Identity

Sound of Youth X SMALLROOM: ข้อความจากใจศิลปินวัยรุ่นถึงวัยรุ่น ที่อยากเชียร์อัพให้ทุกคนมีไฟอีกครั้ง

ศิลปะ ดนตรี ภาพยนตร์ วัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้คือ เชื้อไฟ เป็นขุมพลังชั้นดี ที่จะคอยเติมไฟให้กับชีวิต ไม่ว่าคุณจะเกิดในเจนเนอเรชั่นใด เพศ อายุ หรือเชื้อชาติไหน ยิ่งไปกว่านั้นเขาลือกันว่าคนที่ชอบฟังเพลงในช่วงวัยรุ่นมักจะมีอายุยืนเพราะ การฟังเพลงช่วยให้เราเอนจอยชีวิต และจัดการอารมณ์ได้ดี

Sound of Youth ครั้งนี้เราขอเล่นใหญ่ อยากจะชวนทุกคนมาฟังเสียงของเหล่าศิลปินวัยรุ่นจาก SMALLROOM ตั้งแต่ ‘วาดฟ้า ไชยทัพ’ (Wadfah), ‘เบนซ์ - ภวัต โอภาสสิริโชติ’ และ ‘ลุค - ทาวน์เซน’ จาก Dept พร้อมด้วย ‘เฟิร์ส - นัฐวุฒิ จำจด’ ‘โบ๊ท - จีรวัฒน์ อินทรพิทักษ์’ ‘ลาภ - ศุภลาภ ฐิติทิพยะ’ และ ’โชค - ศุภโชค ฐิติทิพยะ’ จาก Television Off ที่ทาง EQ ชวนพวกเขามาพูดคุยเรื่องการหมดไฟในวัยรุ่น Gen Z, วิธีเติมไฟให้ชีวิต, การเอนจอยดนตรี, การสนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงศิลปะ และดนตรีได้อย่างทั่วถึงผ่านไอเดียของ ‘ตั๋ววัฒนธรรม’, ความยากของการเป็นศิลปินวัยรุ่น, ความฝันที่ไม่กล้าฝัน และข้อความพิเศษจากหัวใจวัยรุ่นถึงวัยรุ่น

คนรุ่นใหม่ถูกเรียกว่าเป็นเจนเนเรชั่นที่ Burn Out มากที่สุด คนที่ทำดนตรีเพื่อเติมไฟให้แฟนเพลงกันมาเยอะๆ แบบนี้ เคยมีช่วงเวลาหมดไฟบ้างหรือเปล่า แล้วใช้วิธีอะไรในการจุดไฟให้กลับมาอีกครั้ง

วาดฟ้า: ในฐานะวัยรุ่นไทยคนหนึ่ง เราก็รู้สึกหมดไฟบ่อยจนมันกลายเป็นความเคยชินนะ แต่เวลาหมดไฟเราก็มีวิธีจุดไฟให้ตัวเองอีกครั้งด้วยการดูหนัง ฟังเพลง ส่วนใหญ่สิ่งที่กระตุ้นให้มีไฟคือ การจินตนาการชีวิตที่ได้ทำตามฝัน โดยส่วนตัวเราคิดว่าการหมดไฟมันไม่ควรเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยจนต้องชินนะ เพราะทุกคนควรได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้เราได้ใช้ชีวิตที่เราชอบ มีไฟ เราคิดว่ามันเป็นเรื่องเศร้าที่วัยรุ่นไทยอาจจะต้องชินกับอาการหมดไฟ แต่ก็อยากบอกว่าถึงไฟมอดมันก็จุดใหม่ได้เสมอนะ 

เบนซ์: จริงๆ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกเชิงหมดไฟนะ มีคิดไอเดียอะไรไม่ออกบ้าง แต่มันก็มีแค่แปปเดียว พวกผมเป็นคนที่ไม่พยายามคิดลบมาก เพราะมันจะกดดันตัวเอง ถ้าหมดไฟก็ไปหาอะไรเติมไฟ 

ลาภ: ถ้าไม่มีไฟก็พักไปหาไฟ อย่างถ้าผมหมดไฟเล่นดนตรี บางทีผมก็ไปหาหนังเกี่ยวกับดนตรีมาดู ดูหนังเกี่ยวกับวง QUEEN เห็นแล้วอยากเล่นให้ได้แบบนั้นบ้าง มันก็ช่วยเติมไฟตัวเอง

“ถ้าหมดไฟ เดดไลน์จะช่วยได้ครับ ไม่ว่าเรื่องอะไรเดดไลน์จะช่วยให้มีไฟ พอกลับมามีไฟแล้วมันก็จะรู้สึกอยากทำทุกอย่าง” – เฟิร์ส Television Off 

วัยรุ่นหลายคนบอกว่าการฟังดนตรีเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยเติมไฟให้ชีวิต  แล้วในฐานะศิลปินวัยรุ่นดนตรีช่วยเติมเต็มอะไรในชีวิตบ้าง

วาดฟ้า: การเขียนเพลงสำหรับเรามันก็คือ การเรียนรู้ตัวเอง ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงรักการทำเพลงนะ แต่พอได้ทำไปเรื่อยๆ เราก็รักมัน พอทำเสร็จเพลงหนึ่งมันก็ทำให้เราอยากทำมันต่อไปเรื่อยๆ มันเป็นการเติมไฟที่อยากจะสร้างสรรค์

“การไปฟังเพลง ไปคอนเสิร์ต ไปดูศิลปะมันก็ช่วยเยียวยาชีวิตได้ มันทำให้เราอยากใช้ชีวิตของเราต่อ เราคิดว่าการเข้าถึงศิลปะเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาชีวิตตัวเอง” – วาดฟ้า

เบนซ์: การมีเพลงในชีวิตมันทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นนะ อย่างถ้านั่งรถไปโรงเรียนแล้วไม่มีเพลงฟังก็คงจะรู้สึกแปลกๆ  สำหรับเราเพลงเหมือนเพื่อนเรานะ เพลงมันเป็นอะไรก็ได้นะ มันเป็นได้หลายอย่างแล้วแต่คนเลย แต่ผมขาดมันไม่ได้ผมต้องฟังเพลงทุกวัน ส่วนเพลงกับวัยรุ่นอย่างอัลบั้มต่อไปเนี่ยพวกผมก็ตั้งใจจะมาทำเพลงที่มีพลังวัยรุ่น ทำเพลงแนวสนุกๆ มากขึ้น

“ชีวิตวัยรุ่นคือ ช่วงที่เรามีเรี่ยวแรง เรายังกระโดดได้อยู่ ก็อยากให้ทุกคนได้เอนจอยกับดนตรีที่สนุก เอนจอยกับช่วงวัยให้เต็มที่” – เบนซ์ Dept

เฟิร์ส: การไปเสพอะไรแบบนี้มันคือ การผ่อนคลายอย่างหนึ่งนะ ถ้าไม่มีตรงนี้ตอนวัยรุ่นผมก็ไม่รู้นะว่าชีวิตตัวเองตอนนี้จะเป็นยังไง

โชค: ผมเคยไปดูคอนเสิร์ตตอนวัยรุ่น คิดว่าวันหนึ่งอยากจะไปเล่นให้ได้แล้ววันหนึ่งมันก็มีโอกาสไปเล่นจริงๆ

คิดอย่างไรกับการที่รัฐบาลในยุโรปแจก 'ตั๋ววัฒนธรรม' เป็นเงินประมาณ 200 ยูโร ให้วัยรุ่นอายุ 18 ปี ใช้บริโภคทางด้านวัฒนธรรม อย่างการซื้อตั๋วคอนเสิร์ต ชมศิลปะ และการแสดงต่างๆ

วาดฟ้า: เราคิดว่าไอเดียตั๋ววัฒนธรรมมันดีมากๆ การไปดูคอนเสิร์ตมันคือ โอกาสให้เราได้รู้จักตัวเอง วัยรุ่นไทยส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร การได้ไปเอนจอยศิลปะ วัฒนธรรม ไปคอนเสิร์ตมันก็ช่วยเติมไฟ ได้เพื่อน และช่วยให้วัยรุ่นได้รู้จักตัวเองมากขึ้น  

เบนซ์: คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะมีเงินมากพอไปดูคอนเสิร์ต อย่างพวกผมชอบไปเล่นคอนเสิร์ตฟรี คอนเสิร์ตฟรีมันมีพลังที่ต่างกันคือ พวกเขามีพลังที่มาเอนจอย เขาตั้งใจมากๆ ว่าจะมาเพื่อฟังเพลงมันก็ให้ความรู้สึกสดใหม่อีกแบบ

ลุค: ถ้ามันเป็นไปได้ มันก็ดีนะ ผมว่าดีครับ

โบ๊ท: วัยรุ่นเดี๋ยวนี้อยากดูคอนเสิร์ตกันเยอะมาก แต่ราคาบัตรคอนฯ ในไทยก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ  บัตรคอนเสิร์ตบางงานก็พันกว่าบาท ซึ่งถือว่าแพงสำหรับวัยรุ่น และคนจบใหม่ แล้วยิ่งบางเดือนมีคอนเสิร์ตสามสี่งานมันก็ต้องเก็บเงินเยอะ สำหรับผมนะ ผมอยากให้คนเข้าถึงคอนเสิร์ตง่ายขึ้น มีคอนเสิร์ตฟรีบ้างก็ดี ถ้าผู้จัดหาสปอนไหว เพราะผมก็เข้าใจผู้จัดที่ต้องหาเงินนะ แล้วการมีคอนเสิร์ตฟรีมันก็ช่วยให้วงเล็ก และวงใหญ่ได้เติบโต

เฟิร์ส: ผมคิดว่ามันต้องเก็บเงินขนาดหนึ่งเลยนะ เพื่อจะมาเอนจอยคอนเสิร์ต ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากให้คอนเสิร์ตในประเทศมันฟรีหมดนะ ในกรณีผู้จัดเขาหาสปอนเซอร์ได้

ความยากของการเป็นศิลปินในประเทศไทย 

วาดฟ้า: ตอนแรกเราก็คิดว่าการเป็นศิลปินมันง่าย แต่พอมาทำจริงมันไม่ง่ายเลย อย่างการจะทำอาชีพในฝันเราก็ต้องหางานเสริมมาซัพพอร์ตด้วย อย่างเราก็ต้องรับวาดรูป ตัดวิดิโอเพื่อจะช่วยซัพพอร์ตตัวเอง ซึ่งเรารู้สึกว่าความฝันไม่ควรเชื่อมโยงกับเงินมากขนาดนั้น แต่ในโลกทุนนิยมความฝันเชื่อมกับเงินตลอดเวลา ถึงแม้ว่า การรับจ็อบของเรามันจะมีความสุขนะ แต่มันก็ต้องคิดถึงเรื่องเงินตลอดด้วย

“ถึงมันทำให้เราไม่ได้เอนจอยความฝันเท่าที่ควร มันเหนื่อย มันซัฟเฟอร์ แต่ก็เราก็อยากทำอาชีพศิลปินต่อเพราะ มันคือการได้ทำสิ่งที่เรารัก” – วาดฟ้า

เบนซ์: พวกผมไม่เคยคิดจะเลิกทำดนตรีนะ มีแต่เคยคิดว่าเมื่อไหร่จะดัง (หัวเราะ) ส่วนเรื่องทำจ็อบเสริมไหม พวกเรามีจ็อบเสริมนะ แต่มันก็จ็อบเกี่ยวกับดนตรี สำหรับผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ต้องทำหลายงานเพื่อทำตามฝันทางดนตรีนะ ในต่างประเทศมันก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องทำงานหลายอย่างเพื่อซัพพอร์ตการทำตามฝัน

โบ๊ท: สำหรับผมเคยเจอผู้ใหญ่รุ่นคุณตาคุณยายที่เขาก็จะมีคำถามนะว่า เรียนจบมาทำไมไม่ไปทำงาน อย่างผมเรียนวิศวะมาก็จะโดนถามว่าทำไมถึงไปทำดนตรี 

“ทุกวันนี้ผมพิสูจน์ว่าทำดนตรีมันอยู่ได้ ผมออกมาอยู่ด้วยตัวเองได้ มันก็โอเค” – โบ๊ท Television Off

มีความฝันบนเส้นทางนักดนตรีในตอนนี้ที่ไม่กล้าฝันบ้างไหม

วาดฟ้า: อยากไปเล่นดนตรีที่ต่างประเทศ อยากไปเล่นเทศกาลดนตรีต่างประเทศ 

เบนซ์: อยากทำเพลงภาษาอังกฤษ แต่ที่ว่ายังไม่กล้าฝันเพราะ การทำเพลงภาษาอังกฤษมันก็คือ เพลงที่มีคู่แข่งมากขึ้น มันมีเรื่องภาษาที่ต้องใช้เวลาด้วย 

เฟิร์ส: ความฝันที่ไม่กล้าฝันคือ การไปเล่นที่ต่างประเทศ ดนตรีมันคอนเนกคนได้ ถึงภาษาไทยจะไม่ใช่ภาษาอินเตอร์ พวกเราตั้งเป้าหมายแบบค่อยๆ ไป

ขอหนึ่งเพลงที่อยากฝากเข้าไปใน Playlist ให้เป็นเพลงประกอบของชีวิตวัยรุ่นทุกวันนี้ 

วาดฟ้า: ขอส่ง 2 เพลงนะคะ อยากมอบ i hate this city’ ให้ทุกคนที่เหงาในประเทศนี้ว่า คุณไม่ได้เหงาคนเดียวนะ อีกเพลงก็คือif i dieเพลงแรกของเราซึ่งมันคือ พลังวัยเด็ก วัยรุ่นที่ไม่ต้องแคร์มากหรอก ใช้ชีวิตให้เต็มที่

เบนซ์: ขอส่ง 17 | Hoo Hoo มันสมวัยดี

เฟิร์ส: ส่ง Be My Youth ให้ทุกคนดื่มด่ำช่วงวัยรุ่น อย่าคิดไปว่า อยากกลับไปแก้ไขอะไรในช่วงวัยรุ่นเพราะ ทุกอย่างที่ผ่านมามันทำให้เราเป็นเราในวันนี้

มีอะไรอยากฝากถึงเหล่าวัยรุ่นบ้างไหม แบบวัยรุ่นถึงวัยรุ่น 

วาดฟ้า: เราอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสค้นหาตัวเอง อยากให้ทุกคนได้มีพื้นที่ออกมาพูด มีอิสระในการแสดงออก เป็นตัวเอง อยากให้วัยรุ่นได้ออกมาส่งเสียง เพื่อให้เราได้อยู่ในประเทศที่เราอยากอยู่

เบนซ์: อยากให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองเพราะการเป็นตัวเองนี่แหละดีที่สุดแต่ถ้าถามแล้วจะเป็นตัวเองยังไงมันก็จะต้องเริ่มจากเปิดใจรับฟังให้มากขึ้น ฟังทั้งคำแนะนำคนรอบตัว ฟังสื่อ ฟังเพื่อน ฟังผู้ใหญ่ ฟังตัวเอง ผมเชื่อนะว่าวัยรุ่นทุกวันนี้เขามีวุฒิภาวะกันเร็วมากๆ ผมเลยอยากฝากเรื่องการฟังให้หลายด้านแล้วค่อยมาวิเคราะห์ แยกแยะว่าอันไหนมันดี อันไหนมันเหมาะกับเราแล้วค่อยตัดสินใจด้วยตัวเอง

“3 คำ หา ตัว เอง” – ลุค Dept

เฟิร์ส: ฝันสามารถอยู่กับเราไปได้ตลอด เราฝันใหม่ๆ ได้เสมอ สิบปีเรากับสิบปีตอนนี้มันก็ไม่เหมือนกัน ถ้ามีสิ่งที่เราชอบมัน ทำได้ดี เราจะหาทางไปต่อได้

ลาภ: ตอนที่มีไฟกำลังลุก อยากทำอะไรรีบทำ ไม่ต้องกลัวทำไม่เป็น มั่วไปก่อน ลงมือทำเลย

โชค: ตอนนี้ชอบอะไรก็ทำไปเลย ถ้าถึงวันไหนเลิกทำก็ค่อยไว้ว่ากัน

“สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ขอฝากไว้ให้คิด เป็นวัยรุ่นอยากทำอะไรก็ทำ ใครจะบอกว่าได้ ไม่ได้ ลุยอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะสำเร็จ ไม่สำเร็จก็ได้ แต่แค่ได้ทำมันก็สำเร็จแล้ว” – โบ๊ท Television Off

ตามไปฟังเพลงของพวกเขาได้ที่ YouTube: SMALLROOM และ Music Streaming ทุกช่องทาง