“คำขวัญ ดวงมณี” ผู้กำกับสาวที่สร้างผลงานสุดเท่ ผ่านบทเพลง หนัง แฟชั่น และศิลปะที่เธอหลงไหล

หลายคนคุ้นชื่อของ จีน – คำขวัญ ดวงมณี จากผลงานการกำกับฯ มิวสิควิดีโอจากเพลงดังอย่าง Lover Boy ของ Phum Viphurit, Don’t You Go ของ STAMP, ประติดประต่อ ของ Greasy Cafe, ดำสนิท ของ ฮิวโก้–จุลจักร จักรพงษ์, และอีกหลากหลายบทเพลง ได้รับคำชื่นชม ว่าเป็นผู้กำกับที่สร้างงานด้วยความปราณีต เต็มไปด้วยศิลปะ และที่สำคัญทุกชิ้นงานถูกยอมรับว่างดงามทั้งสิ้น ผลงานเธอผ่านสายตาเรามากมาย ไม่ต่ำกว่า 60 ชิ้น ที่สำคัญเธอเรียนจบแฟชั่น แต่หันเหมาเป็นผู้กำกับ และเธออายุเพียง 27 ปีเท่านั้น! 

วันนี้เราชวนเธอมานั่งพูดคุย ถึงเรื่องราวของบทเพลง หนัง แฟชั่น และแรงบันดาลใจต่างๆ ที่เธอสั่งสมและหยิบมาใช้ในการสร้างภาพเคลื่อนไหว ทั้งในงานโฆษณา แฟชั่นฟิล์ม และมิวสิควิดีโอ 

อะไรคือเบื้องหลังที่ทำให้หญิงสาวคนนี้ ได้กลายมาเป็นผู้กำกับที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์และถูกยกให้เป็นผู้กำกับหญิงที่สร้างผลงานได้น่าสนใจที่สุดในเวลานี้ 

หนังที่ดู 

“ตอนเด็กๆ ชอบดูหนังของ Tim Burton เรื่องที่ชอบที่สุดคือ The Nightmare before Christmas และ Edward Scissorhands ชอบความหม่น ดาร์ค เหงา แล้วก็ความ Creepy ที่ใส่เข้ามา จนกลายเป็นสไตล์เฉพาะของเขา ส่วนหนังอีกแนวที่ชอบตั้งแต่เด็ก จนถึงปัจจุบัน ก็คือหนังเพลง ตั้งแต่เรื่อง Grease, The Phantom of the Opera และ Mourin Rough ซึ่งยอมรับว่าได้รับอิทธิพลในการดูหนังเหล่านี้ จากคุณพ่อคุณแม่เยอะมาก” 

หลายคนมองว่า ผู้กำกับหนังส่วนใหญ่ จะต้องเสพหนังมากแค่ไหน จึงจะสามารถสร้างผลงานได้น่าสนใจและแตกต่าง ซึ่งจีนบอกกับเราว่า เธอไม่ใช่นักดูหนังที่ตะบี้ตะบันดูทุกเรื่อง เหมือนนักเรียนฟิล์มที่ต้องดูหนังครูให้ครบทุกชิ้นงาน เธอแค่เลือกดู เพราะอยากดูเท่านั้น 

“เริ่มดูหนังเยอะขึ้น ตอนเรียนแฟชั่น สนใจหนังฝรั่งเศส พวก French New Wave และชอบงานของ Jacques Demy เรื่อง ‘The Young Girls of Rochefort และ The Umbrellas of Cherbourg ซึ่งนางเอกที่เล่นเรื่องนี้คือ Catherine Deneuve เธอเป็นนางเอกที่เล่นหนังในยุค 70 เยอะมาก ซึ่่งงานของผู้กำกับฯ คนนี้ ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการทำหนังเรื่อง La la Land ของ Damien Chazelle ซึ่งจีนชอบผู้กำกับ 2 คนนี้มาก ชอบในความที่ทั้งคู่เป็นผู้กำกับแนวมิวสิคัล และมี passion ในเรื่องดนตรี ซึ่งมันสะท้อนกลับมาที่ตัวจีนเอง” 

“นอกเหนือจากความสนใจในเรื่องศิลปะและแฟชั่นแล้ว จีนยังหลงไหลในเรื่องดนตรีมากๆ ส่วนผู้กำกับฯ สายดาร์คฝั่งเอเชียอีกคน ที่ชอบไม่แพ้กัน ก็คือ ปาร์ค ชาน-วุค  ผู้กำกับฯ แนวพลอตทวิสต์ ที่สร้างหนังดีๆ ไว้เยอะมาก เรื่องที่ชอบที่สุดก็คือ Old boy และ The Handmaiden ซึ่งเขาเก่งในการวางโครงสร้างเรื่อง และสร้างบรรยากาศได้ดาร์คมาก ๆ อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Christopher Nolan เป็นผู้กำกับที่ทรงพลังมากๆ ในการหยิบเอาทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ มาเล่นกับเรื่องของเวลา ดูหนังของเขาได้ไม่เบื่อจริงๆ” 

เพลงที่ฟัง 

“ตอนเด็กๆ ก็เหมือนเด็กทั่วไป ฟัง “ทาทา ยัง” แต่คุณพ่อคุณแม่ฟังเพลงสากลเยอะ เลยมีโอกาสได้ฟังเพลงพวก Abba, Bee Gees, Deep Purple, David Bowie พอเริ่มโต ก็ฟังเพลงวัยรุ่นอย่าง Britnry Spears, Christina Aguilera, Michael Jackson พวกที่เป็น Boy Bands ในยุคนั้นอย่าง N’Sync หรือ Backstreet Boys ฟังหมด พออยู่มอปลาย ก็เริ่มหันมาฟังพวกร๊อค หรือแนวอีโมอย่าง Simple plan, Green day แต่ 2 วงที่ยกให้เป็นวงโปรด เลยก็คือ My Chemical Romance ที่บินไปดูถึงอเมริกา ชอบความหม่น ดาร์ค ที่ดูสปุ๊กกี้ในงานเพลงของพวกเขา แล้วเมโลดี้ของแต่ละเพลงก็สวยมากๆ อีกวงคือวง Muse เล่นสดดีมาก ยิ่งใหญ่มาก เคยมาเล่นคอนเสิร์ตที่ไทย แล้วประทับใจมาก” 

หลายคนรู้ดีว่าจุดเริ่มต้นในการทำหนังของ “จีน คำขวัญ” มาจากการที่เธอเรียนแฟชั่นดีไซน์ แต่ไม่ชอบการทำเสื้อผ้า เพราะเธอสนใจในเรื่องราวของ Visual ของแฟชั่นมากกว่า ซึ่งเราเชื่อว่า เธอน่าจะมีดีไซเนอร์ในดวงใจ ที่อยากเล่าให้เราฟังแน่นอน 

Fashion 

Miuccia Prada คือดีไซเนอร์ ที่ทำให้จีนสนใจในงานแฟชั่นฟิล์ม หนังแฟชั่นทุกเรื่องของ PRADA วางรายละเอียด , ไดเรคชัน และเล่าเรื่องได้สมบูรณ์มากๆ ส่วนอีกแบรนด์ที่ชอบมาก ก็คือ Gucci ตั้งแต่มี Alessandro Michele เข้ามาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ ต้องยอมรับเลยว่า เขาเป็นคนที่มีความ Creavity สูงมาก สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง ปรับรูปลักษณ์แบรนด์ให้กลับมาได้รับเสียงชื่นชมจากคนในวงการแฟชั่นได้อีกครั้ง แต่ละคอลเลคชั่นของเขาคือสร้างสรรค์และเล่าเรื่องราวได้น่าสนใจจริงๆ ส่วนอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Phoebe Philo ที่สร้างแบรนด์ Identity ให้ Céline เป็นแบรนด์ที่ทั่วโลกยกให้เป็นสัญลักษณ์ของความคลาสสิค และความ sophisticated แม้จะเปลี่ยนมือดีไซเนอร์มาเป็น HEDI SLIMANE แต่แบรนด์ Identity ของ Céline ก็คือสตรองจริงๆ”

“สุดท้ายที่อยากพูดถึงมากๆ คือ Calvin Klein ที่จีนได้เคยร่วมงาน ในหนังโฆษณาแคมเปญ International Women’s Day ที่ทำขึ้นเพื่อแสดงพลังของผู้หญิงเอเชีย เป็นงานที่จีนรู้สึกภูมิใจมากที่สุดในชีวิต หลังจากได้ร่วมงานกับแบรนด์นี้แล้ว รู้สึกมีความเป็นแบรนด์ royalty ถึงขั้นไปซื้อชุดชั้นในมาใส่เลย (หัวเราะ)” 

หนังโษณาดังกล่าว ถูกฉายที่ฮ่องกง และ Calvin Klein ได้โพสต์ผลงานการกำกับของเธอลงบน Instagram Official ซึ่งเธอเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงแห่งภูมิใจ

“จีนวางเป้าหมายในชีวิตให้ตัวเองไม่กี่อย่าง การได้ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก คือหนึ่งในลิสต์ที่วางไว้ ครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายหนึ่งในชีวิต มันเหมือนเราได้บรรลุเป้าหมายในชีวิตอีกขั้น ” 

มิวสิควิดีโอที่ชอบ

“ชอบเพลง “Time to dance” ของวง “The Shoes”  วงนี้ไม่ได้แมสมาก แต่ได้ Jake Gyllenhaal มาเล่น ซึ่งเป็นนักแสดงที่จีนชอบและเล่นบทคนโรคจิตได้ดีมาก เพลงนี้เขาเล่นเป็นฆาตรกรโรคจิต แววตาของเขา มันซิงค์กับเพลงดีมาก อาจจะโหดมีเลือดสาด แต่คือชอบ จีนฝันอยากทำหนังที่มีฉากฟัน แล้วเลือดกระเด็น แต่ยังไม่มีโอกาสได้ทำ” 

“อีก MV ที่ชอบ ก็คือเพลง “Electric Indigo” ของวง “The Paper Kite” ชอบในการเล่าเรื่อง ที่ไม่ได้มีอะไรมาก แต่ใส่ความโรแมนติกน่ารักลงไปในเพลง”

“ส่วนเพลงอีกเพลงคือ It Ain’t Me ของ Kygo ft. Selena Gomez  เพลง EDM นิดๆ ที่เล่นกับ symbolic ของความตาย มีการแทรกเนื้อหาความขบขันเข้ามา และปิดท้ายด้วยตอนจบที่ toching มาก”

ระหว่างที่จีนพูดถึงงานมิวสิควิดีโอโปรด เธอก็เกิดตั้งคำถามกับตัวเอง ว่า MV ที่เธอ ชอบส่วนใหญ่ จะเน้นที่การเล่าเรื่อง ซึ่งแตกต่างจากงานส่วนใหญ่ของเธอ ที่เน้นในการใช้ Visual Storytelling คือการเล่าเรื่องด้วยภาพ ให้บรรยากาศมันพาไป 

“จีนมองว่าศาสตร์ของการทำ MV คือต้องทำให้คนดูรู้สึกถึงอารมณ์ของเพลง รู้สึกอินไปกับดนตรี เนื้อเรื่องจะต้องไม่กลบความชัดของภาคดนตรีและอารมณ์เพลง”

Iconic 

“ ด้วยความที่เป็นคนชื่นชอบในความเป็น French Style อยู่แล้ว เราเลยชอบคู่รักไอคอน อย่าง Jane Birkin and Serge Gainsbourg ชอบความเป็นแฟชั่นไอคอน ที่แค่ใส่ไอเท็มง่ายๆ อย่างเสื้อเชิ้ตขาว ตระกร้าสาน ก็เท่มากๆ ชอบในแง่ที่ทั้งคู่เป็นนักร้อง และนักแสดงด้วย เวลาที่ทั้งสองอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะในหนัง หรือในชีวิตจริง มันเป็นภาพที่น่ารักมากๆ ส่วนอีกคนที่ชอบไม่แพ้กัน ก็คือ Jean Cocteau กวี, นักเขียน , เพ้นติ้ง, นักแสดง และผู้กำกับฯ ชาวฝรั่งเศส จีนชอบถึงขนาดเอาหนังเขามาทำทีสิส เขาชอบเลี้ยงแมว และได้วาดภาพแมว ภายใต้ชื่อ Des ami des chats เพื่อบอกว่า แมวคือเพื่อนของศิลปิน ซึ่งจีนหยิบเอาภาพนี้ ไปทำ instagram รวมภาพศิลปินที่ถ่ายรูปคู่กับแมว เพราะจีนก็เลี้ยงแมว 2 ตัวเป็นแมวสีขาวและสีดำชื่อ Snow และ Noir“

ก่อนจบบทสนทนาระหว่างเรา เธอได้เล่าให้เราฟังถึง Passion ในชีวิต ที่นอกจากการหลงไหลใน Visual Story แล้ว การเล่นดนตรี ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เธอถึงขั้นสับสนในชีวิต ระหว่างดนตรี และแฟชั่นเธอจะเลือกเรียนอะไร 

“ด้วยความที่จีนชอบ หนังเรื่อง La la Land ซึ่งผู้กำกับฯ Damien Chazelle เขาจะมีคู่หู ที่ทำเพลงด้วยกันคือ Justin Hurwitz ซึ่งทำเพลงเพราะมาก แล้วเพิ่งรู้มาว่าทั้งสองเป็นพาร์ทเนอร์ที่ทำหนังและเพลงคู่กันมาโดยตลอด แล้วยิ่งอินสปายจีนมากๆ จีนรู้สึกว่า การเป็นผู้กำกับฯ ที่มีคู่หูเป็นนักแต่งเพลง มันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ (หัวเราะ) ถึงแม้จีนจะยังไม่มีคนคนนั้นข้างๆ แต่ก็มีความหวังว่า วันนึง ตัวเองจะสามารถแต่งเพลง และเอาเพลงที่แต่งไปใช้ในหนังของตัวเองได้ นั่นจึงทำให้จีนไม่หยุดฝึกฝนการเล่นเปียโน จีนไมไ่ด้ทฤษฎีเปียโนแน่น แต่ก็ชอบที่จะเล่นตอนดึกๆ เล่นอะไรมั่วๆ แล้วอัดเก็บไว้ ก็คิดว่า วันนึงอาจจะมีโอกาสได้ใช้ “  

ระหว่างการพูดคุยถึงรสนิยมความชอบ ในงานศิลปะกับเธอ สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้จากน้ำเสียงและสีหน้าของ “จีน คำขวัญ” นั่นคือความสดใส ความกระตือรือล้น ในการเล่าถึงสิ่งที่เธอรัก 

“ จีนเป็นคนทำงานด้วย Passion ล้วนๆ ถ้าบอร์ดน่าสนใจ ก็จะทำ ไมไ่ด้แคร์ว่า Budget จะมากหรือน้อย ตราบใดที่ยังสนุกและมีความสุข ก็จะทำ” 

“และหากถามว่า ระหว่างทำโฆษณา แฟชั่นฟิล์ม และเอ็มวี ชอบอะไรที่สุด ตอบยากจัง… (หัวเราะ) ทั้ง 3 อย่างมันก็มีข้อดีต่างกัน งานโฆษณามันคือการขายโปรดักส์ เวลาได้ทำมันเหมือนเราสามารถเอาชนะอะไรหลายๆ อย่างได้ คือคนเราควรเป็นตัวของตัวเองในการทำงาน แต่เวลาการทำงานโฆษณา เราต้องลดความเป็นตัวเองลงนิดนึง เมื่อต้องจูนกับลูกค้า (หัวเราะ) ซึ่งจีนมองว่า บางทีการที่เราสามารถลดความเป็นตัวเองลดบ้างนิดหน่อย มันคือความพิเศษอย่างหนึ่งนะ ก็คงบอกได้ว่าชอบแฟชั่นฟิล์มมากๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวเองก็ชอบการทำงาน MV ด้วยมากๆ เช่นกัน” เธอทิ้งท้ายก่อนจากกัน ถึงเป้าหมายชีวิตของเธอ 

“จีนอยากเติบโตขึ้น จากรูปแบบที่่ต่างจากเดิม อยากให้ตัวเองแข็งแรง ได้ทำอะไรใหม่ๆ และไม่ย้ำเท้าอยู่ที่เดิม”

ติดตามและอัพเดตผลงานของคำขวัญได้ที่ khamkwan