Ladiegoodman บทเพลงและงานศิลปะผ่านเลนส์ในฐานะผู้กำกับหญิงรุ่นใหม่

ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราได้รู้จักกับแพนในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับ พูดน้อยต่อยหนัก ชอบทำมากกว่าพูด แม้ตอนนั้นจะเป็นช่วงที่เริ่มเป็นผู้ช่วยผู้กำกับแรกๆ แต่เราเห็นบางอย่างจากตัวผู้หญิงคนนี้ ผ่านไป 5 ปีแพนก็ยังเป็นแพนคนเดิม แต่มาในตำแหน่งผู้กำกับฝีมือร้ายกาจ ช่วงนั้นมิวสิควีดีโอตัวไหนที่ว่าเจ๋ง ให้ไปดูชื่อผู้กำกับ จะต้องเป็น Ladiegoodman เสมอ 

วันนี้ Ladiegoodman เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้กำกับหญิงรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง เธอต้องการเล่าเรื่องราวผ่านภาพและเสียงเพลง และยิ่งได้พูดคุยกับเธอยิ่งทำให้เราทึ่งในฐานะผู้กำกับรุ่นใหม่ ที่ใช้อารมณ์ถ่ายทอดมุมมองความคิดสร้างสรรค์แปลกประหลาด ดูได้จากหนังที่เป็นแรงผลักดันของเธออย่าง Almost Famous ที่ไม่แน่นว่าเราอาจได้ค้นพบ Cameron Crowe ในตัวผู้หญิงคนนี้ก็เป็นได้ 

ก่อนจะมาเป็นผู้กำกับทำอะไรมาบ้าง

แพนเรียนจบ คณะศิลปกรรม สาขานิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ตอนเป็นนักศึกษาเราเป็นนักเรียนออกแบบเรียนศิลปะ ที่คลั่งการฟังเพลงดูหนังมากๆ พอชอบฟังชอบดูก็เริ่มอยากลองทำบ้าง 

นิเทศศิลป์ก็คือเรียนออกแบบกราฟฟิกดีไซน์ ครีเอทีฟเป็นหลัก ซึ่งโฆษณาภาพนิ่งกับภาพยนต์หมวดพวกนี้จะได้เรียนแค่ครึ่งเทอม จุดเริ่มต้นน่าจะเริ่มจากคลาสสั้นๆจากมหาลัย ที่อาจารย์ให้ทำหนังสั้นเป็นไฟนอลโปรเจกต์ ก่อนที่จะมาเป็นผู้กำกับ แพนเริ่มจากเป็นคนถ่ายและตัดต่อมาก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มคิดอาร์ตไดเรคชั่น สตอรี่บอร์ด ผู้ช่วยผู้กำกับ 

https://vimeo.com/555653506

ช่วงแรกเจออุปสรรคอะไรบ้าง

อุปสรรคช่วงแรกก็คือความไม่รู้หลักการอะไรเลยสักอย่างของการออกกองการ พรีโพร หรือโพรเสสโพสโปรดัคชั่นต่างๆ เนื่องจากเราไม่ได้เรียนจบฟิล์มมา ก็เหมือนได้เรียนรู้ทางด้านนี้จริงคือตอนทำงานจริงเลย ก็คิดได้แต่ไม่รู้ว่าทำยังไง ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปจากพี่ๆ เพื่อนที่ทำงานด้วย เรียนรู้จากข้อผิดพลาดต่างๆ

ทำไมถึงตัดสินใจมาเป็นผู้กำกับ

อยากเล่าเรื่อง คิดว่าการเป็นผู้กำกับมันอาจคือสิ่งที่คิดไว้ในใจลึกๆ ตั้งแต่เด็กๆ แต่มันดูเป็นฝันที่ไกลมาก ตอนเด็กเป็นเด็กที่ชอบดูหนังมาก รุ่นเรามันก็จะมีร้านเช่าซีวีดี  คือเช่ามันเกือบทุกวัน จนแม่ด่าเพราะว่ามันเปลืองเงิน หนังอะไรก็ชอบลองดูไปหมด อาจจะเป็นเพราะพ่อชอบดูหนังมากๆ ด้วย เพราะเค้าก็เป็นคนพาเราเดินไปร้านเช่าหนัง พาเข้าโรงหนัง ตอนนั้นมันใสมากเลยคือมันเริ่มจากความชอบดูล้วนๆ 

ตอนอยู่มหาลัยถึงมีโอกาศได้ลองทำจริง พอลองทำภาพเคลื่อไหวที่เป็นวีดีโอ ก็รู้เลยว่าเราชอบทำอะไรงานนี้มากๆ  เกิดจากสิ่งที่ชอบจนกลายมาเป็นรักจริงจัง จึงเริ่มถ่ายตัดต่อ คิดอาทไดเรคชั่น สตอรี่ไลน์ พอเริ่มทำงานไปสักพักก็คิดว่าเราน่าจะกำกับได้ อาจจะโชคดีด้วยที่มีคนให้โอกาศได้ลอง เรามีภาพในหัวมีเรื่องอยากเล่า อยากลองเป็นคนเล่าเรื่อง ลองเป็นผู้กำกับดูบ้าง ผู้กำกับเป็นคนที่ถ่ายทอดสร้างสรรค์งาน เล่าเรื่องสิ่งที่คิดในหัว ในมุมมองของเราให้คนอื่นได้เข้าใจ เราอยากลองทำหน้าที่นี้ดู

https://vimeo.com/436873289

ผู้กำกับแบบ Ladiegoodman ทำหน้าที่อะไรบ้าง

ก็คิดเรื่อง ไอเดีย อาร์ทไดเรคชั่น สตอรี่ไลน์ คาแรคเตอร์นักแสดง มู๊ดโทนภาพ ว่าจะเล่าเรื่องออกมาเป็นยังไง

ไอเดียมาจากไหน

เพลงที่ฟัง หนังที่เราชอบ เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของตัวเอง ของคนไกล้ตัว สภาพแวดล้อมที่เราอยู่และโตมา มุมมองในการมองโลกสังคม ใบแบบของเรา 

อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นผู้กำกับ

การเล่าเรื่อง ถ่ายทอดอารมณ์ มุมมองความคิดสร้างสรรค์ มีความสวยงามในแบบของตัวเอง  เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไรอยากเล่าแบบไหน อารมณ์เป็นไหน สื่อสารกับทุกคนในทีมนักแสดงให้เห็นภาพและอารมณ์ ไปทางในทางเดียวกันให้ได้ เราต้องสื่อสารให้ได้ว่าเราอยากได้อะไร ภาพในหัวของเรา อารมณ์ของเราเป็นแบบไหน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่เราต้องการอย่างที่เราคิดไว้

https://vimeo.com/475969778

จุดแข็งของ Ladiegoodman ที่ทำให้คนอยากร่วมงานด้วยคืออะไร

อันนี้ตอบยากเลยค่ะ ตอบแล้วเหมือนชมตัวเองยังไงไม่รู้ อาจจะต้องไปถามคนที่เคยทำงานกับเราด้วยว่าเราต่างจากคนอื่นยังไงบ้าง เราอาจจะเป็นผู้กำกับที่ซีเรียสเรื่องเพลงดนตรีที่ต้องไปกับภาพ เราเป็นคนหลงใหลเรื่องความเป็นวัยรุ่น ความฝัน ความอิสระ แรงบัลดาลใจ ความอารมณ์พลุ่งพล่านของวัยรุ่น  เราชอบ thai culture เราชอบมู๊ดโลเคชั่นสีสันที่มันไทยเรียลจริงๆ   แล้วก็คิดว่าตัวเองไม่ใช่คนโลกสวยหรือมองโลกในแง่ดีมาก งานเราเวลาเล่าเรืองก็อาจจะออกมาเป็นอะไรเทือกๆ นั้น งานเอมวีแรกๆ ที่ทำก็จะมีแต่เรื่องวัยรุ่นที่มีปัญหาความไม่สมหวัง   และเราคิดว่าเราเป็นคนใส่ใจเรื่องภาพมาก 

“เราพยามให้ทุกงานมันมีความสวย ในแบบของเรา เราพยายามให้งานเราสวยและมีอารม์ความรู้สึก สื่อสารให้คนดูรู้สึกได้ด้วย”

ผู้กำกับหรือหนังเรื่องไหนที่เป็นแรงบันดาลใจ และมีอิทธิพลทำให้เราก้าวมาเป็นผู้กำกับในตอนนี้

จริงๆ แล้วชอบผู้กำกับหลายคนมากๆ แต่คนที่ส่งผลต่อเราที่สุดคือ Cameron Crowe ผู้กำกับหนังเรื่อง Almost Famous มันคือหนังที่ส่งอิทธิพลให้เราเป็นเราเลย ก่อนที่เราจะชอบหนัง เราเป็นเด็กชอบฟังเพลงมาก่อน และก็ถึงบังเอิญได้ดูหนังเรื่องนี้เพราะพี่สาว เลยลองดูช่วงปิดเทอมตอนอายุ 15 หลังจากดูก็คือคลั่งหนักเลย ตอนนั้นดูจบแล้วอยากเป็น บก หนังสือโรลลิ่งสโตนแบบในหนัง ตลกดี 

https://vimeo.com/442129980

หลังจากนั้นมา ก็เริ่มสืบประวัติผู้กำกับดูว่าเค้าเคยทำหนังเรื่องอะไรมาบ้าง ประวัติเค้าเป็นยังไง ตามเก็บหนังเค้า กับศึกษาตัวตนเค้าแล้วก็ชอบมาก เพราะเรารู้สึกว่าเค้าคือเด็กบ้าเพลงคนนึงเหมือนเรา ที่คิดอยากเป็นผู้กำกับหนังแล้วก็ได้เป็นจริงๆ แล้วเค้าก็เป็นผู้กำกับที่คลั่งไคล้ดนตรีร๊อคมาก หนังของเค้าไม่ได้เกี่ยวกับวงการดนตรีเหมือน Almost Famous ทุกเรื่อง แต่ทุกเรื่องก็คือเพลงเพราะตลอด  

และอีกเรื่องที่เราคิดว่าส่งอิทธิพลต่อเรามากๆ ก็คือ The Virgin Suicide  ตอนดูจบครั้งแรกคือชอบมาก จมสุดๆ เพลงเพราะ นักแสดงมีเสนห์ เราหลงรักผู้หญิงแบบ Penny Lane กับ Lux Lisbon  เราอาจจะดูหนังสองเรื่องนี้ตอนเริ่มแรกวัยรุ่นพอดี เราว่าเราได้อิทธิพลคาแรคเตอร์อารมณ์ของผู้หญิงจากสองเรื่องนี้  

https://vimeo.com/555655513

อีกเรื่องนึงคือ  Mysterious skin ผู้กำกับ Gregg Araki  เรื่องเกี่ยวกับวัยรุ่นผู้ชายที่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศตอนเด็ก ซึ่งมันเป็นหนังดาร์ค ดิบ แต่ก็สวยงาม ตั้งแต่นั้นมาก็ตามดูหนัง Gregg Araki  บางเรื่องเราก็ชอบบางเรื่องเราก็จะอ๊วก เค้ามีมุมมองของวัยรุ่นและความหม่นหมองเรื่องเพศที่สุดโต่งมาก เราไม่ได้ชอบหนังเค้าทุกเรื่อง แต่เราชอบสไตล์ของเค้า มุมมองคาแรคเตอร์นักแสดงอาทไดเรคชั่น กับภาพที่ดิบแต่ก็แฟชั่นของหนัง สังเกตุนักแสดงนำของเค้าทุกเรื่องคาแรคเตอร์กับสไตลลิ่งจะจี๊ดจ๊าดไม่เหมือนคนอื่น

มีข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากเข้ามาเป็นผู้กำกับบ้างมั้ย

ลองทำดูเลย อย่ามัวแต่คิด แต่ต้องทุ่มเทและจริงจัง เรียนรู้ตลอดเวลา

Ladiegoodman อีก 10 ปีต่อจากนี้จะทำอะไรอยู่

ยังทำงานเกี่ยวกับวงการนี้อยู่ แต่เก่งกว่านี้ โตขึ้น มีเงินเก็บ มีบ้านมีหมาไซบีเรียนตัวโต