ปัจจุบันในยุคที่สังคมเต็มไปด้วยปัญหา ทั้งโรคระบาด เศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้มนุษย์ล้วนต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด จนเริ่มสนใจอย่างอื่นมากขึ้นและละเลย “จิตใจ” ของตัวเองไปทีละนิด นำไปสู่ภาวะเครียด หดหู่ ซึมเศร้า และจบที่การเลือกจากโลกนี้ไปในที่สุด เห็นได้จากสถิติในเรื่องเหล่านี้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
Gongkan หรือ ก้อง - กันตภณ เมธีกุล จึงอยากพาทุกคนเดินทางกลับเข้าไปสำรวจและให้ความสำคัญกับจิตใจตัวเองอีกสักครั้ง เพื่อหาคำตอบว่าวันนี้คุณหลงลืมจิตใจของตัวเองไปหรือเปล่า ยังมีความสุขดีอยู่หรือไม่ ผ่านโปรเจกต์ Souleport ในงาน INTROSPECTION Exhibition @Tang Contemporary Art Bangkok ที่เขาสร้างสรรค์มาร่วมปี ซึ่งงานนี้จะเต็มไปด้วยสิ่งที่ดีต่อ “ใจ” ขนาดไหน เราชวนมาหาคำตอบไปพร้อมกันที่นี่
จาก Teleport สู่ Souleport
ผลงานที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Gongkan ตลอดมาคือ Teleport แต่ครั้งนี้เราได้เห็นผลงานที่มาพร้อมคอนเซ็ปท์ใหม่อย่าง Souleport ซึ่งเขาอธิบายให้เราฟังว่ามันมาจากคำว่า Soul + Teleport หมายถึงการวาร์ปเข้าไปในจิตวิญญาณ และจิตใจของตัวเอง
“ทุกครั้งงานผมจะพูดถึงการวาร์ปออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น คนที่ดีขึ้น หรืออะไรที่เป็น Better World แต่เมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง ความคิดท่ามกลางสภาวะสังคมแบบนี้ การกลับมาสำรวจตัวเองก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เหมือนการมองหาทางเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองไปพร้อมกับมองหาสิ่งที่ดีกว่าที่อยู่ในภายนอก เพราะบางทีสิ่งดีๆ ก็เริ่มที่ตัวเรา ผมอยากให้การ Teleport ครั้งนี้พาย้อนกลับเข้ามาสำรวจตัวเองจากข้างในที่หลายคนมองข้ามไป มันน่าจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่พาเราไปพบกับทางออกได้ แต่ก็เข้าใจว่าในบางครั้งปัญหาด้านจิตใจก็ไม่มีทางออก”
เพิ่มสีสันในงาน สื่อถึงจิตวิญญาณที่ชัดขึ้น
“พอพูดถึงจิตวิญญาณ ผมคิดถึงภาพที่มันเป็นสีฟุ้งๆ หลายๆ สี เหมือนเป็นออร่าของจิตวิญญาณ สีมันใช้แทนอารมณ์ได้ เช่น สีโทนเย็นให้ความรู้สึกสงบ โทนร้อนให้ความรู้สึกสดใส ผมเลยใช้สีได้มากขึ้น เพื่อให้งานดูสนุกสนานขึ้น”
สนุกกับการสร้างสรรค์
นอกจากคอนเซ็ปต์และสีสันของผลงานจะแตกต่างไปจากเดิมแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สะดุดตาผู้ชมอย่างเรา คือรูปปั้นมนุษย์ที่ตั้งตระหง่านกลางแกลอรี่ มีมือคอยฉุดรั้งเอาไว้ให้ส่องกระจกมองตัวเอง ตรงตามคอนเซ็ปต์ Souleport และชื่องาน INTROSPECTION ที่อยากให้ผู้ชมได้ใคร่ครวญและมองย้อนกลับมาที่จิตใจของตัวเอง ว่ายังมีความสัมพันธ์ใดหรือใครที่ยังติดอยู่ในใจบ้าง ในขณะเดียวกันก็บ่งบอกถึงทักษะงานอาร์ตที่ก้าวไปอีกขั้นของ Gongkan ด้วย
ในการสร้างสรรค์งานแต่ละครั้ง ก้องเล่าให้เราฟังว่า เขาพยายามที่จะผลิตผลงานที่นอกเหนือจากภาพเพ้นท์มาตลอด เขาเชื่อว่าศิลปินไม่ควรจำกัดตัวเองไว้เท่าที่เรียนมา งานอาร์ตคือการสร้างสรรค์ ศิลปินสามารถทำอะไรก็ได้จากความคิดของตัวเอง อย่างงานรูปปั้นครั้งนี้เขาก็ออกแบบเองและมีทีมงานคอยซัพพอร์ต ถือว่าเป็นการเปิดโลกไปสู่ความสนุกครั้งใหม่
ไม่ใช่แค่งานอาร์ต แต่เป็นนิทรรศการที่เจาะลึกถึงจิตใจ
ถ้าการมาเดินชมนิทรรศการออฟไลน์ในครั้งนี้ได้สร้างความว้าวให้คุณแล้ว เราอยากบอกว่ายังมีความว้าวกว่านั้นที่ศิลปินเจ้าของงานตั้งใจเตรียมไว้เพื่อทุกคน นั่นก็คือ Interactive Website ที่เปิดให้ผู้คนสามารถเข้าร่วมงานผ่านโลกออนไลน์ เพื่อเจาะลึกเข้าถึงจิตใจตัวเองได้มากยิ่งขึ้น
“เว็บไซต์นี้จะเหมือนหลุมดำที่ผมสร้างขึ้น ให้ทุกคนได้ลองเข้าไปคุยกับจิตใจของตัวเองจริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างจากการชมงานอาร์ต เพราะมันจะเข้าเป็นการเดินทางเลย ตั้งแต่เปิดตัวเว็บไซต์มามีคนเข้าชมเฉลี่ยวันละกว่า 20,000 คน และมีคนส่งข้อความมาหาทีมงานเยอะมาก ว่าเพราะงานนี้ทำให้เขาไม่ฆ่าตัวตายแ หรือบางคนก็ร้องไห้ออกมา เพราะรู้สึกว่าได้ว่าไม่ได้ดูแลตัวเองมานานแล้ว ผมเลยอยากให้ลิงค์นี้กระจายออกไปถึงคนอื่นได้มากที่สุด”
นอกจากจิตใจ ยังมีอะไรที่ต้องเปลี่ยน
อย่างที่คุณก้องบอกไปตอนต้นว่า งานนิทรรศการนี้เป็นช่องทางให้คนได้กลับมามองจิตวิญญาณ จิตใจตัวเอง และเริ่มเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างจากตัวเองควบคู่ไปกับการมองหาสิ่งที่ดีกว่าจากภายนอก ซึ่งภายนอกนั้นหมายถึงสภาพแวดล้อมและสังคม ที่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นด้วยการนำของรัฐบาล
โดยเขาให้ความเห็นว่าสถานการณ์โควิดตอนนี้ รัฐควรต้องเร่งทำให้คนรู้สึกปลอดภัยด้วยการได้รับวัคซีนแบบทั่วถึง คือเกิน 90% ของประชากร แล้วให้เขาได้รับวัคซีนที่เขามีสิทธิ์เลือกเอง รวมทั้งควรดูแลด้านเศรษฐกิจด้วย เพราะเมื่อมนุษย์โตขึ้น เรื่องเงินหรือเรื่องอาชีพเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นเศรษฐกิจจะต้องดีขึ้นเพื่อให้คนมีเงินเพียงพอกับการเลี้ยงชีพ
ศิลปินกับการขับเคลื่อนการเมืองผ่านงานศิลป์
ด้วยประโยคที่ว่า “การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน” ทำให้ช่วงหลังมานี้มีศิลปินหลายคนสร้างสรรค์งานเกี่ยวกับการเมืองกันมากขึ้น จนคำสอนที่ถูกส่งต่อกันมาอย่าง “ศิลปะไม่ควรเกี่ยวข้องกับการเมือง” เริ่มจางหายไป แต่ในอีกมุมหนึ่ง ถ้าใครไม่แสดงออกทางการเมืองในผลงาน ก็จะถูกมองว่าเป็นอิกนอร์เรนซ์ (Ignorance) ซึ่งในฐานะที่คุณก้องขับเคลื่อนเรื่องนี้ผ่านงานอาร์ตอยู่เป็นระยะ เราอยากรู้ว่ามองเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
“ผมคิดว่าศิลปะคือ เสรีภาพในการนำเสนอของศิลปิน ไม่มีผิด ไม่มีถูก เคยมีช่วงหนึ่งที่ผมคิดถึงประเด็นอิกนอร์เรนซ์เหมือนกัน มองว่ามันค่อนข้างเซนซิทีฟนะ เพราะบางทีเขาอาจไม่ได้เป็นแบบนั้น แค่ไม่วาดงานเป็นการเมืองเฉยๆ”
เขาพูดก่อนจะยกตัวอย่างว่า สมมติศิลปินคนหนึ่งชอบวาดรูปวิว แล้ววันหนึ่งสังคมบอกให้เขาวาดการเมือง ถ้าไม่วาดเท่ากับอิกนอร์เรนซ์ ทั้งๆ ที่เขาไม่วาดเพราะอาจไม่ถนัด แต่ข้างหลังเขาอาจซัพพอร์ตอะไรอยู่ แค่เราไม่ได้เห็นเขาใน 360 องศา อย่างการคอลเอาท์ (Call out) ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่มันไม่จำเป็นจะต้องไปบอกให้ใครต้องทำ เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าสภาพจิตใจเขาเป็นอย่างไร บางคนเขาอาจจะไม่ได้คอลเอาท์ เพราะชีวิตเขาเครียดจะตายอยู่แล้ว การเสพเรื่องการเมืองเข้าไปอีก อาจจะยิ่งทำให้เขาจิตใจหดหู่มากขึ้น ถ้าเขายิ่งเสพการเมืองแล้วยิ่งเครียด และจบที่ฆ่าตัวตาย ก็คงไม่ใช่เรื่องดี
“ผมรู้สึกว่าทั้งหมดนี้มันเป็นสิทธิในการแสดงออกของแต่ละคน อย่าพยายามทำให้เขาต้องทำอะไรบางอย่างเพราะเอาความเกลียดชังของคนอื่นมาลงที่ตัวเอง จนเหมือนเป็นเครื่องด่า เพราะจิตใจบางคนเขาอาจรับไม่ไหว เราควรเคารพซึ่งกันและกัน ทำให้การคอลเอาท์ไปในเชิงรณรงค์หรือการชักจูง ดีกว่าการจิกกัด ใช้คำไม่สุภาพ หรือไประรานในพื้นที่ส่วนตัวใคร และไม่ควรเอาคำว่าคอลเอาท์ ไปเป็นข้ออ้างที่จะด่าหรือเกลียดใคร”
เรื่องราวสุด Exotic ในชีวิต
คุยเรื่องงานอาร์ต จิตใจ และสังคมกันมาสักพักแล้ว ได้เวลากลับมาที่เรื่องสนุกๆ อย่างประสบการณ์สุด Exotic กันบ้าง คุณก้องยกให้เรื่องไหน
“ยกให้ตอนไปเพ้นท์ Street Art ที่นิวยอร์ก ทั้งเพ้นท์กำแพงใหญ่และปีนวาดบนตึก 2 ชั้น ตอนนั้นกลัวความสูงมาก แต่ก็ยอมขึ้นไปแบบขาสั่นๆ เพราะอยากก้าวผ่านข้อจำกัดของตัวเอง ได้ทำอะไรที่มากกว่าการวาดภาพในกระดาษ เป็นประสบการณ์ที่ว้าวมาก ไม่คิดว่าเราจะทำได้”
สถานที่ที่อยากจะวาร์ปไป
“อยากวาร์ปไปในโลกที่มีเอเลี่ยน แต่ขอเอเลี่ยนเป็นมิตรกับเรา ไม่มาฆ่าเรานะ
(หัวเราะ)”
ทั้งหมดนี้คือ ความน่าสนใจของ Gongkan และงานของเขาที่เรานำมาฝากกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าอ่านบทความนี้จบแล้วพบว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังตกอยู่ในสภาวะจิตใจหดหู่ ที่ยังหาทางออกไม่เจอ
INTROSPECTION Exhibition @Tang Contemporary Art Bangkok ยินดีพาทุกคนนั่ง Souleport ย้อนมองถึงจิตวิญญาณของตัวเองไปจนถึง 12 ธันวาคม 2564 นี้เลยนะ
ติดตามและอัปเดตผลงานทั้งหมดได้ที่ Gangkan
Interactive Website for INTROSPECTION Exhibition: https://souleport.insidethesandbox.studio