“Y U T T E Z” พลิกบทบาทจากวงการเพลงสู่อาร์ตติสวาดภาพสะท้อนสังคม

ทีปต์ ฟรานซิส มือเบสจากวงเดอะจั๊กส์ (The Jukks) นอกจากเล่นดนตรี หรือมีผลงานเพลงให้เราได้เห็นผ่านตาอยู่แล้ว เขายังถูกพูดถึงในฐานะศิลปินวงการภาพอีกด้วย เพราะเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผลงานจากเพจ “Y U T T E Z” ได้ว่อนอยู่บนโซเชียลอยู่หลายครั้งจนนับไม่ถ้วน ซึ่งเดิมทีเพจนี้ถือเป็นแฟนเพจส่วนตัวที่เปิดโอกาสให้แฟนคลับเข้ามาพูดคุย หรือเสพไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเขา แต่ ณ ตอนนี้เขาเลือกใช้งานภาพที่มีมือเป็นสัญญะช่วยสะท้อนปัญหาสังคม และกระจายสารทั้งหมดที่มีอยู่นั้นไปถึงทุกคนแทน

“Y U T T E Z มาจาก…จอมยุทธ์เต๊ด เป็นชื่อที่รุ่นพี่ชอบเรียกตอนเรียนมหาวิทยาลัยครับ เคยถามว่าเหมือนกันว่า มาจากใคร หมายความว่าไง ก็ไม่ได้อะไรนอกจาก เวลาพูดออกมามันสนุกปากดี” (หัวเราะ)

ศิลปินในวงการเพลง VS ศิลปินในวงการภาพ

“วงการเพลง ผมยืมจมูกเพื่อนหายใจพอตัวครับ มันเหมือนเป็นการทำงานกลุ่มกับเพื่อน ช่วยๆ กัน ประมาณว่านายไม่ทำงานเลยแต่ก็ยังมารับคะแนนด้วยกันได้ พอผันตัวมาเป็นศิลปินในวงการภาพ ผมต้องวิ่งเดี่ยวเลย ต้องคำนวณว่าไหวแค่ไหน ความถี่ ทิศทาง กระบวนท่า ปวดหัวกว่านิดหนึ่ง“

ทีปต์เล่าว่าเพจ Y U T T E Z ถูกสร้างมา 10 ปีแล้วนับตั้งแต่วงเดอะจั๊กส์เริ่มมีชื่อเสียง ทำให้คนเริ่มมาติดตามผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวบ้าง เขาจึงมองว่าการที่ได้ลองเปิดแฟนเพจเพื่อได้คุยและแลกเปลี่ยนกับแฟนคลับเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อไม่นานมานี้ทีปต์อยากที่จะปรับวิธีการสื่อสารของเพจให้เป็นรูปแบบใหม่แทน เพราะเขาอยากที่จะขับเคลื่อนสังคมและสะท้อนเหตุการณ์บ้านเมืองเพื่อสื่อสารกับเหล่าแฟนคลับหรือกลุ่มคน รวมไปถึงการที่ตัวเขาเองก็อยากที่จะผลิตชิ้นงานที่สร้างสรรค์ออกมา

“ผมอยากลองใช้ชีวิตแบบขยันดูบ้าง โดยทำอะไรซ้ำๆเรื่องเดิมๆ เพราะผมคิดว่าคงมีแรงขยันต่อไม่นานหรอก อาจจะ 5-10 ปีต่อจากนี้ ผมอยากสร้างอะไรที่มันเข้มข้น แล้วเริ่มทดลองให้คนมาชิมดู”

MADE BY THAILAND

มือเป็นส่วนประกอบสำคัญในงานภาพของทีปต์ และถูกแต่งเติมด้วยการใส่เรื่องเพศเข้าไป เพื่อให้รูปมีความน่าสนใจและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

“ผมแทนค่า ‘มือ’ เป็นผู้สร้างครับ ตั้งแต่สิ่งเล็กใหญ่ยังไงก็สร้างมาจากมือ มันสามารถสร้างอะไรไปได้เรื่อยๆ และมันคงไม่ใช่มือเดียวหรอกครับที่สร้างขึ้นมาได้ อาจจะต้องใช้อีกหลายมือก็ได้กว่าจะสร้างสิ่งหนึ่งขึ้นมานอกจากนั้น สำหรับผมเองการทำลายก็ถือว่าเป็นการสร้างอีกรูปแบบเหมือนกัน อย่างเช่นสร้างความพังพินาศ”

“ผมไม่ได้อธิบายอะไรในงานหรอก นอกจากชื่อภาพ เพราะผมเล่าเรื่องทุกอย่างเข้าไปหมดแล้ว ผมแค่อยากเว้นช่อง ให้คนได้ตีความและจินตนาการได้ด้วย”

Made by Thaihand จึงเป็นผลงานที่ถูกสร้างด้วยมือของทีปต์ และมี Main Concept เป็นมือ ทุกอย่างในเพจจึงถูกสร้างและสื่อสารผ่านมือนั่นเอง ทีปต์เล่าว่าโดยรวมของภาพอาจจะไม่ได้หมายถึงมือคนใดคนหนึ่งเสมอไป แต่สามารถอนุมานไปถึงภาพรวมที่เป็นมือของคนไทยได้เลยที่สามารถเป็นการก่อร่างสร้างบางสิ่งขึ้นมา และในคราเดียวกันก็สามารถเป็นมือที่ก่อร่างสร้างความพังได้เช่นกัน 

ผลงานที่ทีปต์ชอบมากที่สุด คือ “III Man Down” เนื่องจากเป็นภาพแรกที่ปล่อยงานออกมาในฐานะศิลปินเดี่ยวเลย อีกทั้งยังมีเรื่องราวหลายอย่างที่อยู่ในความคิด กว่าจะถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานภาพชิ้นนี้ได้ออกมาจึงเป็นสิ่งที่ประทับใจที่สุด นอกจากนั้นเองทีปต์ยังรู้สึกว่า “จุดเริ่มต้นมักหอมหวานเสมอ” การที่เขาได้เริ่มต้นลองทำอะไรบางอย่างขึ้นมาก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีเสมอมา 

“Moan Some More” – เป็นภาพที่ถูกพบเห็นได้บ่อยที่สุดในช่วงที่กระแสบ้านเมืองร้อนแรง นับว่าเป็นภาพที่สร้างความฮือฮาให้กับคนเป็นอย่างมาก อาจจะเพราะการมีลูกเล่นของเรื่องเพศที่โดดเด่นชัดเจน และเสียดสีแง่มุมของประเทศได้อย่างเจ็บแสบ จึงทำให้มันสามารถเข้าไปครองใจคนได้ดี 

“จริงๆ ภาพที่ผมวาดมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นและทุกคนก็รู้อยู่แล้ว แต่เขาอาจจะไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ เลยใช้ภาพผมเข้าไปพูดแทน คนก็เลยแชร์”

มากกว่าขับเคลื่อนสังคมคือ การขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ

ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่ดูไม่เป็นใจไปเสียหมด บ้านเมืองดูสิ้นหวังและคนต่างก็ได้รับผลกระทบกับสิ่งที่รัฐบาลก่อร่างสร้างความพังนี้ขึ้น มีคนอีกมากมายที่กำลังจะตายไปพร้อมกับระบบห่วยแตกเหล่านี้ ไม่ว่าจะตายทั้งตัว หรือตายทั้งจิตวิญญาณ

“ผมไม่ได้อยากแค่กูดังเว้ย กูขายงานได้ แล้วจบ ผมเองก็เป็นคนที่ทำงานด้านศิลปะคนหนึ่ง เติบโตมากับงานศิลปะด้วยซ้ำ พวกเรามักจะโดนมองว่าเป็นตัวประหลาดอยู่เสมอ จริงๆ พวกเราแค่ใช้ความคิดหรือจินตนาการอีกรูปแบบหนึ่ง ผมว่ามันก็ดีนะที่ผมจะได้ขับเคลื่อนเรื่องราวสังคมผ่านศิลปะ 

“มีหลายๆ คนที่เรียนศิลปะ ชอบงานศิลปะ ทำงานศิลปะ แต่เขาหมดแพชชั่น ไปนานแล้วครับ เพราะว่าสิ่งรอบข้างเขาในตอนนี้มันค่อนข้างแย่ รวมถึงไม่ได้มีใครมาสนับสนุนศิลปะในประเทศเท่าที่ควรด้วย แต่พอเขามาเจองานผมเขาก็รู้สึกดีที่ได้มาดูงาน มันเหมือนว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ก็มันได้ขับเคลื่อนคนอื่นไปด้วย ผมว่ามันดีมากเลยที่ผมได้ขับเคลื่อนให้เขากลับมาทำงานศิลปะอีกครั้ง”

ทีปต์เล่าว่าการได้ขับเคลื่อนสังคมหรือใส่ลูกเล่นแทนสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศของเราให้คนวงกว้างได้รับรู้ หรือแม้แต่การตีแผ่แง่มุมที่มาจากความคิดของเขาให้คนได้นำไปตีความต่อถือเป็นสิ่งที่เขาตั้งใจให้เกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่นอกเหนือไปจากความคาดหมายคือเขาสามารถเป็นคนที่ขับเคลื่อนแรงบันดาลใจให้คนที่รักในงานศิลปะเริ่มกับมาต่อสู้ และไปต่อได้อีกครั้ง

Y U T T E Z  x  Democracy

“มันขึ้นอยู่ว่าเป็นประชาธิปไตยแบบไหน ประชาธิปไตยที่คนทั่วไปเข้าใจ เขาคิดว่าแค่ว่าเลือกตั้งคือประชาธิปไตย ไม่เคยรับรู้ประเทศคอมมิวนิสต์ก็มีเลือกตั้งเช่นกัน แล้วยิ่งถ้าเป็นเผด็จการ โดยบอกว่านี่เราให้สิทธิเสรีภาพกับพวกคุณแล้ว ให้ได้แค่นี้นะ นี่แหละเรียกประชาธิปไตย อย่าเอาผมไปเกี่ยวข้องอะไรเลย สกปรกครับ ผมไม่รู้ว่าบ้านเมืองไม่เป็นแบบนี้ แล้วจะเป็นแบบไหนเหมือนกัน เมื่อตั้งแต่เกิดมาผมรับรู้เรื่องราวแบบเดิมๆมาโดยตลอด ในชิ้นงานมีการหยิบยกองค์ประกอบปัจจุบันมาช่วยขยายความบ้าง แต่แก่นแท้แล้วผมไม่ได้เล่าเรื่องที่มันเพิ่งเกิดขึ้นอย่างเดียวหรอกครับ”

ขอ 3 คำให้กับการเมืองไทยในตอนนี้ 

“ผม ชอบ หี” 

ติดตามและอัพเดทรูปภาพสะท้อนสังคมได้ที่ Y U T T E Z