตี้ยต้องให้เลียพื้น! ช่วงล่างถุงลม ที่ผสมความหล่อและการใช้งานอย่างลงตัว กับ “หลี Hop-Up Airsus”

Getting Low with Lee Hop-Up Airsus and the Air Suspension That Combines Style with Function

หนึ่งในปัญหาของคนทำรถ แต่งรถ ซึ่งมีองค์ประกอบในเรื่องของความสูงตัวรถเป็นบทบาท “อยากให้เฟี้ยวต้องเตี้ยหน่อย” เพราะต่อให้ของแต่งเต็มลำขนาดไหน ออฟชั่นเต็มสั่งนอกมาเต็มคันเท่าไร แต่ถ้าความสูงของรถยังอยู่ในระดับเดิมๆ จากโรงงาน ตัวรถมันก็ยังดู “ขัดตา” ได้อยู่ดี  

ทว่าหากจะ “โหลดเตี้ย” ให้รถมีทรงสักหน่อย ความย้อนแย้งจากออฟชั่นที่ใส่ไปให้กับรถก็เกิดขึ้น เพราะมันดันไปจำกัดสมรรถนะรถในการใช้งาน ยิ่งกับถนนเมืองไทยซึ่งเราๆ ต่างรู้กันดีว่า หากอยากวิ่งถนนดีๆ เรียบๆ ต้องจ่ายขึ้นทางด่วน ทำให้รถใช้วนขับเล่นแค่แถวบ้านกับมีตติ้งในเส้นทางที่คุ้นเคยว่ารถวิ่งไปได้ไม่เสียหาย หากจะใช้จริงขึ้นเหนือล่องใต้อาจต้องมีรถเดิมๆ ไว้ใช้ขับอีกสักคัน 

ออฟชั่นการแต่งที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด กับช่วงล่างระบบถุงลมที่จะทำให้รถของคุณ “ยืดได้หดได้” ที่ส่วนโช๊คอัพ ตอนจอดกดปุ่มให้เตี้ยเลียพื้นได้เลย ส่วนตอนวิ่งใช้งานก็ยกสูงได้เต็มที่ตามต้องการ 

มาทำความรู้จักช่วงล่างถุงลม พร้อมคุยกับหลี - ตรีโรจน์ วิวัฒน์ศรีกุล แห่งร้าน Hop-Up Airsus ร้านทำระบบช่วงล่างถุงลมที่เกิดขึ้นจากปัญหาในการใช้งานถุงลมของรถตัวเอง สู่การแก้ไขและพัฒนาจนทำให้ระบบถุงลมใช้งานได้จริงตามไลฟ์สไตล์ การทำงานของมันเป็นอย่างไร สายแต่งซิ่งต้องรู้ สายแต่งสวยต้องมี ตามไปดูกันเลย

จุดเริ่มต้นของ Hop-Up Airsus  

ย้อนกลับไปราว 10 ปีกว่าปี แนวการแต่งรถสไตล์ V.I.P. ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ชุดพาร์ทอลังการ ล้อออฟลึกๆ กับความเตี้ยระดับมดเดินผ่าน คือนิยามสั้นๆ ที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด และหนึ่งคนที่แต่งรถในสไตล์นี้ระดับลงแมกกาซีนนับไม่ถ้วนก็คือคุณหลี คนนี้ด้วย  

“เริ่มแต่งแนว V.I.P. ก่อน แนวนี้รถต้องการความเตี้ยเยอะๆ ชุดแต่งใหญ่ๆ ขับไปไหนมันก็ลำบากหากเป็นชุดโหลดเตี้ยแบบสตรัทปรับเกลียวธรรมดา เลยหันมามองระบบที่มันยกได้ ยุคนั้นมีระบบไฮดรอลิกกับถุงลม แรกๆ มีร้านเพื่อนในกลุ่มที่ทำกัน ต่อมาก็ทำเองกับพี่หนุ่ม แห่งร้าน Royal Garage” 

“ปัญหาตอนนั้นที่เจอคือร้านที่ทำให้ไม่ตอบโจทย์ เลยมาทำเองกับพี่หนุ่ม แก้ปัญหาต่างๆ ในการใช้งาน พอทำรถเราจบตอนแรกยังไม่คิดจะทำเป็นธุรกิจอะไร แต่พอมีคนมาเห็นก็อยากให้เราทำรถให้ ลูกค้าเห็นว่าเราทำได้ก็อยากให้ทำรถตัวเองบ้าง หลังจากนั้นก็รับงานมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว” 

“งานไฮดรอลิคกับถุงลมมันใกล้เคียงกัน
คือระบบพื้นฐานทำให้โช๊คมันยืดหดได้เหมือนกัน”

ความต่างของช่วงล่างถุงลมกับแบบเดิมในรถทั่วไป 

บางคนยังไม่เข้าใจในการปรับแต่งที่ส่วนนี้ว่าจำเป็นแค่ไหน แต่สำหรับคนที่ใช้รถแต่ง จะแต่งซิ่งหรือแต่งเตี้ยจะรู้ดีว่า ปัญหาหลักๆ เลยคือพื้นถนนของบ้านเราไม่ค่อยเอื้อกับรถซิ่งสักเท่าไร หลุม บ่อ ถนนขรุขระ การทำถนนไม่จบไม่สิ้น ฯลฯ ล้วนเป็นศัตรูต่อใจของคุณรักรถที่เลี่ยงไม่ได้ นำไปสู่ข้อจำกัดในการใช้งาน 

“ระบบช่วงล่างของรถทั่วไปจะเป็นโช๊คอัพกับสปริงที่จัดการกับระดับความสูงตัวรถ ถ้าเราอยากให้สูงขึ้นในบางสถานการณ์ก็จำกัด ถุงลมมาทำหน้าที่แทนสปริงในรถนี่แหละ ถอดสปริงออกไปเอาถุงลมเข้ามาใส่แทนเพื่อให้รถสามารถยกขึ้นหรือปรับลงได้ ส่วนตัวโช๊คอัพก็ต้องมาปรับเพิ่มให้เข้ากับตัวถุงลมที่เข้ามาแทนที่ด้วย” 

หลักๆ ของระบบถุงลม จะมีด้วยกัน 4 ส่วน ได้แก่

  1. ตัวปั้มลม  ไว้สำหรับสร้างแรงดันลมให้กับตัวถุงลง
  2. ถังเก็บลม (Air Tank) : สำหรับเก็บลมที่ไว้ใช้ยิงลมเข้าตัวถุงลมได้ตลอดเวลา 
  3. ชุดควบคุม (Controller) : สำหรับจัดการระบบควบคุมระดับลม เข้า-ออก ในถุงลม 
  4. ตัวถุงลม : ที่ใส่เข้าไปทดแทนตัวสปริงทั้ง 4 ล้อ

การพัฒนาที่มากขึ้นนำไปสู่ความนิยมของ “รถทุกแนว”

เมื่อได้คุยกับคุณหลีก็ทำให้ยิ่งเข้าใจว่าการใส่ระบบถุงลมให้กับรถไม่ได้จำกัดเฉพาะแนว V.I.P. เท่านั้น เพราะจริงๆ ในรถแต่งต่างประเทศหรือแม้แต่รถโรงงานบางรุ่นที่เป็นรถหรูก็ยังใช้ช่วงล่างประเภทนี้มาทดแทนสปริง เพื่อช่วยในเรื่องความนุ่มนวล เพียงแต่จุดประสงค์นั้นแตกต่างกัน รถถุงลมที่มาจากโรงงานจะเน้นเรื่องความนิ่มนวลแต่สำหรับรถที่นำมาใส่ถุงลมภายหลังอย่างที่ Hop-Up จะตอบโจทย์ในเรื่องการใช้งานยกสูงต่ำได้เป็นหลักให้กับรถแต่ง จะแต่งสไตล์ไหนก็เข้ามาทำกันหมดเพื่อให้ทุกใช้งานได้ทุกสภาวะถนน

“เยอะเลยครับ 10 ปีที่แล้วแนว V.I.P. นิยมมาก ระบบถุงลมเข้ามาตอบโจทย์การแต่งแนวนี้เป็นจำนวนมาก รถที่เห็นบ่อยๆ ตามหนังสือแต่งรถเมื่อก่อนแทบทุกคันที่ใส่ถุงลมหมด ต่อมาพอมีโลกโซเชียลเข้ามาช่วง 7-8 ปีหลังนี้ เราเห็นรถต่างประเทศมากขึ้น ในเมืองนอกเขาไม่จำกัดว่าระบบถุงลมจะต้องคู่กับแนว V.I.P. เท่านั้น ถุงลมเนี่ยใส่กับรถอะไรก็ได้! ทุกอย่างใส่ได้หมดเลย รถเล็ก, รถสปอร์ต หรือรถซูเปอร์คาร์”

“พอกระแสแนวนี้เข้ามามันเหมือนเป็นการเปิดโลก คนทั่วไปหันมามองว่ารถเราก็ใช้ได้ เราทำรถแรง 4-5 ร้อยม้า มาใส่ถุงลมได้นิฝรั่งเขายังใส่กันได้เลย กลุ่มลูกค้าเลยจะเปลี่ยนแนวไปจากแต่ก่อน หลากหลายแนวขึ้น ทั้งรถยุโรปญีปุ่นใหม่ๆ จากโรงงาน, รถคลาสสิก, รถ 90’s, Stance, Flush ฯลฯ เพราะมันไม่ได้จำกัดแค่ V.I.P. อีกต่อไปแล้ว” 

ยุคของระบบถุงลมที่เปลี่ยนไป

“เริ่มตั้งแต่การติดตั้งตัวถุงลมที่เมื่อก่อนมันต้องดัดแปลงเยอะคัสตอมหลายจุด ต้องมีการซีลกันลมรั่วทุกจุด พวกนี้คือตัวปัญหาที่ทำให้ลมรั่วบ่อย”

“ต่อมาผู้ผลิตเขาก็พัฒนาออกแบบถุงลมมาโดยเฉพาะ ไม่ต้องมีการซีลมากันรั่วแล้ว ปัญหาการรั่วตามจุดเล็กๆ ก็ตัดไป จุดเสี่ยงที่เปิดโอกาสรั่วมันหายไปหมดละ เมื่อก่อนคนบ่นว่าถุงลมมันรั่วง่าย ใช้จริงไม่ได้เพราะเขาไปเจอร้านที่ไม่ค่อยมีมาตรฐาน ถ้าไปทำร้านแค่จอดรถกองได้ดันขึ้นได้ ไม่ได้เน้นคุณภาพของอุปกรณ์ในตอนติดตั้ง คุณภาพของงานมันก็จะทำให้เจอปัญหาแก้กันไม่จบไม่สิ้น”

“ต่อมาคราวนี้พออุปกรณ์ส่วนถุงลมมันแก้ไปหมดละ ก็มาพัฒนาที่ส่วนการควบคุมหรือคอนโทรเลอร์ชุดควบคุม ทุกอย่างมาเป็นครบชุดติดตั้งง่าย เซ็ทระดับความสูงต่ำได้ 1-2-3 มีการควบคุมผ่านแอปฯ ได้ในมือถือ รวมไปถึงมีมาเป็นชุดถุงลมพร้อมโช๊คอัพสำหรับรถเลยในปัจจุบัน ตัวโช๊คอัพเซ็ทค่ามาสำหรับถุงลมโดยเฉพาะ การขับขี่จะดีมากๆ เมื่อเทียบกับถุงลมที่ใช้คู่กับโช๊คเดิม” 

“ถุงลมมันก็ยังต้องมีโช๊คอยู่ โช๊คที่มาจากโรงงานมาใส่ถุงลมจะกระด้างมากๆ แต่ถ้ามาเป็นสำเร็จถุงลมพร้อมโช๊คสำเร็จรูปมันจะได้เรื่องความนุ่มนวลมากขึ้น”

ฉีกทุกข้อจำกัดในการใช้งานของรถแต่งให้หมดไป!

“กลุ่มลูกค้าคือคนที่ชอบรถเตี้ยแล้วอยากขับรถไปไหนมาไหนก็ได้ ไปทะเล ขึ้นภูเขาไปได้หมด โดยไม่ต้องกังวลว่าเส้นทางจะเป็นยังไง คือจริงๆ สมมติเราชอบจอดเตี้ยๆ เท่ๆ เราไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว แค่จอดเตี้ยประมาณอมยางครึ่งหนึ่งอะ ตรงๆ คือขับได้แค่แถวบ้าน” 

“อย่างลูกค้าที่ใช้รถเยอะๆ ขับปีละแสนกว่าโล เขาวิ่งกรุงเทพ-เชียงราย ไม่ต้องห่วงเลย ใช้มา 5-6 ปี ไม่เคยมีปัญหา
แค่เขามาดูแลตามระยะเหมือนชิ้นส่วนทั่วไปของรถ“

“ถ้าระบบมีปัญหามันสามารถแจ้งเตือนเราได้เลยให้เข้าตรวจเช็กระบบ หรือบางรุ่นมีระบบที่สามารถเติมลมเองเข้าระบบถุงลมที่รั่วได้เลย ให้รถสามารถขับต่อไปได้แล้วรีบนำรถเข้าไปเช็ก ไม่มีปัญหาต้องมาจอดตายกลางทาง”

“จากประสบการณ์ที่ทำมาในกรณีอายุการใช้งานยังไม่ถึง ติดตั้งออกไปใหม่ๆ หรือแบบก่อน 5 ปีเนี่ย โอกาสมีปัญหา ‘น้อยมาก’ คือต้องบอกว่ามันอยู่ที่ช่างติดตั้งด้วย ถ้าเดินระบบไม่ดี เดินสายไปอยู่จุดที่ใกล้ความร้อนก็เสี่ยงทำให้ระบบถุงลมมีปัญหา แต่หากใช้ของที่มีมาตรฐาน ช่างมืออาชีพในการติดตั้งโอกาสที่ภายใน 5 ปีขับๆ ไปจอดเสียข้างทางแทบไม่มีเลย” 

อีกฟีเจอร์ที่ไม่ได้มีให้เลือกเพิ่มได้ตั้งแต่ออกจากศูนย์ แต่ตอบโจทย์คนรักการแต่งรถที่อยากให้รถสุดรักสุดหวงไปด้วยได้ทุกที่แบบไม่มีข้อจำกัดเรื่องถนนหนทาง ดีกว่าทำรถใส่ของซิ่งแพงๆ แล้วต้องมาเสี่ยงกับความเสียหาย ถนนแย่แค่ไหนก็ยกให้รถสูงขึ้นได้ ขับไปห้างทางขึ้นชันๆ  ถนนพังแค่ไหน รถเดิมวิ่งได้รถซิ่งของคุณก็ไปได้หมด “รถไม่ช้ำ”  พอถึงเวลาจอด กดปุ่มให้เตี้ยเลียพื้นหล่อๆ ผสมผสานความหล่อและไม่ทิ้งนิยามการใช้งานรถได้อย่างลงตัวที่สุด

ติดตามและอัปเดตความหล่อลงตัวของรถทั้งหมดได้ที่ Hop-Up Airsus

One of the challenges commonly faced by car customisers is the height of an automobile that remains the same since it left the factory. It doesn’t matter how many imported parts you’ve piled onto your ride, the end result won’t be right if the height hasn’t been adjusted according to the style and the modification you had in mind.

While the urge to stick to “the lower, the better” mantra can sometimes impede the car’s overall performance, an air suspension can help you avoid this problem by giving the car the flexibility to either go high or low as needed. But how does it work exactly? EQ chat with ตรีโรจน์ “Lee” วิวัฒน์ศรีกุล from Hop-Up Airsus to find out.

The story of Hop-Up Airsus
Ten years ago, a “VIP” style of car customization was all the rage. “The VIP style was all about a lowered look. The lower, the better,” Lee begins. “But the problem with that was that the car became really cumbersome to drive. Then, I had this idea of using a hydraulic system and an air suspension. It was me and Noom from Royal Garage who were experimenting with it in the beginning.”  

“Most custom shops at the time couldn’t really get it right so we decided to do it ourselves. We never planned for it to become a business, but when people saw what we did, they wanted us to do the same to their cars. We’ve been doing it for 10 years now.” 

“A hydraulic system and an air suspension work in a similar way. They both allow the choke to have some flexibility.”


Given road conditions in Thailand, an air suspension plays an important role in car customization. “Most cars have this choke system that comes with a spring so we replace that with an air suspension. That way, the height of the car can be lifted or lowered accordingly.”

An air suspension system typically consists of four main components:
1. Air compressor
2. Air tank
3. Controller
4. Air springs

Gaining mainstream popularity

Today, an air suspension system is not only limited to the VIP style of car modification. The system is widely adopted by all types of automobiles to ensure a smooth ride.

“The VIP style was very popular 10 years ago, thanks to the air suspension system. If you were to flick through a car magazine back in those days, nearly all of them would feature the air suspension system. With the rise of social media, we’ve seen how the system has become widespread over the last 7-8 years with other types of automobiles as well — small cars, sports cars or even super cars.”

“Once people saw that the system is actually possible [beyond the VIP style], they quickly wanted in on the action. The customers we get have become more diverse and so have the cars they bring in. We get brand new European and Japanese cars as well as classic and ‘90s cars, to mention a few.”

The evolution of the air suspension system

“In the beginning, a lot of customizations were required to make sure that there’s no leak anywhere in the system.”

“After the manufacturers came up with a new system, the leak problem gradually went away. Although, sometimes, it was the shops’ fault because some of them didn’t use good quality parts and components.”

“A controller was the next component that got an upgrade. Everything now comes in a kit which is very easy to install. You can even monitor the height through an app on your phone. It’s definitely an improvement from the old system we used to have.”

“Most chokes that come from a factory can be a bit rough. The ones that come with the [air suspension system] kit are usually much smoother.”

Breaking all the rules
“Our customers love cars with a lowered look and they want to also be able to drive them around. They want to be able to drive to the beach or up the mountains without having to worry about the road conditions. If they run into any problem, they can let us know and we’ll try our best to take a look at it as quickly as possible. Some systems even have this temporary auto-fix so it won’t just die in the middle of nowhere.”

“We have one customer who clocks up some 100,000 kilos every year between Bangkok and Chiang Rai. He’s been doing it for 5-6 years now without any problems.”

“From my experience, it’s really rare for cars that have been fitted with the air suspension system for less than five years to run into a problem. It’s also up to the mechanic who installed the system in the first place. As long as everything is legit, there shouldn’t be any problem.”