Art Of Fitment งานศิลป์ที่วิ่งได้กับ “หนึ่ง Race Auto Tire”

ขึ้นชื่อว่า “งานศิลป์” บางครั้งก็ไม่จำเป็นว่าต้องตีกรอบอยู่แค่เรื่องของสีและผืนผ้าใบ งานประติมากรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรม ฯลฯ ทุกอย่างรอบตัวล้วนสื่อสารในความเป็นศิลปะได้ทั้งสิ้น 

การแต่งรถสักคัน คุณว่ามันจะเป็นเรื่องของงานศิลป์ได้ไหม? วันนี้เราเลยอยากพาไปดูการแต่งรถสไตล์ฟรัช ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นปัจเจกในการแต่งรถอย่างแท้จริง มีเอกลักษณ์ด้วยเรื่องความเตี้ยเป็นบทนำ และแทรกอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนของผู้ครอบครองผ่าน คุณหนึ่ง ภัทรพันธุ์ ตันศิริวรรธน์ แห่งร้าน Race Auto Tire 

ความเป็นมาของ “หนึ่ง Race Auto Tire”

ภายใต้ความสบายๆ ของผู้ชายคนนี้ ความน่าสนใจคือ แนวทางการแต่งรถที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งคุณหนึ่งเล่าให้ฟังกับเราว่า จุดเริ่มต้นของตัวเขากับเรื่องการแต่งรถนั้นก็มาจากการแต่งรถแนวซิ่งทั่วไปเลยเนี่ยแหละ แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้รู้ว่าจริงๆ ชอบแนวไหน และกลายมาเป็นเหมือนชีวิตของเขาในปัจจุบัน เป็นแรงบันดารใจจนกลายเป็นอู่ที่คอรถเตี้ยต้องรู้จัก ก็คือผลงานในการแต่ง Toyota MR2 แนวฟรัชเตี้ยๆ Fitment เป๊ะๆ จนดังกระฉ่อนไปทั่วสารทิศ  

“ปกติเป็นคนชอบรถแต่งอยู่แล้ว ศึกษาเรื่องรถมาตลอด วาดฝันตั้งแต่เด็กๆ พอโตขึ้นซื้อรถมาทำเองที่บ้านก็ซึมซับมาเรื่อยๆ ช่วงแรกแต่งแนวซิ่งปกติ ต่อมาพอเห็นวัฒนธรรมการแต่งแนวอเมริกา ก็คุยกับเพื่อนๆ ว่าแนวนี้มันสวยดี เอาแนวนี้มาทำกันไหม พอเริ่มทำปรากฎว่าก็มีคนทำแนวเดียวกัน เป็นกลุ่มเริ่มใหญ่ขึ้น มีคนสนใจอยากแต่งแนวนี้มากขึ้น และมีคนมาปรึกษาแนวทางผนวกกับมาให้ช่วยทำช่วยแต่งให้ เพราะตอนนั้นร้านช่วงล่างทั่วไปยังไม่มีใครทำได้ เลยเป็นที่มาของร้านเราที่ให้บริการปรับแต่ง ซ่อม ช่วงล่าง เปลี่ยนล้อยาง โหลดเตี้ย จัดทรงรถ ที่ชื่อ Race Auto Tire”

รถแนว “ฟรัช” (Flush) เป็นยังไง 

หลายคนน่าจะเคยเห็นรถแต่งกันทั่วไปตามท้องถนน แต่เชื่อเหอะว่า แนวฟรัช (Flush) นี้  “แตกต่าง” จากทั่วไปแน่ๆ แต่ที่เน้นเลยคือเรื่องความเตี้ยที่มีสาเหตุสังเกตได้ง่ายๆ ชนิดลิ้นหน้าแตะพื้นถนน ซึ่งจะบอกว่าเป็นการแต่ง “แนวเมกา” ก็คงไม่ผิดนักเพราะ ที่มาที่ไปก็มาจากที่คุณหนึ่งได้เสพย์ข้อมูลในวัฒนาธรรมการแต่งแนวนี้จนมาบรรเลงลงกับรถของเขา (แทบจะ) ทุกคันเลยก็ว่าได้  

“จริงๆ แนวนี้มันเริ่มต้นมาจากวัฒธรรมฝรั่งฝั่งอเมริกา คนที่ใช้รถญี่ปุ่นจะหาของแต่งก็ทั้งยากทั้งแพง มีแค่ล้อแม็กซ์ที่พอจะหาได้ง่ายหน่อย เลยพยายามทำรถให้สวยจากแค่ล้อชุดเดียว เริ่มจากหาล้อแม็กซ์มาแต่ง โหลดเตี้ยให้ทรงรถดูสวย เก็บบอดี้ตัวถังให้สวยๆ เนี๊ยบๆ เน้นความเรียบง่ายมาก่อน แต่ต้องสวย ‘จัดทรง’ ให้ลงตัว พอเราเห็นก็เอาเสน่ห์ในการทำรถตรงนั้นมาใช้ในการแต่งให้กับรถลูกค้า” 

“รถแนวฟรัชต้องเน้นเตี้ย ชัดเจนคือ เตี้ย ยางบาง ยางดึง ไม่จำกัดว่าต้องเตี้ยที่สุดเพราะบางคันไม่เตี้ยมากแต่ก็สวย ถามว่าต้องเตี้ยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการใช้งาน ซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม แรกคือรถ Fitment รถแต่งที่จัดทรง เตี้ยหน่อยซุ้มล้อเฉียดๆ แก้มยาง ยางยังไม่ดึงมากเหมือนรถซิ่งทั่วไป แต่สังเกตได้ไม่ยากคือจะเตี้ยกว่า”

“ต่อมาก็แนวฟรัช สเต็ปนี้จะกลางๆ ใส่ยางดึงเตี้ยไม่มาก (แต่ก็มากกว่าแบบแรก) และขั้นสุดของแนวนี้ Hellaflush ที่ ‘เตี้ยสุด’ ใส่ยางดึง ปรับแคมเบอร์ให้ล้อแบะ -5, -6 ไปจน -10 กว่าๆ เลยก็มี เพื่อหลบซุ้ม เตี้ยลากพื้นไปเลย ซึ่งแนวนี้ที่ญี่ปุ่นฮิตมาก ทั้งรถดริฟ บิ๊กซีดาน หรือคลาสสิก ก็นิยมทำแนวนี้กัน” 

รถฟรัช = สไตล์ เป็นของคู่กัน  

เมื่อแยกจำแนกเลเวลของความเป็นรถฟรัชกันได้แล้ว คำถามต่อมาที่หลายคนน่าจะสงสัยก็คือ แล้วอะไรบ้างที่ทำให้การแต่งรถแนวนี้ แตกต่างจากรถแต่งทั่วไปที่เราๆ เห็นกัน แน่นอนว่าเรื่องความเตี้ยเป็นปัจจัยสำคัญละ แต่ถ้ามากกว่านั้นคุณหนึ่งจำกัดความไว้อย่างน่าสนใจกับคำที่ว่า “การแต่งรถที่มีสไตล์” 

“แนวนี้เป็นการแต่งรถที่มีสไตล์ รถโหลดเตี้ยๆ ชนิดซุ้มล้อแตะขอบล้อ ล้อมีออฟเซ็ทลึกๆ เกินสเปคก็เข้านิยามของความเป็นรถฟรัชแล้วนะ แต่คนที่ทำรถแนวนี้จะมีแนวทางเป็นของตัวเอง พยายามใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้รถที่ออกมา ‘ไม่ซ้ำใคร’ โดดเด่นกว่ารถคันอื่น เช่น สีตัวรถ, ลายล้อ, รุ่นล้อ และออฟเซ็ทล้อ นำความคิดสร้างสรรค์มาใส่ไว้ในรถมากที่สุด และยังเป็นการแต่งรถที่ถูกมาก! แนวนี้มันอะไรก็ได้ เน้นความลงตัว สวยงาม และโดดเด่น”

ใครเห็นก็สงสัย “มันวิ่งได้หรอ !?”

มนต์เสน่ห์ของการแต่งรถแนวนี้มันอยู่ตรงนี้แหละ คือทำให้คนงง เห็นรถสวย ๆ เตี้ยที่สุดแต่วิ่งใช้งานได้ปกติ ไม่ใช่เรื่องง่าย! ร้านช่วงล่าง ร้านยาง ร้านแม็กซ์ทั่วไปที่ไม่มีช่างผู้ชำนาญ ไปบอกจะแต่งแนวนี้ก็คงมีเหงื่อตก มันเป็นมากกว่าแค่การแต่งรถเปลี่ยนอะไหล่ใส่แทนของเดิม แต่เป็นงานละเอียดที่ต้องอาศัยประสบการณ์บวกกับความคิดสร้างสรรค์ คนเคยทำคล่องมือ รู้ทันทีว่าเมื่อแต่งแบบไหน ทรงรถจะออกมาเป็นอย่างไร  

“รถแนวนี้มันส์ตรงนี้แหละ ตรงที่คนเห็นก็สงสัยคิดในใจว่า ‘มันวิ่งได้หรอ !?’
คนไม่รู้จักก็ไม่คิดว่าวิ่งได้ แต่จริงๆ มันวิ่งได้”

“การจัดทรงเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับความชำนาญแต่ละคน แต่ละที่ ของผมก็เน้นเซ็ทช่วงล่าง แต่ใช้งานได้จริง ความแตกต่างของ Race Auto Tire กับร้านช่วงล่างทั่วไป คือที่นี่เราเน้นไม่ใช่แค่ใส่ของแต่ง เปลี่ยนโช๊ค เปลี่ยนล้อ จัดทรง ให้ตามของที่ลูกค้าอยากใส่แล้วจบ แต่ยังช่วยแก้ปัญหาช่วงล่างตามที่ลูกค้าต้องการให้ด้วย” 

“ตัวอย่างง่ายๆ โช๊คแต่ละยี่ห้อฟีลไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าการปรับเซ็ทเนี่ยจะเรียกความสามารถของโช๊คออกมาได้แค่ไหน ลูกค้าเข้ามาถามงบเท่านี้อยากได้ฟีลแบบนี้ เตี้ยประมาณนี้ เราก็แนะนำได้ว่าควรใส่ล้อขนาดเท่าไร โหลดเตี้ยลงมาแค่ไหนถึงจะสวย หรือบางทีเอารูปมาให้ดูว่าอยากได้แบบนี้ก็จัดให้ได้” 

อีกหนึ่งสไตล์ของการตกแต่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก ไม่เน้นแรง ไม่เน้นท่อดัง แต่ปังแน่นอนถ้าได้เห็น อาศัยไอเดียเจ้าของรถเป็นหลักผนวกเข้ากับความชำนาญของคนทำรถให้ออกมา “มีทรง” ที่น่ามองและใช้งานได้จริง 

“มันคืองานศิลป์ที่สะท้อนตัวตนเจ้าของรถได้อย่างดีที่สุด
จนยากที่ใครจะเหมือน“

ติดตามร้านและอัพเดตข่าวสารได้ที่ Race Auto Tire