In the name of father
ภาพสะท้อนของระบบยุติธรรมในไทย ที่เห็นไปถึงการที่ผู้มีอำนาจใช้กฎหมายรู้ว่ากฎหมายมีบทลงโทษอย่างไร แต่ไม่ได้ถูกหยิบมาใช้อย่างเหมาะสม ถูกต้องและเฉียบคม ทำให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมันเน่าเฟะ แค่ไหนเมื่ออำนาจตกไปอยู่ในมือของคนที่ใช้มันไม่เป็น
Dead Poets Society
หนังเรื่องแรกที่ทาง Dude,Movie หยิบขึ้นมาฉาย เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกถึงการค้นหาบางอย่างในตัวเอง ถึงแม้ว่าหนังจะไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่เจาะจงที่การค้นหาตัวเองเป็นหลัก แต่เมื่อดูหนังในตอนที่เล่าเรื่องประสบการณ์ของตัวละครหลักในช่วงวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเองจากการใช้ชีวิต ก็ทำให้สะท้อนไปถึงความรู้สึกลึกๆ ของใครหลายคนที่กำลังค้นหาตัวเอง
The Dreamer
เป็นหนังที่เล่าถึงเรื่องราววัยรุ่นสามคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในอพาร์ทเมนต์เดียวกัน ที่กรุงปารีสในช่วงปี 1960 หนังเล่าถึงความฝัน อุดมการณ์ ความคิดของพวกเขาที่มีร่วมกัน พร้อมไปกับสถานการณ์ความวุ่นวายของสงคราม ความขัดแย้ง ทำให้เราได้เห็นความคิดของตัวละคร ที่สามารถเชื่อมโยงมาถึงพวกเราในยุคนี้ได้ หนังเรื่องนี้มาจากอีเวนต์ล่าสุดของ Dude,Movie ที่มีชื่ออีเวนต์ว่า Plastic Bouquet
10 Years Thailand
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตอน Catopia ที่เล่าเรื่องของตัวละครหลักที่เป็นมนุษย์ แต่คนอื่นๆ ในเรื่องเป็นแมว เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองเป็นเหมือนแมวมากที่สุด เพื่อความอยู่ร่วมกับทุกคนให้ได้ หนังกำลังสื่อถึงคือเรื่องความสัมพันธ์ของผู้คนในสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการเมือง เป็นหนังแนว Sci-fi และการเล่าเรื่องที่ค่อนข้าง Surreal
David Bowie ‘Finding Fame’ Documentary
หนังสำหรับ Pride Month เริ่มกันเลยที่เรื่องนี้ สารคดีของศิลปินชื่อดัง เดวิด โบวี่ ที่เล่าถึงชีวิตการทำงาน แนวคิด และความสามารถ ที่ Dude,Movie ก็บอกกับเราว่า เขามีแนวคิดที่ทันสมัย และเป็นต้นแบบให้กับศิลปินในยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
Blue is the Warmest Colour
พูดถึงความรักของผู้หญิงสองคนด้วยฉากรักเร่าร้อน แต่สะท้อนถึงเบื้องลึกของอิสรภาพของการเป็นมนุษย์ที่ทุกคนควรได้รับ โดย Dude,Movie ได้พูดคำที่มีความหมายเกี่ยวกับหนังเรื่องนีไว้ว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่เรายอมรับว่าเราเป็นอะไร มันสำคัญมากว่าเราเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่ที่ว่าเราเรียกตัวเองว่าอะไร แต่เราควรยอมรับกันในฐานะการเป็นมนุษย์”
รู้จักพวกเขา Dude,Movie
กลุ่มเพื่อนที่ชวนเราดูหนังที่ตรงกับความสนใจในช่วงเวลานั้นๆ โดยที่ไม่จำกัดว่าหนังจะต้องเป็นหนังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทำให้พวกเขาได้พบปะพูดคุยกับคนหลากหลายความสนใจ จากหนังที่พวกเขาเลือก และกลายเป็นเป็นสังคมการดูหนังที่ดูจบแล้วไม่ใช่แค่เดินออกไปจากโรงภาพยนตร์ แต่ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ที่ได้รับจากหนังที่พวกเขาฉายไป
หลังจากการฉายหนังครั้งแรกผ่านไป จนถึงทุกๆ ครั้งที่ ก็เริ่มมีกิจกรรมอื่นๆ ในอีเวนท์ฉายหนัง ในที่นี้รวมไปถึงการแสดง Performance การแลกเปลี่ยนหนังสือ และการเขียนกวีเพื่ออ่านด้วยกัน แค่ได้ฟังยังรู้สึกอบอุ่น อยากเข้าร่วมบ้างซักครั้ง
Dude,Movie อยากจะบอกอะไร
“ผู้คนมักจะลืมว่าตัวเองเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้”
ผู้คนมักจะลืมจุดนี้แล้วก็ยอมแพ้กับชีวิต ถ้าบอกอะไรกับพวกเขาได้ ก็อยากจะบอกว่าเรารอฟังพวกเขาอยู่ พวกเขาสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราได้ เราไม่ได้อยากเป็นคนที่ให้แรงบันดาลใจแค่ฝ่ายเดียว และการที่เราได้ให้โอกาสตัวเองได้ลงมือทำอะไรซักอย่าง ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น การที่เราจะทำ มันคือการที่เรามีอิสระจริงๆ เราสามารถที่จะให้อิสระตัวเองในการลงมือทำได้ และ Dude,Movie ก็ให้ได้อิสระในการที่ทุกคนสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเราได้
“สิ่งหนึ่งเลยที่ไม่ควรจะลืมก็คือ เราก็ทำได้ Dude,Movie ก็เกิดมาจากคำที่ว่า ฉันเองก็ฉายหนังได้”
ปัจจุบัน Dude,Movie จัดอีเวนท์มาแล้ว 6 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อไม่ถึงอาทิตย์ที่ผ่านมา (กล่าวเมื่อวันที่ 22/06/64) และจะมีอีกครั้งในเร็วๆ นี้ กับ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กลุ่มรณรงค์ ปกป้อง และส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ด้วยประเด็น “สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของผู้คน” ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ลองไปติดตามแหล่งเชื้อเพลิงของ “แรงบันดาลใจ” กันได้ที่เชียงใหม่ ไทยแลนด์
ติดตามและอัพเดตข่าวสารภาพยนตร์รวมถึงอีเวนต์ได้ที่ Dude, Movie