My Love Tale: Dating App ให้อะไรมากกว่าคู่นอน

หลายปีก่อนการใช้ Dating App อาจเป็นเรื่องที่แปลกและใหม่สำหรับใครหลายคน แต่ในยุคพ.ศ.นี้ที่เราสามารถหาหมอหรือพบแพทย์ทางออนไลน์กันได้แล้ว ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เราจะรู้จักใครใหม่ผ่านแอปพลิเคชันเหล่านี้ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังมองว่า “Dating App” นั้นเป็นเหมือน “F*ck App” ที่คนใช้กันเพื่อไปจบกันที่เตียง มันก็มีคนจำนวนนึงแหละที่ใช้เพื่อการนั้นจริง แต่ก็มีเพื่อนและคนรู้จักหลายคู่ที่ตอนนี้แต่งงานมีลูกกันไปโดยมีจุดเริ่มต้นจากแอปพวกนี้ และทินเดอร์เดทแรกของเราตอนนี้ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทคนนึงของเราไปแล้ว

ส่วนตัวเรามองว่าแอปหาคู่มันเป็นเหมือนสถานที่ ๆ นึงที่เราเจอกัน ก็เหมือนกับที่เราได้รู้จักใครตามผับตามบาร์นั่นแหละ เริ่มจากการชอบใครสักคน (Swipe Right) เดินเข้าไปทักทาย ถ้าอีกฝ่ายยินดีที่จะอยากรู้จักเช่นกัน (Matched!!) และถ้าอยากรู้จักมากขึ้นก็แลกเบอร์แอดไลน์กันไปแล้วก็ออกไปเดท  ซึ่งมันก็เป็นไปตามธรรมชาติของการพัฒนาความสัมพันธ์ ยิ่งหลังจากมีโควิดเกิดขึ้นมาแล้ว มันยิ่งยากขึ้นไปกว่าเดิมมากที่เราจะมีโอกาสไปเจอหรือรู้จักเพื่อนใหม่ ทำไมเราไม่ลองมารู้จักแอปพวกนี้หรือใช้มันให้ได้อะไรมากกว่าการไปเดทแล้วก็เลิกคุยกันไป (Unmatch) เพราะฉะนั้น Dating App สำหรับฉันคือให้อะไรมากกว่าได้อะไรบ้าง จากประสบการณ์ใช้แอปมาหลายปีสรุปได้ว่า….

ได้แฟน

ใช่สิ ก็เพราะมันคือวัตถุประสงค์ที่เค้าสร้างแอปพวกนี้ขึ้นมา

ได้เพื่อน

หลายครั้งที่ไปเดท แล้วรู้สึกชอบคุยกับคนนี้ คุยกันสนุกมาก คุยกันได้ตั้งแต่ดินเนอร์ย้ายไปต่อที่บาร์จนบาร์ปิด แต่ไม่ได้มีความรู้สึกที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ไปในรูปแบบอื่น นอกจากความเป็นเพื่อน เคมีมันไม่ได้ ก็อย่าไปฝืนค่ะ หรือเคยเดทกันมาหลายครั้งแล้วมันไม่เวิร์ค ก็ลดมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไป พอเป็นเพื่อนก็คบกันได้ต่อยาวๆ เหมือนเรากับทินเดอร์เดทแรกของเราที่เคยเดทกัน มีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน แต่เพราะมันก็มีเหตุผลหลายอย่างที่มันลงเอยกันไม่ได้ก็จบที่การเป็นเพื่อน ซึ่งเค้าก็เป็นคนที่เราไว้ใจมีปัญหามีธุระอะไรก็ปรึกษาช่วยเหลือกันได้เสมอ บางคนเค้าก็จะเขียนในโปรไฟล์ส่วนตัวเลยว่าเค้าเดินทางคนเดียวต้องการหาเพื่อนแฮงค์เอ้าท์เท่านั้น เวลาเราอ่านเจอก็อาจจะมีไม่เชื่อบ้าง แต่บางคนเค้าไม่ได้ต้องการมากไปกว่านั้นจริงๆ

ได้ลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ

การได้ออกไปเจอคนใหม่ ๆ สังคมใหม่ๆ ได้ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ ได้พูดคุยและเห็นมุมมองต่างจากคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในสังคมเดิมของเรา มันก็ทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากขึ้น ถ้าพรุ่งนี้ฉันบอกเพื่อนว่าจะไปเล่น kitesurfing คงไม่มีใครเชื่อ เพราะฉันกำลังเดทกับครูสอน kitesurfing เค้าชวนฉันไปลองเล่นดู เค้าบอกว่าเค้าอยากให้ฉันรู้จักเค้าจากสิ่งที่เค้ารัก คนที่ไม่ถนัดกีฬาใดใดเลยอย่างฉัน คงไม่มีวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วไปลองเล่นมันแน่ๆ ฉันเลยต้องใช้สิทธิ์นั้นเดียวนี้!

อย่ากลัวไปเลย

บางคนก็มีอคติในการใช้แอปหาคู่เพราะกลัวการถูกหลอก แต่จริงๆ แล้วก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าการรู้จักกันจากที่อื่นหรือการได้เริ่มรู้จักกันแบบเห็นหน้าคร่าตาจะไม่ถูกหลอก หรือจะทำให้ความสัมพันธ์ราบรื่นไปตลอดรอดฝั่ง เรามองว่าสำคัญที่ความซื่อสัตย์และการจริงใจต่อกันมากกว่าที่จะมีผลกับทุกๆ ความสัมพันธ์ ไม่ว่ากับคู่รัก เพื่อน หรือแม้แต่คนที่เพิ่งรู้จัก

จริงใจตั้งแต่รูปโปรไฟล์

ควรเลือกรูปที่อธิบายถึงตัวเราได้ชัดเจน ทั้งหน้าตา ความสูง รูปร่าง อายุ รูปต้องใกล้เคียงกับปัจจุบัน สำคัญที่อย่าแต่งรูปจนดูไม่เหมือนตัวจริง เพราะสุดท้ายคู่เดทก็คงไม่แฮปปี้ ทำให้เสียเวลาในการไปออกเดทกันทั้งคู่ เพราะมันหมายความว่าคุณนั้นไม่จริงใจตั้งแต่เริ่ม เราเคยมีประสบการณ์ที่ไปเจอคู่เดทแล้วไม่เหมือนกับรูปโปรไฟล์อยู่ครั้งนึง ตอนนั้นไปเที่ยวที่เบอร์ลินครั้งแรก อยากหาคนพาเที่ยวคลับและปาร์ตี้เจ๋งๆ เลยพยายามเลือกคนที่ดูดีมีสไตล์ คืนนั้นไปถึงเบอร์ลินก็ค่ำแล้วเลยเลือกคนจาก super like ก่อนเลย เพราะคิดว่ายังไงเค้าก็อยากเจอเรามากกว่าคนอื่น บอกก่อนว่าเราคือสาวหมวยที่ผิวแทนผมดัดซิ่งๆ ไม่ใช่สาวเอเชี่ยนผิวซีด เวลาไปยุโรปรูปโปรไฟล์เราจะโดดเด่นมาก ถ้าแลก super like เป็นยูโรได้คืออยู่ยุโรปได้เป็นเดือนๆ

แต่ละรูปของหนุ่มคนนี้ดูดีเท่ห์มาก มีรูปที่เป็นซีนปาร์ตี้ ดูเป็นหมุ่มมิวสิคเชี่ยนแถมระบุว่าเป็น Music Producer น้องคนนี้ชื่อ ”นิค” แต่เรากับเพื่อนได้เปลี่ยนชื่อให้ทันทีที่เจอว่า “เนิร์ด” คือหน้าน้องก็ค่อนข้างตรงปกนะ แต่ทรงน้องไม่ได้เลย แฟชั่นที่เห็นในรูปโปรไฟล์กับตัวจริงต่างกันไปมาก แถมที่น้องบอกว่าจะพาเราเที่ยวก็ไม่น่าจะรอด เพราะคลับที่เราอยากไปนั้นน้องก็ไม่เคยไปจ้า ดีที่เราไปกับเพื่อนด้วยเลยรีบออกมาให้ไว เจ็บใจมาก เสียดายค่าเบียร์สุดๆ แต่พอกลับมาคิดๆ ดูคือมันก็มีจุดที่เราควรจะเอะใจอยู่บ้างตั้งแต่ตอนที่คุยกัน แต่ตอนนั้นรีบไปหน่อย ได้แต่โทษตัวเอง ก็ดีจะได้มีเหตุการณ์คอยเตือนใจให้มีสติอยู่เสมอ และอีกเหตุการณ์ที่เพื่อนผู้ชายชอบมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ คือ สาวทุกวันนี้แต่งรูปกันเก่งมาก เก่งถึงขนาดมายืนโบกมือทักอยู่ตรงหน้า เพื่อนเรายังไม่รู้เลยว่าคือคู่เดทของตัวเอง

จะสร้างโปรไฟล์ยังไงให้น่าสนใจ?

ให้คิดว่าตัวเองเป็นโปรดักซ์นึงที่ต้องขาย หาจุดเด่นของสินค้าออกมา อย่างเราเองคนรอบข้างชอบชมว่ายิ้มสวยก็ขายความสดใสไป แรกๆ เราไม่มีรูปบิกินี่เลยนะ ไม่กล้าลง แต่หลังจากที่ขอดูทินเดอร์ของเพื่อนผู้ชายเพราะอยากเช็คว่าสาวๆ เค้าขายของกันยังไงบ้างแล้วนั้น บอกเลยว่าเราลงรูปบิกินี่ไปเลยเกือบครึ่ง ฮาร์ดเซลล์กันไปค่ะ ตลาดนี้แข่งขันกันดุเดือดมาก ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วย อาจจะเพราะเราอยู่เกาะมาตลอด ก็เลยไม่แปลกที่จะขายความเป็นไอส์แลนด์เกิร์ล แต่ส่วนตัวเราว่าสาวๆ ที่มั่นใจก็มีรูปที่โชว์รูปร่างบ้าง ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าพวกผู้ชายก็อยากรู้อยากเห็นทั้งนั้น ส่วนโปรไฟล์หนุ่มๆ นั้น สาวๆ อย่างเราก็อยากรู้ว่าคุณมีซิกแพ็คหรือไม่เช่นกันค่ะ ฉะนั้นถ้าคุณมีอะไรดีก็งัดออกมาโชว์เลย ถือว่าเป็นสมบัติของมนุษยชาติ

รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สำคัญ

เราว่าโปรไฟล์ที่หนุ่มๆ ลงรูปกิจกรรมที่เค้าสนใจทำ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน กีฬา ดนตรี ปาร์ตี้หรือท่องเที่ยว มันน่าสนใจกว่าการลงเฉพาะรูปเซลฟี่ และประโยคสนทนาแรกนี่แหล่ะ สามารถบอกได้เลยนะว่าเราอยากคุยต่อหรือรู้จักมากขึ้นหรือไม่ ไม่ได้พูดว่าเราจำเป็นที่จะต้องประดิษฐ์คำพูดเท่ห์ๆ สวยๆ อวดภูมิอะไรออกไป แต่เราจะประทับใจมากกว่าถ้ามีหนุ่มทักเรามาโดยเริ่มบทสนทนาจากข้อความบรรยายส่วนตัวของเราหรือจากรูปภาพเรา มันทำให้เรารู้สึกว่าเค้าสนใจเราและเรารู้สึกว่าเค้าฉลาด เหมือนว่าเค้าคิดมาก่อนที่จะคุยกับเรา

บ่อยครั้งที่เราไปแมชท์กับหนุ่มในทินเดอร์แล้วถึงมานึกได้ หรือจำกันได้ว่า เราเคยเจอกันตามที่ต่าง ๆ เคยสบตากัน และปิ๊งกันตั้งแต่ยังไม่รู้จักกันมาก่อน ซึ่งมันทำให้เราสรุปได้ว่า ไม่ว่าเราจะรู้จักกันจากที่ไหน เราก็จะชอบหรือสนใจคนๆ นี้ มันมีเคมีบางอย่างที่ดึงดูดหากัน ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุยกับใครหรือไปเจอกันแล้วมันไม่คลิ๊กหรือมันไม่ใช่ ต่อให้เราจะชอบเค้าแค่ไหนก็ต้องเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ มันฝืนไม่ได้จริงๆ

ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง

อีกปัญหานึงที่เราจะเจอกันมากคือ การคาดหวัง โดยเฉพาะสาว ๆ เราชอบคาดหวังว่าอยากให้เค้าชอบเรามากๆ อยากให้เค้ามาเป็นแฟนเรา แบบเจอกันแล้วเป็นแฟนกันเลย มันก็มีหลายคู่ที่เค้าเป็นแบบนั้น ซึ่งก็คือความโชคดีของเค้า จงยินดีกับเค้า แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นคนโชคดีหล่ะ เราจะทำยังไง ก่อนอื่นต้องเข้าใจสถานการณ์ก่อน

หลายคนใช้ Dating App เพราะเพิ่งเลิกกับแฟนมา เราเป็นแค่ตัว rebound หรือเปล่า หรือหนุ่มฝอคนที่เพิ่งไปเดทมาเค้าแค่มาเที่ยวแป๊บๆ แล้วอีกไม่กี่วันก็ไปหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่อยากให้คาดหวังอะไรมาก Enjoy the moment แต่ให้อยู่ในโลกของความเป็นจริง ไม่ใช่วันดีคืนดีฝอพูดว่า “I want to move here” แล้วหล่อนก็สร้างภาพในหัวจะย้ายบ้านไปอยู่ด้วยกัน ไปจนถึงเลี้ยงหมา มีลูกและอยู่ไปจนแก่จนเฒ่า ฮัลโหลลลล...ตื่นค่ะ บอกตามตรงไม่เคยเห็นฝรั่งคนไหนมาเมืองไทยแล้วไม่อยากย้ายมาอยู่นี่ซักคน รอให้เค้าย้ายมาจริงๆ ก่อนนะคะ ค่อยคิดก็ได้ เพราะเวลาที่เราหมกมุ่นอยู่กับวิมานดินของเรานี้นอกจากจะเสียเวลาแล้ว ยิ่งถ้าเราคาดหวังอะไรมากๆ โดยเฉพาะอยากให้เค้ามาเป็นแฟนเรานั้น มันจะมีพลังงานบางอย่างออกมาจากเรา บอกเลยว่าอีกคนมันสัมผัสได้ และมันน่ากลัวมากถ้าเค้าไม่ได้รู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราสบายใจ ให้เวลาเรียนรู้กันไป พลังงานที่ว่ามันจะอีกแบบ เราว่าหลายคนคงเคยเจอกับตัวมาแล้ว เวลาที่เราอยากได้อะไรมากๆ มันมักไม่ได้ ไม่เจอ แต่พอเราเลิกอยากได้ หรือเลิกคิดถึงมันเมื่อไหร่ โอ้โห ประดังประดาเข้ามาไม่ขาดสาย...ความรักก็เช่นกัน

Happy Love Month!