ไม่ใช่เรื่องง่าย กว่าที่สำนัก Thor Chops & Kustoms จะมาเป็น Thor Chops ที่ทุกคนรู้จักในวันนี้ ทุกเรื่องราว ทุกประสบการณ์ที่ผันผ่าน ล้วนเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้ “พี่ต้อ กิติพงษ์ พงษ์ศิวาภัย” เจ้าสำนัก สามารถนำเสนอแนวความคิดในสไตล์ที่เป็นตัวเองอย่างเช่นทุกวันนี้ โดยพี่ต้อเริ่มต้นชีวิตการคัสตอมรถตั้งแต่วัยหนุ่ม ที่ตัวเองได้มีโอกาสไปศึกษาด้านการแต่งรถในต่างประเทศ เริ่มเรียนรู้ ไปฝึกงานจริงๆ ในอู่ทำออฟโร๊ดนามว่า Let’s Go Off Road ราว 2 ปี โดยที่แห่งนี้ เป็นสำนักแต่งที่เจ้าสำนักซึ่งเป็นอาจารย์ของพี่ต้อ ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว ตั้งแต่ซื้อวัตถุดิบ คิดราคา ลงมือทำจากเริ่มจนเป็นรูปเป็นร่าง และส่งมอบรถ ไม่ใช่แค่ซื้อของแต่งมาจับใส่เข้าไป ก่อนที่พี่ต้อจะกลับมาต่อยอดการแต่งออฟโร๊ดในเมืองไทย ในยุคที่ยังไม่มีใครรู้จักรถในแนวนี้ โดยใช้ชื่อว่า Let’s Go Off Road Thailand ทำเอง ปั้นเองคนเดียว ตามรอยอาจารย์ของพี่ต้อนั่นเอง

หลังจากทำออฟโร๊ดไต้ราว 6 ปี พี่ต้อเริ่มแนวคิดที่จะต่อยอดสู่การทำรถแนวโหลดเตี้ย ตัดหลังคาสไตล์ Hot Rod บ้าง ด้วยความที่เห็นว่ารถแนวนี้ กำลังได้รับความนิยมในอเมริกา จึงอยากนำเสนอแนวทางใหม่ๆ ให้นักเล่นในประเทศไทยบ้าง ณ เวลานั้น ส่วนมากจะเป็นปิคอัพในยุค 90 ที่นิยมนำมาจัดทรง ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักเล่นอย่างล้นหลาม ด้วยงบประมาณที่เป็นมิตรกว่าการทำรถในรูปแบบออฟโร๊ด ทำให้กลุ่มคนเข้าถึงได้ง่ายกว่า กระทั่งในยุค 4-5 ปีให้หลัง ที่คนนิยมเล่นรถโหลดเตี้ยกันมากขึ้น จึงเลิกทำออฟโร๊ดไปโดยปริยาย เนื่องจากแนวทางการทำรถ 2 รูปแบบนี้ ค่อนข้างไปด้วยกันได้ยาก ทำให้ Let’s Go Off Road Thailand ต้องแปรสภาพเป็น Thor Chops & Kustoms ในท้ายที่สุด 

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในชีวิตพี่ต้อ หลังจากทำรถกระบะมาพักใหญ่ คือ การที่ไปได้มอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson กลับมาจากอเมริกา ก็คือ การเข้าสู่วงการคัสตอมสองล้อ หลังจากพี่ต้อนำรถที่ผ่านการตกแต่งด้วยตัวเองมาขี่ใช้งาน จนเริ่มมีผู้พบเห็นและเกิดความชื่นชอบ เมื่อคนเหล่านั้นได้เห็นและรู้ว่าพี่ต้อเป็นคนสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ก็เป็นที่มาของการต่อยอดธุรกิจสู่การคัสตอมกระบะและมอเตอร์ไซค์ในท้ายที่สุด แต่ด้วยความที่งานในระยะหลังเริ่มเยอะ จึงต้องตัดสินใจอีกครั้งว่าจะไปในแนวทางไหน คราวนี้พี่ต้อเลือกที่จะเน้นหนักไปที่การคัสตอมมอเตอร์ไซค์ ด้วยความสะดวกเรื่องพื้นที่ เวลาในการสร้างผลงาน และสังคมของชาว Harley-Davidson ที่ใช้เวลาในการออกทริปเพื่อสร้างคอนเน็กชั่นและคอมมูนิตี้ไปในตัว ทำให้เหลือเวลาที่จะมาทำคัสตอมกระบะไม่มากนัก ซึ่งเมื่อไม่สามารถให้เวลากับสิ่งนี้ได้อย่างเต็มที่ ไม่ได้ผลงานที่ตัวเองพอใจที่สุด...ก็เลือกที่จะไม่ทำเสียดีกว่า

สิ่งหนึ่งที่พี่ต้อได้เรียนรู้จากการคัสตอมรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ก็คือ การได้รู้รูปแบบของนิสัยของบุคคลแต่ละรูปแบบ ซึ่งในการแต่งรถแต่ละสไตล์ ผู้ครอบครองรถในรูปแบบนั้นๆ ก็จะมีบุคลิคที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นคนเล่นออฟโร๊ด คนเล่นรถโหลดเตี้ย คนเล่นรถอเมริกัน หรือแม้แต่คนขี่มอเตอร์ไซค์ แน่นอนว่าพี่ต้อมีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะทำรถให้กับคนที่เข้าใจในสไตล์ของพี่ต้อเท่านั้น โดยเฉพาะในเรื่องของระยะเวลาและแนวทางในการคัสตอมของตัวพี่ต้อเอง ด้วยความประณีต พิถีพิถันในทุกองค์ประกอบ เก็บเนียนทุกกระเบียดนิ้ว อาจต้องใช้เวลาในการรอคอย หรือลงทุนกับบางอย่างบ้าง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเราจะได้เห็นผลงานการคัสตอมของ Thor Chops & Kustoms ได้อวดโฉมสู่สายตาผู้คนในเวทีการประกวดระดับประเทศหรือระดับนานาชาติจนได้การยอมรับแบบที่ใครๆ มิอาจปฏิเสธได้

แน่นอนว่าในทุกวันนี้ยังมีลูกค้าที่ให้ความไว้วางในนำรถมาให้พี่ต้อ Thor Chops & Kustoms คัสตอม จัดทรงให้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้ายุคดั้งเดิมที่ถ่ายทอดแนวทางการแต่งรถจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก อันเป็นเครื่องยืนยันถึงความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับพี่ต้ออย่างแท้จริง ซึ่งทางสำนัก Thor Chops & Kustoms ก็ยังคงยืนหยัดในมาตรฐานความประณีต ทำทุกขั้นตอนให้จบภายในร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อตอบแทนความความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้ จึงต้องสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนั้นออกมาอย่างสุดความสามารถ อันเป็นแนวทางที่ Thor Chops & Kustoms ยึดถือมาโดยตลอดร่วม 4 ทศวรรษ

สำหรับใครที่ชอบเสพ ซึมซับผลงานระดับมาสเตอร์พีซ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ด้วยสุดยอดผลงานที่ผ่านการรังสรรค์โดย Thor Chops & Kustoms สามารถติดตามและปรึกษาแนวทางในการคัสตอมได้ที่สตูดิโอ สุขุมวิท 62 หรือทางเว็บไซต์ www.thorchops.com, เฟสบุ๊คแฟนเพจ ThorChopsKustoms และอินสตาแกรม thorchops

ขอบคุณเครดิตภาพจาก ThorChopsKustoms