Wunder Kammer Studio เซรามิกอาร์ตประยุกต์ที่เอาใจสาย “มู” และสาย “สะสม”

ในโลกที่ถูกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีการเปลี่ยนผ่านหรือหยิบเรื่องราวความเชื่อต่างๆ ขึ้นมาเล่าและถูกปรับให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น แน่นอนว่าแบรนด์ WK.STUDIO ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่หยิบองค์ประกอบของศาสตร์ต่างๆ มาดัดแปลงและถูกเล่าใหม่ให้ดูน่าทะเล้นมากยิ่งขึ้น 

คุณ มี่ - วาสิทธิ์  จินดาพร และคุณ ตุ้ย - ภาคภูมิ นรังศิยา สองเพื่อนซี้ที่จับมือสร้างแบรนด์ WK.Studio หรือ Wunder Kammer Studio เพื่อสร้างงานเซรามิกอาร์ตที่ถูกเล่าในรูปแบบของคนรุ่นใหม่

ปั้นสร้างแบรนด์

คุณมี่และคุณตุ้ย สองหนุ่มสุดติสท์ที่ผลัดหลงให้มาเจอกันในรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมัณฑนศิลป์ จากความสนิทและไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่ที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสสร้างโปรเจกต์ปั้นเซรามิกขึ้นมา โดยจุดเริ่มต้นมาจากการที่ภายในมหาวิทยาลัยมีงานที่จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้ามาขายของ นั่นก็ถือเป็นก้าวแรกที่ทำให้เขาทั้งคู่ได้แสดงฝีไม้ลายมือในการปั้น 

ครั้งแรกของการขาย ทั้งคู่เริ่มจากการปั้นกระถางต้นไม้หน้าตาน่ารักออกไปก่อน เน้นงานที่คนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นหลักก่อน แต่ก็จะมีงานปั้นเสริม เป็นลักษณะตัวการ์ตูนเล็กๆ เพื่อปั้นไปขายด้วย ด้วยความที่รูปลักษณ์ของงานปั้นที่มีเอกลักษณ์ และบ่งบอกลายเซ็นของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี รุ่นพี่ที่คณะที่ผ่านมาพบเห็นผลงานจึงชักชวนให้ไปออกงานบ้านและสวนแฟร์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้แบรนด์ได้ออกสู่สายตาคนมากขึ้น และทำให้ทั้งคู่ยังคงอยู่สร้างสรรค์ผลงานแบรนด์มาจนถึงทุกวันนี้

ART TOY สายมู (?)

ถ้าถามว่าดูโอหนุ่มเป็นสายมู ทั้งคู่ถึงกับต้องส่ายหัวกันเป็นพัลวัน…เรื่องราวของความชอบทั้งคู่เกิดจากความรักในงานปั้น บวกกับการชอบองค์ประกอบและวัฒนธรรมของสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ ซึ่งการหยิบยกสิ่งเหล่านี้มาเล่าด้วยวิธีใหม่ๆ ก็สามารถสร้างความสนุกให้ทั้งคู่ได้ จึงหยิบแมวกวักและพระพิฆเนศที่เป็นตัวยืนพื้นของทางร้าน มาดัดแปลงและทำให้มีความมินิมอลมากยิ่งขึ้น 

จากตอนแรกที่งานเริ่มด้วยกระถางต้นไม้ พอได้มาจับแบรนด์จริงจังจึงเลือกหยิบ Character Art ที่ของแมวกวัก และพระพิฆเนศที่ถือเป็นชิ้นชูโรงสำคัญมาทำต่อ โดยปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบของ Art toy เป็นของสะสมที่นำไปตั้งโชว์ก็น่ารัก มิหนำซ้ำยังถูกใจเหล่านักสะสมไม่ว่าจะเป็นทั้งสายมูเตลู หรือไม่มูเตลูก็ย่อมอยากมีไว้ครอบครอง

ส่วนสินค้าของทางร้านไม่ได้เป็นสินค้าที่นำไปปลุกเสกเพื่อใช้ในการมูเตลูแต่อย่างใด แต่หากลูกค้าชอบคาแรกเตอร์ที่พวกเขาทำก็สามารถนำไปปลุกเสก หรือทำพิธีกรรมเพิ่มเติมได้ ซึ่งจากที่สอบถามทางร้านมาก็พบว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่นำไปทำแบบนั้นเช่นกัน

ในการทำผลงานสักชิ้นหนึ่งขึ้นมา ทั้งคู่ให้ความสำคัญกับเรื่องความชอบของตัวเองเป็นหลัก การจะเลือกหยิบเรื่องราวสักอย่างมาเล่าผ่านเซรามิกและสามารถทำให้เกิดผลงานต่อก็ต้องเลือกจากสิ่งที่ตัวเองคลั่งไคล้เสียก่อน และต้องเป็นสิ่งที่สามารถอยู่กับมันได้นานที่สุด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันนี้ทางร้านก็ไม่เคนหยุดที่จะปั้นเซรามิก และพัฒนาผลงานต่อเลย

“ความชอบของตุ้ย กับ ความชอบของผม มันก็จะถูกผสม และออกมาในรูปแบบที่เรา เห้ยย!! มันถูกปรับมาแล้วลงตัวในแบบที่เราชอบทั้งคู่ด้วย แล้วมันก็จะถูกเสริมแต่งด้วยสิ่งที่เห็นมา” คุณมี่พูดพร้อมกับน้ำเสียงที่ตื่นเต้นก่อนจะหันไปหาคุณตุ้ย

แมวกวัก & พระพิฆเนศ 4.0

แมวกวักและพระพิฆเนศที่ถูกลดทอนรูปลักษณ์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่มากยิ่งขึ้น อย่างที่คุณมี่ และคุณตุ้ยได้กล่าวไปข้างต้นว่าทั้งสองชิ้นนี้ถือเป็นคาแรกเตอร์ประจำแบรนด์เลยก็ว่าได้ ทำให้มีคอลเล็กชั่นใหม่เกิดขึ้น เพื่อให้เห็นอิริยาบถของแมวกวักและพระพิฆเนศมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปางนั่ง ปางนอน รวมไปถึงมีคอลเล็กชั่นที่สร้างสีสันและทำให้เห็นไลฟ์สไตล์ของทั้งแมวกวักและพระพิฆเนศที่มากขึ้น อาทิ On the beach รับช่วงซัมเมอร์ที่ทำให้ได้เห็นมีสีสันและความน่ารักของ Character Art ที่ทางแบรนด์ได้สร้างขึ้น

สองหนุ่มเลือกทำชิ้นงานออกมาให้อยู่ในรูปแบบของ Limited Edition เพื่อไม่ให้งานของเขาดูจำเจจนเกินไป เป็นผลดีทั้งกับผู้สะสม และผู้ผลิตอย่างเขาด้วยที่ต้องปั้นงานนี้ออกมาด้วย ดังนั้น การเลือกจำกัดผลงานที่จะขายก็เพื่อให้เขาได้มีโอกาสคิดงานใหม่ๆ ออกมาอีก โดยไม่ต้องยึดติดกับงานชิ้นเดิมจนทำให้เกิดความเบื่อหน่ายขึ้น

หากทุกคนพอจะทราบกันดีเรื่องการปั้นเซรามิก มีปัจจัยร้อยแปดพันเก้าที่ทำให้เซรามิกมีความไม่คงที่ ไม่ว่าจะเป็นเตาเผา อุณหภูมิ สีแต่ละล็อต ทำให้มีความยุ่งยากในแต่ละขั้นตอน แต่ทั้งคู่ก็ยังสามารถคุมคุณภาพให้อยู่ในมาตรฐานได้เป็นอย่างดีเสมอมา

งานทุกชิ้นเป็นงานทำมือ 100% โดยเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของสองหนุ่มช่วยกันปั้น และคลุกคลีกับผลงานทุกชิ้นมาตั้งแต่กระบวนการแรกไปจนถึงกระบวนการสุดท้าย ด้วยเอกลักษณ์ของงาน Hand Craft จึงทำให้ผลงานแต่ละชิ้น อาจจะไม่ได้เหมือนกันเป๊ะทั้งหมด แต่ยังคงความใกล้เคียงของรูปแบบไว้เหมือนเดิม ซึ่งความไม่เป๊ะเหล่านี้นี่แหละที่ถือเป็นเสน่ห์ในแบบของงานทำมือ นอกจากส่งชิ้นงานถึงมือลูกค้าแล้ว นับว่าสองดูโอ้ยังส่งต่อความคราฟท์ให้ไปถึงมือลูกค้าอีกด้วย 

ทำกันเองหมดเลยหรอคะ?

“ทำกันเองครับ ยันแพ็คของ ส่งของ ขนของไปจัดบูธ” (หัวเราะ) จากบทสนทนาที่เคร่งขรึมเมื่อสักครู่ต่างก็ถูกตัดเลี่ยนด้วยบรรยากาศชวนหัวเราะจากคุณตุ้ย 

และแน่นอนว่าถ้าพระพิฆเนศยังอยู่จนถึงตอนนี้ นี่ก็ถือเป็นแบบจำลองชั้นดีที่ทำให้เห็นความโมเดิร์นและก้าวกระโดดทั้งหน้าตาและไลฟ์สไตล์ของท่านก็เป็นได้นะคะ

ติดตามและอัปเดตผลงานเซรามิคสายมูน่ารักๆ ทั้งหมดได้ที่ WK.studio