ผู้ชายตัวเล็กหน้าตายิ้มแย้มเดินมาเปิดประตูบ้านพร้อมคำพูดทักทายอย่างเป็นกันเอง ชวนเราก้าวเข้าสู่บ้านสไตล์เรโทรสองชั้นพร้อมสวนเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ทรงแปลกตา พร้อมมุมอุปกรณ์ทำงานศิลปะแบบ DIY พอเปิดประตูเข้าบ้านมา ตรงใจกลางห้องมีเก้าอี้นั่งตัดผมหันหน้าเข้ากระจก รอบห้องตกแต่งด้วยของแต่งบ้านทำมือ เสื้อผ้า และของเล่นสไตล์เรโทร ประสานเสียงเพลงอิเลคโทรนิกคลอๆ นี่คือบ้านและร้าน Cut and Style ของช่างตัดผม พี่อ้วน -- ฤทธิพัฒน์ ศรีสำอางค์ ศิลปินและช่างตัดผมผู้อยู่เบื้องหลังทรงผมเท่ๆ หลากสไตล์ของผู้คนวงการดนตรีและศิลปะของกรุงเทพฯ วันนี้เรามีนัดตัดผมกับพี่อ้วน ก็เลยชวนพี่อ้วนพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องปรัชญาการตัดผมในแบบอินดี้ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง พร้อมมาดูกันว่าวันนี้พี่อ้วนจะออกแบบและตัดทรงผมให้เราได้โดนใจแค่ไหน
จุดเริ่มต้นที่มาพร้อมกับดนตรี
มันเกิดขึ้นมาจากตอนโตมากับยุค 90 เราชอบฟังดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีพ ร็อค บริทป๊อบ มีนักดนตรีที่ชอบเลยอยากตัดผมทรงอย่างเขาบ้าง พอเอาไปให้ช่างร้านบาร์เบอร์สมัยนั้นก็ไม่มีใครตัดได้ เราเลยลองตัดเอง ทรงแรกที่ตัดคือทรงของ Rick Witter นักร้องนำวง Shade Seven พอตัดเองได้เลยอยากลองตัดทรงผมศิลปินโปรดของเพื่อนบ้าง ก็เลยชวนเพื่อนมาลองตัดเล่นๆ ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา จนมาถึงประมาณต้นยุค 2000 ที่สมัยนั้นคนนิยมเปิดร้านเสื้อผ้าแถวสยาม ตอนนั้นทรงที่กำลังฮิตคือทรงผมสไลด์ยาวๆ เราเลยเริ่มออกแบบทรงและลองตัดให้เพื่อนแถวสยาม จนหลายคนชอบแล้วนัดให้เราไปตัดผมแบบจริงจัง ตามร้านค้า ออฟฟิศหรือบ้าน เราเลยหันมาเป็นช่างตัดผม และทำร้านมาตั้งแต่ปี 2005
ช่างตัดผมแนวอินดี้
สมัยก่อนยุค 90 ร้านตัดผมทั่วไปช่างจะตัดทรงผมไม่ได้มากสไตล์เหมือนสมัยนี้ ช่างส่วนใหญ่จะตัดแต่รองทรง ทรงนักเรียน ทรงรองสูง-ต่ำ ถ้าเราอยากได้ทรงผมที่ไม่เหมือนใครมันยากที่จะหาช่างที่เข้าใจและตัดออกมาได้ หรือไม่ก็ต้องไปตัดกับช่างที่ซาลอนแพงๆ เราเรียนจบศิลปะมาเลยเอามาผสมผสานและเรียนรู้สไตล์ตัดผมจากรูปศิลปินอัลเตอร์ที่ชอบ เลยลองเรียกเพื่อนพวกสายศิลปะมาลองตัดผมกับเรา ซึ่งแกงค์เราก็มีแต่เพื่อนแนวๆ มีสไตล์ของตัวเอง ใครอยากได้ทรงแปลกๆ ล้ำๆ เราชวนมาตัดให้เลย สมัยนั้นยังเรียกว่าเป็นช่างที่อินดี้สุดๆ
จิตวิทยากับการตัดผม
ปกติแล้วลูกค้าเราจะมากับไอเดียทรงผมที่เขาอยากได้มาคุยกับเราก่อน แล้วเราจะเริ่มตัดตามสไตล์ที่เขาอยากได้ ลูกค้าที่มีความมั่นใจรู้ว่าเขาอยากได้อะไร เราจะเก็ทกันมากเพราะมองเห็นภาพเดียวกัน เรียกว่าใจตรงกันกับช่าง เราก็จะตัดออกมาได้ดี แต่ถ้าลูกค้าคนไหนยังไม่มั่นใจว่าต้องการทรงแบบไหน เราก็จะต้องพยายามช่วยด้วยการค่อยๆ ตัดผมให้เขามองเห็นภาพและคอมเม้นออกมา แล้วเราจะตัดไปด้วย ถามคอมเม้นเขาไปด้วยจนเขารู้สึกพอใจ สำหรับตัวเราแล้วเป็นช่างตัดผมที่ไม่พูดเยอะ เราไม่ยัดเยียดไอเดียให้ลูกค้า เราเอาความเป็นธรรมชาติและจินตนาการทรงผมของแต่ละคนออกมา เน้นตัดตามคาแรคเตอร์และสไตล์ของคนคนนั้น
ความท้าทายของช่างตัดผม
ลูกค้าคือความท้าทายของเรา ในฐานะช่างตัดผมความพอใจของลูกค้าคือสิ่งสำคัญ เราพยายามตัดผมให้ได้ทรงที่ลูกค้าต้องการและให้เขาแฮปปี้ที่สุด ซึ่งลูกค้าแต่ละคนก็แตกต่างกัน บางคนตัดง่ายเพราะเขามีบุคลิกและสไตล์ที่คล้ายกับเรา แต่บางคนที่เราไม่คุ้นเคย เราก็จะคอยตะล่อมคอยคุย มันท้าทายตรงที่จะตัดยังไงให้เขาพูดออกมาว่าอยากได้อะไรจริงๆ ซึ่งสมัยก่อนเราไม่สนใจอะไรมาก เอาลูกค้าและทรงแปลกไว้ก่อนครับ (หัวเราะ)
ตัดผมสไตล์พี่อ้วน
ตัดผมแบบธรรมชาติ เราเน้นความเรียบง่ายไม่ปรุงแต่ง ไม่สระ ไม่ไดร์ ไม่ใส่เจลจัดทรง เกิดจากประสบการณ์ที่เราไปตัดผมตามร้านแล้วมีการตัดทรงให้เสร็จ แต่พอกลับบ้านไปสระผมแล้วทรงนั้นหายไป เราเอาจุดนี้มาปรับกับสไตล์การตัดผมของเรา ที่ตัดเสร็จแล้วทรงที่คุณเห็นที่ร้าน ไม่ว่าจะกลับไปสระผมที่บ้าน ทรงผมนั้นก็ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน นี่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน Cut and Style ที่เราเอาประสบการณ์ที่ไม่ชอบของการไปร้านตัดผม มาปรับให้ลูกค้าของเราพอใจ ซึ่งลูกค้าประจำส่วนใหญ่เป็นศิลปิน ผู้กำกับ ผู้คนในวงการศิลปะและโฆษณา เขามาตัดกับเราเพราะรู้ว่าเราจะตัดทรงที่เขาต้องการ โดยที่เราก็ได้เรียนรู้การตัดทรงให้เข้ากับคาแรคเตอร์ บุคลิกและหน้าที่การงานของลูกค้าไปด้วย
ความสุขของช่างตัดผม
คือตอนตัดเสร็จแล้วลูกค้าแฮปปี้ เราจะมีความสุขมาก เพราะก่อนตัดผมทุกครั้งเราตื่นเต้นเสมอ เราตั้งใจตัดมากและลุ้นที่จะได้เห็นผลที่ออกมา แต่สุดท้ายถ้าปลายทางมันออกมาใช่ เราก็มีความสุขสุดๆ ล่าสุดมีลูกค้าเอาทรงผม 3-4 ทรงมาให้ตัดในหัวเดียว ซึ่งเขาบอกว่าหาคนตัดให้ยากมากเลยมาหาเรา แบบนี้เข้าทางเรามากแบบคิดในใจ ‘เฮ้ยกูรอมึงมานานแล้ว!’ ยิ่งได้ตัดยิ่งชอบแล้วลูกค้าก็ถูกใจกับทรงที่เราตัดให้มาก นี่คงเป็นสไตล์การตัดผมที่เราชอบจริงๆ
ปรัชญาการใช้ชีวิตแบบพี่อ้วน
เราใช้ชีวิตเรียบๆ ง่ายๆ ทำร้านตัดผมอยู่ที่บ้าน พอว่างจากตัดผมก็ปลูกต้นไม้ และทำงานฝีมือต่างๆ ตอนนี้เริ่มเอาวัสดุธรรมจากชาติมาทำเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านทำเรื่อยๆ
“เพราะความสุขจริงๆ แล้วคือไม่ต้องไปค้นหาความสุข ปล่อยให้มันมาเอง ยามสุขก็สุข ทุกข์ก็ทุกข์ ให้เราอยู่ทางสายกลางเสมอ”
สำหรับชีวิตการทำงานตอนนี้เราแฮปปี้กับร้าน ถ้าในอนาคตก็อยากเพิ่มจำนวนลูกค้าให้มากขึ้น อยากขยายกลุ่มลูกค้าไปเจอคนที่มีสไตล์แบบเราและอยากมาตัดผมกับเรามากขึ้น
พอพูดจบพี่อ้วนก็ตัดผมให้เราเสร็จพอดี วันนี้ทรงที่พี่อ้วนช่วยออกแบบและตัดออกมาได้เท่และโดนใจมาก มองเห็นรอบยิ้มและหน้าตาเบิกบานของช่างอ้วนตอนเราบอกขอบคุณ ถือว่าเป็นการมาตัดผมที่มีความสุขมากจริงๆ ใครสนใจอยากมาตัดผมสไตล์อินดี้กับพี่อ้วน สามารถโทรนัดพี่เขาได้ตลอด หรือเข้าไปดูผลงานในเพจของร้าน Cut and Style ได้เลย
เครดิตภาพโดย Matthieu Lunard