Culture

POORBOYLIFE: ศิลปะ ชีวิต และสเก็ตบอร์ดของ ‘ต้น เกษมวิทย์’

‘POORBOY’ คือเจ้าลิงสีขาวขนปุย ที่ชอบไถสเก็ตบอร์ดเป็นชีวิตจิตใจ คาแรคเตอร์สุดน่ารักตัวนี้เป็นผลงานที่เกิดจากความสร้างสรรค์ของ ‘ต้น – เกษมวิทย์ ชวีวัฒน์’ ศิลปินผู้หลงรักสเก็ตบอร์ดมาตั้งแต่อายุ 13 ปี และนำเอาความชอบตัวเองมาถ่ายทอดผ่านงานศิลปะ ด้วยลายเส้น สีสัน การเล่าเรื่อง และอารมณ์ขันเฉพาะตัว จึงทำให้ POORBOY กลายเป็นตัวการ์ตูนที่หลายคนจดจำได้ ในโอกาสที่ POORBOY มีนิทรรศการเดี่ยวของตัวเองอีกครั้ง EQ ก็ไม่รอช้าที่จะขอแวะไปชมงานศิลปะ และพูดคุยกับศิลปินเจ้าของผลงานมาฝากทุกคน

จุดเริ่มต้นของ POORBOY – ทำไมต้องเลือก ‘ลิง’ เป็นคาแรคเตอร์ POORBOY

“สมัยที่ผมเล่นสเก็ตบอร์ดกับเพื่อน ผมก็ทำเสื้อยืด ซึ่งลายของเสื้อยืดก็มีคอนเซปต์เรื่องธรรมชาติ แต่ไม่ได้เป็นเชิงอนุรักษ์ขนาดนั้นนะ แค่เกี่ยวกับอะไรที่เป็นธรรมชาติ พอทำมาได้สักพักหนึ่ง เราก็อยากมีการ์ตูนที่จะมาช่วยพูดเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วย ก็เลยสร้าง POORBOY ขึ้นมา โดยได้แรงบันดาลใจมาจากลิง บิ๊กฟุต เยติ ซึ่งผมชอบพวกนี้อยู่แล้ว และมันก็มีลักษณะใกล้เคียงกับคนมากที่สุด ผมคิดว่ามันน่าจะแสดงอารมณ์หรือสื่อสารได้ ก็สร้างเรื่องราวให้มันว่า POORBOY เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในป่า มนุษย์ก็เข้าไปทำลายป่าจนมันไม่มีที่อยู่ มันเลยต้องออกจากป่า มาอยู่ในเมือง แล้วที่ชื่อว่า POORBOY ไม่ได้แปลว่าคนจนนะ แต่มันคือเด็กน่าสงสารที่ต้องเข้ามาอยู่ในเมือง ผมไม่ได้ตั้งใจจะสื่อสารเรื่องธรรมชาติหรือการอนุรักษ์ธรรมชาติเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดนั้น แต่พยายามที่จะเอาปัญหามาทำให้เป็นการ์ตูนที่คนได้ดู จะได้รู้สึกสนุกสนานและฉุกคิดอะไรบางอย่างด้วย ช่วงหนึ่งเราก็วาดให้ POORBOY นอนอยู่ตรงป้ายรถเมล์หรือกำลังหาอาหารตรงถังขยะ”

คุณเริ่มต้นทำงานศิลปะตั้งแต่เมื่อไหร่

“ผมชอบวาดรูปตั้งแต่เด็ก ส่วนมากคนที่ชอบวาดรูปจะชอบอ่านการ์ตูนใช่ไหม แต่ผมไม่ค่อยชอบอ่านการ์ตูนนะ มีอ่านบ้างนิดหน่อย แค่ชอบเล่นสเก็ตบอร์ดมากกว่า แล้วมันจะมีกราฟิตี้ ผมชอบแนวนั้นมากกว่า ชอบวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ด กราฟิตี้ ฮิปฮอป ซึ่งมันจะมาพร้อมๆ กัน เวลาที่เราดูวิดีโอสเก็ตบอร์ด มันก็จะมีเพลงประกอบเป็นเพลงฮิปฮอป แล้วฉากในนั้นก็จะมีพวกที่ทำงานกราฟิตี้ ก็เลยคลุกคลีกับอะไรแบบนั้นมา”

วัฒนธรรมสเก็ตบอร์ดหล่อหลอมให้คุณเป็นศิลปินในวันนี้อย่างไรบ้าง

“ศิลปะ ดนตรี สเก็ตบอร์ด เป็นสิ่งที่อยู่กับผมมาตลอด ภาพที่ออกมาก็เลยหนีไม่พ้นสามเรื่องนี้ แต่ผมไม่เรียกงานตัวเองว่าเป็นสตรีทอาร์ตนะ เพราะผมไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอกสักเท่าไร จะทำก็ต่อเมื่อมีคนสนใจติดต่อมาให้ไปทำ (หยุดคิด) ถ้าให้ผมนิยามงานของตัวเอง ผมก็คงจะเรียกว่าเป็นงานศิลปะเฉยๆ เริ่มจากการเป็นการ์ตูนในอินสตาแกรม ให้คนได้อ่าน ได้เสพ ส่วนมากเป็นการ์ตูนภาพเดียว แล้วในหนึ่งภาพนั้นก็อาจจะไม่มีคำพูดอะไรด้วยซ้ำ พอจบภาพนี้ ภาพใหม่ก็จะเป็นอีกเรื่องไปเลย”

แรงบันดาลใจในการวาดการ์ตูนของคุณคืออะไร

“POORBOY มีความใกล้เคียงกับตัวผม คือเราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ​ ก็เหมือนกับการออกจากป่ามาอยู่ในเมือง ส่วนแรงบันดาลใจในการวาดเรื่องราวพวกนี้ก็เป็นเรื่องที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน หรือเรื่องไหนที่เป็นกระแส ผมก็เล่าเรื่องผ่านการวาด POORBOY“

เคยมีภาวะหมดไฟบ้างหรือเปล่า และจัดการกับมันอย่างไร

“มีครับ ก็ไม่ทำอะไรเลย เพราะเมื่อก่อนผมเคยลองฝืน พยายามวาดรูปลงอินสตาแกรมวันละรูป แต่ตอนนั้นยังทำงานประจำอยู่ด้วย ไม่ค่อยได้ออกไปไหน แล้วเราก็วาดรูปลงเรื่อยๆ โดยที่คิดอะไรไม่ออก ไม่มีไอเดีย ผมก็ไม่ทำ ไปหาอะไรอย่างอื่นทำ ได้เห็นนู่นเห็นนี่ผ่านตา ไม่งั้นก็ออกไปขับรถ แล้วก็จำเรื่องราวไว้เพื่อเอากลับมาเขียน”

คุณบอกว่าโตมาพร้อมกับวัฒนธรรมสเก็ตบอร์ด ถ้าให้คุณนิยามสเก็ตบอร์ด สิ่งนี้คืออะไรสำหรับคุณ

“ผมเริ่มรู้จักสเก็ตบอร์ดตั้งแต่อายุ 13 ปี แต่มาเล่นจริงจังตอนอายุ 15 ปี สำหรับผมแล้ว สเก็ตบอร์ดคือไลฟ์สไตล์ ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นกีฬา คืออยู่บ้านเราก็สามารถหยิบมันไปเล่นได้เลย ที่หน้าบ้านหรือที่ถนน ไม่ต้องไปหาสนามหรือลานจอดรถ แล้วการเล่นคนเดียวก็สนุกได้ ผมรู้สึกว่าเลิกเล่นสเก็ตบอร์ดไม่ได้ ถ้าคนที่เล่นมานาน 10 - 20 ปีขึ้นไป ก็จะรู้เลยว่ายังไงก็เลิกเล่นไม่ได้ จะให้ไปทำอย่างอื่น สุดท้ายก็ยังกลับมาเล่นอยู่ แค่อาจจะเล่นน้อยลง หรืออาจจะมากขึ้นก็ได้ตามกำลังของเขา แต่ท้ายที่สุด พวกเราก็จะยังเล่นอยู่ ยังดูวิดีโอ แล้วก็ยังติดตามสเก็ตบอร์ดอยู่”

อธิบายความรู้สึกของการอยู่บนสเก็ตบอร์ดได้ไหม

“ฟรี อิสระ เหมือนถ้าเราเครียดจากอะไรมา เราไปเล่นสเก็ตบอร์ด เราลืมความเครียดนั้นไปเลย ลองไปถามใครก็ได้ คือผมว่าเสน่ห์ของมันคือท่าเล่นสเก็ตบอร์ด มันจะมีท่าตั้งแต่เริ่มต้นจนไปถึงท่ายากมากๆ ซึ่งผมว่าเวลาที่เราไปเล่นกับเพื่อน แล้วทำท่าพวกนี้ได้ แล้วเพื่อนของเราเฮ มันสนุกมากเลย แล้วเราก็ค่อยๆ ไล่ระดับจากง่ายไปยาก มันก็เริ่มสนุก ถ้าท่านี้ยังเล่นไม่ได้ เราก็ต้องเล่นต่อ พอเล่นท่านี้ได้อีก มันก็มีอีกท่าที่ยากขึ้นรอเราอยู่ หรือว่าท่าเดียวกัน แต่ความสูงที่ต่างกัน ความรู้สึกก็ไม่เหมือนกัน หรือการเปลี่ยนที่เล่นไปเรื่อยๆ ก็มีความท้าทายที่ไม่เหมือนกัน มันเหมือนการปลดล็อกเลเวลไปเรื่อยๆ ซึ่งสนุกมาก แต่พออายุเยอะก็เล่นเท่าที่ได้ก็แล้วกัน (หัวเราะ)”

ถ้าเสน่ห์ของสเก็ตบอร์ดคือการปลดล็อกเลเวลไปเรื่อยๆ แล้วเสน่ห์ของการทำงานศิลปะ POORBOY คืออะไร

“ผมว่าเรื่องราวที่เราจะเล่าให้คนอื่นได้เห็นหรือได้สัมผัส มันก็เป็นความท้าทายและมีเสน่ห์นะ เหมือนถ้าเราทำไปเรื่อยๆ ก็จะมีช่วงเวลาที่คิดไม่ออก อันนั้นจะรู้สึกกดดัน ต้องพยายามเฉลี่ยเรื่องของงานกับการใช้ชีวิตให้พอดีกัน ถ้าทำงานมากไปก็จะตัน ต้องหาอะไรอย่างอื่นทำควบคู่กันไปด้วย”

การเติบโตในฐานะศิลปินของคุณเป็นอย่างไร

“การเติบโตของผมมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นการทำงานที่ไม่ได้หยุดทำ คือทำมาเรื่อยๆ มีหยุดพัก แต่ไม่ได้เลิกทำ มันก็เลยทำให้เป็นภาพจำมาเรื่อยๆ ว่า POORBOY ยังอยู่ ยังมีเรื่องราวต่อไปเรื่อยๆ คนก็เลยยังติดตามเรื่อยๆ แล้วก็เปลี่ยนจากวัตถุดิบในสมุดมาพัฒนาต่อบนผ้าใบ กลายเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง อาจจะเรียกว่า pop art ก็ได้มั้้ง แต่ผมไม่แน่ใจว่าจะจำกัดแนวยังไง ผมไม่กล้าเรียกงานของตัวเองว่าเป็นแนวสตรีทอาร์ต เพราะไม่ได้ออกไปทำงานแบบนั้น อาจจะเรียกได้ว่าผมเป็นนักวาดรูปที่มี POORBOY เป็นคาแรคเตอร์ประจำตัว”

เป้าหมายต่อไปของ POORBOY คืออะไร

“ใจหนึ่งก็อยากให้แมสแบบโดราเอมอนนะ มันยังมีอีกหลายรูปแบบที่ POORBOY ยังไปไม่ถึง อย่างเช่น การเป็นการ์ตูนอนิเมชั่น การ์ตูนทีวี เพราะตอนนี้ทำงานแบบนี้ มีศิลปะบนผ้าใบ ศิลปะบนกำแพง แล้วก็อยากพัฒนาไปเรื่อยๆ ถ้าไปได้ก็อยากไป แต่ต้องลองดูว่าจะไปแบบไหน แต่ถ้าไปแล้วไม่โอเคก็ยังไม่ไปดีกว่า (หัวเราะ) ค่อยๆ ไปก็ดี เพราะตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ผมเดินมา 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งมันก็ดีนะครับ ถ้าเร็วไปก็อาจจะรับมือไม่ทันในหลายๆ เรื่อง”

การเข้าถึงหรือความเข้าใจของคนไทยต่องานศิลปะมีมากขึ้นแล้วหรือยัง

“ช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีการสนับสนุนเรื่องศิลปะเพิ่มขึ้นนะ แต่ส่วนมากจะเป็นคนทั่วไปหรือภาคเอกชน ส่วนภาครัฐก็อาจจะมีนิดหน่อย ผมว่าไทยก็พัฒนาไปเรื่อยๆ สำหรับงานศิลปะ จริงๆ ก็พัฒนามาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ว่าช่วงนี้เป็นกระแสของงาน pop art คนก็อาจจะเข้าถึงศิลปะได้ง่ายกว่าเดิม รวมถึงพวกสตรีทอาร์ตที่คนชอบไปถ่ายรูป แสดงให้เห็นว่ามีคนสนใจงานศิลปะมากขึ้น คนก็จะค่อยๆ ซึมซับไปเอง”

ข้อแนะนำสำหรับศิลปินรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายศิลปะ

“ตอนนี้มีศิลปินรุ่นใหม่เกิดขึ้นเยอะ จริงๆ มันก็ผลัดรุ่นไปเรื่อยๆ ทุกคนมีฝีมือหมด อยากให้พยายามทำไปเรื่อยๆ ในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ลองปรับเปลี่ยนดู มันอาจจะมีสิ่งที่ใช่มากกว่าการวาดรูป หรือคนทำที่อย่างอื่นแล้วคิดว่าการวาดรูปใช่กว่า ก็ลองทำดู แต่ถ้าผิดพลาดก็อย่าเพิ่งเสียใจมากจนเกินไป อย่าเพิ่งท้อ ทำไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะสำเร็จ ทั้งนี้ ความสำเร็จจริงๆ มันอาจจะไม่มีก็ได้นะ คือสำเร็จ ณ ตอนนั้น แล้วถัดไปก็อาจจะมีความสำเร็จเพิ่มมากขึ้น”

ฝากนิทรรศการ POORBOYLIFE Solo Exhibition ได้ไหม

“งานนิทรรศการ POORBOY ในรูปแบบของงานศิลปะ มันจะต่างจากที่เคยทำลงอินสตาแกรมซึ่งส่วนมากเป็นงานดิจิทัล ครั้งนี้มีงานวาดเยอะประมาณหนึ่ง แล้วก็มีงานชิ้นใหญ่ งานที่เป็นรูปแบบงานปั้น ถือเป็นการทำงานปั้นจริงจังครั้งแรก จาก POORBOY ที่เป็นสองมิติก็กลายมาเป็นสามมิติ ซึ่งอันนี้น่าตื่นเต้นมาก และงานนี้ก็เป็นนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกจริงๆ งานแรก จากสองครั้งก่อนหน้านี้ที่เป็นนิทรรศการขนาดเล็ก ต้องขอบคุณ TRENDY GALLERY ที่ให้โอกาสในการจัดงานครั้งนี้ อยากให้มาดูกันเยอะๆ ครับ”

ชมนิทรรศการ POORBOYLIFE Solo Exhibition ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 มกราคม 2023 ณ River City Bangkok ชั้น 2 หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ poorboylife