กลายเป็นอีกหนึ่งดาวเตะระดับโลกที่ได้โบกมืออำลาลีกลูกหนังยุโรปเพื่อย้ายไปโกยเงินจากการค้าแข้งในลีกสูงสุดของซาอุดิอาระเบียด้วยเช่นกัน สำหรับ เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิล ซึ่งได้ย้ายจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฝรั่งเศส เพื่อย้ายไปซบ อัล ฮิลาล ทีมยักษ์ใหญ่บนดินแดนเศรษฐีน้ำมันด้วยสัญญาค้าแข้งเป็นเวลา 2 ปี และได้รับค่าเหนื่อยในระดับเจ้าสัวเป็นจำนวนเงินสูงถึงปีละ 100 ล้านยูโรเลยทีเดียว แถมยังได้รับสุทธิพิเศษในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบินส่วนตัว 1 ลำ, บ้านพักหลังใหญ่พร้อมบริกรส่วนตัวแบบตลอดทั้งวัน รวมถึงรถหรูให้ขับเล่นได้อีกหลายคัน และจะได้รับเงินโบนัส 500,000 ยูโรต่อ 1 โพสต์โปรโมทประเทศซาอุดิอาระเบียผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียของตัวเองอีกต่างหาก

ตอนนี้ เนย์มาร์ ได้ขึ้นแท่นเป็นเจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดของลีกลูกหนังซาอุดิอาระเบียไปด้วยเลย เพราะว่าย้ายมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 90 ล้านยูโร จึงได้ทุบสถิติของ มัลคอม แนวรุกรุ่นน้องร่วมชาติในฐานะเพื่อนร่วมทีม อัล ฮิลาล ซึ่งเคยครองอันดับ 1 เมื่อตอนที่ย้ายมาจาก เซนิท เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในรัสเซียด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโรนั่นเอง และเป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขายออกไปแล้วได้รับเงินค่าตัวมากที่สุดอีกต่างหาก เพราะทุบสถิติเดิมของ กอนซาโล่ กูอาเดส ปีกชาวโปรตุกีสเมื่อตอนที่ถูกปล่อยให้ย้ายไปร่วมทัพ บาเลนเซีย ในปี 2018 ด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร เท่านั้นยังไม่พอดาวเตะวัย 31 ปีได้ขึ้นแท่นเป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวร่วมกันมากที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน หลังจากที่ย้ายมาแล้วทั้งหมด 3 ครั้งด้วยค่าตัวรวมแตะหลักสูงถึง 400 ล้านยูโรนั่นเอง

ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี 2013 เนย์มาร์ ได้เก็บข้าวของย้ายทีมเป็นครั้งแรก โดยตอนนั้น ซานโต๊ส ทีมต้นสังกัดแรกในบ้านเกิดได้ตัดสินใจปล่อยให้ย้ายไปค้าแข้งบนทวีปยุโรปกับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 88 ล้านยูโร หลังจากนั้นดาวเตะเลือดแซมบ้าได้ย้ายทีมเป็นครั้งที่ 2 โดย บาร์เซโลน่า ได้ปล่อยให้ย้ายไปซบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในฝรั่งเศสเมื่อปี 2017 ด้วยค่าฉีกสัญญาสูงถึง 222 ล้านยูโรเลยทีเดียว และยังคงเป็นเจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบันนี้อยู่ด้วย ส่วนการย้ายทีมครั้งที่ 3 เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะได้ย้ายซบ อัล ฮิลาล ในลีกลูกหนังซาอุดิอาระเบียด้วยค่าตัว 90 ล้านยูโรนั่นเอง จึงได้ทุบสถิติเดิมของ โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยม ซึ่งเคยครองตำแหน่งนักเตะที่ย้ายทีมร่วมกันด้วยค่าตัวแพงที่สุดอยู่นานหลายปีเหมือนกัน

ทั้งนี้ ลูกากู ได้ย้ายทีมแบบเป็นการซื้อขาดมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ไล่ตั้งแต่เมื่อตอนที่ อันเดอร์เลชท์ ทีมต้นสังกัดแรกในบ้านเกิดปล่อยให้ย้ายไปซบ เชลซี ในปี 2011 ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร หลังจากนั้นได้ย้ายเป็นครั้งที่ 2 เมื่อตอนที่ย้ายไปซบ เอฟเวอร์ตัน ในปี 2014 ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร ตามมาด้วยครั้งที่ 3 เมื่อตอนที่ย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2017 ด้วยค่าตัว 84 ล้านยูโร ไปต่อกันที่ครั้งที่ 4 เมื่อตอนที่ย้ายไปร่วมทัพ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2019 ด้วยค่าตัว 74 ล้านยูโร และตบท้ายด้วยครั้งที่ 5 เมื่อตอนที่ย้ายกลับมาซบ เชลซี เป็นรอบที่ 2 ในปี 2021 ด้วยค่าตัว 113 ล้านยูโร เท่ากับว่าดาวเตะวัย 30 ปีมีค่าตัวจากการย้ายทีมทั้งหมด 5 ครั้งเป็นเงินรวมกันสูงถึง 321 ล้านยูโรนั่นเอง แต่ตอนนี้ยังคงต้องรอบทสรุปเรื่องอนาคตกันต่อไปว่าจะได้ย้ายไปค้าแข้งกับทีมไหนกันแน่ เนื่องจาก เชลซี ได้ตั้งท่าพร้อมตัดสินใจขายทิ้งอยู่แล้วนั่นเอง

ส่วน เนย์มาร์ ได้แซงหน้า ลูกากู ขึ้นไปรั้งอันดับ 1 ในฐานะนักเตะที่มีค่าตัวจากการย้ายทีมร่วมกันมากที่สุดในวงการลูกหนังโลกไปเลย

'เนย์มาร์' ติดโผ 10 ดีลแพงสุดในตลาดซัมเมอร์ 2023

ผ่านพ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ ตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงซัมเมอร์ของปี 2023 ซึ่งได้รูดม่านปิดฉากกันไปเมื่อคืนวันเริ่มต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และเต็มไปด้วยความคึกคักจากการย้ายทีมของพวกดาวเตะชื่อเงเต็มไปหมดเลย แน่นอนว่าลีกลูกหนังขวัญใจมหาชน นั่นก็คือ ศึกพรีเมียร์ลีก ยังคงลีกลูกหนังที่มีการใช้จ่ายเงินชอปปิ้งนักเตะในช่วงฤดูร้อนมากที่สุด โดยทั้ง 20 สโมสรบนลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษมีการใช้จ่ายเงินรวมกันมากกว่า 2,000 ล้านยูโรเลยทีเดียว ไปต่อกันที่อันดับ 2 เป็นของ ศึกซาอุดิ โปร ลีก ซึ่งได้ทะยานขึ้นมาจากการลงทุนซื้อนักเตะฝีเท้าดีให้ย้ายไปค้าแข้งบนดินแดนเอเชียตะวันออกกลางเป็นเงินมากกว่า 850 ล้านยูโร ตามมาด้วยอันดับ 3 นั่นก็คือ ศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ใช้เงินไปมากกว่า 800 ล้านยูโร

ส่วน 'สิงโตน้ำเงินคราม' เชลซี กลายเป็นทีมลูกหนังที่วุ่นวายมากที่สุดในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะประจำฤดูร้อนของปี 2023 เพราะได้ครองถึง 2 ตำแหน่ง นั่นก็คือทีมลูกหนังที่ได้ลงทุนจ่ายเงินซื้อนักเตะมากที่สุดตามจำนวน 464 ล้านยูโร เพื่อแลกเปลี่ยนกับการคว้าผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพมากถึง 24 คนเลยทีเดียว จึงอยู่เหนือกว่าอันดับ 2 นั่นก็คือ อัล ฮิลาล ซึ่งได้ลงทุนซื้อแข้งใหม่ให้ย้ายไปค้าแข้งในลีกลูกหนังซาอุดิอาระเบียทั้งหมด 16 คนเป็นเงินรวมกันสูงถึง 354 ล้านยูโร ตามมาด้วยอันดับ 3 นั่นก็คือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ลงทุนซื้อนักเตะใหม่ไปทั้งหมด 26 คนเป็นเงินร่วมกันสูงถึง 350 ล้านยูโร

นอกจากนี้ 'สิงโตน้ำเงินคราม' เชลซี ยังกลายเป็นทีมลูกหนังที่ได้รับเงินจากการขายนักเตะมากที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะรับทรัพย์จากการขายนักเตะมากถึง 25 คนเป็นเงินรวมกันสูงถึง 267 ล้านยูโรนั่นเอง จึงอยู่เหนือกว่าอันดับ 2 นั่นก็คือ แอร์เบ ไลป์ซิก ซึ่งได้รับเงินจากการขายนักเตะมากถึง 20 คนเป็นจำนวนสูงถึง 240 ล้านยูโร ตามมาด้วยอันดับ 3 นั่นก็คือ ไบรท์ตัน รับทรัพย์จากการขายนักเตะ 18 คนไปทั้งหมด 187 ล้านยูโร แม้ว่า เชลซี จะได้ขึ้นแท่นเป็นที่ได้รับเงินจากการขายนักเตะมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่เมื่อนำมาหักลบกับตัวเลขที่ได้ขึ้นแท่นเป็นทีมลูกหนังจ่ายเงินซื้อนักเตะมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยเช่นกัน เท่ากับว่า 'สิงโตน้ำเงินคราม' มีตัวเลขขาดทุนจากการติดลบเกือบ 200 ล้านยูโรเลยทีเดียว

คราวนี้ลองไปดู 10 ดีลแพงที่สุดในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ของปี 2023 กันหน่อยดีกว่า

เริ่มต้นกันด้วยอันดับ 10 นั่นก็คือ ซานโดร โตนาลี่ กองกลางทีมชาติอิตาลีของ นิวคาสเซิ่ล ย้ายมาจาก เอซี มิลาน ด้วยค่าตัว 64 ล้านยูโร

อันดับ 9 นั่นก็คือ เมสัน เมาท์ กองกลางทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ายมาจาก เชลซี ด้วยค่าตัว 64.2 ล้านยูโร

‍อันดับ 8 นั่นก็คือ โดมินิก โซบอสซ์ไล กองกลางทีมชาติฮังการีย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 70 ล้านยูโร

อันดับ 7 มี 2 คน นั่นก็คือ ไค ฮาแวร์ตซ กองหน้าทีมชาติเยอรมนีของ อาร์เซนอล ย้ายมาจาก เชลซี และ ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าทีมชาติเดนมาร์กของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ายมาจาก อตาลันต้า ด้วยค่าตัว 75 ล้านยูโรเท่ากัน

อันดับ 6 เป็นของ 2 แข้งดัง นั่นก็คือ เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิลของ อัล ฮิลาล ย้ายมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รวมถึง ยอสโก้ กวาร์ดิโอล กองหลังทีมชาติโครเอเชียของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ย้ายมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 90 ล้านยูโรเท่ากัน

อันดับ 5 เป็นของ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ กองหน้าทีมขาติฝรั่งเศสของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ย้ายมาจาก ไอน์ทรัคท์ แฟรงค์เฟิร์ต ด้วยค่าตัว 95 ล้านยูโร

‍อันดับ 4 เป็นของ แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ บาเยิร์น มิวนิค ย้ายมาจาก ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร

‍อันดับ 3 นั่นก็คือ จูด เบลลิงแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษของ เรอัล มาดริด ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 103 ล้านยูโร

อันดับ 2 นั่นก็คือ ดีแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษของ อาร์เซนอล ย้ายมาจาก เวสต์แฮม ด้วยค่าตัว 116.6 ล้านยูโร

ตบท้ายด้วยอันดับ 1 นั่นก็คือ มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางทีมชาติเอกวาดอร์ของ เชลซี ย้ายมาจาก ไบรท์ตัน ด้วยค่าตัว 133 ล้านยูโร และเป็นเจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีกไปด้วยเลย

นี่คือ 10 ดีลแพงที่สุดจากการซื้อขายนักเตะในตลาดฤดูร้อนของปี 2023 ส่วน เชลซี กลายเป็นทีมลูกหนังที่มีความยุ่งเหยิงจากการทำธุรกิจซื้อขายนักเตะมากที่สุดด้วยเช่นกัน