ใบปริญญาอาจไม่มีค่ามากกว่าความรู้ ถ้าไม่คิดที่จะพยายาม ดิ้นรน ขวนขวาย และหมั่นฝึกฝนด้วยตนเอง ดังเช่น บอม ธิตินันท์ จันทร์แต่งผล (Titinan Jantankpol) ที่จบเพียงระดับมัธยมศึกษา แต่ความสามารถที่หลากหลายของเขา สามารถพังทลายและก้าวข้ามผ่านกรอบและสเต็ปของการศึกษาได้ บนความบังเอิญในความตั้งใจ กับเส้นทางที่เขาเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตด้วยตัวของเขาเอง บอมวันนี้ในวัย 38 ปี สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าชีวิตตอนนี้มันสมดุลแล้ว!
บางคนรู้จักเขาจากบทบาทการเป็นมือเบสวงภูมิจิต บางคนรู้จักเขาในฐานะ Animator หรือ นักวาดการ์ตูน บางคนรู้จักเขาในฐานะพ่อค้าขายผัดกะเพรา และบางคนอาจจะรู้จักเขาจากเฟซบุ๊กหรือเพจของเขาก็เป็นได้ นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะความหลากหลายในตัวของเขา ค่อยๆ เริ่มสตาร์ทและทำไปพร้อมๆ กันอย่างละนิดอย่างละหน่อย จนถึงทุกวันนี้ก็ 10 กว่าปีแล้ว
บอม ธิตินันท์ จันทร์แต่งผล (เสื้อสีเหลือง) และวงภูมิจิต
จากเด็กเกเร เด็กหลังห้อง ที่ไม่ชอบเรียนหนังสือ การโดดเรียนไปซ้อมดนตรีก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ การเลือกหัดเล่นเบส ทั้งที่ตัวเองไม่ถนัดเพราะคิดเพียงว่าคู่แข่งน้อย ณ ตอนนั้น และถ้าวันนั้นเขาไม่ขึ้นเล่นงาน A Day ครั้งที่ 3 และได้รับรางวัลป๊อบปูล่าโหวต ก็คงไม่มีบอมมือเบสวงภูมิจิตตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงวันนี้เป็นเวลา 15 ปีแล้ว
เส้นทางแอนนิเมเตอร์
"ตอนนั้นคิดไม่ออกเลยว่า ถ้าเรียนจบม.6 แล้วจะไปเรียนอะไรต่อ บังเอิญมีเพื่อนที่อายุมากกว่า เขาจบช่างศิลป์และจะไปสมัครทำแอนนิเมชั่น แต่เราไปเป็นเพื่อนเฉยๆ ไปถึงเจอสตูดิโอเล็กๆ ที่เขารับงานของญี่ปุ่น เพื่อให้คนไทยทำ เราเลยได้เข้าไปเทสงานกับเขาด้วย ปรากฎว่าผลออกมาเราผ่านเฉย อาจจะด้วยฝีมือที่พอจะพัฒนาต่อไปได้ เขาโอเคและรับเราทำงาน แต่บอกให้เราไปเรียนให้จบก่อน กลายเป็นจบม.6 แล้วเข้าทำงานที่นั่นทันที โดยที่ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย พอทำงานได้ 2 ปี ที่เคยคิดว่าจะเรียนเพิ่มก็ลืมไปเลย เลยทำยาวๆ ไปถึง 10 ปี ทำตั้งแต่ 18-30 ปี"
นอกจากนี้ เขายังเคยออกมาเปิดสตูดิโอและทำกันเองเพื่อนในนาม KARKME เอ็มวีด้ยความเคารพ วงภูมิจิต และ เอ็มวีปลายสายรุ้ง วงพาราด๊อกซ์ คือผลงานสร้างชื่อของเขา แต่ทำสตูดิโอนี้ได้ 2 ปีก็เจ๊ง แต่บอมก็ยังทำงานด้านนี้มาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อความฝันกับความจริงสวนทางกัน การทำงานต่อด้านแอนนิเมเตอร์ที่ญี่ปุ่นเป็นเวลา 6 เดือนต้องถูกพับเก็บไว้ เพราะการเป็น "พ่อค้าขายกะเพรา" อาจเป็นทางเลือกที่เลี้ยงชีพได้จริงกว่า "กะเพรา 9 นิ้ว" ที่หลายๆ คนพบเจอตามงานดนตรีและอีเวนท์ต่างๆ ที่ดูเจ๋ง เก่ง ทำอร่อย และขายดี แต่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้คือ การฝึกฝนในร้านอาหารและห้องครัวเป็นเวลา 2 ปี กับพี่จั้ง (ร้านย้อนแยงเร็คคอร์ดสุทรียะและสหาย) เขาได้ลองผิดลองถูกและสามารถสวมบทบาทการเป็นพ่อค้ามือใหม่ได้อย่างสบายๆ
เพจ BENDA 5000
"เพจเราไม่ได้บูมมาก เพราะไม่ได้พูดถึงอะไรที่มันแมสมาก หลักๆ จิกกัดสังคม และไม่ได้เน้นไปเรื่องการเมือง แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับสังคมแล้วเราอิหยังวะ อยากจะด่า อยากจะสบถ แต่ไม่อยากจะเยอะ เราก็วาดมันออกมาเป็นการ์ตูน แล้วเอาไปให้คนตีความกันเอง ลายเส้นหลักๆ ที่ใช้วาดการ์ตูนในเพจ มี 2 แบบ ถ้าเป็นปีที่แล้ว จะวาดลายเส้นไทย รูปแรกที่วาดเป็นรูปเมขลาล่อแก้ว (ที่เป็นพนักงานสาวออฟฟิศหิ้วชาไข่มุกปิดใส่แมส) ช่วงนั้น PM 2.5 มาแรง แล้วก็ลองปรับลายเส้นใหม่เป็นแบบการ์ตูนน่ารักๆ ช่วงปลายปีที่แล้วการเมืองดุเดือดมาก เลยปรับให้เป็นลายเส้นแบบการ์ตูนก็สนุกสนานดี ถามว่ากลัวไหม ก็กลัว (หัวเราะ) แต่ถ้าไม่ทำออกไปก็คงคาใจ"
โรงงานสกรีนเสื้อยืด กิจการของคุณพ่อที่เขาก็ไม่เคยคิดทิ้ง จากการสกรีนเสื้อยืดทั่วๆ ไป กลายเป็นทำจริงจังและมีการตัดเย็บเพื่อสร้างแพทเทิร์นใหม่ๆ นอกจากการ์ตูนบนเสื้อยืด ตัวหนังสือบนเสื้อยืดก็เป็นอีกสิ่งที่หลายๆ คนชื่นชอบและให้ความสนใจ ด้วยประโยคที่อาจจะดูหยาบแต่ไม่ใช่เพื่อการด่าทอ เพราะคือความตลกและสนุกสนาน ซึ่งเหมือนสิ่งที่อยู่ในใจของใครหลายๆ คนและไม่สามารถพูดมันออกมาได้
ช่างสัก
"เคยสักก่อนหน้านี้มาแล้ว เมื่อปี 2015 ตอนนั้นได้ลองสักกับหนังเทียมประมาณ 2 เดือน รู้สึกว่ามันน่าสนใจและสนุก แต่ไม่กล้าสักบนหนังคน เพราะกลัวออกมาไม่สวยและเพิ่งมาสักจริงจังตอน ปี 62 มาทำกับแฟน เขาชอบงานสักอยู่แล้ว เขาซื้อเครื่องสักมาฝึก เราก็เลยฝึกและข้ามกำแพงตัวเองมาได้ ทำให้กล้าลงหนังคนจริงๆ โดยเราชอบครีเอทลายใหม่ๆ ขึ้นมาด้วยตัวเอง โดยใช้สกิลการออกแบบร่วมกับงานสัก เมนหลักงานสักของเราคือการ์ตูน คนที่มาหาเราเขาจะรู้อยู่แล้วว่าจะได้ประมาณไหน"
“ทุกอาชีพอยู่ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน เราทำทุกอย่างพร้อมๆ กัน และเราก็ไม่ทิ้งอะไรเลย”
โควิดกระทบครึ่งหนึ่ง!
"มันโดนผลกระทบบางอย่าง แล้วบางอย่างไม่โดน เลยพอจะรอดได้อยู่บ้าง อย่างร้านสักโดนเต็มๆ เพราะรัฐบาลให้ปิด แต่เรายังมีงานพาร์ทอื่นๆ ที่พอทำได้อยู่ เช่น วาดสตอรี่บอร์ดงานและเอ็มวีต่างๆ ที่ยังพอมี เพราะงานที่โดนผลกระทบกับไม่โดน มันครึ่งๆ เลย เพียงแต่ได้เงินน้อยลง แต่ไม่ถึงกับทรุดมาก ตอนนี้ขายรูปงานศิลปะดิจิทัล ผ่าน NFT ตลาดวาดงานขายดิจิทัล 3D ต่างๆ ตอนนี้ขายรูปได้ประมาณหมื่นหนึ่งแล้ว เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้งานศิลปะก้าวไปข้างหน้าได้ไว เป็นพื้นที่ของศิลปินที่ทำให้ผลงานสามารถสร้างรายได้"
“เพราะเราทำงานหลายอย่าง ส่วนที่ร่วงก็ร่วงจริง ส่วนที่เราประคองก็ประคองต่อไป เราไม่มีหนี้และไม่มีรายจ่ายเยอะแยะ แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ 3-4 เดือนมันจะเป็นยังไง”
อยากพูดอะไรกับโควิด
"ถึงไม่โดนผลกระทบมากมาย แต่ทำให้เรารู้สึกว่า เรากำลังจะไปได้สวยเลย แต่เหมือนโดนฉุดไว้ในช่วง 2 ปีนี้ เรื่องไวรัสส่วนหนึ่ง แต่เรื่องบริหารจัดการเรื่องใหญ่ เพราะประเทศรอบๆ เขาเริ่มฟื้นและทำอะไรได้แล้ว แต่ทำไมประเทศเรามันร่วงลงๆ ไม่เห็นทีท่าว่าจะดีขึ้น"
ทิศทางอาชีพในอนาคต
"อยากทำร้านสักใหม่ อยากสร้างคอมมูนิตี้ที่มันใหญ่กว่านี้ แต่เป็นแผนของอนาคต ที่ต้องใช้เงินที่เหลือมาทำโดยไม่รบกวนเงินเก็บ 2 ปีนี้ ชีวิตเริ่มอยู่ตัวแล้ว เราแค่ไม่แย่ไปกว่านี้โอเคแล้ว จะเป็นกราฟนิ่งๆ แบบนี้ก็ดี หรือจะพีคขึ้นปไปอีกก็ยิ่งดี ในการลงทุนทำธุรกิจหรือทำอะไรก็ตาม แต่สิ่งที่จะไม่ให้เกิดขึ้นคือ ต้องไม่ถอยหลังไปมากว่านี้ เรารู้สึกว่าบาลานซ์ชีวิตทุกอย่างมันโอเคแล้ว"
นิยามตัวเอง
"รับจ้างทั่วไป เป็นสิ่งที่ลินิน (ลูกสาว) ตอบคุณครูไป เขาตอบแบบนั้นเพราะเขาเห็นพ่อทำหลากหลายอาชีพ ใครจ้างอะไรก็ทำครับ"
ติดตามบอม ธิตินันท์ และอัพเดตภาพจิกกัดสังคมได้ที่ Titinan Jantankpol, BENDA5000