Culture

Secrets That ‘i Like’ : 7 ความลับเบื้องหลัง ‘i Like’ กับ 7 ปีที่ร่ำลากันไปของนิตยสารขวัญใจวัยรุ่นที่หลายคนคิดถึง

‘โตมากับ i Like’ เราเชื่อว่านี่คือประโยคที่เชื่อมให้ใครหลายๆ คนเข้าใจตรงกันได้ว่า เรากำลังพูดถึงอะไรอยู่ และเราก็เชื่อมากๆ ว่าทุกคนที่รู้จัก i Like จะต้องจำตัวการ์ตูนผู้ชายใส่หมวกปิดตาได้แน่ๆ เขาคือ ‘แจมจัง’ บก.ของนิตยสารหัวนี้ และเขาจะเป็นคนพาเราไปเปิดทุกความลับตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนถึงวันที่ต้องร่ำลากัน พร้อมทั้งความลับสำคัญที่เขาจะบอกที่นี่ที่เดียวว่า ทำไมดวงของ i Like ถึงได้แม่นจนทุกคนต้องเกาะแผงหนังสือรออ่าน

ความลับข้อที่ 1: จากคำทำนายแรกในสมุดเฟรนด์ชิพ สู่แรงบันดาลใจในการทำ i Like

เราเริ่มต้นบทสนทนาครั้งนี้ด้วยการให้แจมจังเล่าให้เราฟังว่า นิตยสารที่เราคิดถึงเล่มนี้เริ่มต้นขึ้นมาได้อย่างไร

“ก่อนทำนิตยสาร i Like แจมจังทำหนังสือวัยรุ่นมาหลายเล่ม ตำแหน่งสูงสุดคือ หัวหน้าบรรณาธิการ ซึ่งไม่ได้เป็นผู้กำหนดเนื้อหาหลักของนิตยสาร จนมีได้มีโอกาสรู้จักกับคุณสาธิต คล่องเวสสะ เจ้าของบริษัท ศรีสยามการพิมพ์ และท่านได้ชักชวนให้แจมจังทำนิตยสารหัวใหม่ โดยโยนโจทย์มาให้สามข้อคือ หนึ่ง หนังสือวัยรุ่น สอง ไม่มีขายในท้องตลาด และสาม ขายดี”

จากโจทย์ที่แจมจังเล่ามา ทำให้เราสงสัยว่า ทำไม i Like ถึงออกมาเป็น ‘หนังสือดวง’

“แจมจังได้แนวคิด และแรงบันดาลใจจากสมุดเฟรนด์ชิพตอนจบ ม.3 ที่แจมจังเขียนคำทำนาย ทายนิสัยเพื่อนจากผลไม้ที่ชอบกิน ตั้งใจแค่ให้เพื่อนอ่านสนุกๆ แต่มันกลายเป็นเฟรนด์ชิพที่ถูกจองคิวมากที่สุด ไม่ได้จองเพื่อเขียนนะ แต่จองอ่านคำทำนาย และจองแบบข้ามห้องเรียน เพราะบอกปากต่อปากกันว่า ‘ทำนายแม่นมาก’ ก็เลยมั่นใจลึกๆ ว่า ถ้านำดวง และคำทำนายมาเป็นคอนเทนต์หลักวัยรุ่นก็น่าจะชอบ”

ความลับข้อที่ 2: i Like เล่ม 1 ถึงเล่ม 6 มีนักเขียนเพียงคนเดียว คือ ‘แจมจัง’

ถ้าพูดถึงการดูดวงทุกวันนี้ มันคงจะเป็นคัลเจอร์หนึ่งที่อยู่กับวัยรุ่นไปแล้ว แล้วตอนนั้นแจมจังก็เห็นคัลเจอร์เหล่านี้ของวัยรุ่นด้วยเหมือนกันใช่ไหม?

“ตอนหยิบมาแจมจังไม่ได้นึกถึงคำว่าวัฒนธรรมเลยนะ แค่มองว่ามันเป็นสิ่งที่วัยรุ่นชอบ แจมจังชอบ ยังไม่มีใครทำ และสำคัญสุดคือ โชคดีที่แจมจังเขียนเองได้ทั้งหมด ส่วนเรื่องความเป็นวัฒนธรรมนั้น พอเจอคำถามนี้

ก็เออ--จริงด้วย อย่างความเชื่อเรื่องดวงก็เป็นความเชื่อที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น ผีก็มีส่วนที่เชื่อมโยงกับศาสนา การเวียนว่ายตายเกิด ส่วนความขี้เล่นอารมณ์ขันก็เป็นวัฒนธรรมที่อยู่ในตัวของคนไทย และวัฒนธรรมที่ว่านี้ก็เป็นป็อปคัลเจอร์ในกลุ่มวัยรุ่น แค่แจมจังหยิบมันมาเล่าใหม่ ผ่านตัวหนังสือที่อ่านสนุก”

ตอนที่ได้คุยกัน เราสะดุดกับคำว่า ‘เขียนคนเดียวได้ทั้งหมด’ ซึ่งทำให้เราสงสัยมากว่า ทำไมแจมจังถึงต้องเขียน i Like คนเดียว แต่ก่อนที่จะเล่าถึงสาเหตุ แจมจังยังบอกเราอีกด้วยว่า ไม่ใช่แค่เล่มเดียวด้วยนะ เพราะเจ้าตัวลงมือเขียนคอนเทนต์เองทั้งหมดถึง 6 เล่มเลย

“สาเหตุใหญ่ที่สุดคือ หานักเขียนดวงเด็กมัธยมไม่ได้ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีหมอดู ดวงเด็กมัธยมที่เรานึกชื่อออกแม้แต่คนเดียว รวมถึงแบบทดสอบทายใจที่ต้องใช้การครีเอทเยอะมาก แจมจังจะต้อง ใช้เวลาบรีฟนักเขียนนานมากๆ เลยเขียนเอง ง่ายกว่า เร็วกว่า ช่วงนั้น i Like ยังเป็นรายเดือน แล้วจำนวนคอลัมน์ตอนนั้นก็ยังไม่เยอะมาก ส่วนคอลัมน์อื่นๆ เช่น บทความ ฮาวทู เรื่องสั้น มันเป็นทางถนัดของเราอยู่แล้ว”

ความลับข้อที่ 3: i Like คือ นิตยสารที่มีบก. เป็นตัวการ์ตูน

สิ่งหนึ่งที่เราไม่ได้บอกผู้อ่านทุกคนก็คือ ตอนนี้เรากำลังคุยกับ ‘ตัวการ์ตูนอยู่’ และนั่นคือสาเหตุที่เราสงสัยมากว่า ทำไมบก. i Like ถึงต้องเป็นแจมจัง แล้วทำไมแจมจังต้องเป็นตัวการ์ตูน

“คือทุกสิ่งอย่างใน i Like มันเป็นตัวตนเฉพาะมากๆ ของแจมจัง มันไม่สามารถ ให้คนอื่นมาเป็น บก. แล้วทำตามความคิดที่แจมจังวางไว้ได้ ไม่ใช่เพราะแจมจังเก่งกว่าใคร แต่เพราะว่าเราเข้าใจความเป็น i Like มากที่สุด และที่สำคัญแจมจังมีความสุขที่จะทำมัน แล้วแจมจังจะเอาความสุขนั้นไปให้คนอื่นทำทำไม (หัวเราะ)

ส่วนทำไมแจมจังถึงต้องเป็นตัวการ์ตูน มันเริ่มจากที่แจมจังตั้งคำถามกับตัวเองว่า นอกจากเนื้อหาในหนังสือแล้ว อะไรที่จะทำให้คนอ่านติดตามอ่าน i Like ได้อีก ซึ่งแจมจังคิดว่า ถ้าเราสร้างตัวตนให้ บก. i Like เป็นที่รักของผู้อ่านก็น่าจะสร้างการติดตามได้ แต่แจมจังไม่ชอบออกงาน เป็นมนุษย์ที่ไม่หิวแสง แถมยังแพนิกเมื่ออยู่ท่ามกลางคนมากๆ ก็เลยใช้ภาพการ์ตูนแทนตัวเอง การให้ บก.เป็นตัวการ์ตูนนั้น มันสามารถสร้างความโอเวอร์ให้ดูสนุก น่ารักแบบไม่น่าหมั่นไส้ ทั้งเข้าถึงง่าย จดจำง่าย และธรรมชาติของเด็กจะรู้สึกผูกพันกับตัวการ์ตูนได้ดี”

แล้วในฐานะบก. อะไรคือความยากของการทำ i Like?

“การทำหนังสือดวง หรือหนังสือความเชื่อให้คนอ่านเชื่อ และยอมรับในวงกว้าง ซึ่งมันไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือยอดนิยมอันดับหนึ่งก็ได้นะ คือมันมีความเสี่ยงสูงกว่าหนังสือประเภทอื่น เพราะถ้าคนอ่านรู้สึกว่า ดวงไม่แม่น ต่อให้ทำออกมาดีแค่ไหนก็เจ๊งอย่างเดียว และพอมันเป็นหนังสือดวงเด็กวัยรุ่น ก็จะถูกผู้ปกครอง แปะป้ายว่าเป็นหนังสือที่มอมเมาเด็กให้เชื่องมงาย เราไม่สามารถห้าม หรือเปลี่ยนความคิดของใครได้ แต่เราสามารถทำเรื่องความเชื่อให้เป็นความเชื่อที่เป็นพลังบวกได้ ในดวงและคำทำนาย i Like จึงมีประโยคของความเข้าใจ การให้กำลังใจและข้อคิด ทัศนคติที่ดีแทรกไว้ตลอด มันมีความเป็น ‘Horo’ ผสม ‘How to’ แจมจังดีใจทุกครั้งที่ i Like ได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครอง มีแม่หลายคนที่โทรมาสมัครสมาชิก หรือขอซื้อหนังสือให้ลูก ในงานออกบูธก็จะเจอเด็กๆ พาแม่มาเลือกซื้อหนังสือ i Like เยอะมากๆ”

ถ้าอย่างนั้นคงต้องมีโมเมนต์ประทับใจแจมจังอยู่เยอะแน่ๆ เลย?

“มันเยอะมากๆ ถ้าเป็นโมเมนต์ก้อนใหญ่ ก็เป็นจดหมายที่เด็กๆ เขียนเล่าความรักความผูกพันที่มีต่อ i Like ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาจากคอลัมน์ต่างๆ หรือต่อทีมงาน i Like ที่ทั้งหมดเป็นตัวการ์ตูนทั้งแจมจัง ตั้มคุงผู้ช่วยแจมจัง หมาประจำออฟฟิศอย่างบ็อกบ็อกและเฉาก๊วย ความรู้สึกของคนอ่านที่เป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในบ้าน i Like เป็นครอบครัวเดียวกัน มันให้ทั้งความอบอุ่น และพลังทางใจมาก

ส่วนโมเมนต์ที่ประทับใจเป็นพิเศษคือ จดหมายที่น้องๆ เขียนมาเล่าว่า i Like เคยช่วยเขาไว้ เช่น i Like ช่วยให้เขากับแม่ที่ทะเลาะกันกลับมาคืนดีกัน ช่วยให้เขามีกำลังใจผ่านปัญหาหนักๆ มาได้ i Like สอนให้เขาเป็นคนดี ซึ่งจะมีจดหมายประเภทนี้เยอะมาก

แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์ที่แจมจังเซอร์ไพรส์ และขำหนักมากก็คือ ตอนที่แจมจังไปช่วยขายหนังสือในบูธงานหนังสือ มีเด็กนักเรียนหญิงวัยมัธยม หน้าตาน่ารักคุยกับแจมจังว่า ‘พี่เป็นทีมงาน i Like ใช่ไหมคะ’ หนูฝากไปบอกแจมจังหน่อยว่า หนูตกหลุมรักแจมจัง หนูอยากเป็นแฟนกับแจมจัง แจมจังยิ้มแล้วบอกว่า ครับๆ เดี๋ยวพี่เอาไปบอกให้นะครับ (หัวเราะ)”

ความลับข้อที่ 4: จิต(วิทยา) + จิน(ตนาการ) + ความรู้(พื้นฐานราศี) สู่พื้นฐานการพยากรณ์ดวงสุดแม่น!

สิ่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลย คงหนีไม่พ้น ‘การพยากรณ์ดวง’ คอนเทนต์เลื่องชื่อของ i Like แต่เชื่อไหมว่า จริงๆ แล้วไม่ได้มีใครในกองบก. เป็นนักพยากรณ์อาชีพเลย?

“แจมจังเคยอ่านเจอบทความต่างประเทศหนึ่ง มีการวิจัยโดยให้คนอาชีพต่างๆ มาพยากรณ์ชีวิตของมนุษย์แข่งกับหมอดู โดยใช้เวลาในการเก็บข้อมูลถึงห้าปี ปรากฏว่า อาชีพที่ทำนายอนาคตของคนได้แม่นยำมากที่สุด ไม่ใช่หมอดู แต่คืออาชีพ ‘นักจิตวิทยา’ รองลงมาคือ ‘นักเขียน’ ซึ่งนักเขียนดวง i Like ไม่มีใครเคยเป็นแม่หมอ แต่เป็นคนที่มีความรู้ด้านจิตวิทยาวัยรุ่นขั้นพื้นฐานพอสมควร และทุกคนมีความสามารถในการเขียนหนังสือแนววัยรุ่นหลากหลาย เคยมีหนังสือรวมเล่มบทกลอน เรื่องสั้น นวนิยาย และบทความเพื่อพัฒนาตัวเองของวัยรุ่นที่ขายดีในยุคนั้นๆ สองคุณสมบัติตรงนี้ จะทำให้เขาเป็นคนที่มีความเข้าใจในมนุษย์วัยรุ่น ชอบคิด ชอบวิเคราะห์ ช่างจินตนาการ และมีความสามารถในการเขียน ทุกคนเริ่มงานกับ i Like ตั้งแต่ตอนอายุ 20 ปีต้นๆ ยังผ่านช่วงวัยรุ่นมาไม่นาน กระบวนการสุดท้ายคือ แจมจังจะสอนศาสตร์ทำนายดวง ตามราศีทั้ง 12 ราศี ตามแบบฉบับของแจมจัง แล้วนำองค์ความรู้ทั้งสามมาประยุกต์เข้าด้วยกัน ในการพยากรณ์ดวงที่ใช้สามศาสตร์คือ จิต(วิทยา) + จิน(ตนาการ) + ความรู้(พื้นฐานดวงชะตา)

ในเมื่อแจมจังไม่ใช่พ่อหมอ แล้วจะสอนพยากรณ์ดวงได้อย่างไร? แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่ศาสตร์การพยากรณ์แบบที่เราคิดภาพไว้แน่นอน

“แจมจังจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสตร์ราศีพยากรณ์เยอะมาก พร้อมจดบันทึกไปด้วยว่า แต่ละหมอดูนั้นทำนายนิสัย และดวงชะตาของคนแต่ละราศีไว้อย่างไร จากนั้นมาดูว่า คำทำนายของหมอดูทั้งหมดมีอะไร ที่ทำนายตรงกันบ้าง ซึ่งข้อมูลที่ตรงกันนั้น น่าจะหมายถึง ‘ความน่าจะแม่นยำ’ ที่สุดแล้ว บวกกับแจมจังจะใช้จินตนาการเชิงวิเคราะห์เพื่อต่อยอดว่า ดวงชะตาที่หนึ่งจากตำรานั้นจะนำไปสู่ดวงชะตาที่สองสามสี่อย่างไรบ้าง ซึ่งจะกลายเป็นฐานข้อมูลพื้นฐานดวงประจำราศีในแบบเฉพาะของ i Like

กระบวนการสุดท้ายคือ นำข้อมูลนี้ไปผูกไว้กับสัญลักษณ์ประจำราศี เพื่อใช้เป็นหลักจำ และจำเป็นภาพแบบง่ายๆ โดยให้ทุกราศีเป็นมนุษย์ เช่น ราศีมีนสัญลักษณ์คือปลา มนุษย์ปลาจะดูนิ่งๆ เคลื่อนไหวช้า ชอบความเย็น ชอบน้ำ รักความสงบ มีความเป็นมิตรไม่มีพิษเป็นภัย อยู่เป็นกลุ่มก็ได้ ว่ายตัวเดียวก็มีความสุข ราศีตุลคือมนุษย์ตาชั่ง ชอบชั่งหรือประเมินมนุษย์และสถานการณ์ มีความเที่ยงธรรม มีความเป็นมาตรฐานอยู่ในตัว ชอบใช้ตรรกะและเหตุผล แต่คิดมากคิดเยอะ จริงจังและจริงใจ เก่งในการแยกแยะคน แต่ตาชั่งมักไม่เสถียรเรื่องความรัก มีดวงที่ผิดหวังเรื่องความรักบ่อยๆ ซึ่งใช้ได้กับทั้งการพยากรณ์ดวงรายปักษ์ และการดูดวงแบบเจาะจงตามหัวข้อเฉพาะ เช่น งอนตามราศี ราศีมีนจะงอนแล้วจะนิ่งๆ ดูไม่ออกว่างอนอยู่ ราศีตุลเวลางอนจะชอบยกเหตุผลมาอ้างว่า เธอทำให้ฉันงอนเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ รวมทั้งใช้ข้อมูลอื่นๆ มาประกอบด้วย”

ข้อมูลอื่นๆ ที่ว่าคืออะไร?

“เรื่องของช่วงเวลา สถานการณ์ หรือบรรยากาศขณะนั้น ซึ่งตรงนี้มันเป็นเรื่องของ ความสมเหตุสมผล เช่น ถ้าเป็นช่วงสอบ เด็กๆ จะมีความเครียดสูง ช่วงปิดเทอมจะผ่อนคลาย เดือนกุมภาเด็กๆ หัวใจฟู มีความหวังความสดใสเรื่องความรัก หน้าหนาวจะโรแมนติกช่างฝัน หน้าร้อนจะหงุดหงิดง่าย ใจร้อน แล้วต้องเอาพื้นฐานนิสัย และดวงชะตาประจำราศีมาร่วมพยากรณ์ด้วย เพื่อความแตกต่าง และความแม่นยำในแต่ละราศี”

ความลับข้อที่ 5: บทความดูดวงคอลัมน์ต่างๆ มาจากการร่วมกันพยากรณ์ของนักเขียนดวงทุกๆ คน

“อีกความลับดวงที่แม่นของ i Like นั้น คือนักเขียนหมอดูทุกๆ คนจะมาร่วมพยากรณ์ในทุกคอลัมน์ทำนายดวง” แจมจังเริ่มเล่าความลับอีกข้อ ก่อนอธิบายต่อว่า “แจมจังจะเป็นคนเขียนคีย์เวิร์ดคำทำนายให้ก่อน จากนั้นนักเขียนดวงก็จะมาช่วย กันเพิ่มเติมคีย์เวิร์ดอื่นๆ สามารถเห็นแย้งได้ว่าคีย์เวิร์ดนี้ไม่น่าตรง หรือเพราะอะไรคีย์เวิร์ดนี้โคตรตรง ทั้งจากหลักพยากรณ์ของ i Like และจากราศีเกิดของทีมงาน i Like ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนดวง ฝ่ายอาร์ตเวิร์ก หรืออื่นๆ ที่จะมาแชร์นิสัย หรือพฤติกรรมของตัวเองตามหัวข้อทำนาย มันจึงเป็นคำทำนายที่มาจากคนทั้ง 12 ราศีจริงๆ ด้วย”

แต่ i Like ไม่ได้มีแค่ดวง 12 ราศีเท่านั้น เพราะเกมคำทำนายอื่นๆ ก็แม่นไม่แพ้กัน ซึ่งแจมจังก็เผยกับเราว่า แบบทดสอบคำทำนายคือคอลัมน์ที่ยากกว่าดวงตามราศีมากๆ

“แบบทดสอบคำทำนายต้องใช้เครื่องมือในการทำนายหลายรูปแบบ ซึ่งสิ่งที่ยากที่สุด และก็สำคัญที่สุดด้วยคือ การคิดสัญลักษณ์ที่ใช้ในการทำนาย และการตีความสัญลักษณ์เหล่านั้นออกมาเป็นคำเฉลย เช่น สัญลักษณ์ที่เป็นประโยคคำพูด การกระทำ อารมณ์ คน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ ส่วนความลับของแบบทดสอบคำทำนาย i Like ที่มีความแม่นนั้น ก็มาจากการถอดสัญลักษณ์ หรือตีความที่เป็นความรู้ตามหนังสือตำรา และตามหลักจิตวิทยาทั้งแบบง่ายๆ และแบบซับซ้อน เช่น สีแดงคือ อันตราย คำเตือน เลือดเนื้อ การสูญเสีย ความโกรธ การต่อสู้ นกคืออิสรเสรี งูคือเพศชาย เซ็กส์ ลูกโป่งคือความฝัน ความเยาว์วัย พายุคือปัญหาและอุปสรรค ส่วนสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนและลึกมากขึ้น เช่น แมงมุมดำหมายถึงแม่ที่ชอบบงการ ท่อน้ำหมายถึงอวัยวะภายใน เช่น ระบบปัสสาวะ ชึ่งเราจะพบสัญลักษณ์ต่างๆ เหล่านี้ในหนังสือ และในหนังเยอะมาก แจมจังจะดูแล้วจำ ฝึกตีความเอง แล้วไปหาบทวิจารณ์หนังสือ บทวิจารณ์หนังที่เฉลยถึงสัญลักษณ์ ที่ซ่อนไว้ในเรื่องนั้นๆ และแจมจังมีหนังสือแนวนี้อยู่พอสมควร เช่น หนังสือแปลที่รวบรวมสัญลักษณ์และการตีความ หนังสือพลังจิตใต้สำนึก หนังสือจิตวิทยาการอ่านใจคนจากพฤติกรรม เวลาเขียนแบบทดสอบคำทำนาย ก็นึกว่า เรากำลังเขียนหนังฉากหนึ่งที่มีสัญลักษณ์ต่างๆ ซ่อนไว้”

ความลับข้อที่ 6: จากจุดที่ขาดทุนหนักจนเกือบหยุดผลิต สู่จุดพีคที่ยอดพิมพ์สูงถึง 100,000 ฉบับ ไปจนถึง i Like แบบออนไลน์

เห็นถึงความตั้งใจของแจมจัง และทีม i Like ขนาดนี้ เราก็อดไม่ได้ที่จะถามเขาว่า เขาคาดหวังกับ i Like ไว้มากขนาดไหน

“แจมจังตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้ i Like เป็นหนังสือขายดีติดท็อปไฟว์ก็โอเคแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะดังมาก จนขายดีเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่องยาวนานหลายปี และกลายเป็นตำนาน แต่ก็ไม่เคยมีใครรู้ว่า i Like เกือบจะปิดตัว ตั้งแต่เล่มที่แปดที่เก้า เพราะขาดทุนมาตลอด เจ้าของรอดูอีกสามสี่เล่ม คือให้โอกาสครบหนึ่งปีหรือ 12 เล่ม ถ้ายอดพิมพ์ยังไม่ดีขึ้นก็ต้องปิดตัวเลิกทำ แต่โชคดีที่หลังจากเล่มแปด เก้า สิบ ยอดที่นิ่งก็ขยับเพิ่มขึ้น พอเล่มสิบสองครบหนึ่งปี จากเริ่มขายได้ก็เป็นขายดี จนถึงขายดีมากๆ ขายดีเว่อร์ๆ อย่างรวดเร็วต่อเนื่องกัน มันไม่ใช่กราฟ แบบค่อยๆ พุ่งขึ้น แต่เป็นกราฟจากแนวนอนแล้วพุ่งขึ้น เส้นกราฟนี้น่าสนใจตรงที่มันเป็น การทำงานของคนในโลกโซเชียล ซึ่งมันสอนให้เราทำทุกอย่างให้เต็มที่ และต่อเนื่อง ด้วยความอดทน ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เพราะความสำเร็จ อาจอยู่ข้างหลังก้าวที่เราหยุดเดินไปแล้วก็ได้”

“i Like เล่มที่หนึ่งถึงหกมียอดพิมพ์ที่ 10,000 เล่ม ยอดคืนเกือบครึ่งหรือ 5,000 เล่ม จากนั้นยอดคืนค่อยๆ น้อยลง” แจมจังเล่าถึงเบื้องหลังกว่าที่ i Like จะกลายเป็นนิตยสารวัยรุ่นยอดขายอันดับหนึ่ง พร้อมเล่าต่อว่า “จนเล่มที่ 12 ก็มีการเพิ่มยอดพิมพ์ และเพิ่มอย่างก้าวกระโดดจนสูงสุดยอดพิมพ์ 100,000 เล่ม ในประมาณปีที่สามที่สี่ ซึ่งคิดเป็นอัตราเติบโตถึง 1000%”

แน่นอนว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งที่วงการสื่อสิ่งพิมพ์เริ่มหดตัวเล็กลง หลายหัวนิตยสารเลือกที่จะปิดตัวลง บ้างก็เลือกที่จะไปสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่ง i Like ก็คือหนึ่งในนั้น แจมจังได้เล่าถึงเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้ให้เราฟังว่า

“อย่างแรกเลยคือ ความอยากทดลองทำดวง i Like ในรูปแบบของออนไลน์ โดยกลุ่มเป้าหมาย คือวัยทำงาน 25-40 ปี แต่ทำได้ไม่ถึงปีก็หยุดทำ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ ปัญหาทางเทคนิค ซึ่งหมายถึงแพลตฟอร์มที่ไม่ได้เป็นไปตามที่เราวางไว้ และมันอยู่เหนือการควบคุม ก็เลยคิดว่าหยุดไว้ก่อนดีกว่า ถ้าทำแล้วมันไม่สามารถทำได้แบบสุดๆ อย่างที่คิดไว้ แต่ตอนนี้แจมจังขอประกาศดังๆ ว่า แจมจังมีโปรเจกต์ทำ i Like Online โดยกลับมา เป็นดวงเด็กวัยเรียนที่เป็นทางถนัด เรามีคอนเทนต์ การทำนายดวงไม่ว่าแบบทดสอบ และการดูดวงตามราศี รวมแล้วหลายๆ พันจนอาจจะถึงหมื่นคอนเทนต์ ที่มีทั้งส่วนที่ต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม ส่วนที่ทำขึ้นใหม่ และส่วนที่ยังใช้ได้กับวัยรุ่นยุคนี้

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ แจมจังได้ไปชมงานอาร์ตเดย์ของโรงเรียนเก่าสมัยมัธยม เชื่อไหมว่า บูธที่แน่นที่สุดคือ บูธทำนายดวงจากไพ่ที่เด็กๆ ช่วยกันวาด แจมจังตั้งใจจะเข้าไปให้น้องแม่หมอ ทำนายดวงสนุกๆ แต่บอกน้องๆ ว่าจะขอทำนายทายนิสัยจากไพ่ที่วาดให้น้องๆ และได้เอาแบบทดสอบ คำทำนายจาก i Like ที่ติดตัวไปด้วยไปเล่นกับเด็กๆ ปรากฏว่าเด็กๆ ชอบกันมาก จนจากแขกรับเชิญกลายเป็นพ่อหมอ นั่งทายใจดูดวงให้น้องๆ เป็นชั่วโมงจากหนังสือ i Like เล่มเดียว ทำให้แจมจังเชื่อว่า ดวงยังเป็นสิ่งที่เด็ก ผู้หญิงสมัยนี้ชื่นชอบกันอยู่ไม่น้อย ขอให้เป็นดวงที่สนุกทัชใจวัยรุ่น ที่สำคัญคือแม่น”

ความลับข้อที่ 7: ในวันที่งานเลี้ยงมีวันเลิกรา i Like ไม่มีงานเลี้ยง หรือแม้แต่การพูดลากันของทีมงานจนถึงวันนี้

แจมจังพาเราเดินทางผ่านช่วงเวลา และโมเมนต์มากมายของ i Like จนถึงบทสุดท้ายของการเดินทาง ‘งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา’ ประโยคคลาสสิกของการร่ำลาที่หลายๆ ความสัมพันธ์น่าจะเคยได้ยิน แต่สำหรับ i Like ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะที่นี่ไม่มีแม้แต่ฉากงานเลี้ยง

“คือทุกคนรู้สถานการณ์มานานแล้วว่า i Like จะต้องปิดตัวในอีกไม่นาน เพราะมีหนังสือดังๆ ทยอยปิดตัวไปก่อนหน้า i Like หลายเล่ม ทุกคนทำใจเผื่อมานานแล้ว แถม i Like ปิดตัวช้ากว่าที่เราคาดการณ์ กันไว้อีก แจมจังบอกกับทีมงานว่าจะไม่มีการเลี้ยงอำลา และไม่มีการกล่าวลากันนะแต่เราจะกลับมาเที่ยว ประจำปีส่งท้ายกันด้วยความสนุกเหมือนตอนที่แจมจังพา i Like Gang ไปเที่ยวประจำปีทุกปี พออีกเกือบครึ่งปี i Like ได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกก็ไม่มีใครพูดถึงความรู้สึกตรงนั้น หรือถึงตอนนี้ที่ได้กลับมาเจอกัน ในวาระต่างๆ ก็ไม่เคยมีใครพูดถึงเลย ไม่รู้ว่าแจมจังคิดไปเองหรือเปล่าว่า เป็นเพราะน้องๆ รู้ว่าถ้ามีใครพูด เรื่องนี้ขึ้นมา แจมจังจะต้องร้องไห้หนักมาก และทุกคนจะต้องพากันร้องไห้ไม่หยุด (หัวเราะ)”

เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลงสิ่งที่คงเหลือไว้คือ Legacy และความทรงจำที่ดี

“แจมจังเชื่อว่า EQ สำคัญกว่า IQ ซึ่งมันคือตัวตนของ i Like มาตลอด 16 ปี ที่ให้ความสำคัญกับ ความฉลาดทางอารมณ์มากกว่าความฉลาดทางวิชาการ แจมจังอยากให้เด็กๆ โตมาเป็นคนที่มีความสุข มากกว่าเป็นคนที่เก่งอย่างเดียว

คำว่า ‘โตมากับ i Like’ คือคนอ่านที่โตมากับหนังสือที่หล่อหลอมให้เขาเป็นตัวของตัวเอง มีความเป็นมิตร คิดบวก โตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีทัศนคติที่ดี ถ้าจะให้แจมจังสรุปนิยามตำนาน i Like แบบสั้นๆ ก็คือ ตำนานความเชื่อและความสุขของเด็กคิดบวก”

“แจมจังจะใจเต้นแรงทุกครั้งด้วยความสุข ที่ i Like ถูกพูดถึง ไม่ว่าจะในเพจ ในไอจี หรือใน TikTok แถมยังมียอดคนดู และยอดกดไลก์หลายพันหลายหมื่น แม้ i Like จะปิดตัวไปนานแล้ว แต่ i Like ยังเป็นตำนานที่มีลมหายใจ เป็นเรื่องเล่าของความสุขความประทับใจของผู้ใหญ่ที่โตมากับ i Like กับคำพูดสุดฮิต หนังสือดูดวงเด็กที่แม่นมาก เล่มเดียววนอ่านทั้งห้อง (ยิ้ม)” แจมจังเล่า

เราเชื่อว่า i Like คือความสุขของคนอ่านมาเป็นเวลานาน แต่สำหรับคนทำอย่างแจมจัง นี่คงเป็นโอกาสหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาได้พูดถึงความสุขของการทำ i Like

“การได้มีทีมงานที่ดีไปพร้อมๆ กับผู้อ่านที่ดี ส่งพลังบวกให้กันและกันเสมอ มันเป็นพื้นที่ของ ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น ปลอดภัย และให้ความสุขตลอดการเดินทางมากกว่า 16 ปี และไม่เคยมีใครรู้ว่า ก่อนทำ i Like แจมจังป่วยเป็น Panic และ SLE ในระดับรุนแรง แขนขาบวม ตัวบวมจนเดินไม่ได้ หลายครั้งต้อง ใช้วิธีคลานเอา ซึ่ง SLE นั้นหมอบอกว่าไม่มีทางรักษาหาย แต่จู่ๆ วันหนึ่ง ประมาณกลางอายุ i Like มันก็หายไปเฉย เหมือนแจมจังไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆ ที่ตอนนั้นแจมจังไม่ได้กินยา แถมยังพักผ่อนน้อย เพราะโหมทำ i Like หนักเว่อร์ แต่ช่วงเวลาที่ทำ i Like แจมจังมีความสุขที่สุด และเป็นความสุขจากข้างใน แถมยังเป็นความสุขที่ต่อเนื่องยาวนานหลายปี แจมจังเชื่อมั่นว่าปาฏิหาริย์ที่ทำให้แจมจังหายจากโรค Panic และ SLE เกิดจากร่างกายหลั่งสารความสุขออกมาอย่างท่วมท้น จนกลายเป็นยาหรือสารที่รักษาโรคร้ายให้แจมจัง ได้อย่างเหลือเชื่อ และความสุขนั้นก็มาจากการทำ i Like”

Next Chapter: การกลับมา

สารพัดความลับที่แจมจังได้เล่า และพาพวกเราเดินบนเส้นทางของ i Like คงทำให้เราได้ยิ้มไปกับความคิดถึงอีกครั้ง แต่หากใครยังไม่หายคิดถึง แจมจังยังมีความลับพิเศษข้อสุดท้ายที่ฝากมาบอก นั่นก็คือ ความลับของ ‘การกลับมา’

“แจมจังขออนุญาต ใช้พื้นที่ตรงนี้ประกาศหาพันธมิตรที่จะมาร่วมกันทำ i Like ดวงวัยเรียนออนไลน์ โดยแจมจังจะดูแลในส่วนของคอนเทนต์ ส่วนพันธมิตรดูแลการผลิต และการตลาดขอเป็นทีมงานหรือบริษัทที่ผลิตสื่อออนไลน์อยู่แล้ว จะเป็นทีมงานเล็กๆ ก็ได้ แต่ขอให้เป็นทีมงานที่มีทัศนคติที่ดี พร้อมร่วมสู้ และเติบโตไปด้วยกัน โดยส่งข้อมูลของทีมงาน หรือบริษัทและคำแนะนำตัวมาได้ที่อีเมล tukta.songseree@gmail.com