Culture

ย้อนวัยหวานกับ 'Cassette Shop' ร้านเทปใจกลางกรุง ที่เชื่อว่าการฟังเพลงจะทำให้เวลาหมุนช้าลง

ท่ามกลางตึกสูงระฟ้าแห่งย่านสะพานควาย ผนวกกับความวุ่นวายของรถราและผู้คนบนท้องถนน ซุกซ่อนร้าน 'Cassette Shop' ร้านจำหน่าย 'เทปคาสเซ็ต' ในซอยประดิพัทธ์ 19 ที่ล้อมรอบด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ งานศิลปะ และเสียงดนตรี เช่นเดียวกับตลับเทปจากหลากหลายยุคสมัย ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในช่วง 'รักครั้งแรก' ที่มีเทปคาสเซ็ตเป็นสื่อกลาง

EQ พาทุกคนไปนั่งฟังเพลงผ่านเทปคาสเซ็ต และพูดคุยกับ ‘เจ’ - ณัฐพล สว่างตระกูล เจ้าของร้านอารมณ์ดี ผู้พร้อมต้อนรับนักฟังเพลงทุกคนเข้าสู่โลกของเทปคาสเซ็ตที่สุดแสนจะมีเสน่ห์

เด็กแฟชั่นที่รักในเสียงดนตรี

ผมเป็นคนชอบฟังเพลงมาก เรียกว่าบ้าคลั่งเลยก็ได้ เรามีชีวิตอยู่กับดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วดนตรีก็เป็นแรงขับเคลื่อนในการใช้ชีวิตของผมมาโดยตลอด ผมมีความฝันอยากเป็นนักออกแบบ ผมอยากเรียนออกแบบสิ่งพิมพ์ แต่เอนทรานซ์ไม่ติด ไปติดคณะแฟชั่นดีไซน์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมกล้าพูดเลยว่าผมเป็น ‘คนนอกคอก’ ในยุคนั้น คือผมเป็นเด็กแฟชั่นที่ไม่สนใจแฟชั่นเลย ผมฟังดนตรีอย่างเดียว และทุกงานออกแบบของผมก็จะเกี่ยวข้องกับดนตรีทั้งหมด

เทปคาสเซ็ตคือความหลงใหล

ผมโตมากับเทปคาสเซ็ต เรียกว่าผมคือ ‘เด็กเทปของแท้’ ผมอินกับวัฒนธรรมเทปคาสเซ็ตมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปกเทป การนั่งเปิดเทป การกรอเทป ใช้ปากกาหมุน เอาเทปไปแช่ตู้เย็น เทปยาน คือทั้งหมดนี้เป็นเสน่ห์ของเทปที่ผมคิดว่ามันเจ๋งดี แล้วตอนสมัยยุคของเทป คุณจะเจอปัญหาแบบว่า ‘เครื่องกินเทป’ ซึ่งการที่เทปโดนกิน ไม่ได้หมายความว่าเทปม้วนนั้นจะเสียแค่ม้วนเดียวนะ แต่หมายถึงเครื่องเล่นมันกำลังจะเสียด้วย ซึ่งผมเจอปัญหานี้มาตั้งแต่เด็กๆ เลย แล้วผมก็จะยกไปให้ช่างแถวบ้านช่วยซ่อมให้ ไปนั่งรอ ไปนั่งดูช่าง จนช่างเขาไม่คิดเงินผมแล้ว (หัวเราะ)

เปลี่ยนความหลงใหลเป็นธุรกิจ

พอผมเรียนจบ ผมก็ได้ทำงานประจำเป็นดีไซเนอร์ให้กับแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นหลายแบรนด์ จนมันมาถึงจุดหักเหของชีวิตที่ผมรู้สึกว่าอยากเริ่มทำอะไรสักอย่างที่เราชอบจริงๆ เพื่อนก็บอกว่า ‘บ้าดนตรี ก็ลองทำอะไรเกี่ยวกับดนตรีดีไหม’ ผมก็เลยตัดสินใจเลิกทำงานออกแบบ แล้วก็มีโอกาสได้ไปฝึกงาน คือไม่ได้เรียกว่าฝึกงานหรอก เรียกว่าไปขอเรียนรู้วิชาที่ ‘ร้านแผ่นเสียง’ ดีกว่า ผมก็ไปเป็นลูกน้องเขา แล้วก็ได้ปรึกษากับ ‘พี่นก’ (พงศกร ดิถีเพ็ง) ว่าผมอยากเปิดร้านเทป พี่นกก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักมากๆ แกก็บอกว่าเอาสิ ลองทำดู ลองทำขำๆ ก่อนก็ได้

เริ่มทำร้านแบบขำๆ

ตอนแรกก็คิดว่าขำๆ เพราะตอนนั้นผมมีเทปอยู่ที่บ้านหลายพันม้วนมากเลย ก็เลยลองเอาไปขายในออนไลน์ก่อน ขายออนไลน์ได้สองสามเดือน ก็รู้สึกว่า ทำไมเราขายไม่ได้เลย แล้วก็ได้คำตอบว่า เราต้องทำแบรนดิ้ง ประกอบกับก่อนที่ผมจะเลิกทำงานออกแบบ ผมมีโอกาสได้ทำงานวางโครงสร้างให้กับแบรนด์ต่างๆ แล้วก็คิดภาพลักษณ์ให้กับลูกค้าหลายๆ คน ทำให้ผมพอจะมีความรู้เรื่องการทำแบรนดิ้งมาบ้าง พอคิดได้แบบนั้น ผมก็เริ่มวางโครงสร้างธุรกิจ เปิดหน้าร้าน มีร้านให้คนเห็น ถ่ายรูปให้คนเห็นในโซเชียลมีเดีย และมันก็ได้รับผลตอบรับที่ดี เรียกว่าพอถึงเวลาจริง มันไม่ขำแล้ว  

โครงสร้างธุรกิจแบบจริงจัง

เรียกได้ว่าเราตีตลาดออนไลน์เลยก็ว่าได้ เน้นเรื่องรูป ภาพลักษณ์ และเราเชื่อว่าเวลาเราไปที่ที่หนึ่งตามในโซเชียลมีเดีย ถ้ามันไม่จริง มันจะรู้สึกไม่ค่อยดี ผมก็เลยทำร้านของผมให้จริงที่สุด ผมพยายามทำให้ร้านเป็นเหมือนบ้าน หลายคนที่มาก็จะรู้สึกว่าที่นี่เหมือนห้องนอนของพวกเขา แล้วก็มีคนเริ่มมาที่ร้านมากขึ้นเรื่อยๆ พอมีคนเริ่มมา ผมก็มีไอเดียว่าอยากทำเทปคาสเซ็ตใหม่ด้วย จนสุดท้ายเรากลายเป็นร้านเทปที่ผลิตเทปใหม่ออกมาด้วย แล้วผมสั่งผลิตที่แคนาดาเลยนะ เป็นโรงงานเดียวกับที่ผลิตเทปให้กับทั่วโลกในตอนนี้ คือทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริงจังไปหมด

หลายคนบอกว่ามันโคตรบ้าเลย เมื่อก่อนนั่งคุยกันก็บอกว่าทำแบบขำๆ แต่ทุกอย่างมันกลายเป็นจริงหมดเลย ซึ่งผมบอกเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผมวางเอาไว้แล้ว โครงสร้างธุรกิจมันต้องเป็นแบบนี้แหละ การจะทำให้คนสนใจ อย่างแรกคือต้องมีเทปเก่า แล้วของใหม่ก็ต้องมีด้วย เพราะถ้ามีเทปใหม่ก็แปลว่าเทปยังอยู่ ยังไม่หายไปไหน จนเทปกลับมาได้รับความนิยมสูงเมื่อประมาณ 2 - 3 ปีก่อน แล้วก็ค่อยๆ ลดความนิยมลงมา จนวันนี้มันก็อยู่ในระดับที่ว่าเหลือแต่คนที่ชอบ คนที่รักเทปคาสเซ็ตจริงๆ แล้ว

สตรีมมิ่งเพลงคือตัวช่วย

สิ่งที่หาไม่ได้จากการสตรีมมิ่งเพลงคืออะไรรู้ไหม มันคือ 'การจ่ายเงิน' ถ้าคุณชอบศิลปินคนไหน คุณต้องจ่ายเงินเพื่อซื้ออะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับศิลปินคนนั้น แล้วคุณจะรู้สึกฟิน เพราะมันคือการสนับสนุนศิลปิน คือเราต้องตีโจทย์ให้แตกว่า ตอนนี้ออนไลน์คือฟรีไปหมดทุกอย่างแล้ว แต่คุณจะทำยังไงให้แฟนเพลงเขาชอบคุณมากๆ จนยอมที่จะซื้ออะไรสักอย่างของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นลายเซ็น การ์ด เสื้อผ้า หรือหมวก แต่สำหรับผม ผมมองว่ามันเป็นเทปคาสเซ็ต ตอนผมเริ่มผลิตเทป ก็มีคนจากค่ายใหญ่มาถามว่าจะทำได้จริงเหรอ เพราะเทปมันราคาถูก ตอนนี้เอาไปขายร้อยกว่าบาทยังขายไม่ได้เลย แต่เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ เทปคาสเซ็ตม้วนละ 700 บาทเลยนะ

สำหรับแฟนเพลงแล้ว การจ่ายเงิน 700 บาทคือการได้รับสิ่งของที่จับต้องได้ เป็นเรื่องเป็นราว เป็นกล่องเป็นม้วน ซึ่งเขาก็คิดว่าคุ้มค่า ซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการ ดังนั้น ถ้าถามว่าวันนี้ผมกลัวสตรีมมิ่งเพลงไหม ผมไม่กลัวเลยนะ ไม่เคยกลัวเลยสักนิดเดียว มันเป็นเรื่องดีเสียอีก เพราะคนฟังเขาจะได้ทดลองฟังก่อน ถ้าเขาชอบ เขาก็จะไปซื้อของ

สร้างคอมมูนิตี้คนชอบเทปคาสเซ็ต

ร้าน Cassette Shop เปิดมาได้ 5 ปีแล้ว กำลังจะขึ้นปีที่ 6 ตอนนี้เจ้าประจำหลักๆ ที่มาที่ร้านก็จะมี 2 วัย คือวัยที่เป็นเด็กมัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัย กลุ่มนี้มาเยอะ เพราะเขาไปคุยกับคนในโซเชียล แล้วบางทีคุยไม่รู้เรื่อง หรืออาจจะไม่ได้รับคำตอบที่เขาอยากได้ บางทีเขาเห็นเราในสื่อ เขาก็อยากจะมาถาม กับอีกกลุ่มก็จะเป็นช่วงวัยใกล้ๆ กับผม คือสัก 30 - 40 ปีต้นๆ กลุ่มนี้ก็จะเข้ามาด้วยอารมณ์อยากรู้จักเรา พอได้นั่งคุยกันก็กลายเป็นเพื่อนกัน แล้วก็จะมาที่ร้านบ่อย

ช่วงหลังถ้าใครตามในเพจ ก็จะเห็นว่าผมเริ่มไปเอาเทปไปเปิด ไปเป็นดีเจตามบาร์ต่างๆ เพราะผมมองว่าการฟังเทปไม่ใช่การฟังอยู่ในบ้านเท่านั้นแล้วนะ แต่ผมเป็นดีเจได้โดยการใช้เทป ผมทำทุกอย่างได้โดยใช้เทปคาสเซ็ตเป็นตัวขับเคลื่อน และต่อจากนี้ผมก็จะใช้เทปต่อไปอีกเรื่อยๆ มันเป็นเรื่องสนุกที่สุดของผมเลย ไม่เพียงเท่านั้น การสื่อสารบนโซเชียลมีเดียก็สำคัญ อย่างบทความ How to แนะนำเพลง หรือแนะนำเครื่องเล่น เรียกว่าผมยังขับเคลื่อนและพยายามสร้างคอมมูนิตี้สำหรับคนรักเทปคาสเซ็ตอยู่ตลอด แม้ว่าโลกภายนอกจะรวดเร็ว เทคโนโลยีล้ำแค่ไหน แต่ตรงนี้ยังมีความอิ่มเอม ความเชื่องช้า และวัฒนธรรมการฟังเพลงเทปคาสเซ็ตอยู่เสมอ

ให้เทปคาสเซ็ตช่วยเยียวยา

การฟังเทปคาสเซ็ตคือการทำให้ตัวเองช้าลง และเป็นการเยียวยาที่ดีอย่างหนึ่ง มันหยิบจับได้ง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าจะมาเล่นเทป ก็ลองหาเทปมือสองที่ชอบฟัง หรือที่ไม่เคยฟัง ลองหามาเปิดฟังดู ผมว่าไม่เกินสองม้วน คุณจะเข้าใจที่ผมทำงานอยู่ทุกวันนี้ แล้วก็แวะมาหาซื้อเทปที่ร้านผมได้ ร้านผมเปิดทุกอาทิตย์ มาถามได้เลยว่าผมเปิดร้านไหม มานั่งคุยกัน มานั่งเล่นได้เสมอ

แวะไปสัมผัสเสน่ห์ของเทปคาสเซ็ตได้ที่ร้าน Cassette Shop

ประดิพัทธ์ 19 สะพานควาย เข้าซอยมา 100 ม.​ ถัดจากร้านแผ่นเสียงมา 1 หลัง (Google Map)

Facebook: Cassette Shop