SwapShop แคมเปญเอาเสื้อผ้าบุพการีมาใส่สุดโก้เก๋

มาทำความรู้จักและส่องลุคเด็ดๆ จากแคมเปญ #momclosetfashionweek #กรุณาดังด้วยตัวเอง จาก Swapshop คอมมูนิตี้ที่เกิดจากการรวมตัวของนักศึกษาหลายๆ มหาวิทยาลัยที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่ออยากให้คนเห็นคุณค่าเสื้อผ้าที่มีอยู่มากขึ้น ลองหยิบจับเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าที่บ้านของบุพการีมาใส่ให้มัน เก๋ เท่ ชิค คูล พร้อมกับเปิดร้านแลก/ขายเสื้อผ้ามือสอง แถมยังมีจัดปาร์ตี้ออนไลน์อีก นี่คือคอมมูนิตี้ที่อยากให้สังคมเห็นว่า เสื้อผ้าที่เรามีอยู่มันมีคุณค่าและเราสามารถสนุกกับมันได้อีก

ครีเอทีฟของ SwapShop เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ SwapShop ว่าจริงๆ แล้วมันจะเป็นเพียงร้านขายเสื้อผ้ามือสอง แต่พวกเขาก็คิดว่าแค่ขายเสื้อผ้ามือสองมันธรรมดาไปเลยอยากเพิ่มลูกเล่นพัฒนาให้มันเป็นทั้งร้านขาย/แลกเสื้อผ้า ที่มีแคมเปญขับสร้างสรรค์สังคม เป็นคอมมูนิตี้และก็มีปาร์ตี้ด้วย ส่วนไอเดีย #momclosetfashionweek มันเริ่มหลังจากตื่นนอนขึ้นมาในวันแม่ 

“แคมเปญ #momclosetfashionweek มันเริ่มจากเราที่เป็นครีเอทีฟของทีมตื่นมาหลังวันแม่แล้วนึกได้ว่า ใส่เสื้อผ้าพ่ออยู่ค่ะเลยโทรหาเพื่อนทีมอาร์ตได (ตั้งชื่อตำแหน่งไปงั้นแหละค่ะ อยากดูเก๋ๆ) ว่าอยากทำแคมเปญชวนคนมาใส่เสื้อผ้าพ่อแม่ แล้วตอนนั้นเขาก็แยกย้ายไปถ่ายวิดิโอเปิดตู้เสื้อผ้าแม่ คิดแฮชแท็กแคมเปญ ตัดต่อ ทำบัตรเชิญ แล้วก็ลงแคมเปญวันนั้นเลยค่ะ สองสามวันแรกก็ตกใจมาก พลังวัยรุ่นมันสุดยอดมาก ทำดีมาก ขนลุกก็มี บางทีนั่งกรี๊ดกันเพราะชอบมาก พวกเราเอนจอยกับทุกคลิปมากๆ ตอนนี้มี 200+ คลิป ดีใจที่ทุกคนสนุกกับมัน”

นี่คือตัวอย่าง 5 ลุคจากแคมเปญ #momclosettfashionweek ที่แสดงให้เห็นว่า OMG! เสื้อผ้าบุฟการีมาสามารถเอามาแต่งให้ครีเอทีฟ สนุก หลากหลายและเก๋สุดๆ ได้

#กรุณาดังด้วยตัวเอง คือแนวคิดให้ทุกคนเชิญตัวเอง ทำบัตรเชิญตัวเองร่วมแคมเปญและปาร์ตี้กับ SwapShop ซึ่งเป็นแนวคิดเปิดกว้างที่เก๋มากๆ  พวกเขาเล่าว่าที่มาของไอเดียนี้มันเรียบง่ายมากๆ มันเริ่มมาจากเพราะเห็นเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วคนดังๆ มีบัตรเชิญ อยากมีบ้างก็เลยทำแบบนี้บ้างให้ทุกคนเชิญตัวเองได้ 

"แนวคิดเชิญตัวเองเนี่ย คือมันก็มาจากเวลาไปเที่ยวกับเพื่อน เห็นคนดังๆ เขามีบัตรเชิญก็อยากมีบ้าง ส่วนตัวอยากเป็นดารา อยากดังค่ะ เราก็คิดว่าไหนๆ เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์สังคม อยากให้ทุกคนเข้าถึงได้เนาะ ไม่อยากกีดกัน ไม่อยากให้ใครรู้สึกว่าเป็นคนนอก ยืนงงๆ เหงาๆ ก็เลยเพิ่มตรงนี้เข้าไปว่า #กรุณาดังด้วยตัวเอง คู่กับ #momclosettfashionweek ส่วนการเชิญบัตร ใครจะเชิญก็เชิญเองได้เลย ลดงาน ลดขยะ เพราะทำแบบดิจิตัล อยากขอบคุณทุกคนที่ทำบัตรเชิญตัวเอง เชิญเพื่อนมาเล่นมากๆ  ไม่งั้นพวกเราคงเหงาแน่ๆ ค่ะ"

#ใส่เสื้อซ้ำเซฟโลก นี่คือประเด็นที่จำเป็นต้องถูกพูดถึงบ่อยๆ ในสังคมเพราะมันมีผลกระทบต่อทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและการเมือง ถ้าการเมืองดี โอกาสที่แฟชั่นจะเติบโตได้ดีก็มีมากขึ้นและยังมีโอกาสที่จะมีเสื้อผ้าแฟชั่นที่เซฟสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้นด้วย พวกเธอเล่าว่ามันมีหลายประเด็นที่อยากให้ตระหนักรู้เกี่ยวกับแฟชั่นแต่เรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดคือ การใส่เสื้อผ้าไม่ซ้ำมันมีผลร้ายต่อสังคมและการใส่เสื้อผ้าซ้ำ เห็นคุณค่าของเสื้อผ้าที่มี มันคือการแชร์เสื้อผ้าที่ลดการบริโภคเสื้อผ้าแบบ Fast Fashion ได้  

“สังคม การเมือง และแฟชั่น มันมีปัญหาเกี่ยวเนื่องกันหมดเลยนะ การไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำมันมีผลที่ทำให้เกิดการซื้อเยอะ ทำให้ต้นทางอุตสาหกรรมผู้ผลิต ก็ต้องตามใจผู้บริโภค ชอบนักใช่ไหม เยอะๆ เร็วๆ คุณภาพไม่ต้อง เพราะใส่ครั้งสองครั้งก็เลิก คนซื้อเยอะ ได้กำไร ก็กลายเป็น Fast Fashion ที่ส่งผลหลายส่วน ทำให้ทรัพยากรต้องเสียไปเยอะ ฝั่งคนคนงานก็ถูกเอารัดเอาเปรียบ กดค่าแรงลงไปอีกด้วย มันเกี่ยวโยงกันหมด”

“มันมีหลายอย่างที่อยากให้คนตระหนักเกี่ยวกับแฟชั่นนะ แต่อยากเอาเรื่องง่ายและใกล้ตัวก่อน คือ การเห็นค่าของเสื้อผ้าที่มีอยู่ก่อนอันดับแรก ก่อนจะซื้อ จะเปลี่ยน จะทิ้ง เขาต้องมีสติ กลับมานึกเรื่องราวของสิ่งที่มีอยู่ เราก็แอบหวังว่า โปรเจคนี้จะเป็นก้าวแรกๆ ของใครหลายคนให้รู้ว่า การใส่เสื้อผ้าบุพการีก็ดีได้เหมือนกัน”

หลังจากทำแคมเปญจบลงแล้วทาง SwapShop ก็จัดปาร์ตี้ซูมออนไลน์ขึ้นมาเพื่อขอบคุณผู้เข้าร่วมแคมเปญ เปิดกว้างเชิญทุกคนมาเข้าร่วมเฉลิมฉลองพลังของวัยรุ่นและการใส่เสื้อผ้าซ้ำต่อด้วย 

“ปาร์ตี้พวกเราจัดเพื่อขอบคุณคนที่มาเข้าร่วมเล่นแคมเปญกับเรา เราอยากให้รู้ว่าถึงประเทศจะส้นต้นขนาดนี้ พวกเขาก็สุดเก๋ เท่ ปัง แค่ไหน พวกเขาควรมีความสุขกับชีวิตวัยรุ่นมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ไม่ใช่ต้องมานั่งหงอยกันอยู่บ้าน เลยคิดว่าเล่นไรได้ก็เล่นไปเถอะ แป้กก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย”

SwapShop มีจุดเริ่มต้นที่สวยงามและหลายๆ คนก็จับตามองกันว่าหลังจากนี้จะเติบโตไปอย่างไรบ้าง Swapshop จะทำอะไรกันต่อ พวกเธอตอบคำถามนี้ทิ้งท้ายว่า

“เราอยากสร้างให้มันเป็นเหมือนเพื่อนสนิทขี้เล่น ขี้แซวที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่คนมาแลกเปลี่ยนเสื้อผ้า เราอยากให้มีความรู้สึกเหมือนได้แลกเสื้อผ้ากับเพื่อน มีคนคอยแนะนำ สนับสนุนเรา ให้เราเป็นเราแล้วเราโอเคกับมันที่สุด สบายใจที่จะอยู่ด้วยที่สุด อยากให้คนมาสนุกกับแคมเปญพวกเรากันต่อๆ ไป ซึ่งเราไม่รู้ว่าสุดท้ายเราจะบรรลุเป้าหมายตรงนี้ไหม คงต้องให้คนมองมาแล้วตอบเอง แต่ปลายทางของพวกเราคือ อยากมีคาแรกเตอร์ที่รวยอ่ะคะ พอเรารวย เราจะจ้างคนที่แอบชอบมาโปรโมท ปักไว้แล้วว่าใครบ้าง อยากเติมเต็มความฝันของคนตัวเล็กๆ ฝากทุกคนที่อ่านเป็นกำลังใจพวกเราด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

ติดตามและอัพเดทแคมเปญทั้งหมดได้ที่ SwapShop