SUP BOARD ความท้ายทายอยู่ที่ใจไม่ใช่อายุ

Stand Up Paddle Board หรือว่า SUP board (ซับบอร์ด) หนึ่งในกีฬาที่กำลังบูมมากที่สุดในไทย ผู้คร่ำหวอดในวงการนี้บอกกับเราว่า จำนวนคนเล่นซับบอร์ดในประเทศไทย ปี 2020 มีเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ เรียกได้ว่าได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นทุกปี หากถามถึงสาเหตุล่ะก็ เราคิดว่าคงเป็นความโดดเด่นและท้าทายที่ไม่ซ้ำใคร เพราะต้องยืนพายตลอดการเล่น และความได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่ตอบโจทย์การพักผ่อนของคนรุ่นใหม่ แต่เมื่อได้มาคุยกับ พี่อ้อม - ธนัชกัญ สุนทรวงษ์ นักกีฬาซับบอร์ดวัย 41 ปี คนนี้ เรากลับได้พบอีกหลายเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ และได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจว่า “กีฬาที่ท้าทายไม่ได้จำกัดผู้เล่นว่าต้องเป็นแค่วัยรุ่นเท่านั้น”

ทุกอย่างอยู่ที่ใจ 

การจะเริ่มเล่นกีฬาได้ อย่างแรกที่ควรก้าวข้ามให้ได้ก็คือ “ใจ” ของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในข้อจำกัดที่ทำให้จิตใจของคนเรามักจะไม่สู้ก็คือ “อายุ” เมื่ออายุมากขึ้น หลายคนก็เริ่มกังวลที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ ด้วยเหตุผลที่คิด (ไปก่อน) ว่ามันยาก พี่อ้อมในฐานะคนหนึ่งที่เริ่มเล่นกีฬาซับบอร์ดและได้มาเป็นนักกีฬาทีมชาติในช่วงวัยกลางคน บอกกับเราเรื่องนี้ว่า 

“ช่วงวัยหรืออายุไม่เกี่ยวกับการเล่นกีฬา แต่สิ่งที่สำคัญคือสภาพร่างกายและจิตใจมากกว่า เราต้องดูตัวเองก่อนว่าไหวแค่ไหน เล่นอะไรแล้วจะไม่ฝืนร่างกาย เล่นแล้วมีความสุขไหม ร่างกายแข็งแรงขึ้นหรือเปล่า อย่าเพิ่งกลัวไปก่อน เพราะความกังวลพวกนี้ จะทำให้เราพลาดโอกาสสนุกๆ ในชีวิตไปได้”

อยากให้ทุกคนลองมารู้จักกับซับบอร์ดก่อนว่าไม่ได้น่ากลัวเลย เป็นกีฬาที่เล่นได้ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่อายุ 70-80 ปี เพราะเลือกระดับความเร็วได้ ตั้งแต่ความเร็วสูงจนถึงพายชมธรรมชาติชิลๆ มาพร้อมด้วยความปลอดภัยจากอุปกรณ์เซฟตี้ ได้แก่ เสื้อชูชีพ และสายรัดข้อเท้า ขอเพียงแค่ก้าวข้ามความกังวลไปให้ได้ มองการตกน้ำให้เป็นเรื่องสนุก และไม่แพนิคเมื่อตกจากบอร์ด คนที่ไม่เคยเล่นกีฬามาก่อนเลยก็รับรองได้ว่าสามารถพายได้ใน 15 นาที

ซับบอร์ดบำบัด

พี่อ้อมเล่นซับบอร์ดมาตั้งแต่ 4 ปีก่อน แต่ต่อมาเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ต้องผ่าตัดและหยุดเล่นกีฬาไป เมื่อเริ่มดีขึ้นจึงรู้สึกว่าอยากจะกลับไปยืนบนบอร์ดให้ได้อีกสักครั้ง เลยมานับหนึ่งกันใหม่ เธอพบว่าแค่วันแรกที่เล่นร่างกายก็เปลี่ยนไปเยอะ จากขาที่เคยบวม ก็เห็นได้ชัดว่าบวมน้อยลง เจ็บน้อยลง เป็นเพราะได้ใช้ข้อเท้าในการทรงตัว ได้ใช้งานขาอย่างเต็มที่อีกครั้ง เหมือนได้บำบัดร่างกายไปอีกทาง

นอกจากนั้น เธอยังได้พูดถึงแง่มุมของการที่ซับบอร์ดได้ช่วยบำบัดจิตใจและบำบัดธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เพราะกีฬานี้ทำให้มีสมาธิอยู่กับตัวเองมากขึ้น ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ สามารถพากันไปเล่นได้ทั้งครอบครัว ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน และยังทำให้ได้เห็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะสถานที่เล่นส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ รวมทั้งช่วยรักษาและบำบัดสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี เพราะไม่มีเครื่องยนต์ จึงไม่สร้างมลพิษ

ต่อยอดสู่มืออาชีพ

เมื่อเราทำสิ่งไหนด้วยความสุข ก็มักจะได้รับอะไรดีๆ กลับมาเสมอ อย่างเช่นพี่อ้อมที่เล่นซับบอร์ดอยู่ดีๆ ก็ได้เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ให้บริษัท สตาร์บอร์ด จำกัด และ We SUP Thailand เหตุเพราะ “เขาเห็นว่าเราเล่นกีฬาได้สนุกและเต็มที่” พี่อ้อมเล่าว่าตอนนั้นกีฬายังไม่เป็นที่รู้จัก พอเราได้เป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ก็ได้ไปออกอีเว้นท์ทั่วประเทศ จนทำให้มีคนสนใจและเริ่มมีงานแข่งขันเฉพาะกลุ่มเกิดขึ้น หลังจากนั้นเธอก็ได้ร่วมลงแข่งในรายการทั้งในและต่างประเทศ และเมื่อซับบอร์ดได้บรรจุในการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ได้รับโอกาสให้เป็นนักกีฬาทีมชาติด้วย ซึ่งชีวิตเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะต้องมีวินัยในการซ้อมมากขึ้น และดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะต้องแข่งขันระยะไกลถึง 18 กม. ในทุกรายการ

“พี่ชอบทุกรายการที่ได้ลงแข่ง เพราะเราเต็มที่ทุกครั้ง ไม่เคยตั้งเป้าหมายว่าต้องได้ที่เท่าไหร่ แค่ทำให้เต็มที่ที่สุด ที่แข่งมาก็ได้รางวัลบ้างไม่ได้รางวัลบ้าง แต่ล้วนเป็นประสบการณ์ดี ๆ ที่หาได้ยาก เช่น เคยต้องพายในวันที่พายุเข้า เจอฝนตก เจอคลื่นสูง หรือต้องเจออากาศหนาว อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียส แต่ก็รู้สึกสนุกและท้าทายไปอีกแบบ สำหรับโปรแกรมแข่งขันซับบอร์ดที่น่าสนใจในปีหน้า มีเยอะมาก คร่าว ๆ ก็ 8 สนาม เช่น KOH CHANG SUP RACE 2021 วันที่ 9-10 ม.ค. 64, Bangsaen SUP Fun Fest 2021 วันที่ 20 -21 ม.ค. 64, Laguna Thailand SUP Championship 2020 วันที่ 24-28 ม.ค. 64 เป็นต้น พี่ก็จะลงแข่งทั้งหมดเลยค่ะ”

เมื่อพูดถึงอนาคต พี่อ้อมได้เล่าถึงความฝันของตัวเองว่า “ยังอยากมีความสุขอยู่กับการพายซับไปจนกว่าจะพายไม่ไหว แล้วก็อยากจะแชร์ความสุขให้คนรุ่นใหม่ อยากสอนเด็กและให้ความรู้ชุมชนทั้งในเรื่องของกีฬา ปลูกฝังการรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างสำนึกรักบ้านเกิด ในทุกที่ที่เราเดินทางไป เพราะพี่เป็นคนชอบเที่ยว ก็จะเอาซับบอร์ดไปด้วย เลยอยากให้เกิดประโยชน์มากที่สุด”

อ้อมกับลูกสาวทั้งสองคน
อ้อมกับลูกสาวทั้งสองคน
สนุกกับทุกมิติ

การพายซับไม่ได้มีแค่การพายเล่นหรือแข่งเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่เห็นได้ผ่านโซเชียลมีเดียของพี่อ้อมและองค์กรที่เกี่ยวกับซับบอร์ด เช่น พายซับเก็บขยะ ที่จัดขึ้นเป็นประจำในกทม. ด้วยความร่วมมือของสตาร์บอร์ด และ Trash Hero Bangkok, ร่วมประเพณีทอดผ้าป่ากลางน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย, การจัดทริปท่องเที่ยวเรียนรู้ประวัติศาสตร์, การพายซับเรียนรู้แหล่งธรรมชาติ หรือจะเป็นการเล่น ซับโยคะ (Sup Yoga) ที่เพิ่มความแอดวานซ์ให้โยคะ ด้วยการไปเล่นบนบอร์ดกลางน้ำ เพื่อฝึกสมาธิ และเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม คนว่ายน้ำไม่เป็นก็เล่นได้ เพราะบอร์ดจะถูกผูกไว้กับทุ่น และมีทีมงานช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันมีหลายสถานที่ที่เปิดให้ไปเล่นได้ เช่น บึงตะโก้ บางพลี, SUP Station Thailand, LET'S SUP BUDDY สัตหีบ ฯลฯ

สุดท้าย พี่อ้อมยังช่วยย้ำกับเราว่า 

“กีฬาทำให้คนแข็งแรงมากขึ้น เป็นการเปิดหูเปิดตาอีกรูปแบบหนึ่ง ทำให้ได้เจอเพื่อนใหม่และสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ การที่เราหันมาดูแลร่างกายตัวเองด้วยการเล่นกีฬา พี่ว่ามันเหมาะสมมากกับทุกคนและทุกช่วงวัย อย่างพี่เองทั้งเคยประสบอุบัติเหตุ ทั้งเป็นไทรอยด์ ก็ยังคงใช้กีฬาเป็นยา ใช้มันบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจให้ดีขึ้นได้”