Culture

'โซบอสซ์ไล' ตัวช่วยยิงแถวสองเพิ่มพลังแดนกลางหงส์

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการเสริมทัพที่น่าสนใจมากๆ เนื่องจาก 'หงส์แดง' ลิเวอร์พูล ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีกสามารถคว้าตัว ‘โดมินิก โซบอสซ์ไล’ กองกลางทีมชาติฮังการีมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ทีมดังแห่งศึกบุนเดสลีกาด้วยค่าฉีกสัญญา 60 ล้านปอนด์ และจับเซ็นสัญญายาวถึง 5 ปีเลยทีเดียว เพื่อให้เข้ามาช่วยเติมเต็มตรงแผงแดนกลางอีกหนึ่งรายต่อจาก อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนตินาชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งย้ายมาจาก ไบรท์ตัน นั่นเอง และเป็นการทดแทนการจากไปของ 3 อดีตกองกลาง นั่นก็คือ นาบี้ เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน รวมถึง เจมส์ มิลเนอร์ ซึ่งได้ย้ายออกไปแบบไม่มีค่าตัวในช่วงหลังหมดสัญญาตอนจบฤดูกาลที่ผ่านมา ทำให้ดาวเตะวัย 22 ปีกลายเป็นพ่อค้าแข้งจากดินแดนฮังการีคนที่ 4 ที่ได้ย้ายมาโชว์ฝีเท้าในถิ่นแอนฟีลด์ต่อจาก 3 นักเตะรุ่นพี่ร่วมชาติเดียวกัน ไล่ตั้งแต่ อิสต์วาน คอซม่า อดีตกองกลางที่เคยรับใช้ 'หงส์แดง' ในช่วงต้นทศวรรษ 90 รวมถึง 2 ผู้รักษาประตูตัวสำรอง นั้นก็คือ อดัม บ็อกดาน ซึ่งกลายเป็นนักเตะไร้ต้นสังกัดในช่วงหลังหมดสัญญากับ เฟเรนซ์วารอส และ ปีเตอร์ กูลัคซี่ ซึ่งยังคงสวมบทเป็นนายด่านมือหนึ่งของ แอร์เบ ไลป์ซิก นั่นเอง

ใส่เบอร์ 8 ตามรอย 'เจอร์ราร์ด'

ทั้งนี้มิดฟิลด์ทีมชาติฮังการีได้เลือกสวมใส่เสื้อหมายเลข 8 เพื่อตามรอยของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกองกลางกัปตันทีม 'หงส์แดง' ซึ่งเป็นนักเตะไอดอลมาตั้งแต่เด็กๆ และพร้อมเข้ามาช่วยแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ให้มีความดุดันมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเรื่องของการเติมเกมรุกจากแผงมิดฟิลด์เพื่อขึ้นไปช่วยยิงประตูจากแถวสอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดหายไปมานานหลายปีแล้ว เพราะไม่มีการลงทุนซื้อผู้เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวปั้นเกมเข้ามาเสริมทัพ นับตั้งแต่ปล่อยตัว ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางชาวบราซิเลียนให้ย้ายไปซบ บาร์เซโลนา เพื่อแลกกับเงินค่าตัวก้อนใหญ่เมื่อช่วงต้นปี 2017 เป็นต้นมา หรืออาจจะรวมถึง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม กองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นตัวเติมเกมรุกเพื่อขึ้นไปช่วยยิงประตูจากแถวสองมาก่อนด้วย แต่ได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมทัพ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงหลังหมดสัญญาเมื่อช่วงกลางปี 2021

Photo Credit: San Diego Union-Tribune

แข้งอเนกประสงค์พร้อมช่วยยิงจาก 'แดนกลาง'

สำหรับ โซบอสซ์ไล ถือว่าเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ในแผงแดนกลาง นับตั้งแต่แจ้งเกิดกับทีมลูกหนังในเครือ 'เรดบูล' ไล่ตั้งแต่ ไลเฟริ่ง ทีมลูกหนังในลีกรองของออสเตรียช่วงฤดูกาล 2017-2018 หลังจากนั้นได้ย้ายไปโด่งดังกับ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ทีมแชมป์ลีกสูงสุดของออสเตรียระหว่างปี 2018-2021 และได้ย้ายไปสร้างชื่อกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ระหว่างปี 2021-2023 โดยสามารถสวมบทเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกตามตำแหน่งที่ถนัดอยู่แล้ว หรือขยับมายืนเป็นมิดฟิลด์คุมเกมตรงกลางสนามได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถขยับไปยืนเป็นตัวริมเส้นทางฝั่งซ้าย หรือฝั่งขวาได้ทั้งสองข้างเลยด้วย แถมยังมีทีเด็ดจากการรับหน้าที่สังหารลูกฟรีคิกได้แบบแม่นยำ จึงพร้อมเติมเกมรุกเพื่อขึ้นไปช่วยยิงประตูจากระยะไกลตรงบริเวณนอกกรอบเขตโทษได้ด้วย โดยในช่วงฤดูกาล 2022/2023 ได้ฝากผลงานสอยตาข่ายให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก ไปทั้งหมด 10 ประตูจากการลงสนามในทุกรายการ และสามารถจ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้อีกหลายแอสซิสต์เลยด้วย

Photo Credit: The Empire of The Kop

รอผนึกกำลังกับ 'แม็ก อัลลิสเตอร์'

ทำให้ดาวเตะวัย 22 ปีพร้อมผนึกกำลังกับ แม็ก อัลลิสเตอร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแข้งใหม่ที่พร้อมเติมเกมรุกจากแผงมิดฟิลด์เพื่อขึ้นไปช่วยยิงประตูจากแถวสองด้วยเช่นกัน เพราะได้ฝากผลงานสอยตาข่ายให้กับ ไบรท์ตัน เมื่อช่วงซีซั่นก่อนได้มากถึง 12 ลูกนั่นเอง แม้ว่าส่วนใหญ่จะมาจากการรับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปตุงตาข่ายมากถึงครึ่งหนึ่งตามจำนวน 6 ลูกเลยก็ตาม แน่นอนว่าทั้งสองคนดังกล่าวพร้อมเข้ามาช่วยเพิ่มพลังให้กับ 'หงส์แดง' ซึ่งไม่มีตัวช่วยยิงประตูจากแดนกลางแบบเป็นเรื่องเป็นราวเสียที หากดูจากผลงานการสอยตาข่ายของผู้เล่นในแผงมิดฟิลด์ที่มีแต่พวกสวมบทเป็นตัวรับทั้งนั้นเลย จึงช่วยกันยิงจากการลงสนามในทุกรายการได้เพียง 12 ลูกเท่านั้น โดย ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต คือกองกลางที่ยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล ได้มากที่สุดจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วยจำนวน 5 ประตู เท่ากับว่า โซบอสซ์ไล กับ แม็ก อัลลิสเตอร์ สามารถสอยตาข่ายให้ทีมต้นสังกัดเก่าเมื่อช่วงซีซั่นก่อนแบบนับรวมกันตามผลงานของทั้งคู่ได้มากถึง 22 ประตู หรือมากกว่าผลงานการสอยตาข่ายของพวกกองกลาง 'หงส์แดง' แบบร่วมกันทั้งหมดอยู่ถึง 10 ลูกเลยทีเดียว

Photo Credit: AS USA - Diario AS

'เทรนท์' เปลี่ยนตำแหน่งเหมือนหงส์ได้มิดฟิลด์เพิ่ม

ขณะเดียวกัน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็กขวาจอมลุยทีมชาติอังกฤษพร้อมขยับขึ้นไปสวมบทเป็นกองกลางเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในเรื่องของการยืนคุมเกมได้เหมือนกัน หลังจากที่ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ 'หงส์แดง' ได้มอบหมายให้ยืนเล่นในตำแหน่ง Invert Fullback เพื่อให้หุบจากริมเส้นเข้ามาช่วยยืนคุมพื้นที่ในแดนกลางอีกแรงหนึ่งมาแบบต่อเนื่องเลย ซึ่งเป็นไปตามรูปแบบการเล่นของฟุตบอลในสมัยนี้ด้วยเช่นกัน และสามารถทำผลงานได้น่าประทับใจเลยด้วย

Photo Credit: BeSoccer

สำหรับ Invert Fullback หรือที่แปลกันแบบตัวตรงว่า 'ฟูลแบ็กกลับด้าน' หรือที่มีชื่อเรียกกันแบบไทยๆ ว่า 'ฟูลแบ็กตัวใน' ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กที่จะต้องคอยวิ่งขึ้นลงอยู่ตรงบริเวณริมเส้นแบบเดิมๆ เท่านั้น แต่จะต้องหุบเข้ามาช่วยด้านในตรงกลางสนามเพื่อยืนตำแหน่งเหมือนเป็นกองกลางอีกคนหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นของใหม่สำหรับวงการลูกหนังโลก เนื่องจาก โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ริเริ่มปรับเสริมเติมแต่งบทบาทของผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กมาตั้งแต่ตอนสมัยที่คุมทัพ บาเยิร์น มิวนิก เมื่อหลายปีก่อน โดยมอบหมายให้ ฟิลิปป์ ลาห์ม ตำนานฟูลแบ็กทีมชาติเยอรมนีสวมบทบาทนี้เป็นคนแรกๆ และทำผลงานได้ดีมากๆ แถมมีส่วนช่วยให้ทัพลูกหนัง 'อินทรีเหล็ก' ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 2014 ที่ประเทศบราซิลได้ด้วย

ตอนนี้มีผู้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็กชื่อดังหลายๆ คนที่ได้ทำหน้าที่นี้อยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็น โจชัว คิมมิช แบ็กขวาทีมชาติเยอรมนีของ บาเยิร์น มิวนิก, จอห์น สโตนส์ กองหลังทีมชาติอังกฤษของ แมนชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึง ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทยด้วยเช่นกัน ทำให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ได้ลองยืนเล่นในตำแหน่งนี้ตั้งแต่เมื่อช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา หลังประสบปัญหาฟอร์มหลุดจากการสวมบทเป็นแบ็กขวาที่จะต้องเจอปัญหาแบบเดิมๆ นั่นก็คือ การวิ่งขึ้นไปเติมเกมรุกริมเส้นแล้ววิ่งกลับลงไปยืนในตำแหน่งของตัวเองเพื่อช่วยแนวรับไม่ทัน แต่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้จากการสวมบทเป็น Invert Fullback เพื่อช่วยแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ได้เป็นอย่างดี และช่วยจ่ายบอลจากการทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูได้แบบเป็นกอบเป็นกำเลยด้วย ทำให้แฟนบอลหลายๆ คนส่งเสียงเชียร์ให้เปลี่ยนตำแหน่งมาสวมบทเป็นกองกลางไปเลยดีกว่า

Photo Credit: talkSPORT

นอกจากนี้ แกเรธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษยังได้ตอกย้ำให้เห็นว่า ดาวเตะวัย 24 ปีสามารถสวมบทเป็นกองกลางได้เลยด้วย เพราะได้มอบเสื้อหมายเลข 10 เพื่อให้สวมใส่ลงไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตรงกลางสนามแบบเต็มตัวในยามรับใช้บ้านเกิด และได้เติมเกมรุกขึ้นไปช่วยยิงหนึ่งประตูในศึกยูโร 2024 รอบคัดเลือก นัดที่ทัพลูกหนัง 'สิงโตคำราม' บุกไปชนะ มอลตา 4-0 และโชว์ฟอร์มในนัดที่เปิดบ้านไล่ถล่ม มาซิโดเนียเหนือ แบบขาดลอยถึง 7-0 ได้แบบโดดเด่นอีกต่างหาก แม้จะเป็นการเผชิญหน้ากับ 2 ทีมคู่แข่งที่มีชื่อเสียงต่ำกว่าในเกมระดับชาติ แต่ได้ช่วยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ สามารถสวมบทเป็นกองกลางแบบเต็มตัวได้ด้วยเช่นกัน จึงพร้อมช่วยเซฟเงินในกระเป๋าของ ลิเวอร์พูล ในช่วงระหว่างที่กำลังมองหามิดฟิลด์คนใหม่เข้ามาเสริมทัพเพิ่มเติมในแบบที่ไม่ต้องทุ่มทุนกันมากนัก เพราะสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งของแบ็กขวาจอมบุกให้สวมบทเป็นกองกลางได้เลยนั่นเอง

Photo Credit: Eurosport

ด้วยเหตุนี้ โซบอสซ์ไล จึงพร้อมเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตรงแดนกลาง และพร้อมเติมเกมรุกขึ้นไปช่วยยิงประตูจากแถวสองให้กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงฤดูกาลใหม่ 2023/2024 เพื่อช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปมานานแล้ว และพร้อมช่วยภาระของพวกผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าด้วยเช่นกัน