Culture

เพราะกีฬาเป็นยาวิเศษ “วิว กุลวุฒิ” จึงมาได้ไกลบนเส้นทางน้กกีฬาอาชีพ

Pro Athlete View Kunlavut On How Badminton Saved His Life

‘กีฬาเป็นยาวิเศษ’ ถึงจะเป็นคำพูดที่ดูโบราณไปสักหน่อย แต่ก็เป็นประโยคแรกที่เรานึกถึงเมื่อได้คุยกับ วิว - กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (View - Kunlavut Vitidsarn) นักแบดมินตันมือ 20 ของโลก ที่เพิ่งได้รางวัลรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากสหพันธ์แบดมินตันโลกมาหมาดๆ เพราะการเลือกเล่นแบดในวันนั้น ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นและมาได้ไกลเกินกว่าที่เคยคิดไว้ 

กีฬาจะเป็นยาวิเศษที่เปลี่ยนชีวิตของนักกีฬาดาวรุ่งได้ขนาดไหน เราอยากชวนคุณมาหาคำตอบไปพร้อมกันจากเรื่องราวของเขา 

กีฬาเป็นยาวิเศษ #1

“ถ้าไม่ได้เป็นนักแบด ตอนนี้ผมก็คงจะเรียนอยู่ และภูมิแพ้อาจจะไม่ดีขึ้น” 

วิว กุลวุฒิเริ่มต้นบทสนทนากับเราด้วยคำพูดเหล่านี้ ก่อนจะเล่าย้อนถึงตอนที่เขายังเด็กว่า ตัวเองเป็นภูมิแพ้อากาศหนักมาก ในแต่ละปีต้องไปหาหมอบ่อย ครอบครัวต้องเสียเงินไปกับการรักษาจำนวนมาก ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพเด็ก 7 ขวบให้ดีขึ้นและช่วยพ่อแม่ประหยัดค่าใช่จ่ายในตอนนั้นเลยเป็นการพาตัวเองไปเสียเหงื่อให้กับการเล่นแบดให้ได้มากที่สุด ตามคำชวนของคุณพ่อที่เป็นครูสอนอยู่แล้ว ถือเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมาก แต่ได้ผลลัพธ์แบบคุ้มค่า 

กีฬาเป็นยาวิเศษ #2

ความคุ้มค่าที่ว่านั้นคือผลลัพธ์ที่ได้กลับคืนมามันมากกว่าที่คิดไว้ เพราะเขาเล่าว่าไม่กี่ปีให้หลัง แบดมินตันทำให้อาการภูมิแพ้ของเขาดีขึ้นเยอะมาก

“อาการไม่ได้หายสนิทครับ คนเป็นภูมิแพ้จะไม่หายขาด แต่พอเทียบกับเมื่อก่อนถือว่าผมดีขึ้นเยอะมากแล้ว ตอนนี้จะมีอาการแค่เวลาที่อยู่ในอากาศเย็นมากๆ อย่างในแถบยุโรปเท่านั้นครับ”

และมันทำให้เขาได้โอกาสก้าวสู่เส้นทางนักกีฬาอาชีพอย่างเต็มตัว เมื่อสมัยเล่นระดับเยาวชน วิวตอบแทนโอกาสดีๆ ที่ได้รับจากผู้ใหญ่หลายท่านที่ให้การสนับสนุน ด้วยการคว้าแชมป์แบดมินตันเยาวชนโลก 3 สมัยซ้อน (2017 – 2019) และเมื่อเป็นนักกีฬาทีมชาติรุ่นใหญ่แล้วก็ยังมีผลงานดีๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2021 ที่เพิ่งผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นปีทองของเขาเลยก็ว่าได้ กับรางวัลรองแชมป์ โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2021, รองแชมป์ บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2021 และการเป็นนักกีฬาชายเดี่ยวไทยคนแรกที่ได้เข้าชิงชัยรายการนี้ และล่าสุดกับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของปี 2020/2021 จากสหพันธ์แบดมินตันโลก 

“ผมดีใจมากกับทุกรางวัลที่ได้รับ เพราะทุกรายการที่ไปแข่งมันมีความกดดันอยู่แล้ว แต่เราก็สามารถก้าวผ่านมันไปได้และประสบความสำเร็จ แต่ถึงจะได้รางวัลยังไงก็ตาม ผมก็ยังต้องโฟกัสกับการซ้อมต่อไป เพื่อพัฒนาตัวเองและไปให้ถึงเป้าหมาย”

กีฬาเป็นยาวิเศษ #3

นอกจากนี้ เขายังบอกว่าแบดมินตันได้สร้างความภาคภูมิใจ สร้างอาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองเลี้ยงครอบครัวได้ด้วย เพราะอย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าภูมิแพ้ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปมาก หากเป็นบ้านที่รายได้มหาศาลคงจะไม่เดือดร้อน แต่กับบ้านเขานั้นไม่ใช่ ถ้าต้องเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เด็กถึงโต พ่อแม่อาจจะเหนื่อยเกินไป ดังนั้นการเล่นแบดที่ทำให้เขาอาการดีขึ้น ช่วยลดรายจ่ายของครอบครัวได้ และยังเป็นอาชีพได้ จึงเรียกว่าวิเศษมาก 

“จริงๆ แล้วครอบครัวของผมไม่ได้มี (ฐานะ) มาก พอแบดมินตันทำให้ผมเห็นศักยภาพตัวเองว่าสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้ ก็เลยอยากเล่นแบดจริงจังและตั้งใจฝึกซ้อมตั้งแต่เด็ก ซึ่งผมไม่เคยซีเรียสที่จะไม่ได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่นนะ สำหรับตอนนี้ถือว่าทำได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ผมก็จะพยายามทำให้ดีต่อไป”  

กีฬาเป็นยาวิเศษ #4

อีกหนึ่งความวิเศษที่วิวได้จากกีฬาคือ ความมุ่งมั่นที่จะทำตามเป้าหมายของตัวเองให้ได้ เพราะหลังจากที่อาการภูมิแพ้ดีขึ้นและได้มาสัมผัสวิถีนักกีฬา แบดมินตันผลักดันให้เขาเป็นคนที่เก่งขึ้นและอยากทำสิ่งที่ดีกว่าเดิมเสมอ

“ในช่วงแรกที่เล่นแบด จริงๆ ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก นอกจากได้รักษาภูมิแพ้และช่วยพ่อแม่ลดค่ารักษาในโรงพยาบาล แต่พอผมเริ่มเข้าโรงเรียนบ้านทองหยอดแล้วได้ไปแข่งขันจริงจัง ก็เริ่มตั้งเป้าหมายว่าอย่างน้อยต้องมีรางวัลติดไม้ติดมือบ้าง จะได้เป็นกำลังใจในการเล่นแบดต่อไป และพอโตขึ้นเป้าหมายสูงสุดของผมก็ใหญ่ขึ้นคือการเป็นแชมป์โลก แชมป์โอลิมปิก แล้วก็แชมป์ออล อิงค์แลนด์ครับ”

การเปลี่ยนผ่านจากนักกีฬารุ่นเล็กสู่รุ่นใหญ่

ชวนคุยเรื่องความวิเศษของกีฬากันไปแล้ว ขอซอกแซกไปเรื่องอื่นบ้าง วิวเล่นกีฬามาตั้งแต่รุ่นเยาวชนจนมาถึงรุ่นใหญ่อย่างนักกีฬาอาชีพ คิดว่านอกจากฝีมือแล้ว เรายังได้เรียนรู้ความแตกต่างอะไรอีกบ้าง

“คงเป็นเรื่องการควบคุมอารมณ์ตัวเองในสนาม ช่วงเด็กๆ เวลาแข่งถ้าทำได้ไม่ดีก็จะเป็นปกติที่มีหงุดหงิดบ้าง ซึ่งจะทำให้ผิดพลาดง่าย แต่พอเล่นรุ่นใหญ่ จะมีการควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น เวลาที่เสียเปรียบหรือว่าเสียกำลังใจในการแข่ง ก็จะสามารถดึงตัวเองให้กลับมาอยู่ที่มาตรฐานในการเล่นของตัวเองได้”

แล้วช่วงที่เราเสียกำลังใจหรือเหนื่อยไปแล้ว ก่อนจะดึงตัวเองกลับมา เราคิดอะไรอยู่บ้าง? วิวตอบกลับมาว่า “พยายามนึกถึงครอบครัวและอนาคตของเรา เราอยากทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จะเตือนตัวเองตลอดว่าอย่าวอกแวก พยายามทำให้ดีที่สุด อย่าให้ต้องเสียใจทีหลัง”

อัปเดตรายการแข่งในเร็ว ๆ นี้

“เดือนมีนาคม 2022 มีรายการ เยอรมัน โอเพ่น แล้วก็ออล อิงค์แลนด์ ที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายสูงสุดของผม แต่ 2 รายการนี้ผมตั้งเป้าไปทีละรอบครับ เพราะในรุ่นใหญ่ทุกอย่างมันค่อนข้างยาก เราจะไปคาดหวังมากขนาดนั้นไม่ได้ ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดไปทีละรอบ อยากให้ช่วยเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยหลายๆ คนด้วยนะครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ผมคนเดียว”

บทสรุปความสำเร็จ

ทิ้งท้ายด้วยบทสรุปความสำเร็จจากเรื่องราวของวิว กุลวุฒิ ที่เขาอยากแชร์กับชาว EQ 

“ตั้งใจ ขยัน และอดทนครับ”

“อย่างที่ผมตั้งใจฝึกซ้อมสัปดาห์ละ 6 วันตลอดหลายปี เพราะการฝึกซ้อมช่วยให้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน ทั้งพละกำลัง สุขภาพร่างกาย รวมถึงความคิดที่จำเป็นกับการแข่งขัน ทำให้รู้ว่าสิ่งไหนที่ควรทำหรือไม่ควรทำ และสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จในระดับที่พึงพอใจ”

หลายครั้งที่นักกีฬามักจะแนะนำแบบนี้จนผู้อ่านเริ่มไม่ว้าว หรือรู้สึกเหมือน copy & paste แต่เราอยากจะบอกว่ามันเป็นเคล็ดลับพื้นฐานที่จะช่วยให้หลายๆ อย่างในชีวิตคุณขึ้นได้ เพราะวิวทำให้เราเห็น ทั้งการอดทนต่อสู้กับโรคภูมิแพ้ดีขึ้น ตั้งใจทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และขยันซ้อมจนเป็นนักกีฬาดาวรุ่งคนล่าสุดของวงการ

แต่ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าคำแนะนำนี้จะเป็นจริงไหม เราอยากให้ลองตั้งใจ ขยัน และอดทนกับอะไรสักอย่างดู เชื่อว่าผลลัพธ์จะออกมาดีไม่แพ้ที่วิว กุลวุฒิได้เจอเลย

ขอบคุณรูปภาพบางส่วนจาก Banthongyord Badminton School

ติดตามและอัปเดตเรื่องราวชีวิตรวมถึงการแข่งขันทั้งหมดได้ที่ 

Facebook: Kunlavut Vitidsarn - กุลวุฒิ วิทิตศานต์

Instagram: kunlavut.v

“Sports are the best medicine,” the old saying rings especially true after EQ had a chance to sit down for a chat with Thailand’s badminton rising star Kunlavut “View” Vitidsarn.

Currently ranked in the top 20 BWF Badminton World Rankings, the three-time world junior champion tells us a story about how badminton helped him overcome childhood illness and shaped him into the brilliant sportsman he is today.

“If it weren’t for badminton, my allergy would have gotten a lot worse,” View begins. “When I was younger, I suffered from severe allergies. I had to go to see a doctor many times a year which cost us a lot of money. When I was seven, my dad, who’s a badminton instructor, introduced me to the sport for the first time.”
 

Sports are the best medicine
“A few years after I took up badminton, my allergies got a lot better. It’s not completely gone, but compared to before, it’s improved significantly. It only acts up when I’m exposed to cold weather like when I’m in Europe.”

View’s meteoric rise began when he became three-times World Junior champion during 2017-2019. He also claimed the gold medal at the Asian Junior Championships in 2019 and was recently named the 2020/2021 Eddy Choong Most Promising Player by the Badminton World Federation (BWF).

“I’m proud of every achievement because each event came with its own pressure and expectations. But no matter how many times I won, I still want to keep training and improve so that I can reach my next goals.”

 

The young athlete adds that badminton has made it possible for him to support his family. “My illness put a lot of financial burden on my family so when my conditions improved after taking up the sport, I felt so relieved. My family doesn’t have a lot of money, but I know that I have the potential to become a professional player, earn a living from it, and support my family back home.”

“In the beginning, I didn’t really have any expectations. I just wanted my condition to improve so that my family wouldn’t have to pay for my medical bills. When I moved to Bangthongyord Badminton School, I started to set goals to keep myself motivated. As I progress in my professional career, my ultimate goals are to become the world and All England champions as well as an Olympic medalist.”

A transition from juniors to seniors

“When I was younger, I tended to get upset when I didn’t perform well on the court. Now that I’m older, I’m able to control my emotions better than before. Whenever I’m at a disadvantage or feeling disheartened during a match, I know that I can snap myself out of it and perform to my usual capability.”

“Whenever I get discouraged, I try to think of my family and my own future. I always tell myself ‘If you want to reach my goals, don’t get distracted. Do your best so that you won't regret it.”



The secret to success 

“Hard work, diligence, and patience.”

“I’ve been training hard six days a week for many years. It doesn’t just help me improve my game, but also improves my overall health and the way I approach each match. I know what to do and what not to do. Everything that I learned from my training has contributed to the success that I have today.”

Photos courtesy of Banthongyord Badminton School