Culture

ดำดิ่งไปให้สุดกับ ‘Dark Tourism’ การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แบบใหม่ ที่ชวนให้นักท่องเที่ยวต้องเสียวสันหลัง

เราอาจจะเคยเห็นอินฟลูฯ วัยรุ่นพาทัวร์บ้านผีสิง หรือทัวร์โรงพยาบาลร้างบนโซเชียลแพลตฟอร์มมาบ้าง อีกหนึ่งรูปแบบความบันเทิงที่ไม่เหมือนใครเหล่านี้ดึงดูดผู้คนหลากหลายกลุ่มที่ต้องการสำรวจด้านมืดของประวัติศาสตร์ ให้พร้อมหลงระเริงไปกับความน่ากลัวของสถานที่จริง และเปิดรับประสบการณ์ความตื่นเต้นกับสิ่งแปลกใหม่ ทัวร์ที่พาลูกทัวร์ขนหัวลุกซู่เหล่านี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา EQ จึงอยากพาทุกคนมาเจาะลึกเบื้องหลังกลไกของความสำเร็จ และอีกหลากหลายแง่มุมของทัวร์ประเภทนี้

ทำไมคนถึงไป Dark Tourism

มนุษย์เรามักจะมีความรู้สึกหลงใหลต่อความน่ากลัว และความลึกลับได้ เมื่อความสนใจในเงาของม่านกั้นระหว่างคนเป็น และคนตายได้ทอดยาวไปสู่คนหลากหลายกลุ่มในปัจจุบัน โดยเฉพาะ Gen Z มีการสำรวจออกมาว่า Gen Z ถึง 91% เคยเข้าร่วมทัวร์ประเภทนี้ และวัยรุ่นในอเมริกากว่า 82% ที่เคยเข้าร่วมทัวร์ประเภทนี้ ผู้คนก็ยิ่งถูกดึงดูดให้ไปสำรวจสถานที่อันน่าขนลุก สุดหลอน การหยิบจับสิ่งเหล่านี้มาถักทอเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่มีกลิ่นความสยองขวัญชวนน่าค้นหาเป็นที่มาของ ‘Dark Tourism’ นั่นเอง

Photo Credit: @jacktherippertourslondon

หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของ Dark Tourism คือ ‘Jack the Ripper Tour’ ได้รับ รางวัล Traveller’s Choice ปี 2022 จาก Tripadvisor ทางทัวร์จะนำลูกทัวร์ไปยังสถานที่เกิดเหตุจริงที่ฆาตกรโหดชื่อดังอย่าง Jack the Ripper ลงมือสังหารเหยื่ออย่างเลือดเย็นในยุควิคตอเรียน นำทีมโดย 4 นักเขียนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากการร้อยเรียง และตีพิมพ์เรื่องราวของฆาตกร เพื่อให้ลูกทัวร์ได้ซึมซับบรรยากาศของ East End ในปี 1888 โดยทัวร์เปิดประเดิมด้วยเส้นทางจากอุโมงค์ใต้ดิน Aldgate East นำลูกทัวร์เดินไปตามซอยที่ปูทางหิน ด้วยความสวยงามปนน่าขนลุกของสถาปัตยกรรมยุควิคตอเรียน จนลูกทัวร์ต้องมีเสียวสันหลังวาบ หรืออึดอัดอย่างบอกไม่ถูกกันบ้าง

เสน่ห์ลึกลับของ Dark Tourism

แนวคิดของการดำดิ่งลงไปในบรรยากาศแห่งความกลัวนั้นอย่างเต็มใจ อาจจะดูไร้เหตุผลสำหรับบางคน แต่มันเป็นจุดขายของ Dark Tourism ทัวร์เหล่านี้พยายามพาลูกทัวร์ไปสัมผัสความตื่นเต้นที่เกิดจากการก้าวข้ามขอบเขต Comfort Zone ของตัวเอง และการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ทำให้เราเสียวสันหลังได้ ทัวร์สยองขวัญจึงนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสถานที่จริง แกล้มบรรยากาศที่น่ากลัวเพื่อให้ลูกทัวร์ได้สัมผัสกับความตื่นเต้นสยองขวัญ

จิตวิทยากับ Dark Tourism

Dark Tourism สามารถสะท้อนแง่มุมต่างๆ ของจิตใจลูกทัวร์ได้ เพราะคนเรามักจะมีความอยากรู้อยากเห็น บางคนจึงอยากสำรวจสถานที่ๆ เคยเกิดเหตุโศกนาฏกรรม หรือมีเรื่องเล่ากล่าวขานถึงสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆ เพื่อเจาะลึกเข้าไปให้ถึงจุดที่มืดมนที่สุดบนประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์นั้น บางคนก็พยายามไขปริศนาลึกลับเหนือธรรมชาติที่ถูกเล่าต่อกันมา โดยหวังว่าจะได้เห็น หรือสื่อสารกับวิญญาณได้สักครั้ง เสน่ห์ของทัวร์สยองขวัญอยู่ที่การเผชิญหน้ากับสิ่งที่อธิบายไม่ได้ ผสมผสานความจริงที่เปิดเผยแล้ว เข้ากับสิ่งที่ยังไม่ถูกไขให้กระจ่าง ก่อนตั้งคำถามเกี่ยวกับความเข้าใจของเราที่มีต่อโลกใบนี้

Photo Credit: Singapore Creepy Tour

อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจคงจะเป็น Dark Tourism ในสิงคโปร์ ที่ฮอตฮิตของชาวต่างชาติมากๆ ด้วยประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างโหดร้ายของการฆ่าล้างกันเองของมนุษย์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมกิจกรรมพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของทัวร์นี้อย่าง การตรวจจับพลังงานที่มองไม่เห็นด้วยเครื่องมือพิเศษ ที่ทางทัวร์จะนำนักท่องเที่ยวไปเดินผ่านสุสานของผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมคลอด้วยการเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสิงคโปร์ในอดีต โดยทัวร์นี้ได้เรตติ้งถึง 4.9 ดาวบนเว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยว klook.com ถ้ามีโอกาสได้ไปสิงคโปร์ครั้งหน้า หลายๆ คนคงต้องเผื่อเวลาช่วงค่ำสักวันไปเปิดประสบการณ์นี้แล้ว

นอกจากนี้  Dark Tourism อาจมีส่วนช่วยให้เราได้ปลดปล่อยความเครียดที่เจอในชีวิตประจำวันของเรา ทำให้เราพบความสบายใจ และความชอบใหม่สำหรับชีวิต Dark Tourism ทำหน้าที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสำรวจจิตใจ พร้อมทั้งระบายอารมณ์ของลูกทัวร์ เมื่อเราออกทัวร์ เราอาจจะต้องเผชิญหน้ากับความกลัวที่ไม่ได้คาดไว้ทั้งที่รู้ตัว Dark Tourism ยังทำให้เราเข้าใจความกลัว และความเปราะบางของตัวเองมากขึ้นอีกด้วย เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง ประสบการณ์ที่พาให้ลูกทัวร์ขนหัวลุกเหล่านี้ นำเสนอการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของสถานที่ และเหตุการณ์ต่างๆ จะทำให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์ในสถานที่นั้นๆ อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

Photo Credit: James Cook University

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของ Dark Tourism ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบ และมีจริยธรรม รวมทั้งผู้เข้ารับประสบการณ์เองก็ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงร่วมกันด้วย เพื่อให้แน่ใจว่า การแสวงหาความตื่นเต้นนี้จะอยู่ในความปลอดภัย, เคารพสถานที่ และเหตุการณ์โศกนาฏกรรมในอดีต บริษัททัวร์จึงต้องให้เกียรติประวัติศาสตร์ และการจัดหาผู้ที่สามารถให้ข้อมูลตามความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ได้

ทั้งนี้ การเข้าร่วมทัวร์ Dark Tourism อาจสามารถส่งผลกระทบทางจิตใจต่อลูกทัวร์บางคน ด้วยสภาวะความกลัว และความวิตกกังวลที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าการทัวร์จะสามารถกระตุ้นอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่าน และหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินจนเกิดความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจได้ก็จริง แต่สำหรับบางคน ประสบการณ์เหล่านี้อาจนำไปสู่อาการ PTSD หรือโรควิตกกังวลได้เช่นกัน ผู้จัดทัวร์จึงจำเป็นต้องมั่นใจในความปลอดภัย และสวัสดิภาพของลูกทัวร์ แต่ลูกทัวร์เองก็ต้องเลือกสรรทัวร์ที่เหมาะกับตัวเองด้วย ดังนั้นการศึกษารายละเอียดของการทัวร์ว่า จะมีกิจกรรมใด หรือไปในสถานที่ใดบ้าง ก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำก่อนเสมอ

Photo Credit: Blackout Haunted House

บทบาทของเรื่องแต่ง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เราจะรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันทีเมื่อ End Credit หลังจบภาพยนตร์ขึ้นมาว่า สิ่งที่เราได้ชมนั้น ‘สร้างมาจากเรื่องจริง’ ถึงอย่างนั้นภาพยนตร์ก็ไม่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวจริงทั้งหมด เรื่องที่แต่งขึ้นมา และการจัดองค์ประกอบภาพ จึงเข้ามามีบทบาทในการทำ Dark Tourism ในเชิงท่องเที่ยวตามรอยภาพยนตร์แนวสยองขวัญเช่นกัน แต่กลับกันการ Make Up ของบ้านผีสิง หรือสถานที่อย่างเขาวงกต วิ่งหนีซอมบี้ หรือผี ก็เริ่มไม่ได้รุ่งเรืองเท่าในยุคก่อนๆ อ้างอิงจากการให้สัมภาษณ์ของหนึ่งในผู้เข้าไปเปิดประสบการณ์ในบ้านผีสิง Blackout เธอบอกว่า จะเรียกบ้านผีสิงก็ไม่ถูก มันไม่มีอะไรที่เหนือธรรมชาติเลย แค่นักแสดงที่แต่งตัวมาตุ้งแช่ใส่ หายใจก็แทบไม่ออก เพราะสถานที่จัดอยู่ในมหานครนิวยอร์กมันเล็กมาก แทบทำอะไรไม่ได้เลย!

มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความสงสัยได้กับทุกเรื่อง ซึ่งก็เป็นบ่อเกิดของการบูชานับถือสิ่งที่เราจับต้อง และหาคำตอบไม่ได้ เรามักถูกดึงดูดเข้าหาสิ่งลึกลับ และไม่รู้จักอยู่เสมอ Dark Tourism จึงเป็นโอกาสในการเผชิญหน้ากับความกลัว และความอยากรู้อยากเห็นที่อยู่ลึกสุดของใจเรา Dark Tourism มอบโอกาสที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกทัวร์ในการเผชิญหน้ากับความกลัวที่โหยหา ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยหลีกหนีจากความธรรมดา และเข้าถึงความอยากรู้อยากเห็นที่มีมาแต่กำเนิดของเรา ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นแค่วิธีพรีเซนต์ของบริษัททัวร์ เพื่อให้เกิดการเล่าประวัติศาสตร์แบบใหม่ และเพิ่มความตื่นเต้นให้กับลูกทัวร์ ด้วยสถานที่เกิดเหตุจริงนั่นเอง

อ้างอิง

Travel News

Jack The Ripper Tour

Observe