Culture

Welcome to Activist Generation – ดุดัน ไม่เกรงใจใคร กับนักเคลื่อนไหวสไตล์ Gen Z

ในปัจจุบันโลกของเราผ่านการพัฒนา และเปลี่ยนแปลงมาหลายต่อหลายครั้ง ด้วยฝีมือของกลุ่มคนที่พยายามสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม หรือที่เราเรียกกันว่า “นักเคลื่อนไหว” (Activist) ซึ่งทุกยุคทุกสมัย ความพยายามของพวกเขาก็สร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมให้เราเห็นตลอด อย่างเรื่องสิทธิ และความเท่าเทียมทางการเมืองของชายหญิง, ความเท่าเทียมของชาติพันธุ์ หรือแม้แต่เรื่องวันทำงาน และวันหยุดแบบที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ก็ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดจากการเคลื่อนไหว และเรียกร้องทางสังคมทั้งสิ้น

ถ้าจะพูดง่ายๆ ก็ลองนึกถึงการเรียกร้องทางสังคมในอดีต ภาพที่เห็นก็คงจะเป็นการถือป้ายประท้วง ลงถนน  หรือแม้แต่การหยุดงาน หยุดเรียนเพื่อต่อรองกับความไม่เป็นธรรมทางสังคม สิ่งเหล่านี้คือ “เครื่องมือ” ในการเรียกร้อง ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ก็ยังสามารถเห็นได้อยู่ เพียงแต่ในปัจจุบันการเรียกร้องทางสังคมสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา แถมยังเกิดขึ้นในพื้นที่ที่หลายๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วอย่าง “โซเชียลมีเดีย” อีกด้วย

วันนี้ EQ เลยอยากพูดถึง “Generation Activist” หรือเจเนอเรชั่นแห่งนักเคลื่อนไหว พวกเขาคือใคร และจะเปลี่ยนมุมมองของการเคลื่อนไหวทางสังคมไปอย่างไรบ้าง เรามาลองทำความรู้จักไปพร้อมๆ กันได้เลย

เมื่อ ‘Gen Z’ เปลี่ยนแปลงมุมมองการเคลื่อนไหว From Streets to Tweets

เมื่อพูดถึงเหล่า Activist ในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนคือ ในสังคมของเรามีนักเคลื่อนไหวจาก Gen Z เยอะขึ้น พวกเขาออกมาเรียกร้อง และสื่อสารประเด็นทางสังคมกันตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเท่านี้ก็ทำให้ภาพลักษณ์ของการเคลื่อนไหวในสังคมเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรแล้ว โดยข้อมูลจาก Edelman แสดงให้เห็นว่า 70% ของเหล่า Gen Z จากทั่วโลก มีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมทางสังคม และการเมือง แม้จะไม่ใช่ทุกคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักเคลื่อนไหว แต่พวกเขาก็ยังคงมีส่วนร่วม และสนับสนุนการขับเคลื่อนสังคมอยู่ดี

Photo Credit: Observer Research Foundation

ความน่าสนใจคือ นอกจากเราจะได้เห็น Activist ที่เด็กลงแล้ว เรายังสามารถพบเห็นการขับเคลื่อนสังคมบนโลกออนไลน์ได้อีกด้วย ยิ่งตอกย้ำให้เราเห็นว่า มุมมองของการเคลื่อนไหวทางสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน

ก่อนอื่นคงต้องพูดว่า โซเชียลมีเดียเปรียบเสมือนธรรมชาติของชาว Gen Z เนื่องจากพวกเขาเกิด และเติบโตมาในโลกที่เทคโนโลยี และการสื่อสารพัฒนาจนง่ายต่อการเข้าถึง เมื่อเทียบกับกลุ่มที่อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านจากยุค Analog สู่ยุค Digital อย่างชาว Gen Y ที่ยังต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และอัพเดตเรื่องเทคโนโลยี เมื่อเทคโนโลยีคือ สภาพแวดล้อมของวัยรุ่นในปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจนักที่เราจะได้เห็นการเคลื่อนไหวทางสังคมในรูปแบบของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งโซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่พื้นที่ในการแสดงออกของวัยรุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ให้พวกเขาได้เปิดหู เปิดตา เปิดใจ ได้ทำความรู้จักกับปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม ซ้ำยังสามารถเปรียบเทียบสถานการณ์ในบ้านเกิดกับต่างประเทศได้อีกด้วย พวกเขาจึงเห็นความสำคัญของปัญหา และภาพของความพัฒนาที่เกิดขึ้นจริงในมุมต่างๆ ของโลกใบนี้ ก่อนที่จะเรียนรู้วิธีใช้เสียงของพวกเขาสื่อสารถึงปัญหาที่พบเห็นมา

Photo Credit: Workpoint today / Daily Dot

เริ่มจากมูฟเมนต์ใกล้ตัวที่น่าจะเป็นปัญหาคาใจวัยรุ่นกันมาหลายต่อหลายยุคอย่าง ‘ทรงผมนักเรียน’ ที่เราเห็นทั้งการออกมาเรียกร้องผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ และการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ยกเลิกการตัดผมตามแบบที่ราชการกำหนด เนื่องจากไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง หรือเกิดมรรคผลใดๆ กับการเรียนเลย ซึ่งเราก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น (บ้างแล้ว) หรือ ‘Gen-Z for Change’ องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่สนับสนุน และรวบรวมมูฟเมนต์ต่างๆ ของเหล่าวัยรุ่นเอาไว้ ซึ่งมีผู้ติดตามในแอ็กเคานต์ TikTok กว่า 1 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สื่อสังคมออนไลน์เป็นพื้นที่ในการแสดงออกทางสังคมได้จริงๆ

การเคลื่อนไหวที่เป็นก้าวใหม่ให้ Activist ในอนาคต

เนื่องจากวัยรุ่น Gen Z เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายของโลกทั้งสภาวะทางเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และข้อมูลข่าวสารจากทั่วทุกสารทิศ ทำให้พวกเขาได้เห็นถึงปัญหาในสังคมที่พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ (ทั้งที่กำลังเกิดขึ้น และที่ต้องรับช่วงต่อจากคนรุ่นก่อน) จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกถ้าวัยรุ่นจะให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาสังคมไปในทางที่ดีขึ้น เพื่อความปลอดภัย และคุณภาพชีวิตของพวกเขาเอง

ปัญหาความเท่าเทียม และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมคือ ประเด็นที่เราจะเห็นได้ชัดเจนจากการขับเคลื่อนสังคมของวัยรุ่น Gen Z ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทัศนคติของเหล่าวัยรุ่น ทั้งเรื่องการยอมรับความแตกต่าง, การเชื่อในความหลากหลาย และความเท่าเทียม, การเคารพความเป็นตัวของตัวเอง และการใส่ใจสิ่งแวดล้อม

Photo Credit: New York Post / Thailand Plus

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น ‘เกรตา ธันเบิร์ก’ (Greta Thunberg) นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่หลายๆ คนต้องรู้จัก เพราะเธอคือ ตัวแทนของเหล่าวัยรุ่นที่ออกมาเรียกร้อง และสร้างความตระหนักรู้ถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังส่งผลกระทบกับความเป็นอยู่ของทุกๆ คน อย่างปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ นอกจากนี้เธอยังเคยเข้าร่วมการประชุมกับผู้นำระดับโลก ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกด้วย หรือนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชาวไทยอย่าง ‘ลิลลี่ – ระริน สถิตธนาสาร’ ที่ออกมาเรียกร้องให้ห้างสรรพสินค้าลดขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในปี 2021 เนื่องจากปัญหาขยะพลาสติกที่เกิดจากวิถีชีวิตของคนเมือง

Photo Credit: ThaiPost

นอกจากนี้ยังมีกรณีของ ‘ตะวัน — ทานตะวัน ตัวตุลานนท์’ และ ‘แบม — อรวรรณ ภู่พงษ์’ สองนักกิจกรรมอิสระ ที่แสดงจุดยืนเรียกร้องให้ศาลปล่อยผู้ต้องขังการเมืองทุกคน โดยการอดอาหาร และน้ำ (Dry Fasting) ซึ่งเป็นการเรียกร้องที่แลกมาด้วยปัญหาสุขภาพ และความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต แต่พวกเธอก็เลือกที่จะใช้วิธีนี้เพื่อต่อสู้กับสิ่งที่พวกเธอมองเห็นว่าไม่ยุติธรรม

จากตรงนี้เราก็คงได้เห็นแล้วว่า วัยรุ่นในปัจจุบันกำลังเรียกร้อง และออกมาเคลื่อนไหวทางสังคม ด้วยรูปแบบ และวิธีการของพวกเขาเอง ผ่านเครื่องมือที่ตนเองถนัด ซึ่งการกระทำเหล่านี้จะเป็นการวางอนาคตให้กับเหล่านักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ว่า เมื่อเราเห็นความไม่ปกติในสังคม เราสามารถแสดงออกได้อย่างเสรี ผ่านรูปแบบ หรือวิธีการใดก็ได้ที่เราต้องการ และพึงพอใจที่จะทำ 

“ที่สำคัญที่สุด อายุไม่ใช่อุปสรรคในการสร้างสังคมที่ยุติธรรมอีกต่อไปแล้ว”

เพราะวัยรุ่นยังมีเวลาให้ลองล้ม และลุกขึ้นสู้ใหม่

‘เกรี้ยวกราด’ ‘ไร้ความอดทน’ ‘หัวร้อน’ เป็นคำที่เรามั่นใจว่าเหล่าวัยรุ่น Gen Z ส่วนหนึ่งต้องเคยได้ยิน ซึ่งเรามองว่า 'ความหุนหันพลันแล่น และความกล้าบ้าบิ่น' ไม่ใช่ตัวตนของวัยรุ่น Gen Z แต่เป็นพัฒนาการของมนุษย์วัยรุ่นในทุกยุคทุกสมัย เพียงแค่กรอบของสังคม และพื้นที่ในการแสดงออกของยุคก่อน ไม่ได้เปิดกว้างเท่ากับปัจจุบัน ทำให้ภาพการเรียกร้องของวัยรุ่นทุกวันนี้ มันช่างเกรี้ยวกราด และแสดงออกแบบตะโกนสุดๆ ไปเลย

ลองนึกภาพของนักเคลื่อนไหวในยุคก่อนดูสิ ภาพที่เราเห็นคงเป็นผู้ทรงภูมิ, คนที่เรียนจบสูง, มีความรู้ถ่องแท้ ถึงจะพร้อมออกมาพูดประเด็นทางสังคมได้ (เพราะมันช่างเปราะบางเสียเหลือเกิน) แต่เราต้องรอถึงจุดนั้นจริงหรือ? ในเมื่อความเป็นจริง เราไม่จำเป็นต้องเรียนจบสูงๆ ก็สามารถส่งเสียงของเราออกมาได้ เพราะความบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนในสังคม มันตั้งอยู่ตรงหน้าเราตลอดเวลา ขอเพียงแค่เราเห็นมัน เราก็สามารถเรียกร้อง และต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมได้แล้ว

Photo Credit: BBC

คนส่วนหนึ่งอาจจะมองว่า การที่วัยรุ่นออกมาเรียกร้อง เป็นเพียงความกราดเกรี้ยว ผสมกับการไหลไปตามกระแสสังคม ของเหล่าเยาวรุ่นที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน ซึ่งก็อาจจะจริง แต่ถ้ามันทำให้ปัญหาที่แฝงเร้นอยู่ในสังคมถูกเปิดเผยออกมา สร้างความตระหนักรู้ ที่อาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีหรอกหรือ? 

ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าการไหลไปตามกระแสของวัยรุ่นบางคน อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของพวกเขา โดยเฉพาะหนุ่มสาวที่เคลื่อนไหวบนอินเทอร์เน็ต โดยใช้โซเชียลมีเดียในการแสดงความคิดเห็น 

แต่จะมีสักกี่คนที่ไม่เคยทำเรื่องผิดพลาดในช่วงวัยรุ่น?

พูดกันตรงๆ ใครๆ ก็เคยผิดพลาดกันทั้งนั้น จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ตัวบุคคล เพราะมันคือ สิ่งที่แสดงออกถึงพัฒนาการของวัยรุ่น ซึ่งเรามองว่า การที่วัยรุ่น Gen Z แสดงออกถึงความกล้า ไม่กลัว และพร้อมลุย ก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไร ซ้ำยังทำให้เห็นถึงพลังของคนรุ่นใหม่ ที่ออกมาตอบโต้กับความผิดปกติ และความบิดเบี้ยวของสังคม

สิ่งที่คนส่วนหนึ่งกังวลใจกับประเด็นการไหลไปตามกระแสของเด็กๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องของข้อมูลที่ชี้นำแบบผิดๆ เพราะ วัยรุ่นส่วนหนึ่งอาจจะยังขาดความรู้เท่าทันสื่อ ซึ่งจะทำให้การไหลไปตามกระแสของพวกเขา เป็นการไหลไปผิดทาง ด้วยข้อมูลที่ผิด ไม่เป็นความจริง จนร้ายแรงที่สุดอาจชี้นำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบที่ไม่ถูกต้อง เช่น การก่อเหตุรุนแรงทั้งต่อตนเอง และผู้อื่น ซึ่งการกระทำสิ่งใดโดยไม่ไตร่ตรองเช่นนี้คือ สิ่งที่ผู้ใหญ่บางส่วนกังวลว่า ลูกหลานที่ไหลไปกับกระแส หรือการปลุกปั่นจนเดินทางผิด จะต้องมานั่งเสียใจกับความพลั้งพลาดในภายหลัง

ถ้าวันหนึ่งการไหลไปตามกระแส จะทำให้พวกเขาต้องมานั่งเสียใจทีหลังจริงๆ พวกเขาก็ยังเด็ก และมีเวลามากพอให้ลุกขึ้นมาแก้ตัวใหม่ และเป็นบทเรียนสู่การเติบโตไปต่อสู้กับสังคมที่ผิดเพี้ยน และความไม่เป็นธรรมในอนาคตได้

Photo Credit: Forbes

“ถ้ามัวแต่กลัวล้ม เราอาจจะไม่เหลือเวลาให้เรียนรู้เลยก็ได้ ว่าเราต้องลุกขึ้นมาอย่างไร”


อ้างอิง
BBC
Y Pulse
ICF
Tat Review
Creative Thailand