เป็นธรรมดาที่ เทรนด์ กระแส วัฒนธรรม แฟชั่น และดนตรี ที่ถูกผลิตออกมาจากฝั่งของในเมืองนั้น ย่อมจะได้รับการตอบรับที่ดี เป็นที่ยอมรับ หรือจะเรียกง่ายๆ ว่ามีความเป็นสากลและฮิตติดหู มากกว่าฝั่งที่มาจากทางชนบทหรือเทรนด์จากลูกทุ่ง 

แต่ในหลายครั้งที่วัฒนธรรมลูกทุ่งหรือความเป็นชนบท ความบ้านๆ ก็ผงาดขึ้นมากลายเป็นผู้นำได้ หรือแม้แต่หลอมรวมเข้ากับเทรนด์กระแสหลักจนได้รับการยอมรับและมีพื้นที่ยืนได้อย่างกลมกลืน สำรวจเทรด์ฮิตแบบป่าล้อมเมือง ประกาศศักดาความลูกทุ่งก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน 

Rap-Country Crossover

ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปี ที่แล้ววัฒนธรรมฮิปฮอปกลับมาเข้าสู่ยุคทองอีกครั้ง แรปเปอร์หลายคนแจ้งเกิดพร้อมกันในยุคนี้ Lil Nas X ก็เป็นหนึ่งในนั้น กับที่สุดของความขบถ ฉีกทุกหน้าของไบเบิ้ลสำหรับแร็ปเปอร์ ในที่นี้รวมไปถึงแนวคิดการผลิตผลงานเพลงด้วย เขาหยิบแนว Country Rap ที่หายไปนานขึ้นมาปัดฝุ่น และได้เลือก Billy Ray Cyrus ศิลปินรุ่นใหญ่ฝั่งลูกทุ่ง มาดูแลส่วนของคันทรี่ในเพลงนี้ Billy ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเลย ด้วยกีต้าร์เพียงตัวเดียว พร้อมเสียงแหบเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานแร็ปได้อย่างลงตัว ถ้าเป็นเพลงไทยเรียกง่ายก็เหมือนเอาแร็ปมาผสมกับลูกทุ่งนี่ล่ะ แน่นนอนว่าเพลงนี้ดังเป็นพลุ คว้ารางวัลใหญ่ประจำปีอย่าง Grammy, AMA, MTV และอีกมากมาย โกยเงินจน Lil Nas สามารถเซอร์ไพรส์ Billy ด้วยรถ Maserati ของจริง ฉลองความสำเร็จซะเลย

Tiktok จาก Application ตลาดรอง สู่สมรภูมิแห่งไอเดีย 

ยังจำได้ว่าผู้เขียนดาว์นโหลด Tiktok แก้เบื่อระหว่างทางขับรถไปภาคเหนือกับเพื่อนๆ แต่ก็ลบทิ้งไปเพราะคอนเทนต์ภายในแอพฯ ยังไม่มีไม่เยอะและไม่น่าสนใจขนาดนั้น ผ่านมา 4 ปี กลับกลายเป็นว่าชุมชน Tiktok เติบโตและได้รับความนิยมในต่างจังหวัดเป็นอย่างมาก ในทางเดียวกันส่วนของคอนเทนต์ก็เข้มแข็งขึ้นด้วยปริมาณ คุณภาพ และลูกเล่น ประจวบกับการระบาดของโควิด -19 ก็ยิ่งทำให้ Tiktok ได้รับความนิยมขึ้นมาในช่วงไม่กี่เดือน จากแอพตลาดรองที่นิยมกันในต่างจังหวัด ถูกคนกรุงฯเข้ายึดหัวหาดครองหน้าฟีด พลิกสู่สมรภูมิไอเดียที่แข่งขันกันอย่างดุเดือน แม้แต่แบรนด์ใหญ่ก็ยังกระโดดเข้ามาเล่น ทำเอาคนกรุงฯหลายคนต้องกลืนน้ำลายที่เคยปรามาศกลับมาโหลดแอพนี้กันอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

Countryside Chic 

อีกหนึ่งโชว์สุดไอคอนนิกของ Chanel ในยุคของ Karl lagerfeld กับคอลเล็กชั่น Chanel Spring 2010 ที่ป๋าคาร์ลหยิบเอาแรงบันดาลใจจากสาวน้อยบ้านนา พร้อมเล่นใหญ่เล่นโตตามประสา ยกโรงนามาวางไว้ที่ Grand Palais พร้อมกองฟางที่มองยังไงก็เป็นซีนในมนต์รักทรานซิสเตอร์ได้แน่นอน สำหรับคอลเล็กชั่นนี้คาร์ลน่าจะอยากให้มีความสนุก สดใสในแบบสาวบ้านนา (ที่ยุ้งฉางตั้งอยู่ใน Grand Palais นะ) กับการเลือกหยิบสีเบจ สีงาช้าง และสีดำ เล่นเลเยอร์ของชุดด้วยเนื้อผ้าหนา บาง อย่างลูกไม้และชีฟอง และที่ขาดไม่ได้สูทผ้าทวีต ภาพรวมอาจจะต้องบอกว่าความพยายามเด็กลงของคาร์ลอาจจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ด้วยการวางผ้า เนื้อผ้า และลวดลายแต่ไม่เป็นเพราะไฮไลท์อยู่ที่ช่วงท้ายของโชว์จู่ๆ Lilly Allen นักร้องคนโปรดของป๋าคาร์ล ก็ไฮดรอลิกเวทีขึ้นมาจากพื้น ทำเอาเหล่าบก. และแฟชั่นนิสต้าหันหน้ามองกันเลิกลัก พร้อมปิดท้ายโชว์หนุ่มสาวพลอดรัก รวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟางกันอยู่ 3 คน

Photo credit: vogue

จะเห็นได้ว่า แม้แต่ในอุตสาหกรรม ดนตรี แฟชั่น หรือ เทคโนโลยี ทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่าฝั่งของคนในเมืองจะเป็นผู้ควบคุมเทรด์ ทิศทาง และความเป็นไป แต่ในหลายๆ ครั้ง ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าฝั่งของชนบท ความลูกทุ่ง หรือกลุ่มคนในชานเมืองก็สามารถพลิกกลับขึ้นมาเป็นผู้นำเทรด์ สร้างความเปลี่ยนแปลง จนมีพื้นที่ยืนในกระแสหลักได้อย่างภาคภูมิ