Hope คือ ความหวัง ที่ช่วยปลุกพลังและขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ให้ดำเนินต่อไปได้ หลายคนอยู่กับ "วิถีโควิด" ด้วยความหวังที่จะอยู่รอดปลอดภัยจากโรคร้ายและมีรายได้เพื่อหล่อเลี้ยงชุบชีวิต ไม่ต่างอะไรจาก ฮอน ณรงค์ฤทธิ์ อิทธิพลนาวากุล วัย 31 ปี ที่เป็นทั้งเจ้าของค่ายเพลง Newlights Production และนำไปสู่เส้นทางการทำวงดนตรี อย่าง Hope the Flowers วงแนว Post-Rock สไตล์ Instumental รวมทั้งสร้างสเปชกึ่งคาเฟ่กึ่งห้องซ้อมอย่าง Ageha Cafe และเอเจนซี่เฮาส์ High Hopes House กับความหวังที่เขามีในทุกๆ อาชีพ
เจ้าของค่ายเพลง Newlights Production
"ค่ายนี้เกิดจากอยากช่วยเหลือคนทำงานประจำ ไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าดนตรีคืออาชีพหลักเพราะมันเป็นไม่ได้ มันไม่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้ขนาดนั้น วงไม่มีเวลาโปรโมทวงตัวเอง เราจะจัดการให้ทั้งเรื่องหน้าบ้านและหลังบ้าน หาคอนแทค หางาน จัดทำแผ่น หาที่วางขาย หาที่โปรโมทพื้นที่สื่อ ฯลฯ ซึ่งเราทำเองคนเดียวทั้งหมด ค่ายเราไม่มีเงินลงทุนให้ แต่เราเป็นที่ปรึกษา ซึ่งในค่ายมีวงทั้งหมด 7 วง ทำมา 10 ปีแล้ว"
Newlights Production แสงสว่างในความมืดมน
"เราเล่นเพลงแนวนี้ สังคมดนตรีแบบนี้ค่อนข้างน้อย หาที่เล่นยาก เลยรู้สึกว่าต้องทำค่ายซัพพอร์ทตัวเองและเพื่อน เลยตัดสินใจทำค่ายเพลงเพื่อวงตัวเองและรวมวงเพื่อนที่เล่นแนวเดียวกับเรา ออกไปลุยงานเอง ขายงานเอง จัดงานให้ หาที่วางแผ่นซีดีให้ Newlights Production มันคือ แสงใหม่ที่คนเล่นดนตรีอยู่ในความมืด แล้วแสงมันไม่ลงมา Newlights Production จะเป็นแสงสว่างให้เอง เราต้องเอาวงตัวเองและวงค่ายไปขาย เพื่อทำให้ได้ช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น"
เส้นทางดนตรี Hope the Flowers
"ก่อนหน้าวง Hope the Flowers เคยทำวงร้องมาก่อน แต่มันมาถึงจุดที่รู้สึกไม่มั่นใจในการร้องเพลง อยากเล่นกีตาร์ที่เป็นเมโลดี้แบบที่ร้องมากกว่า เราชอบดูหนังเลยอยากทำเพลงประกอบหนัง พอรู้ว่าอยากทำเพลงประกอบหนัง ก็ไปเรียนหนังที่ไม่ใช่เพื่อการทำหนัง แต่เพื่อหาลู่ทางให้การทำเพลงประกอบหนัง เราเป็นนักดนตรีที่ไปเรียนหนังเพื่อทำเพลงประกอบให้คนนั้นคนนี้ และเริ่มทำวง Hope the Flowers ซึ่งเป็นเส้นทางสุดท้ายของการทำงานดนตรี เราต้องเอามันให้อยู่เพราะเราสนใจเรื่องนี้จริงๆ เพื่อซัพพอร์ทความคิดและความรู้สึกของตัวเอง ที่ทำมา 8 ปีแล้ว"
I'm sorry to say - Hope the flowers
https://youtu.be/YgscnWLitiM
Hope the Flowers ดอกไม้แห่งความหวัง
"ตอนนั้นเรียนจบปริญญาตรี แล้วรู้สึกสิ้นหวังมาก เรียนธุรกิจ เล่นดนตรี มันรู้สึกแย่และจมมาก จบการตลาดและธุรกิจแต่ไม่เข้าใจสิ่งที่เรียน เลยลองโยนเหรียญและเสี่ยงทาย ทำเพลงและทำวงโดยไม่มีเป้าหมายว่าจะใช้ชื่อวงอะไรและจะเป็นยังไง ระหว่างนั้นมีดอกไม้ดอกหนึ่งที่ปลูกหน้าบ้านแล้วมันกำลังจะตาย พอทำ Hope the Flowers ได้ 4 เพลง เดินกลับมาดูอีกทีดอกไม้ดอกนี้กำลังจะฟื้นชีวิตขึ้นมาใหม่ ต้นไม้มันยังมีความหวังเลย ทำไมชีวิตเราถึงไม่มีความหวัง...ความหวังสุดท้ายของเรา ความหวังของการมีชีวิตอยู่ การให้พลังแห่งความหวัง"
“ถ้าไม่มีอะไรกดดันในชีวิต เราคงไม่มีวันนี้ มีรายได้และใช้ชีวิตโดยไม่ต้องทำงานประจำ 4 ปี ถึงแม้เหมือนจะเป็นอาชีพได้แต่ก็ยังไม่ขนาดนั้น เพราะประเทศนี้ไม่ได้เปิดกว้างกับเพลงแนวนี้มากเท่าไหร่”
เจ้าของคาเฟ่ Ageha Cafe
"เราสนใจกาแฟอาราบิก้าชนิดต่างๆ ทัวร์ตามคาเฟ่ต่างๆ ก่อนเปิด คาเฟ่ของเราจะเน้นเครื่องดื่มเป็นหลักที่ทำง่ายๆ ด้วยอุปกรณ์พื้นฐานทั่วไป ถ้าคุณมาที่นี่ อยากฟังเพลงไหนวงอะไรเราเปิดให้ และเราก็เปิดเพลงที่เราทำด้วย เป็นคาเฟ่ที่เปิดเพลงเท่ๆ และไม่ได้คาดหวังกับรายได้ เพราะพื้นที่คาเฟ่ของเข้าถึงยาก อยู่ในซอยลึก ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าขายไม่ดีแน่ๆ แต่ข้อดีคือ ได้ความสงบในการทำงานที่เราอยากทำ เป็นคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ดนตรีของตัวเอง ทำเพื่อซัพพอร์ทศิลปินนอกกระแสและจัดคอนเสิร์ต และทำมา 5 ปี นอกจากนี้ทำคอนเทนต์ลงเพจ ASiA Sound Space แนะนำวงในเอเชีย และเอาคอนเสิร์ตหลายประเทศในเอเชียมาเล่นในไทย"
“ช่วงหนึ่งที่ทำคาเฟ่ไปพร้อมกับรักษาโรคซึมเศร้าประมาณ 3-4 ปี พอเปิดคาเฟ่ มันทำให้เจอคนหลากหลายและค้นพบว่า มีคนเป็นแบบเราเยอะมากที่อยากคุยกับใครสักคนที่ไม่รู้จัก เราอยากเข้าใจเขา โดยการเป็นนักฟังที่ดี ตอนนี้เราไม่ได้กินยาปีหนึ่งแล้ว”
เรียน "จิตวิทยา" เพื่อต่อยอดลูกค้าคาเฟ่
"เราอยากเรียนจิตวิทยาเพิ่ม อยากเรียนรู้วิธีการจัดการความคิดทั้งของเขาและของเรา เพราะคนป่วยมากขึ้นแต่ไม่รู้ว่าจะมีคนทำงานด้านนี้มากขึ้นหรือเปล่า มีหลายคนที่เป็นลูกค้าประจำและรู้สึกสบายใจที่ได้พูดคุยกับเรา เพราะเราเข้าใจในสิ่งที่เขาเป็น เราเคยคิดคอร์สเรื่องการเป็นผู้ฟังที่ดี นั่งล้อมวงและเล่าเรื่องกัน โดยไม่ต้องตั้งคำถาม แค่ฟังเพื่อพูด เขียน อ่าน วาด และสร้างความเข้าใจ ไม่อยากให้สังคมถูกทำลายและทำร้ายจนแตกหักแบบเรา เพราะเราถูกสังคมบีบคั้นให้ตัวเองเป็นแบบนี้ เราไม่อยากให้คนในสังคมรุ่นหลังจากนี้ต้องมาเจอสิ่งที่เราเจอมา และน่าจะหนักกว่าด้วยซ้ำ"
Ageha Cafe หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ
"เราลองวาดรูปต้นไม้ต้นหนึ่ง วาดจากรากขึ้นไปเป็นรากฝอย มีรากที่ทำ ASiA Sound Space รากที่เป็น Hope the Flowers รากที่ทำ axia2hands (เสื้อผ้ามือสอง) รากที่ทำ Newlights Production โผล่ขึ้นมาบนดิน กลายเป็นตัวเราที่เปรียบเหมือนก้าน แต่ใบและดอกมันคือ Ageha Cafe เพราะรากเหล่านี้หล่อเลี้ยงให้ต้นไม้มีชีวิต และหล่อเลี้ยง Ageha ให้มีอยู่ มันคือพื้นที่ที่ทำให้เราสามารถทำงานทุกอย่างได้ทั้งหมด"
“ทุกคนต้องหาทางรอดที่ทำอะไรก็ได้ให้ได้เงิน ต้องขายเสื้อผ้ามือสองเพิ่ม หาสติ๊กเกอร์มาขาย และรับงานตัดต่อฟรีแลนซ์ นี่เราต้องทำอีกกี่อาชีพในประเทศนี้”
High Hopes House เอเจนซี่เฮาส์เพื่อสังคม
"สิ่งที่กำลังจะสร้างแต่ไม่ได้สร้าง คือ High Hopes House เป็นเอเจนซี่เฮาส์ที่รับงานตัดต่อและทำงานเพื่อสังคม ซึ่งตอนนี้กำลังทำวิดีโอในเชิงเรียลลิตี้อิเมนทอรี่ ชื่อ I Stand Alone พูดถึงการเรียนรู้เพื่ออยู่กับตัวเอง ทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียว เราอยากเรียนรู้วิธีการคิดของเขาว่า ว่าเขาแก้ปัญหาด้วยตัวคนเดียวยังไง คิดว่ามันจะเป็นตัวขับเคลื่อนสังคมที่ทำให้คุณรู้ว่า คุณไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวคนเดียว อยากให้เป็นการคอนเนคทางจิตวิญญาณของ Ageha
เป้าหมายต่อไปในอนาคต
"เราโอเคกับสิ่งที่ทำอยู่ ณ ตอนนี้ ไม่ได้คิดว่าจะต้องเจอหรือทำอะไรบ้าง แต่อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ซึ่งไม่ได้มองเรื่องรายได้และไม่รู้จะรวยขนาดไหน เลยไม่ได้วางแผนอนาคตจะเป็นยังไง เราเชื่อว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมด มันเติบโตในตัวมันเองได้ Ageha Cafe อาจเป็นที่ๆ คนมาเป็นแกลอรี่ ถ่ายรูปเล่น หรือเป็นที่ทำให้คนเข้ามาใช้ล้อมวงพูดคุยในวันอาทิตย์ แลกเปลี่ยนทางจิตวิทยา ส่วน ASiA Sound Space ในอนาคตจะได้จัดคอนเสิร์ตที่วงต่างประเทศบินขอมาเล่นเอง Hope the Flowers อาจจะทัวร์ทั่วโลก เราไม่ได้คาดหวัง แต่แอบเชื่อมัน ว่ามันจะเป็นไปได้"
ถ้าพูดกับโควิดได้
"โควิดนังตัวดี ทำให้ฉันเป็นบ้า เราไม่เคยทำอะไรแอคทีฟขนาดนี้เลย พยายามชิวตลอด ค่อยๆ ทำ ตอนนี้กลายเป็นต้องทำอะไรบ้าง พรุ่งนี้ต้องทำอะไร (หัวเราะ) มันทำให้เราเป็นบ้า"
“มันคือเรื่องของระบบรัฐ เพราะรัฐอยู่เหนือโควิด เราเหมือนถูกอำนาจใช้ในการควบคุม โควิดเลยเป็นอาวุธที่เขาใช้ควบคุมคน ทุกอาชีพ แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือเยียวยาอะไรเลย”
ติดตามผลงานและอัพเดตข่าวสารโปรเจคของ ฮอน ณรงค์ฤทธิ์ ได้ที่ Newlights Production, Hope the flowers, Ageha Café, axia2hands, ASiA Sound Space 亞洲聲音收藏計畫