มากกว่าเรื่องเซ็กส์ มากกว่าแฟชั่น FORFUN is Happiness

ความสุขของคุณคืออะไร? อาจเป็นอาหารจานโปรดสักจาน หนังดีๆ สักเรื่อง หรือ เสื้อผ้าดีๆ สักชุด เพื่อตอบสนองความสุข มันอาจไม่เรียบง่ายและต้องมีออฟชั่นเสริม เพื่อเติมเต็มรสนิยมและความชอบส่วนบุคคล “FORFUN” แบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่เกิดมาเพื่อตอบสนองความต้องการทั้งเรื่องเพศ กิจกรรมทางเพศ และแฟชั่นได้อย่างลงตัว

คุณเอส และ คุณตอง ผู้ก่อตั้งแบรนด์ FORFUN เดิมชื่อ Spandex FORFUN ทั้งสองคิดจะทำเพื่อความสนุกในตอนแรก ทำ ZENTAI ชุดคลุมทั้งตัวแบบไม่เห็นผิวหนัง ถุงมือ ถุงเท้า รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ หน้ากาก จนในที่สุดได้ทำอย่างจริงจัง หาช่างเพื่อตัดชุด รวมไปถึงการหาข้อมูลแบบเจาะลึก เพื่อสร้างเว็บบอร์ดและคอมมูนิตี้โดยทำภายใต้ชื่อ Spandex FORFUN ซึ่งทำมายาวนานกว่า 10 ปี และเปลี่ยนชื่อเป็น FORFUN พร้อมกับ Rebranding เพื่อเดินหน้าทำแบรนด์อย่างเต็มตัวมานานกว่า 4 ปี จุดเด่นของ FORFUN คือ สินค้ามาจากสิ่งที่ชอบ เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มเฉพาะ ตอบสนองกลุ่มที่มีคัลเจอร์รูปแบบนี้ และเป็นเจ้าแรกในเมืองไทยที่นำเสนอคัลเจอร์นี้ให้กับลูกค้า 

ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง

เอส: ถ้ามองภาพรวมในเมืองไทย ผมว่าคนสนใจเยอะ อยากลองเยอะ แต่คนประมาณ 80% จะไม่มีโอกาสที่จะได้ลองหรือสัมผัส ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ยุคสมัยมันเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน คนสมัยเก่าค่อยๆ หายไป คนสมัยใหม่เข้ามาแทนที่ 

ตอง: คนสนใจเยอะขึ้นค่ะ ตองเคยสร้างคลับเฮาส์ (Clubhouse) เพื่อพูดคุยเรื่องพวกนี้ มีคนเข้ามาสอบถามมากขึ้น จะมีกลุ่มคนที่ชื่นชอบ BDSM หรือ Fetish เข้ามาแลกเปลี่ยน คำถามประมาณว่า จะเริ่มเล่นยังไง ซื้อของที่ไหน เล่นยังไงไม่ให้อันตราย เลเวลไหนควรเริ่มต้น หาพาร์ทเนอร์หรือบัดดี้ที่ไหน ปัจจุบันมีคนสนใจเข้ามาเรียน และเล่นกันมากขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย แต่เขาเปิดใจยอมรับมากขึ้น เมืองไทยเริ่มมีการรับรู้จากต่างชาติมากยิ่งขึ้น 

ความสุขจากการสวมใส่...วัดเป็นปริมาณไม่ได้

เอส: เราตอบไม่ได้ว่าเขาใส่แล้วมีความสุขแค่ไหน แต่เรารู้ว่าคนต้องการอะไร คุณอยากเป็นหมา เราก็ดูว่าชุดแบบไหนที่เขาใส่แล้วจะออกมาน่ารัก รวมถึงชุดลาเท็กซ์ ชุดรัดรูป เราจะทำยังไงให้ออกมาใส่พอดีและสบาย ใสได้นานและทนทาน มันคือโจทย์ สิ่งที่เราทำออกไปเรารู้ว่า คนที่มาหาเราต้องการอะไร เราก็จัดให้ตามความต้องการได้ เมื่อเขามาหาแล้วต้องการอะไรและได้สิ่งที่เขาต้องการไป อย่างน้อยเขาก็แฮปปี้แล้ว ส่วนเรื่องหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องที่เขาต้องไปค้นหาต่อ

FORFUN แฟชั่นสำหรับรสนิยมเฉพาะกลุ่ม

เอส: จริงๆ เสื้อผ้าในแนวที่ FORFUN ทำ ผมจะมีไอเดียอยู่อย่างหนึ่งว่า มันเหมือนอาหารที่เรากินแล้วอิ่ม ใส่เสื้อผ้าพวกนี้ลองใส่แล้วสนุก มันตอบสนองทางอารมณ์ทำให้คุณแฮปปี้ ชีวิตก็ดี ทำอะไรก็มีความสุข 

ตอง: ด้วยความที่เป็นงานแฮนด์เมด จึงเป็นเรื่องของระยะเวลาในการผลิตงานให้ลูกค้ามากกว่า ลูกค้าจะต้องรอคอยด้วยระยะเวลาในการผลิตประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับแบบ แพทเทิร์น ความยากง่าย รวมถึงการคิดงานใหม่ๆ เพื่อนำเสนอให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ไอเดียที่ต้องคิดคอลเลคชันใหม่ๆ จะเกี่ยวกับ Fetish เลย ตอบสนองความเป็น BDSM โดยเฉพาะ

ยินยอม ปลอดภัย และสร้างข้อตกลงร่วมกัน

ตอง: อย่าเอาหนัง AV มาเป็นตัวตัดสินว่า ทุกคนที่ชอบ Fetish หรือ BDSM ต้องเหมือนในหนังพวกนั้น เพราะ Fetish หรือ BDSM มีเรื่องความปลอดภัย การพูดคุย ความเข้าใจ มีสติในการที่จะ ROLE PLAY ไม่สามารถบังคับ ขมขู่ หรือทำให้เขาเจ็บปวด โดยที่ไม่ได้รับการยินยอม เพราะคนที่จะมาเล่นต้องมีความยินยอมระหว่างกัน แม้กระทั่งว่าเขาเป็นคู่นอนหรือสามีภรรยาของคุณ ถ้าคุณจะมัดเขาโดยที่เขาไม่ยินยอมอันนี้ผิดแล้ว หลายคนชอบเอาสื่อบันเทิงต่างๆ มาเทียบว่า ต้องรุนแรง มีตบ มีมัด ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่เลย จึงจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจ และควรหาข้อมูลแลหลักการที่ถูกต้อง สร้างจุดหมายปลายทางร่วมกัน

เอส: ส่วนมากลูกค้าที่มาจะจูงมือกันมา อาจจะชอบทั้งสองคน หรือ คนหนึ่งชอบอีกคนไม่ชอบ แต่สุดท้ายก็จูงมือกันมาและเลือกไอเทมไป คนที่ไม่รู้เรื่องพอมาตอนแรกก็จะเขินๆ เพราะมันเป็นเรื่องแปลกใหม่และเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเขา 

ตอง: เลือกในสิ่งที่เขายินยอมระหว่างกัน เราไม่ค่อยเจอปัญหาฝั่งหนึ่งชอบอีกฝั่งไม่ชอบ คนที่เข้ามาจะต้องมีความยินยอม และพร้อมที่จะเรียนรู้ มีระดับความคิด ฉันจะทำอะไรก็ตามจะคำนึงถึงความปลอดภัยและมีสติ ถ้าเกิดความเจ็บปวดแล้วอีกฝ่ายไม่โอเค เราจะต้องช่วยเหลือเขาได้ 

“ระหว่างที่เล่น Fetish หรือ BDSM ด้วยกัน
การที่คุณใช้คำว่า ไม่ ไม่เอา ไม่ได้ มันยิ่งเป็นการกระตุ้น
มันก็ต้องมาเรียนรู้ ที่ควรจะมีรหัสระหว่างกัน”

Fetish หรือ BDSM ไม่ใช่เรื่องโรคจิต

ตอง: เราต้องสื่อสารให้เขาเห็นภาพความเป็นจริง ทุกคนมีความเป็น Fetish อยู่ในตัว มีรสนิยมทางเพศที่ไม่ใช่แค่ถอดเสื้อผ้าแล้วมีอะไรกัน คุณไม่ได้เป็นวนิลาเซ็กส์ทุกคนหรอก คุณยังชอบให้คู่คุณใส่ชุดชั้นในลูกไม้ก่อนที่จะมีอะไรกัน อันนี้เป็น Fetish อย่างหนึ่ง ผู้หญิงบางคนใส่ส้นสูงสวยๆ เห็นแล้วเกิดอารมณ์ก็เป็นเช่นเดียวกัน การอยากให้คู่ของคุณใส่ชุดนักเรียนก็ใช่ ซึ่งอาจมีเรื่องความเจ็บปวดเข้ามา แต่เป็นความเจ็บปวดบนความสุขที่เกิดจากความยินยอมของทั้งสองฝ่าย  

ปัจจุบันคนเริ่มเรียนรู้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นหลักของการเล่น BDSM หรือ Fetish ก็ตาม จึงทำให้เกิดคอมมูนิตี้ การพูดคุย กับคนที่ชอบรูปแบบการเล่นแบบนี้ พอรวมถึงเรื่องทางการแพทย์ คนที่มีรสนิยมชอบเรื่อง Fetish หรือ BDSM ไม่ใช่ความผิดปกติของโรคจิตแล้ว เลยทำให้คนกล้าที่จะเรียนรู้และทดลอง

ขัดต่อศีลธรรม?

เอส: เขาไม่ได้แต่งในที่สาธารณะ เขาแต่งส่วนบุคคลและเป็นที่เฉพาะ ถ้ายั่วยุมันต้องใส่ไปเดินตามท้องถนน ผมมองว่าไลฟ์สไตล์ของคนที่ชื่อชอบ Fetish เขาอยู่ในพื้นที่ของตนเอง เพราะในชุมชน Fetish เขาจะรับรู้และระวังเรื่องสิทธิ์สาธารณะมาก เพราะการแต่งตัวโป๊ในที่สาธารณะคือการไปกระทบสิทธิ์ของบุคคลอื่น คนที่เขามาเห็น บางคนอาจเฉยๆ อาจรำคาญสายตา เรื่องความล่อแหลม บางคนไม่ได้แต่งตัวโป๊แต่ก็ถูกข่มขืน ต้นเหตุและปัญหาของการละเมิดทางเพศมันมาจากเรื่องอื่น

FORFUN ช่วยเพิ่มสีสันให้ความสัมพันธ์

ตอง: พอมีองค์ประกอบอะไรมากขึ้น ก่อนที่จะมีเซ็กส์ หรือระหว่างที่มีเซ็กส์ มันก็เป็นการชูรักชูรสแบบหนึ่ง สำหรับใครหลายๆ คน มันเป็นเรื่องของความตื่นเต้น ที่ทำให้ไม่น่าเบื่อ การที่คุณมีคู่ของคุณแค่คนเดียว แล้วหาทางเลือกเสริมก่อนมีเซ็กส์หรือในระหว่างที่มีเซ็กส์ นอกเหนือจากการแก้ผ้าและมีอะไรกัน หรือให้คนรักหรือคู่ของคุณไปแก้ผ้าแล้วมีอะไรกับคนอื่น คุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน

“ลูกค้าหลายคนจะเขินอาย เราก็จะพูดคุยกับเขา ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็ตาม มันทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าคุณสนใจในความรู้สึกของเขา และอยากเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน”

เซ็กส์ในมุมมองที่อยากพูดถึง

ตอง: เราควรจะให้ทุกคนรู้สิทธิ์ของตัวเอง การปฏิเสธเซ็กส์ที่ไม่ถูกต้อง ไม่สนับสนุนเซ็กส์ที่ไม่ยินยอมพร้อมใจ เวลาเกิดเหตุข่มขืน หรือถูกกระทำชำเรา เราไม่ได้มองเลยว่า ทำไมเขาถึงไม่มีโอกาสที่จะปฏิเสธ ที่ไม่ให้ตัวเองถูกกระทำแบบนั้น เราควรสอนเด็กที่เริ่มเรียนรู้สิทธิ์ของร่างกายตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่ชอบคนๆ นี้ ที่เขาเอามือมาแตะร่างกายเรา การที่เราปฏิเสธไม่ใช่ความก้าวร้าวควบคู่ไปกับการเรียนรู้เรื่องเซ็กส์ที่ปลอดภัย 

FORFUN ขอเป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนความคิด

เอส: ทุกคนมีไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตอบสนองความสุขของตัวเอง แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น คนรุ่นใหม่เขาจะรับรู้ในเรื่องไลฟ์สไตล์พวกนี้ดีกว่าคนรุ่นเก่า ผมเลยมองว่า สิ่งที่ FORFUN ทำ มันก็เป็นร้านเสื้อผ้าที่แปลกกว่าชาวบ้านหน่อย แต่เรามีจุดยืนชัดเจน และรับผิดชอบในสังคมโดยไม่ทำอะไรเกินขอบเขตที่สังคมไทยจะยอมรับ 

ตอง: FORFUN เป็นแบรนด์คนไทย ทำขายคนไทยแล้วส่งออกต่างประเทศ มันเลยเป็นความแปลกใหม่ว่า ประเทศไทยยอมรับเรื่องพวกนี้แล้วเหรอ ตอนเราทำช่วงทุกคนจะมองว่าเราคือ Sex Shop แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เลย เราคือแบรนด์ที่ทำเสื้อผ้าและอุปกรณ์ เพื่อตอบสนองรสนิยมของคนที่ชอบแบบนี้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องนอนหรือเรื่องของเซ็กส์เสมอ พอมีอินฟูเลนเซอร์ ดารา หรือหลายๆ คนเอาไปใส่ มันทำให้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่แต่งได้ เราเหมือนเปิดใจให้คนไทยรับรู้ว่า FORFUN คือแบรนด์คนไทยที่ทำสินค้าประเภทนี้แล้วทั่วโลกก็ยอมรับ 

ภาพของ FORFUN ในอนาคต

เอส: นอกจากเสื้อผ้า เรายังสร้างคอมมูนิตี้ มีโซเชี่ยลไนท์ที่ร้านทุกเดือน เพื่อเป็นพื้นที่ของคนที่ชอบไลฟ์สไตล์นี้ ได้มาแฮงเอาท์ พูดคุย มาร่วมงาน โดยใส่ตาม dress code และต้องไม่โป๊เปลือย ที่คิดไว้ในอนาคตคือ เราจะทำสถานที่แนวนี้โดยเฉพาะ เป็นผับ เป็นเพลย์รูมให้เช่า

ตอง: สินค้าที่เป็นไอเดียจะออกใหม่ทุกเดือน และมีสินค้าที่เป็นคอลเลคชันหลักโดยปีปรับตามเทรนด์และไฮไลท์ของปีนั้นๆ เรามีลูกค้า 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มที่เป็นห้องนอนกับแฟชั่น ในอนาคตอยากทำแฟชั่นโชว์ ถ้าประเทศเปิดจะเชิญคนจากประเทศต่างๆ มาบ้านเรา จะได้ช่วยส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว และให้เขาเข้ามาดูแฟชั่นของเราในมุมของเขาเป็นยังไง อยากให้เป็นอีเวนท์ประจำทุกปี

ติดตามร้านและอัพเดตคอลเลคชั่นได้ที่ FORFUN