“CannaThai420” NFT กัญชาที่สายเขียวห้ามพลาด

ถ้าถามว่าช่วงนี้มีเรื่องไหนที่กำลังเป็นกระแส ถูกพูดถึง และถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง คงจะหนีไม่พ้น ‘กัญชา’ และอีกเรื่องที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันแม้ว่าจะมีแผ่วๆ ไปบ้างแต่ก็ยังเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกอนาคต ‘NFT’ ก็ยังอยู่ในความนิยม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทั้งสองเทรนด์นี้รวมเข้าไว้ด้วยกัน พบกับ ‘CannaThai420’ ผู้ได้ทำ NFT กัญชาเอาไว้แล้ว แถมยังขายดีเสียจน sold out ไปตั้งแต่คอลเลคชั่นแรกเลยทีเดียว

เห็นอย่างนี้แล้ว EQ ก็ต้องเข้าไปคุยกับผู้ดูแลโปรเจกต์ ‘ไอซ์ – กรกช เรียนเมฆ’ Community Manager ของ CannaThai420 เพราะการซื้อ NFT แต่ละคอลเลคชั่นจากโปรเจกต์นี้ ไม่ใช่แค่เพียงการถือครอบครองรูปวาด แต่ยังเป็นการเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ และวงสังคมคนกัญชากับ NFT อีกด้วย

รูปโครงของ ‘CannaThai420’ 

“เจ้าของโปรเจกต์นี้มีความหลากหลายครับ ทั้งสาย NFT สายบริษัทกัญชา เจ้าหลักเป็นบริษัทอสังหาฯ บริษัทแม่เป็นบริษัทที่ชื่อว่า ‘บูทีค’ (Boutique Corporation Public Company Limited) เมื่อ 2-3 ปีก่อน เขาได้ลงทุนแยกออกมาเป็นบริษัทในเครือที่นำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชาคุณภาพดีจาก Netherlands เอามาปลูกร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดน่าน และอีกไม่นานเรากำลังจะมีคลินิกกัญชาแบบแพทย์แผนไทยสไตล์โมเดิร์น ที่จะเปิดภายในปลายเดือนนี้ เดือนหน้า ซึ่งทางบริษัทกัญชาก็ทำโปรเจกต์ NFT ขึ้นมา ถ้าพูดถึงโครงสร้าง บูทีคจะเป็นบริษัทแม่ แยกออกมาเป็น ‘บีสโปค’ (Bespoke Life Science Limited) ซึ่งเป็นผู้เปิดตัวโปรเจกต์ NFT กัญชา ‘CannaThai420’ และ อีกส่วนคือคลินิกสุขภาพที่ชื่อ ‘คณา’ (Kana) ครับ สาขาแรกจะเปิดให้บริการที่อาคาร Summer Point ซึ่งอยู่ห่างจาก BTS สถานีพระโขนงไม่เกิน 100 เมตร ถ้าเปิดพร้อมให้บริการทั้งหมดเลย ไอซ์คิดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนหน้าครับ แต่จะมี soft launch ปลายเดือนนี้”

ทำไมถึงเจาะกลุ่มตลาด NFT โดยการใช้กัญชา?

“คงต้องเกริ่นก่อนเลยว่าเราเป็น NFT กัญชาเจ้าแรกในไทย จริงๆ แล้วก็มีศิลปินหลายท่านที่ใช้แล้วก็วาดกัญชาด้วย แต่ของเราจะออกแบบเป็นคอลเลคชั่นพร้อมกับ used case จริงๆ ของตัว NFT ครับ ด้วยความที่เรามีเจ้าของโปรเจกต์เป็นเจ้าของบริษัท แล้วเขามีทรัพยากร พร้อมที่จะมอบสิทธิพิเศษต่างๆให้กับเจ้าของ NFT ทาง CEO ของบูทีคเห็นว่า NFT ในเมืองไทยนั้นค่อนข้างดังในแง่ของสัดส่วนผู้ถือ ถ้าอิงตามข้อมูลทั่วไป คนไทยจะค่อนข้างอินกับ NFT และมีผู้ถือเยอะมากๆ เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตได้ดีในไทย ประกอบกับกัญชาที่ช่วงนี้ก็กำลังมาแรงในเรื่องของกฎหมาย แต่ว่าในส่วนของบูทีคหรือบีสโปค เขาก็ได้รับสิทธิในการควบคุมพันธุ์แบบ full value chain ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมมองว่าทั้ง NFT และกัญชาไปด้วยกันได้ มันคล้ายกันตรงที่ว่า เราต้องการความเป็นเสรีในการเป็นเจ้าของ NFT ก็มีคนส่วนหนึ่งที่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องของโลกอนาคต อีกส่วนหนึ่งก็ยังมองว่าเราต้องศึกษาเพิ่ม เพราะเรายังไม่รู้ว่ามันคืออะไร เช่นเดียวกับกัญชาที่เราถูกปลูกฝังว่าเป็นยาเสพติดมาตลอด ก็เลยไม่เคยมีโอกาสมาศึกษามันอย่างเต็มที่ จุดประสงค์ของโปรเจกต์นี้ก็เลยเป็นการขยายฐานสมาชิกก่อน ในบริษัทกัญชาหรือคลินิกกัญชาของเราก็จะให้สิทธิพิเศษต่อสมาชิก ด้วยความที่ว่าตัวนวัตกรรม smart contract เราสามารถใช้ NFT ยืนยันและพ่วงสิทธิประโยชน์ พ่วงการสร้างคอมมูนิตี้ไปด้วยได้ พอมันมีเจ้าของเยอะ ก็เลยเกิดแนวคิดนี้ขึ้นมาควบคู่ไปด้วยได้ครับ”

เหตุผลที่เลือกคอนเซปต์ขั้นตอนการปลูก

“อย่างแรกเลยคือเรามองเห็นอยู่ 2 อย่าง บีสโปคได้นำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชา แล้วเขามีแล็บฯ ในการปลูกที่ล้ำสมัยมากๆ มีเทคโนโลยีมอนิเตอร์ดิน น้ำ อากาศ ครบเลย แต่ว่าถ้าไม่รู้จักวิธีการปลูกกัญชา เราก็จะไม่รู้ใช่ไหมครับว่าของพวกนี้สำคัญอย่างไร ขั้นตอนในการเติบโตของต้นกัญชาต้องใช้อะไรบ้าง ใช้เวลาเท่าไหร่ ก็เลยมองว่าเราสามารถใช้ NFT เป็นคอนเซ็ปต์คร่าวๆ ในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในการเติบโตของต้นกัญชาจริงๆ โดยมีรากฐานว่าบีสโปคกำลังปลูกอยู่ คอลเลคชั่นแรก ‘Seed Plants’ จะอิงตามเมล็ดพันธุ์กัญชา และสิ่งที่พิเศษไปกว่านั้นคือทางบีสโปคได้นำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชามาจำนวน 120 ชิ้น หว่านไว้เรียบร้อยแล้วในช่วงต้นปี โดย NFT ก็จะมีจำนวนตามเมล็ดพันธุ์ที่นำเข้ามาเลยครับ รวมๆ แล้วมีทั้งหมด 120 ชิ้นที่โยงเข้ากับกลุ่มเมล็ดพันธุ์จริงๆ เลย เหมือนเป็นการเล่าเรื่องว่า NFT ตัวนี้กำลังโยงกับกัญชาต้นไหน แล้วให้คนไปลุ้นกับการเติบโตกันว่าต้นที่อยู่ใน NFT ที่เราปิ๊งอยู่จะเติบโตไปได้ดีแค่ไหน THC จะเท่าไหร่ จุดประสงค์หลักคือการบอกเล่าเรื่องราวของกัญชาผ่านตัว NFT ครับ”

ผู้ถือ NFT ของ CannaThai420 จะได้รับสิทธิพิเศษอะไรบ้าง?

“อันนี้ต้องขอสัก 3 ชั่วโมงครับ เพราะว่าเยอะมาก (หัวเราะ) หยอกนะครับ NFT ของเราก็คล้ายๆ กับบัตรสมาชิกพิเศษที่พอมีแล้วจะได้รับส่วนลด ถ้าผู้ถือ NFT เข้าไปในงานพิเศษของเรา เข้าคลินิก หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในเครือบูทีคที่กำหนดไว้ ก็จะได้รับสิทธิพิเศษจากร้านครับ เช่น ถ้าผู้ถือ NFT เข้าไปที่คณา คลินิกกัญชาของพวกเรา เขาจะได้รับส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ โดยส่วนลดก็จะแตกต่างออกไปตามคอลเลคชั่นที่เราปล่อยครับ แล้วก็จะมีสิทธิ์ได้เข้าร่วมชมรมที่เรียกว่า ‘Triple C’ ครับ ย่อมาจาก Cannathai420 Cannabis Club ชมรมนี้จะทำให้ได้ใกล้ชิดกับสมาชิกด้วยกัน และได้เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกของบีสโปค แล้วก็ทางทีมของบริษัทอื่นๆ ด้วย ทุกคนจะสามารถสร้างเครือข่ายพูดคุยกัน หรือว่าเราอาจจะจัดเป็นแบบ AMA หรือฐานข้อมูลพิเศษที่บีสโปคมีว่ากัญชาของเราเป็นอย่างไร ผ่านขั้นตอนอะไรมา เราตั้งใจให้คอมมูนิตี้นี้เป็นพื้นที่ที่คนจะได้พูดแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับกัญชาอย่างเต็มที่ครับ”

“ส่วนตัวไอซ์มองว่า หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 2 เดือนก่อน การจะพูดคุยกับใครเรื่องกัญชาเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะหลายคนก็เลือกที่จะหลีกเลี่ยง เพราะมันผิดกฎหมาย แต่ถ้ามีกลุ่มเพื่อนที่เปิดรับกัญชาเหมือนกัน เราจะคุยกันไปได้ยาวๆ ด้วยความที่กัญชามีเรื่องราวมากมายไม่ว่าจะส่วนตัวหรือโดยรวม เราก็เลยตั้งใจให้คอมมูนิตี้นี้เป็นพื้นที่ที่จะสามารถคุยกันเรื่องกัญชาได้อย่างเต็มที่ จะสายสุขภาพหรือว่าสายปุ๊นก็คุยกันได้ ไม่มีการปิดกั้น อันนี้จะเป็นสิ่งที่เราต้องการสร้างครับ ส่วนตัวแพ็คต่อไปที่เรากำลังเปิดขาย  แน่นอนว่าบูทีคที่เป็นบริษัทอสังหาฯ ก็พร้อมที่จะมอบอะไรให้ผู้ถือเหมือนกัน สำหรับคอลเลคชั่นล่าสุด คนที่ซื้อของเราจะได้พักฟรีโรงแรมในเครือ 2 คืนต่อ 1 ชิ้น
และในอนาคตเราอาจจะส่งเสริมธุรกิจกัญชาอื่นๆ ภายในคอมมูนิตี้ เช่น ใช้ NFT ในการเยี่ยมร้านชาวสมาชิกด้วยกันและได้รับส่วนลด ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้เช่นกันครับ”

“เราไม่ได้แค่ขายงาน NFT แต่ขายกุญแจสำคัญที่จะเข้าสู่นิเวศน์บริษัทในเครือของเรา”

เห็นว่าผู้ถือครอง NFT ‘Seed Plants’ จะได้รับสิทธิพิเศษอื่นๆ ด้วย?

“เราจะมีทั้งหมด 5 คอลเลคชั่นตามระยะการเติบโตของต้นกัญชาจริงๆ แต่ละแพ็คก็จะมีปริมาณในการจำหน่ายที่ต่างกัน อย่างเช่นตัวเมล็ดพันธุ์ ถ้าเราพูดถึงเรื่องวงจรการเติบโตของกัญชา ผู้ปลูกเขาก็จะมีวิธีที่เรียกว่า ‘โคลนนิ่ง’ เพราะเราสามารถโคลนต้นกัญชาได้ แต่ว่าระยะนี้สามารถเริ่มได้ในช่วงที่ยังเป็นต้นกล้าเท่านั้น ดังนั้น NFT ของต้นกัญชาในระยะแรกเริ่มจะมีจำกัดมากๆ เป็น limited edition เพราะว่ามันจะไม่มีอีกแน่นอน สิทธิพิเศษก็เลยจะเยอะที่สุดเพราะจำนวนน้อยที่สุดครับ และในคอลเลคชั่นต่อไป คนที่ถือคอลเลคชั่นแรกของเราก็มีสิทธิ์ที่จะเคลมตัวต่อไปได้ฟรีๆ โดยไม่ต้องซื้อ หรือใช้สิทธิ Whitelist ในการซื้อก่อนใครในราคาพิเศษ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดแพ็คต่อไปครับ”

คอมมูนิตี้สุด Exclusive ของ CannaThai420

“ตั้งแต่ระยะเวลาที่เปิดโปรเจกต์มาจนถึงวันนี้ สิทธิพิเศษที่พร้อมใช้ได้เลยก็เป็น Triple C เพราะว่าตราบใดที่คุณมี NFT ของเราแล้ว ก็จะสามารถเข้าคอมมูนิตี้ได้เลยครับ แต่ว่าสิทธิพิเศษอย่างหนึ่งที่ทางโปรเจกต์จัดให้ มีไปแล้วถึง 2 ครั้งด้วยกัน ก็คือปาร์ตี้พิเศษสำหรับผู้ถือ โดยครั้งแรกเราจัดที่ Marriott Marquis ครับ เป็นปาร์ตี้บน rooftop ที่ผู้ถือสามารถไปพบปะกับกลุ่มนักลงทุน กลุ่มคริปโต หรือกระทั่ง CEO ของบูทีคเองก็ไปร่วมฉลอง ซึ่งสิทธิพิเศษอื่นๆ อย่างส่วนลดหรือสิทธิพิเศษในคลินิก เราก็แพลนไว้และมีแน่นอน ซึ่งจะเป็นผู้ถือ NFT เท่านั้นที่ได้ทราบข่าวก่อนใคร เพราะว่าทางคณาเองก็เพิ่งเปิดตัวเร็วๆ นี้ครับ สิทธิพิเศษอื่นๆ ก็จะเป็นงานพิเศษออนไลน์อย่าง AMA หรือการพูดคุยกับคนในคอมมูฯ ก็ถือเป็นสิทธิพิเศษที่ใช้ได้ทันทีตั้งแต่เปิดตัวโปรเจกต์มาครับ ในปาร์ตี้ก็มีเสิร์ฟไวน์ฟรีทั้งงาน โดยที่ผู้ถือไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งอาจจะมีการกล่าวเปิดงาน อัพเดทเล็กน้อย จากผู้บริหารครับ ที่เหลือก็ปล่อยอิสระเลยครับ ให้ทุกคนได้ไปคุยกัน ผมเห็นหลายคนที่พบว่ามีเพื่อนจากโปรเจกต์อื่นอยู่ในคอมมูฯ นี้ เพราะโลก NFT มันมีหลายโปรเจกต์ แต่โดยรวมก็คุ้นๆ ชื่อครับ เราก็จะได้พบปะสังสรรค์กัน ไม่ได้มีงานเป็น agenda ขนาดนั้นครับ”

คนที่อยู่ในคอมมูนิตี้นี้มาจากวงการกัญชาหรือว่า NFT เป็นส่วนใหญ่?

“ผู้ถือคอลเลคชั่นแรกมีสนใจกัญชาบ้าง แต่ไม่ได้เปิดเผยมากขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ลงทุนด้าน NFT มากกว่า เพราะเขาเห็นว่า NFT ตัวนี้มีแบบแผนที่น่าสนใจ ก็เลยขอลงทุนไว้ก่อน แต่ว่าพอคอลเลคชั่นต่อไป เราเริ่มชัดเจนมากขึ้นแล้วว่าจะทำเกี่ยวกับกัญชาและอื่นๆ ในด้านของคอมมูนิตี้ ด้านคลินิก คนที่เข้ามาส่วนมากก็จะเป็นคนที่ชอบกัญชาอยู่แล้วด้วยครับ จะมีอยู่ 2 กลุ่มหลักๆ ก็คือคนที่เล่น NFT และสนใจกัญชา กับคนที่สนใจกัญชาแต่ยังไม่รู้เรื่อง NFT มาก ก็จะเข้ามาแล้วแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ”

คอมมูนิตี้นี้เติบโตมากขึ้นใช่ไหม?

“ใช่ครับ เติบโตในแง่ของปริมาณคนด้วย เพราะคนเห็นว่าคอมมูฯ นี้สามารถคุยกันได้ แค่สนใจกัญชาก็เข้ามาพูดคุยกัน อาจจะไม่ต้องพูดถึง NFT ก็ได้ เข้ามาดิสคอร์ดเฉยๆ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้แลกเปลี่ยนอะไรมาก แต่เข้ามาเพื่อเสพสาระ มีคนที่สนใจหลากหลายครับ เช่นการปลูก การประกอบธุรกิจกัญชา หรือคนที่สนใจ NFT/Crypto ในระดับแอดวานซ์ยิ่งขึ้นครับ”

มีการเปิดเผยมากขึ้นไหม หลังจากที่กัญชาถูกกฎหมายแล้ว

“ไอซ์คิดว่า ในแง่ของตัวโปรเจกต์ ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีแผน อย่างคลินิกคณา ก่อนหน้านี้ก็วางแพลนไว้แค่ว่าจะเป็นคลินิกแพทย์แผนไทย เพราะเขามีใบอนุญาต แต่ด้วยความที่กฎหมายโอเคแล้ว เราก็จะเปิดเป็นร้าน pop-up ขายดอกกัญชาขึ้นมา ใครที่เคยสูบอยู่แล้วก็มาทดลองของเราได้ เราจะให้ความรู้ว่าดอกนี้ปลูกอย่างไร THC เท่าไหร่ เอฟเฟ็กต์ของมันคืออะไร โดยวันที่ 6-10 กรกฎาคมนี้ (พ.ศ. 2565) ทางคณาก็จะไปออกบูธที่มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติด้วยครับ แต่ว่าในแง่ของคอมมูนิตี้ที่เปลี่ยนไปคือ สังเกตได้ชัดเลยว่าคนส่วนใหญ่เริ่มเปิดเผยกันแล้ว จากเมื่อก่อนที่ไม่ค่อยกล้าพูด พอกฎหมายเริ่มไฟเขียวก็จะเปิดเผยกันมากขึ้นครับ เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ เหมือนเราได้มีโอกาสรู้จักกับคนที่สนใจอะไรเหมือนๆ กันมากขึ้นครับ”

คอลเลคชั่นหน้า – ‘Mother Plants’

“Mother Plants จะอิงคอนเซ็ปต์ว่า หากเราปลูกต้นกัญชาผ่านช่วงอนุบาลเมล็ดพันธุ์ไปแล้ว ก็จะเป็นต้นกล้า น้องกัญชาจะเริ่มผลิตใบเพื่อสังเคราะห์แสง เพื่อที่จะโต ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของ NFT คอลเลคชั่นนี้จะดูโตขึ้นและมีการแสดงออกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปากพ่นไฟบ้าง พ่นสายรุ้งบ้าง อีกอย่างที่ Mother Plants จะแตกต่างจาก Seed Plants คือเรื่องของจำนวนครับ เราตั้งใจอิงว่าผู้ปลูกสามารถโคลนต้นกัญชาได้แล้ว จาก 120 ชิ้นก็เลยเป็น 2,000 ชิ้น ทุกอย่างก็จะอิงตามระยะการเติบโตของต้นกัญชาจริงๆ เลยครับ ศิลปินผู้วาดก็เป็นคนเดิมครับ อย่างคอลเลคชั่นแรก เราได้ร่วมมือกับศิลปินที่ค่อนข้างดังในวงการ NFT มี ‘คุณหมู 3PUCK’ เขาร่วมมือกับ ‘คุณเจ Zleepy Girl’ แล้ววาดด้วยกัน ส่วนอีกท่านหนึ่งคือ ‘คุณโดโจ Dojonamwong’ แต่ในคอลเลคชั่นที่สอง จะมีคุณเจกับคุณโดโจรับช่วงต่อครับ ศิลปินทั้ง 2 ท่านก็จะวาดชิ้นส่วนคนละนิด แต่ว่าปรับลายเส้นให้เข้ากัน เพราะสไตล์ของพวกเขาค่อนข้างแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด แต่ตั้งใจจะทำให้ภาพทุกภาพดูกลมกลืนกัน ไม่มีการแบ่งแยกว่าลายเส้นไหนของใคร”

ในอนาคตมีแพลนว่าจะเปิดรับศิลปินใหม่ไหม?

“ส่วนตัวไอซ์ค่อนข้างชื่นชอบศิลปินทั้ง 2 ท่านมากๆ แล้วก็ติดตามศิลปิน NFT ท่านอื่นค่อนข้างเยอะครับ แต่ว่าในคอลเลคชั่นต่อไปอาจจะต้องคิดก่อนว่าอยากทำกี่ชิ้น อยากให้คอนเซ็ปต์เป็นแนวไหน แล้วก็อาจจะต้องถามศิลปินที่เรามีอยู่ว่า เขาอยากวาดแนวที่เราอยากให้วาดไหม หรืออยากทดลองอะไรใหม่ๆ ไหม เราเปิดโอกาสให้เต็มที่ครับ ถ้าต้องใช้ศิลปินมากขึ้นก็ยินดีที่จะเปิดรับ เพราะว่าหลังจากคอลเลคชั่น Seed Plants กับ Mother Plants ต่อไปจะเป็นคอลเลคชั่นเกี่ยวกับดอกกัญชา ซึ่งซับซ้อนกว่านี้เยอะครับ ต้องรอดูกันต่อไป”

2,000 ชิ้นนี้จะวางขายบนแพลตฟอร์มไหน?

“ผู้ซื้อสามารถ mint (นำงาน NFT ขึ้นสู่ระบบบล็อกเชน) ได้ผ่านเว็บไซต์ของเราโดยตรง เพราะเราเขียนสิ่งที่เรียกว่า ‘Smart Contact’ ขึ้นมา ซึ่งเป็นอันที่คนไป mint งานหรือซื้องานออกมาผ่านเว็บไซต์เรา มันจะเข้าไปในกระเป๋าที่เรียกว่า ‘MetaMask’ หรืออาจจะเป็นกระเป๋าอื่น แต่ที่เป็นที่นิยมคือ MetaMask เราสามารถเชื่อมกับ OpenSea ให้ NFT ที่เรามีอยู่ใน MetaMask ไปแสดงได้เลย ส่วนใหญ่กระเป๋าคริปโตที่ผู้ใช้เลือกก็คือ MetaMask ที่นิยมใช้กันครับสำหรับเชน Ethereum และสามารถแสดง NFT บน OpenSea ได้เลย”

ความท้าทายของตลาด NFT ในเมืองไทย

“พอเกิดสถานการณ์ช่วง 2-3 เดือนก่อน เราก็เห็นได้ชัดเลยว่าคนที่เข้าวงการ NFT มีแบบไหนบ้าง บางคนก็เข้ามาเพราะชอบงานของศิลปินจริงๆ บางคนก็เข้ามาเพราะหวังเก็งกำไร หลายคนก็อาจจะตั้งคำถามว่ามูลค่าของ NFT จริงๆ แล้วคืออะไร มันมีความแข็งแกร่งพอจะรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปไหม ซึ่งพอเกิดคำถามนี้ หลายคนก็อาจจะมองว่า NFT ต้องมีมูลค่าในตัว แต่ต้องมีอะไรที่เราสามารถจับต้องได้จริงๆ อย่างนั้นไม่ว่าสถานการณ์ตลาดจะเป็นยังไง มูลค่านั้นก็ยังคงอยู่ คนก็เลยพูดถึงเรื่อง NFT ที่มีสิทธิพิเศษมากขึ้น แต่ไอซ์คิดว่าวงการ NFT เปลี่ยนไปไวมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน อย่างเช่นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน NFT เปิดให้ซื้อแบบ free mint มาแรงมาก แต่ตอนนี้ก็เงียบหายไปแล้ว มันต้องจับตาดูกันไป เดาค่อนข้างยากครับ หลายคนก็อาจจะเริ่มมองหาความยั่งยืนแล้วครับ เพราะถ้าต้องปรับตัวตามสถานการณ์อยู่ตลอดก็คงเสี่ยงเกินไป”

สิ่งที่จะทำให้ NFT อยู่ยืนยาว นอกจากสิทธิพิเศษ

“ไอซ์คิดว่า NFT มีตัวแปรค่อนข้างเยอะ แต่ว่าสิ่งที่มีเหมือนกันทุกอย่างคือคอมมูนิตี้ครับ ไม่ว่าสถานการณ์จะแย่ขนาดไหน หรือกลไกตลาดจะเป็นยังไง ถ้ามีคอมมูนิตี้ที่ดี คนก็จะยังให้ความเชื่อมั่นในตัวโปรเจกต์นี้ มันก็ไปต่อได้ครับ ดังนั้น หน้าที่ของโปรเจกต์ที่ดูแลคอมมูนิตี้ให้มีความโปร่งใส กับการอัปเดตอย่างต่อเนื่องก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ด้วยความที่นวัตกรรมบล็อกเชนเป็นอะไรที่หลายคนยังไม่ค่อยรู้ว่า โปรเจกต์ที่แข็งแกร่งต้องใช้เวลาสร้างคอมมูนิตี้นานมากๆ จึงต้องมีกิจกรรมให้กับผู้ถืออีกมากมาย ให้เขาเกิดความเชื่อมั่นและภูมิใจที่จะเป็นหนึ่งในคอมมูนิตี้นี้ แล้วเราก็ต้องรับฟังคนในคอมมูนิตี้ให้มากๆ ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายเหมือนกันนะครับ เพราะต่อให้เป็นคอมมูนิตี้หนึ่งเดียว หลายคนก็หลายความคิด ความคาดหวังมีแตกต่างกันเยอะครับ”

สิ่งที่อยากบอกเกี่ยวกับ CannaThai420

“เราอาจจะมีของดีๆ เยอะ แต่ถ้ายังไม่ค่อยรู้จัก NFT ไอซ์ก็อาจจะไม่สามารถขายได้เลยว่าต้องซื้อของเรานะ ก่อนอื่นจะค่อยๆ ให้ความรู้ไปว่า NFT ของเราเป็นอย่างไร เหมือนเปิดคอร์ส NFT 101 ก่อนครับ ซึ่งในโลก NFT ก็มีคนคอยบอกเรื่อยๆ ว่า เวลาเราเห็นโปรเจกต์นี้ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ DYOR หรือ Do Your Own Research เราพยายามหลีกเลี่ยงคำแนะนำเรื่องการลงทุน แต่ว่าสิ่งที่ไอซ์จะอยากทำคือการสร้างคอมมูนิตี้ที่รวมคนกัญชากับ NFT มาไว้ด้วยกันด้วยโปรเจกต์นี้ หรือถ้ายังไม่รู้แต่อยากเข้ามาจอยกัน ก็สามารถมาคุยกับเราในคอมมูนิตี้นี้ได้ เดี๋ยวเราจะคอยบอกว่า NFT กับกัญชามันมีจุดตัดกันอย่างไรในความคิดของเรา หากคุณสนใจกัญชาหรือ NFT ก็เข้ามาคุยกับเราได้ และถ้าหากคุณเชื่อใจแล้วว่าโปรเจกต์ของเราสามารถทำทั้ง 2 สิ่งไปด้วยกันได้ ค่อยตัดสินใจนะครับ อยากให้เกิดความเชื่อมั่นในทีมแล้วก็โปรเจกต์ของเราก่อน เพราะว่าปัจจัยที่สำคัญในโลก NFT คือ ทีมต้องเชื่อถือได้ ทีมต้องมีตัวตนจริงๆ ซึ่งทางเรามีอยู่แล้วครับ”

ติดตามและอัปเดตเรื่องราวเกี่ยวกับ CannaThai420 ได้ที่

Website: CannaThai420

Facebook: CannaThai420

Instagram: cannathai420