‘ภาคินัย’ ปลายปากกาเรื่องสยองขวัญที่ชวนผู้อ่านสัมผัสความระทึก

เรื่องราวสยองขวัญที่ปลุกให้ผู้อ่านขนลุกขนพอง แม้ว่าเรื่องจะน่ากลัวและชวนหลอนสักเท่าไหร่ แต่ผู้คนก็ยังอ่านและยังเป็นที่นิยมอยู่ตลอด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องราวสยองขวัญทั้งหลายนั้นไปกระตุ้นความตื่นเต้นและความอยากรู้ของผู้คนได้เป็นอย่างดี และเมื่อคุณลองนึกถึงนักเขียนนวนิยายสยองขวัญในเมืองไทยที่ชวนผู้อ่านคนหัวลุก หนึ่งในนั้นจะต้องนามปากกาชื่อ “ภาคินัย” 

แอมป์ - ภาคินัย กสิรักษ์ นักเขียนนวนิยายชื่อดังที่ทุ่มให้การเขียนนวนิยายสยองขวัญตลอดการเป็นนักเขียน หลายผลงานได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ถูกต่อยอดทำเป็นซีรีส์ และแปลเป็นภาษาต่างประเทศ ผลงานนวนิยายสยองขวัญกว่า 70 เรื่องของภาคินัยได้พิสูจน์ความสำเร็จของนักเขียนคนนี้แล้ว วันนี้ EQ จึงชวน ‘ภาคินัย’ เพื่อทำความรู้จักตัวตน ผลงานที่ชื่นชอบ และแรงบันดาลใจในการเขียนนวนิยายแนวสยองขวัญ

ก่อนเป็นนักเขียนนวนิยายสยองขวัญ

“เป็นเด็กกิจกรรมคนนึงครับ ตอนอยู่มัธยมปลายก็จะลงแข่งขันทุกอย่างที่หมวดภาษาไทยจัด ทั้งแต่กลอน ประชันสักวา เรียงความ เล่นลิเก เป็นประธานสี หัวหน้าห้อง ฯลฯ แล้วก็ชอบทำกิจกรรมครับโดยเฉพาะงานขีดๆ เขียนๆ เนื่องด้วยเหตุนั้นทำให้พอเรียนจบจึงพยายามขวนขวายหางานที่เกี่ยวกับการเขียนด้วยการส่งงานเขียนไปตามนิตยสารต่างๆ ในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็น HAMBERGER, I LIKE, I’FINE  ได้ลงตามคอลัมน์ต่างๆ ได้ค่าขนมมานิดหน่อย จนมีโอกาสได้เขียนบทละครที่บริษัทอาร์เอสอยู่นิดหน่อย จึงรู้สึกว่าเราต้องมาทางนี้แล้วแหละ ไปทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว”

“หลังจากนั้นจึงได้รู้จักกับรุ่นพี่คุณต้องตาซึ่งก็คือบรรณาธิการของผมมาตั้งแต่ต้นที่ทำงานอยู่สำนักพิมพ์อักขระบันเทิง (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สำนักพิมพ์โซฟา) ชวนมาเขียนบทความ สมัยนั้นการมีหนังสือเป็นของตัวเองคือโคตรยิ่งใหญ่ ผมเลยตกลงมาเขียนบทความซึ่งก็ไม่ผ่าน เขียนด้วยลายมือใส่กระดาษเอสี่น่าจะประมาณสามร้อยหน้า เขียนทุกวัน สู้ไม่ยอมแพ้ ไม่ผ่านก็เขียน เขียน เขียนและเขียนจนสุดท้ายก็มีผลงานเป็นพ็อคเก็ตบุ๊คเรื่องแรกออกมาในนามว่า ‘ความรักกัดขา(วันที่หมาติดปาก)’ แล้วหลังจากนั้นก็เขียนหนังสือมาตลอดครับ”

เส้นทางสู่นักเขียนนิยายสยองขวัญ

“หลังจากเขียนบทความมาได้สักพักจึงเริ่มมาเขียนนิยายรักโดยใช้ความรู้จากการเขียนบทละครมาเขียนครับ แต่เขียนแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยใช่เรา ด้วยการที่เป็นคนชอบดูหนังสยองขวัญหนังระทึกขวัญ ชอบฟังเรื่องผี เลยลองร่างพล็อตเรื่อง ‘นางชฎา’ เสนอสำนักพิมพ์ซึ่งตอนแรกสำนักพิมพ์ทำแต่บทความ นิยายรักหวานๆ การที่จะแหวกทำนิยายสยองขวัญเลยจึงเป็นเรื่องยากแต่สุดท้ายพี่บั๋ง สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา มองเห็นอะไรบางอย่างจึงยอมอนุมัติให้เขียน เขียนเรื่องแรกก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจนได้เขียนเรื่องต่อๆ มาจนถึงวันนี้ครับ”

แรงบันดาลใจและการเขียนสไตล์ “ภาคินัย”

“ส่วนใหญ่นิยายของผมจะไม่มีพล็อตตายตัว จะมีแต่เส้นหลักๆ เวลาเขียนตัวเรื่องจะพาผมไปเอง ดังนั้นเวลาทำงานถ้าให้ผมส่งเรื่องย่อก่อนผมจะทำไม่ได้ ผมว่าตัวละครจะพาเรื่องไปเองจนจบ เราแค่เป็นคนสานต่อเท่านั้น ผมชอบเขียนเรื่องใกล้ตัวที่คนอ่านสัมผัสได้มันจะอินกว่าครับ แรงบันดาลใจก็มาจากสิ่งที่เห็นได้ประจำวัน ข้าวของ สถานที่ ข่าวบ้านเมืองครับ”

“นิยายสยองขวัญผมว่า ผมเขียนมาเกือบทุกแนวแล้วครับ ในแต่ละแนวมันสามารถแตกแขนงไปได้อีกมากมายที่สามารถเขียนได้จนวันตาย”

เขียนนวนิยายสยองขวัญ เคยเจอเรื่อลี้ลับบ้างไหม?

“เป็นคำถามที่เจอบ่อยมาก ซึ่งจะตอบว่าไม่ค่อยเจอเลยครับ เพราะเป็นคนไม่ได้กลัวผีมากแต่ไม่ลบหลู่ และเชื่อว่านักเขียนนิยายสยองขวัญหลายๆ คนก็ไม่ใช่คนกลัวผีอะไร ไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่ได้มีซิกซ์เซนส์อะไรพิเศษ ทุกอย่างผมว่ามันอยู่ที่จินตนาการมากกว่า เหมือนอย่างคนเขียนนิยายรัก บางคนก็ยังไม่เคยมีความรักแต่ก็เขียนนิยายรักออกมาสนุกได้ ที่สำคัญคือเรื่องลี้ลับไม่น่าเจอหรอกครับ อย่าเจอดีแล้ว ฮ่าๆ”

Photo Credit: Stefano Pollio

ภาพยนตร์สยองขวัญที่ชื่นชอบ 

จริงๆ ภาพยนตร์สยองขวัญชอบมีเยอะมากจนบอกไม่หมด ขอยกตัวอย่างเท่าที่จำได้แล้วกันนะครับ 

1. เด็กหอ

เรื่องนี้จำได้ว่าตอนดูในโรงคืออินมากๆ มันเป็นหนังสยองขวัญที่แฝงความดรามาและเรื่องของเพื่อนกับมิตรภาพไว้ นักแสดงก็แสดงดี จึงเป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องครับ

Photo Credit: ticketmelon

2. 4แพร่ง/5แพร่ง

ของรวมสองเรื่องนี้ไว้ด้วยกัน ด้วยความที่ผมชอบเขียนเรื่องสั้นจึงชอบสองเรื่องนี้ที่เป็นเรื่องสั้นๆ แต่พอเอามาต่อกันแล้วกลายเป็นเรื่องยาวซึ่งผมเอามาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายหลายเรื่องอย่างซีรีส์ HOME 9 คืนจองเวร / 7 วันจองเมรุ ครับ

3. ลัดดาแลนด์

เรื่องนี้ดูด้วยความไม่คาดหวังอะไรเนื่องด้วยไม่เก็ตกับชื่อเรื่องแต่พอดูแล้วสนุกกว่าที่คิด ทั้งพล็อตเรื่องและบรรยากาศของเรื่องที่ทำเอาขนลุก เป็นเรื่องที่สอนให้รู้ว่าเวลาดูหนังอย่าตัดสินแค่ชื่อเรื่อง

4. เป็นชู้กับผี

ถ้าให้จัดอันดับหนังผีไทยที่น่ากลัว ผมยกให้เป็นชู้กับผีน่ากลัวติดอันดับต้นๆ ของหนังไทยที่ดูมาตลอดชีวิต เรื่องนี้ก็อีกเช่นกัน ไม่เก็ตกับชื่อเลย นึกว่าจะเป็นแบบหนังไทยสมัยก่อนที่จะมีขายเรื่องเพศ แต่เปล่าเรื่องนี้คือสุดยอดทั้งพล็อต โลเคชั่น ฉาก นักแสดง เรียกได้ว่าไม่รู้จะติตรงไหน ใครไม่เคยดูคือพลาดมากๆ

5. American Horror Story ภาค 1

อันที่จริงหนังฝรั่งผมดูเยอะมากแต่ไม่รู้จะเลือกเรื่องไหน ขอเลือกเรื่องนี้ สำหรับผมจัดได้ว่าเป็นหนังหลายๆ เรื่องมายำรวมกันจนเป็นซีรีส์เรื่องเดียว มีความวาไรตี้ ซับซ้อน การผูกเรื่องการโยงเรื่อง การหักมุมที่ระดับเทพ จนอยากจะเขียนเก่งให้ได้สักครึ่งของเรื่องนี้ คงต้องฝึกฝนและพัฒนาต่อไปครับ

5 ผลงงานนวนิยายสยองขวัญของตัวเองที่ประทับใจ

1. นางชฎา 

เป็นนิยายสยองขวัญเรื่องแรกของภาคินัยที่ทำให้ทุกคนรู้จักจนวันนี้ครับ ถ้าไม่มีนางชฎาไม่มีภาคินัย

2. เซ็ต 7 วันจองเวร

ขออนุญาตยกมาเป็นเซ็ตนะครับเพราะมันมาด้วยกัน เป็นซีรีส์ที่ขายดีที่สุดของภาคินัยรวมๆ กันแล้วน่าจะหลายแสนเล่มและก็ยังขายได้จนทุกวันนี้ ได้ทำเป็นซีรีส์ ได้แปลเป็นภาษาต่างประเทศ เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่ภูมิใจมากครับ

3. THE DOME เคหาสน์สาปสยอง

เป็นนิยายเรื่องแรกที่ใช้โลเคชั่นเป็นต่างประเทศคือเป็นปราสาทร้างกลางป่า ตอนเขียนพยายามนึกถึงหนังฝรั่ง อยากให้บรรยากาศเป็นแบบนั้น และผลตอบรับก็ออกมาดีมาก เป็นอีกเรื่องที่คนอ่านชอบมากๆ ครับ

4. นางคุก

จากที่เคยจัดอันดับเรื่องที่คนอ่านชอบมากที่สุดของภาคินัย นางคุกจะติดหนึ่งในสามทุกครั้ง เป็นเรื่องที่เขียนแนวดรามาลึกลับ ซ่อนปริศนาไว้ในนั้น เป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวเลยแต่การดำเนินเรื่องนั้นแปลกใหม่และตอนจบที่หักมุมแต่ประทับใจจนคนอ่านเสียน้ำตามานักต่อนัก เรื่องนี้ก็รอทำละครครับ อันที่จริงหมดสัญญาแล้วแต่ผู้จัดขอไว้ว่าจะต่อสัญญาอย่าขายให้ใครเพราะชอบมากยังไงก็จะทำให้ได้ครับ

5. PHUB ถวิล

เป็นเรื่องที่เขียนแล้วสะใจมาก เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับโลกออนไลน์ เราได้ใช้ประสบการณ์จริง เรื่องราวจากข่าวสารบ้านเมือง เรื่องเล่าของคนรอบข้าง เอามาเขียนเอามาลงกับตัวละครได้แบบที่ทำไม่ได้ในชีวิตจริง เรื่องนี้มีคนเรียกร้องมากให้เขียนภาคต่อซึ่งไม่แน่อาจมีภาคต่อเร็วๆ นี้ครับ

ผลงานการเขียนเรื่องล่าสุด

“สำหรับเรื่องล่าสุดที่เพิ่งออกไปคือเรื่อง THE FRIDGE ย้อนเวลาเป็น...ข้ามเวลาตาย เป็นผลงานแนวระทึกขวัญเรื่องล่าสุดครับ ที่ชอบเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่เล่นเกี่ยวกับการย้อนเวลา การข้ามเวลาซึ่งเขียนยากมาก ต้องวางไทม์ไลน์ของเรื่องให้ดีไม่อย่างนั้นจะเกิดการสับสนและผิดพลาดขึ้นได้ นอกจากเรื่องของเวลาแล้วยังมีเรื่อของการฆาตกรรมต่อเนื่อง แถมยังต้องใส่เรื่องความรักเข้าไปอีก เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ครบรสมากๆ ครับ อยากให้คนอ่านลองอ่านดูครับ เร็วๆ นี้จะมีเรื่องใหม่ออกอีก ฝากติดตามด้วยนะครับ”

ฝากถึงแฟนผลงานและผู้ที่ชื่นชอบผลงานเรา

“ผมขอขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ยังสนับสนุนและตามอ่าน คอยเป็นกำลังใจให้เสมอมานะครับ แม้ว่าปัจจุบันการอ่านของคนอ่านจะเปลี่ยนไป จากหนังสือเล่มเปลี่ยนเป็นการอ่านแบบออนไลน์ แต่คนอ่านที่เป็นแรงใจก็ยังคงไม่จากไปไหน ขอบคุณครับ”

“ผมจะพยายามทำผลงานทุกชิ้นให้ดีที่สุดเพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับตัวหนังสือ จินตนาการไปกับเรื่องราวในหนังสือต่อไปเรื่อยๆ ครับ”

หลังจากอ่านเรื่องราวของผู้สร้างสรรค์ผลงานเรื่องสยองขวัญนามว่า “ภาคินัย” เราได้เห็นถึงแพชชั่น ความทุ่มเทและความตั้งใจในบทบาทของนักเขียนเป็นอย่างมาก ความสำเร็จของภาคินัยเป็นสิ่งพิสูจน์ถึงความรักที่มีต่อการเขียนและเรื่องราวสยองขวัญ

ติดตามและอัพเดตผลงานของภาคินัยได้ที่ ภาคินัย กสิรักษ์