เราจะมีกัญและกัญตลอดไปกับ “กัญชาชน”

“เราเคลื่อนไหวเพื่อให้กัญชาถูกกฎหมายในประเทศไทย เราอยากให้ประเทศไทยได้ใช้ประโยชน์จากพืชกัญชาและพืชเสพติดอื่นๆ ให้มีประโยชน์อย่างสูงสุดและปลอดภัย”

อุดมการณ์และเจตนารมณ์อันหนักแน่นของเพจ “กัญชาชน” ที่ต้องการจะผลักดันและขับเคลื่อนให้กัญชามีคุณค่าและเป็นมากกว่ายาเสพติดอย่างที่คนส่วนใหญ่ชอบคิดและมองว่ามันก็แค่นั้น! เราจะมีกัญและกัญ เพื่อการสันทนาการ เพื่อการแพทย์ หรือเพื่ออุตสาหกรรมอื่นๆ ให้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทยได้จริงหรือไม่? วัฒน์ – ชัยวัฒน์ บานใจ แอดมินเพจกัญชาชน หรือกลุ่ม Highland จะมาบอกเล่า ชี้แจง แถลงไขเรื่องราวเหล่านี้ให้เราฟัง

เพจกัญชาชน ก่อตั้งโดย ไกด์ – รัฐพล แสนรักษ์ จากการนำประสบการณ์ที่เรียนจากสหรัฐอเมริกา เพื่อค้นคว้าการรักษาทางเลือกโดยใช้กัญชา และนำมารักษาคุณแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งอย่างมีความหวัง เพราะที่นั่นให้การยอมรับการรักษาทางเลือกนี้ แต่คุณแม่ของคุณไกด์กลับปฏิเสธการรักษาด้วยวิธีนี้ ด้วยความที่ถูกสังคมและถูกปลูกฝังว่า “กัญชาเป็นสิ่งไม่ดี” เขาจึงทำเพจนี้อย่างจริงจังเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติเหล่านั้นทันที และได้คุณวัฒน์เข้ามาช่วยทำเพจช่วงจัดงานวันกัญชาโลก Highland 420 ครั้งแรก จนกลายเป็นแอดมินและร่วมทำเพจมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 8 ปี

“บ้าหรือเปล่า อยู่ดีๆ มาเชียร์ให้ใช้กัญชา มันผิดกฎหมายนะ เป็นยาเสพติดนะ ไม่ดีต่อร่างกายนะ กลายเป็นถูกมองว่าพวกเราขี้ยา” 

ทำไมต้อง “กัญชาชน”

“ตอนเริ่มทำเพจประมาณ 2 ปี เวลาพูดข้อดีของกัญชาเราโดนด่าโดนประนามเยอะมาก มันมีอยู่ 2 กระแสคือ เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ไม่เห็นด้วยเป็นกระแสที่ใหญ่กว่า แต่ก็ไม่ผิดที่ถูกปลูกฝังและมองกัญชาในด้านลบมา 30-40 ปี แล้วอยู่ๆ มีคนบอกว่า มันดีนะ เราเลยเริ่มจากการตั้งคำถามอย่างเรื่องการไล่จับยาเสพติดในสังคมไทยที่เมืองนอกเขาไม่เอาโทษคนเสพ แต่เอากัญชามาใช้ทางการแพทย์ เราแค่อยากเสนอว่า ถ้าทางเก่าๆ มันไม่เวิร์ค ลองวิธีการหรือกระบวนการใหม่ๆ ไหม เพราะการทำเหมือนเดิมตลอดและคาดหวังผลที่จะเปลี่ยนไป ผมว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าเราไม่เปลี่ยนต้นเหตุ” 

คุณวัฒน์ยังเสริมด้วยว่า กว่าจะพิสูจน์ตัวเพจได้ ต้องใช้เวลานานกว่า 4 ปีในการยอมรับเรื่องนี้ จากการจัดงาน Highland 420 ที่ได้เชิญตำรวจ นักกฎหมาย นักวิเคราะห์มาคุยแลสัมนาเรื่องนี้ งานครั้งที่ 2-3 เริ่มมีผลตอบรับที่ดี จนมีเพจกัญชางอกเงยออกมาหลายเพจ 

“กัญชาคือพืชชนิดหนึ่ง มีทั้งประโยชน์และโทษ แต่ทำไมคุณเห็นแง่ลบของกัญชาแล้วตั้งกฎโดยมองข้ามประโยชน์ของมัน อันไหนไม่ดีก็ควรให้การศึกษาว่า คุณจะใช้ยังไงให้ปลอดภัย”

“เพจกัญชาชนต้องการให้ความรู้กับคน ช่วงแรกที่ทำเราจะนำบทความต่างประเทศมาแปลเป็นภาษาไทยให้คนอ่านก่อน เพราะในเมืองนอกเรื่อง Medical Cannabis หรือเรื่องกัญชาเพื่อสันทนาการ เขาล้ำหน้าเราไปไกลมาก เขามีการสัมนา นิทรรศการ งานอุตสาหกรรมแบบจริงจัง ไม่ว่าการปลูก การสกัด เราจะนำทุกมิติเรื่องการใช้ประโยชน์ของกัญชา มาเปิดหูเปิดตาและเปิดมุมมองในไทย เพราะในเมืองนอกเรื่องนี้มีทั้งประโยชน์และรายได้อยู่ในนั้น เราเลือกเล่าภาพระดับโลกให้ทุกคนเห็นก่อน ยุคหลังของกัญชาชน มิติเรื่องการคุยเรื่องกัญชาในเมืองไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี เลยเริ่มโฟกัสอุตสาหกรรมกัญชาในเมืองไทย เริ่มพูดถึงกัญชาในไทยมากขึ้น” 

นอกจากนี้ ทีมกัญชาชนได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ใน “คณะกรรมาธิการพิจารณาการศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างเป็นระบบ” เพื่อศึกษาการใช้ประโยชน์พืชกัญชา กัญชง และกระท่อม (โดยคุณวัฒน์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการการใช้กัญชา) เพื่อหาข้อมูลในการแก้ไขกฎหมายและปัญหากัญชา กัญชง และกระท่อม ซึ่งหลังจากได้ดำเนินการส่งผลให้กัญชาเดินหน้าได้ไกลและรวดเร็ว 

กัญชาไม่ใช่สิ่งแปลกปลอมและไม่ทำให้ตาย!

“ฤทธิ์ของกัญชาที่เป็นปัญหาและคนในสังคมไม่ชอบคือ ‘high’ ซึ่งไม่เหมือนอาการเมาเหล้า ทำให้ตัวเบา โล่ง ผ่อนคลาย อยากนอน คือเอฟเฟคที่บางคนพอเจออาจตกใจ บางทีอาจทำให้ใจสั่นได้ ความดันโลหิตสูง แต่ถามว่า high กัญชาทำให้เราตายได้ไหม? มีการทดลองออกมาแล้วว่า เราต้องใช้กัญชา 400 กว่ากิโลกรัมภายใน 15 นาที จึงทำให้เสียชีวิตได้ ซึ่งในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ แค่หลุมสองหลุมเราก็เมาจะตายแล้ว นอกจากนี้ร่างกายยังสามารถผลิตสารที่มีในกัญชาได้เอง เรียกว่า ‘Endocannabinoid’ สารที่อยู่ในกัญชาไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม เพราะร่างกายสามารถจัดการได้ “

“ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้าสู่ระบบสาธารณสุขได้ คนที่อยู่พื้นที่ทุรกันดาร การไปโรงพยาบาลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันไม่ดีกว่าเหรอที่เขาสามารถปลูกพืชเพื่อเยียวยารักษาตัวเองได้” 

กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

“เราผลักดันโดยนำเสนอเรื่องราวของ Medical Cannabis ในต่างประเทศและการใช้ในต่างประเทศว่าเป็นอย่างไร จนเกิดการแชร์และเผยแพร่ ทำให้คณะเภสัชฯ จุฬาฯ เห็นประโยชน์การใช้พืชเสพติดทุกชนิด เลยได้ไปร่วมงานสัมนาที่เขาจัด เราได้ลุยจริงๆ โดยเข้าไปอยู่ในคณะกรรมาธิการ กัญชา กัญชง กระท่อม ในทุกมิติ และมิติทางการแพทย์ โดยเชิญหมอ บุคคลที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่เคยใช้กัญชาในการรักษาแล้วเห็นผลจริง เข้ามาคุยและให้ข้อมูล รวมทั้งเพจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา เพื่อลิงค์ข้อมูลและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน”

“ทำไมรัฐต้องยัดเยียดความห่วงใยที่เกินเบอร์แบบนี้มาให้เรา แทนที่จะมาลุ้นว่าเป็นช่องทางการรักษาใหม่ๆ “

กัญชาเพื่อการแพทย์ในต่างประเทศเป็นเรื่องง่าย!

“อเมริกาเปิดโอกาสในการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์และเข้าถึงง่ายกว่าเมืองไทย เพื่อนผมไปอเมริกามีอาการปวดหลังเรื้อรัง เข้าไปหาหมอที่คลินิก หมอถามว่าคุณสูบกัญชาหรือเปล่า เพราะมันเป็นช้อยส์ในการรักษา แล้วเขาก็จ่ายยาเป็นดอกกัญชามาให้สูบ หรือแค่ไปเที่ยวที่นั่นแล้วทำบัตรผู้ป่วยขอใช้กัญชาทางการแพทย์ เขาก็ได้บัตรวันนั้นและไปซื้อกัญชาได้ทันที ในขณะที่บ้านเรา คนจะใช้น้ำมันกัญชาสักขวดไม่รู้กี่ขั้นตอน ต้องอยู่ใน 4 กลุ่มโรคเสี่ยง และต้องรักษาจนไม่มีทางอื่นๆ และใช้เป็นทางเลือกสุดท้าย ทำไมกฎหมายต้องออกมาคุมตรงนี้ เพราะมันไม่ใช่ตัวเลือกสุดท้าย มันคือทางเลือกแรกๆ” 

กัญชาไม่ควรผิดกฎหมาย!

“ทุกส่วนของกัญชาไม่ควรผิดกฎหมาย เราไปเขียนให้มันผิดเอง ไม่เกี่ยวกับตัวกัญชาแต่อยู่ที่คนใช้ ทำไมเราออกกฎหมายไปล็อกมันล่ะ มันไม่ควรเป็นอย่างนั้นตั้งแต่ต้น เมื่อก่อนถ้านักวิจัยคนไหนเอากัญชาไปวิจัยก็จะไม่ผ่านเรื่องจริยธรรม 40 ปีที่ผ่านมาเลยไม่ได้ทำการวิจัยเพราะมัวแต่ทะเลาะกัน แทนที่จะศึกษาข้อดีข้อเสีย กลายเป็นเมืองนอกเอากัญชาไทย เอาข้อมูลไปวิจัยต่อ เจอข้อดีข้อเสียต่างๆ มากมาย ทำไมเราไม่คิดใหม่ ไม่ตั้งคำถามใหม่ๆ เพราะภาครัฐยังไม่เปิดโอกาสให้เรา ค่อนข้างเสียใจและบางทีก็ออกไปทางเกรี้ยวกราด” 

“สิ่งที่เราต้องการผลักดันให้กัญชาเพื่อสันทนาการ ไม่ได้หมายความว่าต้องเสรี คำว่าสันทนาการอาจมีระเบียบบางอย่างควบคุมอยู่ได้ เพื่อให้สังคมปลอดภัยกับผู้ใช้เองและผู้อื่นด้วย”

กัญชาเพื่อการสันทนาการ

“บ้านเราไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องการสันทนาการ และมองว่าเป็นสิ่งไม่ดี ไร้ประโยชน์ สังคมเราปลูกฝังว่าต้องทำงานหนัก ขนาดเครื่องจักรเราต้องหยุดพักเครื่องเลย แล้วเราเป็นมนุษย์แท้ๆ เนื้อล้วนๆ ถ้าไม่พักผ่อนก็มีผลกระทบกับร่างกาย สันทนาการจึงเป็นการรักษาสุขภาพรูปแบบหนึ่ง มันคืออีกมิติของการรักษาสุขภาพ คือการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นและไม่ให้ปัญหาสุขภาพลุกลามบานปลาย เพราะฤทธิ์ของกัญชาทำให้ผ่อนคลาย คลายความเครียด ความกังวล ทำงานมาเหนื่อยๆ เครียดกับงาน ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการตอนเย็นและหลับไป ตื่นเช้ามาก็สามารถทำงานสู้ชีวิตได้ มันสร้างปัญหาและความเดือดร้อนตรงไหน? เมื่อเราใช้ในพื้นที่และขอบเขตของเรา”

แต่กัญชาได้รับการยอมรับที่ดีขึ้น

“มี 100% ให้ 50% เพราะยังมีแรงต้าน แต่ถือว่าดีกว่าแต่ก่อนมาก แต่ไม่ผิดที่เขาจะต่อต้าน เพราะกัญชาอาจจะเหมาะกับเราใช้แล้วแฮปปี้ แต่คนอื่นอาจไม่เป็นแบบเรา ให้คนในสังคมไปทดลองและคิดเอาเองว่า มันเหมาะกับเราหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเราเชียร์กัญชาและต้องบังคับให้คนอื่นมาชอบเหมือนเราเพราะเราเข้าใจ เรากลัวที่จะทดลองของใหม่ จึงหาเหตุผลเพื่อซัพพอร์ตความกลัวของตัวเอง ทำให้ถูกได้เลยไม่ต้องรอให้พร้อม เพราะความพร้อมไม่มีอยู่จริง  นโยบายสันทนาการกัญชามันเริ่มได้เลย อะไรไม่ดีก็ปรับปรุง เพราะเราเป็นคนเขียนกฎหมายขึ้นมาเอง คุณรอและกลัวอะไร รอจนคนอื่นเขาแซงเราไปหมดแล้ว” 

กัญชาในต่างแดน

“แคนนาดาถูกกฎหมาย 100% แต่กระทบกฎของ UN ที่ขมวดเรื่องยาเสพติดที่ห้ามค้าขายและห้ามยุ่งเกี่ยว แต่บ้านเขาแหกกฎและกลายเป็นเป้าโจมตีของ UN และ UN อาจจะไม่ขายมอร์ฟีนให้เขา เมืองไทยก็กลัวจะตามรอยแคนนาดา  ‘เนเธอร์แลนด์’ มีแนวคิดล้ำสมัยเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถใช้กัญชาและยาเสพติดชนิดอื่นๆ ในร้านกาแฟได้ ซึ่งยุโรปจะมีห้องใช้ยา เป็นห้องสาธารณะตามเทศบาลที่รัฐให้บริการในปริมาณที่พอเหมาะ โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดูแล ‘โปรตุเกส’ ไม่เอาผิดผู้เสพยาเสพติดทุกชนิด เพราะเขาโฟกัสที่ผู้ค้า ที่อาจเป็นอาชญากรและก่อให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรงได้ ซึ่งก่อนหน้าออกนโยบายนี้เขามีปัญหายาเสพติดมากที่สุดในยุโรป พอเวลาผ่านไปปัญหายาเสพติดโปรตุเกสลดลงและเหลือน้อยที่สุดในแถบยุโรป แต่บ้านเราคาดหวังผลลัพธ์ใหม่ๆ จากวิธีการเดิมๆ มันจะเป็นไปได้ยังไง” 

Highland Cafe

“ทำมาประมาณ 2-3 ปีแล้วครับ เกิดจากเพจกัญชาชนของเราที่รู้สึกว่ามันมีแต่ในโลกออนไลน์และอยากผลักดันประเด็นของกัญชาให้ออกมาสู่โลกความเป็นจริง เลยสร้างคอมมูนิตี้นี้ขึ้นมา เห็นต่างประเทศเขามีคอฟฟี่กัญชา เราก็อยากให้มีแบบนั้นในประเทศไทย เราเลยลงขันเปิดร้านซึ่งมันก็เกิดขึ้นตามที่เราต้องการ เพราะลูกค้ามานั่งจิบกาแฟ คราฟเบียร์ และคุยเรื่องนี้จนกลายเป็นวัฒนธรรม ทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จัก ฟีลเหมือนบาร์ฝรั่งที่สามารถคุยกับคนแปลกหน้าได้ แลกเปลี่ยนความคิดมันเป็นอะไรที่ดีมาก ใครอยากได้เรื่องกัญชาเขาจะมาหาเรา”

ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และกัญชา

“นี่แค่บันไดขั้นที่ 1 มันยังไม่ถึงขั้นที่ 10 มันโตกว่านี้ เพราะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่มกัญชาอีกเป็นร้อยเป็นพัน ยังไม่รวมโปรดักส์สันทนาการที่จะออกมาอีกหลายตัว ทั้งอุปกรณ์การใช้ การพัฒนาสายพันธุ์ การใช้เพื่อรักษาโรคในแต่ละสายพันธุ์ ยังไม่รวมการท่องเที่ยว และถ้าทำสปากัญชาได้มันก็จะดึงดูดการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก เพราะสปาไทยเราดัง สมมติว่าเลือกจังหวัดที่ยากจนที่สุดใช้กัญชาเพื่อการท่องเที่ยว คุณลองคิดดูว่าเงินหมุนเวียนเท่าไหร่ มันจะต่อยอดอีกหลายอุตสาหกรรม ถ้าไม่เปิดแล้วประเทศเพื่อนบ้านเปิด ทุกคนบินข้ามหัวเราไปหมดเลยนะ”

กัญชาอีก 5 ปีข้างหน้า?

“ปีสองปีนี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของกัญชาที่ใหญ่ เพราะกฎหมายออกมาว่าให้ปลูกได้แล้ว แต่ต้องร่วมมือกับรัฐในช่วง 5 ปีแรก หลังจากครบ 5 ปีสามารถปลูกได้โดยไม่ต้องผ่านรัฐ แล้วร่างกฎหมายกัญชาใหม่เพิ่งออกมาและกำลังจะประกาศราชกิจจา จะทำให้ประชาชนนำเข้าหรือครอบครองกัญชาได้ง่ายขึ้น ส่วนอุตสาหกรรมกัญชาก็จะพุ่งทะยานขึ้นไปอีก ถ้ามันเกิดสเตปนี้ขึ้นมา ทำให้ไปข้างหน้าเร็วกว่าเดิม ณ ตอนนี้เรายังมีปัญหาเรื่อง ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ต้นน้ำคือเกษตรกร กลางน้ำคือแปรรูป ปลายน้ำคือโปรดักส์ แต่ปัญหาคือ เราไม่มีปลายน้ำที่มีประสิทธิภาพ เพราะเกษตรกรต้องปลูกกัญชาส่งให้หน่วยงานรัฐไปสกัดทำยา ทำให้โปรดักส์ถูกล็อกว่าต้องเป็นยาอย่างเดียว และไม่เกิดโปรดักส์อื่นอุตสาหกรรมจึงไม่เกิด ปลูกขายไม่ได้ราคาเพราะต่อยอดไม่ได้ อีกอย่างคือผมเชื่อว่าสันทนาการมาได้ แต่ต้องเสียดสีสังคมให้แรงกว่านี้ ตอนนี้กัญชาทางการแพทย์สังคมยอมรับแล้ว แต่สันทนาการสังคมยังไม่ยอมรับ ทั้งๆ ที่ 2 อย่างนี้คือเรื่องเดียวกันและแยกออกจากกันไม่ได้ เพราะถ้าสันทนาการไม่เกิดอุตสาหกรรมก็ไม่เกิดเช่นกัน” 

ส่วนแพลนของ Highland Cafe มีสาขาเพิ่มแน่ๆ ถ้าไม่ติดโควิด สาขาสองริมทะเลเกิดขึ้นแล้ว ส่วนสาขา 3 เป็นสิ่งที่ทางทีม Highland ภูมิใจนำเสนอ เพราะสามารถนั่งกินข้าวใต้ต้นกัญชาได้! ซึ่งอยู่ในช่วงเตรียมโปรเจกชิ้นนี้กับทีมงาน ส่วนเพจกัญชาชนก็ยังคงมีและดำเนินต่อไปโดยจะเน้นการมีส่วนร่วมกับเพจกัญชาอื่นๆ มากยิ่งขึ้น เพื่อทำกิจกรรมและรนวงการกัญชาให้เดินหน้าต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

“เราแค่อยากให้สังคมเลิกตรีตรากัญชา เราอยากให้สังคมเข้าใจว่าเราคือคนปกติ และกัญชาคือพืชปกติทั่วไป เราอยากให้กัญชาอยู่ในสถานะปกติของความเป็นพืช และมนุษย์สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้เท่านั้นเอง”

ติดตามและอัพเดทเรื่องราวเกี่ยวกับกัญชาได้ที่ กัญชาชน, Highland Café