สนุกศิลป์ กลิ่นอายอีสาน กราฟฟิตี้สไตล์อุบลฯ โดย REDMUUK

"เชื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ" บางครั้งสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวอาจไม่มีความเชื่อและถูกมองข้ามไป เมื่อวันเวลาผ่านไปสิ่งนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเด็กอุบลคนหนึ่ง ที่ทำให้เขาซาบซึ้งว่า "วัฒนธรรมอีสาน" สามารถส่งต่อผ่าน "ศิลปะสตรีทอาร์ต" 

นี่คือเรื่องราวของ เอ็ม พีรพงษ์ สอนพงษ์ วัย 28 ปี ในนาม REDMUUK ศิลปินที่บอกเล่าเรื่องเหล่าวัฒนธรรมทางภาคอีสานที่สดใหม่ อ่อนช้อยและร่วมสมัย ด้วยงานศิลปะบนผนังของเขาผ่านปากกามาร์กเกอร์ พู่กัน และสีอะคริลิก  

นายจมูกแดงแสดงงานศิลป์

"REDMUUK แปลตามศัพท์เลยครับ MUUK คือ จมูก RED สีแดง หมายถึง จมูกแดง คือตอนเด็กๆ ตอนวัยมัธยม คนมองผมเหมือนตัวตลก ตัวตลกมีจมูกแดง ผมเลยหยิบยกตรงนี้มาเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว แต่ผมไม่ได้เอาตัวนี้มาเป็นคาแรกเตอร์หลัก เพราะงานผมออกมาอีกอย่าง ตัวนี้เหมือนเป็นโลโก้ประจำตัวครับ เหมือนนามปากกา พอคนเห็นก็จะนึกถึงผมทันที"

"ผมรู้ตัวว่าผมชอบศิลปะตั้งแต่อนุบาล มันจะมีแข่งวาดภาพระบายสี ตอนนั้นระบายสีก็ได้รางวัลของโรงเรียน พอขึ้นอนุบาล 2 ก็ได้รางวัลมาต่อเนื่อง จากตัวแทนโรงเรียนกลายเป็นตัวแทนจังหวัด ไปแข่งภูมิภาค เป็นตัวแทนภาคอีสาน พวกโครงการศิลปะหัตถกรรม ก็เลยชอบ" 

ลองผิดลองถูกงานสตรีทอาร์ต

"ผมเริ่มลงถนนตั้งแต่อายุ 23 ปี ตอนนั้นเพิ่งจบอาชีวะใหม่ๆ ผมชอบตรีทอาร์ต ผมชอบงานของฝรั่ง ชอบดูงานป๊อบอาร์ต แอนดี วอร์ฮอล ชอบดูงานของพี่ตั้ม (MAMAFAKA) สมัยช่วงศิลปินไทยเริ่มบุกเบิก และก็มีกราฟิตี้ฝรั่งที่เข้ามา ผมเห็นเขาทำ ผมก็เลยออกไปพ่น ตอนนั้นสนุกที่ได้ระบายสี ได้ออกจากบ้าน ได้เห็นเขาเล่นสเก็ต ได้เห็นลานแข่งสเก็ต ลานแข่งต่างๆ ผมใช้สเปรย์ทั่วไป งานตอนนั้นก็ธรรมดาๆ พ่นแล้วมันสนุก ออกไปเพนท์งานสลับกับพ่นบ้างที่ร้อยเอ็ด เขาเห็นก็จ้างไปทำงาน จนมีงานเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ"

"อีสานเป็นเมืองที่ขาดแคลนด้านกราฟฟิคดีไซน์เนอร์ ไม่มีใครจบด้านนี้ได้ทำงานจริงๆ เลย” 

“ผมจบแค่อาชีวะอุบลเอง แล้วผมไปฝึกงานที่ภูเก็ต ผมเห็นวัฒนธรรมฮิปฮอป เห็นกราฟิตี้ เห็นกราฟฟิคดีไซน์ที่ภูเก็ต ผมก็ไปเรียนต่อราชภัฎอุบล แต่ความคิดตัวเองมันไปทางศิลปะข้างถนน ผมเลยเลิกเรียนเลย เอาแค่วุฒิปวส. เท่านั้น เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่เลยคิดว่าหยุดดีกว่า แล้วออกมาทำงานศิลปะเป็นอาชีพ มันอยู่ได้ ผมไม่เคยทำงานประจำ ผมกลายเป็นทำงานศิลปะเป็นอาชีพ โดยไม่มีอาชีพอื่นรองรับเลยครับ"

“ศิลปินไส้แห้ง”

"ก่อนอายุ 25 ไส้แห้งเป็นปีเลยครับ เพราะไม่มีใครจ้าง วาดรูปอยู่ที่ห้อง นอนเก็บกด มันมีบางอย่างที่ทำให้ไม่อยากออกไปไหน ก็วาดรูปอยู่บ้านไม่อยากไปทำงานรับใช้ใคร กินอะไรก็ได้ ขอแค่ให้ได้วาดรูป แล้ววันหนึ่งเพื่อนมาบ้าน มาเจองานเรา เพื่อนก็ชมว่างานเราสวย แนะนำให้ไปทำแบรนด์ เลยเอาไปทำเสื้อผ้าขายถนนคนเดินก็ได้ จากนั้นก็เริ่มมีงานเข้ามาเรื่อยๆ ช่วงดิ่งๆ ประมาณ 2 ปี ที่อยู่ในห้องวาดรูปอย่างเดียว กินข้าวนอน เพื่อนจะเปิดร้านก็จ้างไปเพนท์ก็พอมีเงินหน่อย งานหนึ่งได้ 4-5 พัน ผมก็อยู่ได้หลายเดือน มีคนอื่นๆ มาเห็นงานที่ทำให้เพื่อนเขาก็ตามหาแล้วว่าจ้างงาน งานสตรีทอาร์ตก็เป็นโปรเจคจังหวัด เขาก็จะชวนศิลปินจังหวัดอุบลก็ชวนผมไป ไปชัยภูมิ ขอนแก่น ศรีษะเกษ ร้อยเอ็ด ผมก็ไป ก่อนหน้าไม่นานผมก็ไปกระบี่"

"หลายคนมาชี้ทางให้ผมไปรับจ้างทำโน่นนี่นั่น ผมว่ามันไม่สนุก มันมีโจทย์มาคุมผมก็ไม่อยากทำ เพราะมันไม่ใช่ตัวตนของเรา ก็ยืนหยัดและแลกด้วยความไส้แห้งมา 2 ปี ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมลำบากไหม เหมือนช่วงนั้นเป็นช่วงฝึกฝนความอดทน เพื่อหาลายเส้นของเรา ได้อยู่กับตัวเอง แล้วก็มีโลกออนไลน์ให้ศึกษาดูงานจากทั่วโลก ผมลองทำหมดทุกอย่างช่วงนั้น"

สตรีทอาร์ตต้องค้นหาตัวตน

"ช่วงอายุ 25 ก็มีงานมันเยอะขึ้นแล้ว แต่ยังไม่มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง หลายคนบอกว่างานเอ็มยังเหมือนคนนั้นเหมือนคนนี้ ทำไมทำสตรีทให้เหมือนฝรั่ง ทั้งๆ ที่ตัวเองอยู่อีสาน อาจารย์แนะนำให้หาตัวตนอีสานของเรา ผมเลยกลับมาดูงานรากเหง้าของอุบล งานต้นเทียนพรรษา ลายเส้นจะคม ๆ เหมือนเขี้ยวเล็บ ต้นเทียน เหมือนพญานาค ผมอยู่ติดริมโขง วัดเยอะ ผมเลยเห็นศิลปะไทย เห็นการแกะเทียน การแกะไม้ของช่างพื้นบ้าน ผมเลยหยิบจับบางส่วนของเขี้ยวเล็บของพญานาค ความอ่อนช้อยของลายกนก มาประกอบเป็นลายเส้นของเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา"

ผลงานเตะตาจนงานเข้ามาเรื่อยๆ

"ช่วงนี้ก็มีงานแผ่นเซิร์ฟบอร์ดเข้ามา เขาอยากให้ออกแบบลายให้ แล้วก็มีลายเสื้อวิ่ง ไปทำโลโก้ให้แบรนด์เขา แต่ก็ยังไม่ได้เป็นแบรนด์ใหญ่ๆ แต่ก็เริ่มมีมาเรื่อยๆ อย่างศิลปินแรปเปอร์มาให้ทำอาร์ทเวิร์คให้ ยังเป็นงานของกลุ่มใต้ดิน กลุ่มตลาดล่าง มีงานออกแบบเสื้อผ้าท้องถิ่น ร้านกาแฟท้องถิ่น ที่จังหวัดอุบล และเริ่มมีผู้ใหญ่เข้ามาถาม ผมได้จัดแสดงกับอาจารย์และศิลปินในจังหวัด ไปจนถึงงานโปรเจคของโรงแรมที่ลาวด้วย"

"ผมหยิบจับความเป็นอุบล ความเป็นท้องถิ่น มีความเป็นอีสาน มีความเป็นไทย ใช้ลายเส้นที่อ่อนช้อย แบบไทยประยุกต์ ไทยร่วมสมัย เป็นสตรีทอาร์ตร่วมสมัย"

ตื่นเต้นทุกครั้ง..แต่ก็ผ่านมาได้

"งานผนังเล็กๆ ยังไม่ค่อยเจออุปสรรคเท่าไหร่ แต่ตอนแรกๆ ก็เจอครับช่วงเริ่มๆ ก็กลัวไม่ตรงตามสเกลที่วางไว้ กลัวไม่สวย ลบแล้วลบอีก แต่ถ้าไปเจองานโปรเจคใหญ่ๆ พวกตึก 5 ชั้นก็คงตื่นเต้น ผมยังไม่เคยขึ้นรถเครนทำ ขึ้นแค่นั่งร้าน ผมเลยคิดว่า ต้องลงมือทำและแก้ปัญหาเองที่หน้างานเลย ตื่นเต้นแล้วพลาดเราก็ลบแล้วทำใหม่ เพราะสีที่ลงเราก็ลบได้ ผมจะเตรียมสีสำรองไว้ อย่างผนังนี้สีขาวผมก็จะเตรียมสีขาวไป พลาดก็ลบออกแล้วทาสีขาวลงไปเพื่อเริ่มใหม่ เพราะการทำงานก็ต้องมีการผิดพลาดบ้าง ไม่งั้นการทำงานก็จะไม่ได้เริ่มสักที"

"ประทับใจงานหอศิลป์ราชดำเนินครับ เพราะปกติทำแต่ข้างถนน พอไปทำที่หอศิลป์ก็ตื่นเต้น ที่หอศิลป์ราชดำเนินมีฝรั่งเยอะ มีคนเสพงานศิลปะเยอะ ผมตื่นเต้นกับโปรเจคนี้มากตอนที่ได้ออกไปทำ ได้เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง มันสนุก คอนเซปท์งานนี้คือนก ซึ่งแทนตัวเอง ที่โบยบินจากอุบลไปทำงานที่กรุงเทพ ที่เปรียบกับดอกบัวสัญลักษณ์ของอุบล ก่อนลงมือทำผมสเก็ตอยู่ 2-3 วัน ก่อนวันไป งานครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ความตื่นเต้นลดลง พอไปทำงานทีอื่นก็คล่องเลยครับ"

ว่าด้วยพื้นที่ของคนทำสตรีทอาร์ท

"ผมออกไปทำข้างถนน โดนเตือน โดนปรับมาแล้ว 2 รอบ รู้สึกเฟลนะ ว่าทำไมเขาไม่โอเคกับสิ่งที่เราทำ ผมว่าเขาคิดว่าอาจจะเปื้อนพื้นที่สาธารณะของเขา ด้วยอุบลยังไม่เปิดรับงานศิลปะมากเท่าไหร่ ตึกเก่าต้องคงความเป็นดั้งเดิมก่อนมีงานศิลปะมา ถ้าทำก็ต้องทำเรื่องขอพื้นที่เขาเพื่อการทำงาน ส่งแบบสเก็ตให้เขาดูว่าจะทำแบบนี้ ตอนนี้เลยไม่ได้ไปพ่นตามกำแพงทั่วไป ถ้าทำก็ต้องทำเรื่องขอ เพื่อไม่ให้เขามาว่าทีหลังหรือมีปัญหา"

"ปลายปีนี้ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปจัดงาน อุบลอาร์ตเฟส ที่อุบล เป็นงานจัดแสดงในโรงแรม เอางานเป็นชิ้น ๆ ไปจัดแสดงในห้องพักโรงแรม เป็นงานใหญ่ของอีสาน เขาคัด 20 ศิลปินในท้องถิ่น ผมอายุน้อยสุด ส่วนมากเขาจะเป็นไฟล์อาร์ตทั้งหมด แต่งานผมเป็นสตรีทอาร์ต เป็นกราฟิตี้ ทำงานกราฟฟิคดีไซน์แล้วได้เข้าไปจัด ด้วยอายุแค่ 20 กว่าปี คนอื่น 40 อัพหมดแล้ว พองานนี้ผ่านไปก็มีแบรนด์ต่างๆ เข้ามาติดต่อให้ออกแบบ พวกสุรา เบียร์คราฟ"

REDMUUK ในอนาคต

"ผมอยากมีงานจัดแสดงเดี่ยว ทั้งในจังหวัดของตัวเอง และในกรุงเทพฯ ฝันไว้ด้วยว่าอยากเอางานศิลปะของตัวเองไปจัดแสดงที่กรุงเทพฯ เป็นตัวแทนศิลปะแบบไทยๆ อีกอย่างคือ อยากทำแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเองที่เป็นลายเส้นตัวเอง ผ้าลายเส้นตัวเอง เอามาตัดเป็นแฟชั่นของผู้หญิง ผู้ชาย กระเป๋า เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า แผ่นเซิร์ฟ อยากทำร่วมกับแบรนด์ดังๆ ใหญ่ๆ อย่างเพนท์รถ อยากให้ลายเส้นตัวเองไปอยู่กับแบรนด์ที่ใหญ่ๆ"

ติดตามผลงานของเขาได้ที่อินสตราแกรม REDMUUK ได้เลย
ขอขอบคุณรูปจากคุณ REDMUUK ด้วยค่ะ