Club Patongko คู่หูดีเจแผ่นเสียงที่จะพาทุกคนไปพบกับประสบการณ์ดุ๊กดิ๊ก

Bangkok-based DJ Duo Club Patongko on Vinyl Appeal

ยิ่งเข้าใกล้เทศกาลปีใหม่ทีไร บรรยากาศของการสังสรรค์มันยิ่งเร้าใจของเรามากขึ้นทุกที เชื่อว่าหลายคนตอนนี้คงกำลังโหยหาช่วงเวลาของเฉลิมฉลอง ความสนุกสนานในงานปาร์ตี้ที่มาพร้อมเสียงดนตรีจากบูทดีเจ ขยับจังหวะความสนุกในปาร์ตี้ให้ถึงขีดสุด วันนี้ EQ พาคู่หู ฮอลล์ - ศาสตรา เฟื่องเกษม และ เบส - เมธาสิทธิ์ กิตติกุลยุทธ์ สองดีเจคู่หูแห่ง Club Patongko ที่จะว่าเหมือนกันก็เหมือนอยู่ ทั้งรสนิยมการฟังเพลง การแต่งตัว แต่จะว่าไม่เหมือนก็ได้ มาพูดคุยกับพวกเขาทั้งสองให้พอหายคิดถึงบรรยากาศปาร์ตี้กันเสียหน่อย 

ปาท่องโก๋เหมือนแป้งทอดสองอันรวมกัน กินคู่กันหรือจะฉีกกินก็ได้ เอาไปจิ้มนมหรือช็อคโกแลตก็ได้ เปรียบเหมือนเราสามารถเปิดเพลงได้หลากหลายแนว แล้วเราก็สามารถเปิดได้ทั้งแผ่นเสียงและดิจิทัล

เมื่อแป้งทอดสองชิ้นมาเจอกัน

การเจอคู่หูสักคนที่มีทั้งสไตล์การฟังเพลงและการแต่งตัวใกล้เคียงกัน แล้วยังมาได้ทำงานร่วมกันเรียกได้ว่าเป็นเรื่องยากมาก คุณฮอลล์และคุณเบสบอกเล่าตอนที่เริ่มรู้จักกันว่า

ฮอลล์: เริ่มแรกทำ Olympic Digger แล้วผมได้ไปเปิดเพลงประจำที่ The Commons ทองหล่อ เบสเป็นเพื่อนของเพื่อนเราจึงได้รู้จักกันที่นั่น หลังจากนั้นรู้ว่าเบสก็สะสมแผ่นเสียงเหมือนกัน ก็เลยชวนเบสมาเปิดเพลง ก่อนจะมี Club Patongko เวลาเจอกัน ด้วยความที่แนวเพลงและแต่งตัวใกล้เคียงกัน คนก็จะรู้ว่ามันจะมีสองคนคล้ายๆ กัน เขาจะไม่ได้จำชื่อ แต่จำว่าสองคนนี้มันมาเปิดเพลงด้วยกัน

เบส: อยู่คู่กันตลอด เปิดเพลงก็จะเปิดเพลงใกล้ๆ กัน แต่งตัวเหมือนกัน 

แนวเพลงที่พวกเราฟังและเปิด เราเรียกกันว่า แนวเพลงดุ๊กดิ๊ก สามารถเต้นหรือขยับตามได้ ฟังแล้วอยากจะดุ๊กดิ๊กตาม

ความหลงใหลในแผ่นเสียง

เบส: ผมชอบแผ่นเสียงก็ประมาณเกือบ 10 ปีแล้วครับ ในช่วงนั้น MP3 กำลังบูมมาก แต่ผมอยากฟังเพลงที่ไม่ได้อยู่ในฟอร์แมตของ MP3 เป็นจุดเริ่มต้นในการเก็บเงินซื้อแผ่นเสียง ก็เริ่มศึกษาเครื่อง ลองซื้อแผ่นทีละแผ่นๆ จากนั้นก็สะสมมาเรื่อยๆ และชอบมาถึงปัจจุบัน ชอบที่ได้เห็นหน้าปก เห็นกระดาษของอัลบั้ม 

ฮอลล์: ผมเริ่มสะสมมาช่วงเรียนจบใหม่ๆ น่าจะ 10 กว่าปีแล้ว ใกล้ๆ กับเบส ผมเริ่มชอบสะสมของวินเทจมาก่อน พวกแว่นตา กล้อง จนมาได้เจอกับแผ่นเสียง มันแตกต่างจากของชิ้นอื่น ยิ่งถ้าเรามีเยอะ เราก็จะมีเพลงเยอะ และรู้สึกว่าเป็นฟอร์แมตนี้ มันเป็นสิ่งหนึ่งที่แฟนเพลงจะครอบครองได้ด้วยรูปลักษณ์ที่ใหญ่ เมื่อเห็นก็ชื่นใจแล้ว

ตั้งแต่รู้จักและเริ่มสะสมแผ่นเสียงมาก็แห้งครับ ทุกวันนี้ก็ซื้อเรื่อยๆ เขาเลยบอกว่าถ้าเกลียดใคร ให้แนะนำให้มันสะสมแผ่นเสียงแล้วมันก็จะจน

เสน่ห์ของดีเจแผ่นเสียง

ยุคสมัยที่ก้าวหน้าเครื่องเล่นเปลี่ยนมาเป็นแบบดิจิทัลที่มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งสองดีเจก็ยังคงเล่นเครื่องเล่นที่เป็นแผ่นเสียงควบคู่ไปกับดิจิทัลด้วย เราจึงถามถึงเสน่ห์ของการเป็นดีเจแผ่นเสียง ทั้งคู่ตอบว่า

ฮอลล์: เสน่ห์ของดีเจแผ่นเสียงคือ การที่มันไม่เพอร์เฟค มันมีเรื่องราวที่ทำให้ผิดพลาดเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะซ้อมมาแล้วเป็นร้อยครั้ง เพราะมันมีเรื่องของเข็มที่มันเด้งออก แต่ถ้าเราทำได้ก็จะรู้สึกสนุกและภูมิใจกับมัน ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ้างก็คือเสน่ห์ของมัน

เบส: เสน่ห์อีกอย่างของดีเจแผ่นเสียงคือ Selection แผ่นของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มันไม่ใช่ใครเปิดเพลงอะไรก็ได้ เพราะว่าอย่างน้อยเราซื้อแผ่นเสียง เราต้องคิดไว้แล้ว ซึ่งมันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละคน มันก็จะรู้เลยว่าดีเจคนนี้เขาชอบอะไรจริงๆ 

คามยากของดีเจแผ่นเสียง

เบส: มีทั้งเทคนิคและความแตกต่าง Selection ของดีเจ ไม่ใช่ว่าใครจะมีแผ่นอะไรเปิดได้ ต้องเป็นแผ่นที่เรามีจริงๆ อย่างน้อยคนฟังก็จะคาดหวังแล้วว่าเป็นเพลงของเราจริงๆ เพราะรู้ว่าฟอร์แมตนี้ไม่สามารถเปิดเพลงอะไรก็ได้ ซึ่งมันเป็นความยากและเป็นเสน่ห์ไปด้วย

ฮอลล์: สำหรับผมไม่ได้ยากแต่มันลำบากกว่านิดหน่อย กระบวนการมันเยอะกว่า เราต้องเตรียมทั้งเข็ม เตรียมหูฟัง เตรียมแผ่นรอง (Slipmat) และเตรียมแผ่นไป เราอาจต้องทำงานมากขึ้นนิดนึง เช่น เราเปิดที่นี่อารมณ์ประมาณนี้ เราจะต้องเอาแผ่นอะไรไป มันอาจจะต้องทำการบ้านก่อน แต่พอเราชอบเสน่ห์ของมันก็จะรู้สึกว่าอยากเปิดแผ่นเสียง

เมื่อก่อนคิดว่าจะเปิดแผ่นเสียงอย่างเดียว พอทำมาสักพักนึงเรารู้สึกว่าความสนุกมันไม่เหมือนกันในการเปิด แบบดิจิทัลจะเปิดตามใจได้มากกว่า สุดท้ายก็เลยชอบทั้งสองแบบ

สถานที่เล่นแล้วรู้สึกประทับใจที่สุด

เบส: สำหรับผมเป็นสถานที่ที่เปิดประจำคือ The Commons เพราะเป็นที่ที่เราได้เปิดเพลงในแนวเพลงที่เราอยากเปิดจริงๆ คนฟังและบรรยากาศก็ดี 

ฮอลล์: The Commons เหมือนกันครับ เราสามารถนำเสนอเพลงได้ เราอาจทำให้เขาสนุกได้ แต่ไม่เลยป้ายมาก ถ้าเพลงไหนเพราะเขาก็เดินมาถามว่าเพลงนี้เพลงอะไร ในมุมดีเจถ้าวันไหนมีคนพูดกับเราสักคนนึงก็แฮปปี้มากแล้ว อีกที่คือ The key ที่ Josh hotel เราสามารถดีไซน์เพลงที่เป็นดิสโก้เฮาส์ได้ จริงๆ แต่ละที่พอเปิดแล้วอารมณ์มันไม่เหมือนกัน ซึ่งมันก็เป็นความสนุกอีกแบบ

เหตุการณ์สุด EXOTIC ที่เคยเจอมา

เหตุการณ์ที่ 1 

เบส: วันนั้นเราเปิดที่ The Commons มีชาวต่างชาติเป็นคนอินเดีย เขาขอเพลงอินเดีย ผมก็เหวอเลย มันไม่ใช่ว่าเราเปิดไม่ได้ แต่พอเปิดแล้วมันมีคนหลายคนที่นั่งฟังเราอยู่ ถ้าเราเปิดแล้วเขาจะงงเราไหม หรือทำไมเปิดเพลงอย่างนี้ คือเราต้องดูส่วนรวมด้วย เราก็เลยบอกเขาว่าเปิดไม่ได้นะ ปฏิเสธเขาไปแบบนิ่มๆ แล้วเราบอกเขาไปว่าเดี๋ยวเราหาเพลงที่มันใกล้เคียงให้ เราก็เลยเปิดเพลงที่มีความอินเดียหน่อย แต่ไม่ได้อินเดียจ๋า สุดท้ายแล้วเขาชอบ 

เหตุการณ์ที่ 2

ฮอลล์: วันนั้นเปิดที่ The Commons น่าจะเป็นผู้ชายชาวสเปนอายุประมาณ 60 ปี แล้วเราก็เปิดเพลงที่เป็นวงสเปนชื่อวง Guts แล้วเขาชอบมาก เดินมาถือเบียร์ แล้วเบียร์ก็หกใส่เครื่อง หลังจากนั้นทุกๆ อย่างมันค่อยดับลง ตอนนั้นเราก็พึ่งจะเป็นดีเจได้ไม่นาน ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง โชคดีที่เครื่องไม่เป็นอะไร

เหตุการณ์ที่ 3 

ฮอลล์: มีบริษัทนึงมาจ้างเปิดงานปาร์ตี้ เขาเคยมาฟังเราที่ The Commons ชอบมาก แล้วอยากให้เราไปเปิดเพลง ซึ่งเมื่อก่อนเราไม่กล้าเปิดปาร์ตี้เพราะมันยากที่สุดและใช้พลังเยอะ ตอนแรกเราก็ไม่รับ แต่เขาบอกว่าให้เราเปิดเพลงแบบเราได้เลย เปิดแค่ประมาณหนึ่งชั่วโมง เป็นงานเลี้ยงสาขา เราก็คิดว่าโอเคสาขานึงน่าจะประมาณ 20 - 30 คน แล้วเราก็ผิดที่ไม่ได้ถามชัดๆ ว่ากี่คนแน่ พอไปถึงเจอคนประมาณ 500 คน แล้วเป็นพนักงานออฟฟิศผู้หญิง เค้าน่าจะอยากสนุกกันซึ่งไม่ใช่เพลงที่เราเตรียมมาแน่ๆ ตอนนั้นเครียดและเหงื่อแตกเลย (หัวเราะ) เราต้องเปลี่ยนเพลย์ลิสต์ตอนนั้นเลย หาเพลงฮิตที่คิดว่าตอบโจทย์มาเปิด สุดท้ายก็ตลกดี สนุกไปอีกแบบ จังหวะที่ลงไปแล้วเจอคนประมาณ 500 คนคือช็อคมาก

โควิดผ่านไปอยากทำอะไรมากที่สุด

ฮอลล์: อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ไปเจอเพื่อน ไปเปิดเพลง และเดินหาแผ่นเสียง

เบส: อยากออกไปข้างนอกโดยไม่ใส่แมส

ติดตามคู่หูปาท่องโก๋และอัปเดตตารางานทั้งหมดได้ที่

Facebook: Club Patongko

Instagram: clubpatongko

As 2021 comes to a close, we can’t help but feel nostalgic for the festive year-end atmosphere and celebratory moods of the pre-pandemic era. To help us get back into the holiday spirit, EQ get in touch with Sarttra “DJ Sarttra” Feangkasem and Methasit “DJ Kaitod” Kittikullayoot, the DJ duo behind Club Patongko to talk about their shared love for music, vinyl, and curious incidents at their sets.

 

“Patongko comes in pairs. You can enjoy them as is or apart. You can dip them in condensed milk or chocolate sauce. It’s just like us – we play a wide variety of music in both vinyl and digital formats.”

 

How did you guys meet?

DJ Sarttra: He’s a friend of a friend. I first met him when I played my regular Olympic Digger sets at The Commons in Thonglor. We dress similarly and play similar kinds of music so people sort of remember us as a duo. He’s also a record collector like me.

DJ Kaitod: We’ve always DJ’ed beside each other. Same styles of music, same style of fashion.

“We call the music we play and listen to ‘dukdik’ because it’ll make you get up and dance.”

 

When did your vinyl obsession start?

DJ Kaitod: I’ve been into vinyl for about ten years now. Back then, MP3 were really huge, but I wanted to listen to music in a different format. I started by learning about different vinyl players before I could save up to buy records one by one. I’ve been a collector ever since. I love seeing the cover art and the whole paper feel of it.

DJ Sarttra: I started collecting records right after I graduated university so it must have been almost ten years now. I’ve always loved collecting vintage stuff like glasses and cameras, but vinyl is pretty unique. The size of the format is something that really strikes a chord with music fans. It feels good just by looking at it.

 

“Since I started collecting records, I’ve gotten a lot poorer. I’m still buying them though. They say that if you hate somebody, tell them to collect vinyl and they’ll go broke in no time.”

 

What is the appeal of vinyl DJing?

DJ Sarttra: The imperfection of it. Doesn’t matter if you’ve rehearsed a hundred times, something is bound to go wrong while you’re DJing. The needle sliding out of the blue, things like that. It’s fun to handle little slip-ups like that.

DJ Kaitod: Each DJ is different. The style of each DJ really depends on their own personal selection of records. You can tell what they’re into just by looking at what they have in their collection.

What are the challenges of vinyl DJing?

DJ Kaitod: The technical side of it and the fact that you can only play what you have brought with you. I find these challenges really appealing.

DJ Sarttra: It’s not that it’s difficult, it just takes a lot more effort. There’s a whole process involved – preparing the needle, headphones, slipmat, and records. You have to do your homework ahead of your set so that you know which records to bring with you.
 

“In the beginning, I’d made up my mind that I would only play vinyl. After a while, though, I realized that digital DJing has its own benefits. You can pretty much play anything you want. Now, I enjoy doing both.”

A favorite spot to DJ?

DJ Kaitod: I want to say The Commons because I DJ there on a regular basis. It’s where I get to play the kind of music I really want. The vibe there is also great.

DJ Sarttra: Same here. When I DJ at The Commons, people would come up and ask me about certain songs. That makes me feel really happy! I also enjoy spinning disco house at The Key at Josh hotel. Each place has a different vibe and that’s the fun of it.


Got any fun DJ stories to share with us?

DJ Kaitod: I was playing a set at The Commons when an Indian guest asked me to play an Indian song for him. I had to politely refuse because playing it would throw off the vibe and other guests would be confused. I ended up choosing another song with an Indian flavor for him and he liked it.
DJ Sarttra: At my set at The Commons, a Spanish guy in his 60s came up to the decks because he liked the song that I was playing. Then he accidentally spilled beer on my gear and everything went out. I was just starting out as a DJ so I didn’t really know what to do then.

DJ Sarttra: Also, this one time, I was hired to DJ at a company party. Although I don’t normally do parties because it takes a lot of energy, they assured me that it was only for an hour and that I could play my style of music. When I showed up at the party, I saw about 500 people there, most of which were women. It was definitely not the kind of crowd that would enjoy the kind of music I’d prepared. I was literally sweating! (laughs). I had to come up with an impromptu playlist on the spot. It was stressful but it was kind of fun.
 

What do you want to do the most when the pandemic blows over? 

DJ Sarttra: I want to go on a trip, hang out with friends, play a set and shop for records.

DJ Kaitod: I want to go outside without a mask on.