‘แจ็ค The Ghost Radio’ ผู้สร้างความสยองขวัญในยามค่ำคืน

ช่วงวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ในยามค่ำคืน คอรายการเรื่องสยองขวัญจะต้องปิดไฟ คลุ่มผ้าห่ม เตรียมขนมไว้ข้างๆ ตัวเพื่อฟังรายการ ‘The Ghost Radio คลื่นสยองของคนรุ่นใหม่’ ที่จะทำให้ทุกคนชวนขนหัวลุกก่อนนอน บางครั้งเรื่องราวสยองขวัญนั้นอาจวนเวียนอยู่ในหัวจนทำให้คุณนอนไม่หลับ 

แจ็ค - วัชรพล ฝึกใจดี พิธีกรรายการ ‘The Ghost Radio คลื่นสยองของคนรุ่นใหม่’ ทางชาแนลยูทูบ The Ghost Radio Official ผู้ที่กระตุ้นความน่ากลัวของเรื่องราวสยองขวัญที่ทำให้เพิ่มความหลอนแก่ผู้ฟังเพิ่มขึ้นไปอีก วันนี้ EQ จึงจะพาทุกคนไปรู้จักเส้นทางของคุณแจ็คและรายการ The Ghost Radio

จุดเริ่มต้นของ The Ghost Radio

ผมเคยอยู่กับพี่ป๋อง กพล ทองพลับประมาณ 20 ปีมาก่อน แล้วออกมาเป็นพ่อค้าขายของประมาณ 2 ปี วันหนึ่งเราอยากทำรายการผีที่ไม่ใช่รูปแบบของวิทยุ แต่มาเป็นออนไลน์เพราะ ตอนนั้นคิดว่าออนไลน์มันกำลังมา แล้วก็การจัดรายการออนไลน์มันใช้ทุนไม่เยอะมาก ก็เลยมีการพูดคุยกับผู้ใหญ่คนนึงว่า ผมอยากรายการออนไลน์ชื่อ “The Ghost Radio คลื่นสยองของคนรุ่นใหม่” เป็นชื่อที่คิดมาจากว่า เราเป็นคนรุ่นใหม่ รายการผลิตโดยคนรุ่นใหม่ แล้วน้องๆ คนฟังก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้าอยู่ในโซเชียลนี้ ชื่อนี้จึงน่าจะเหมาะที่สุด

วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2558  เป็นวันแรกที่จัดรายการ ณ บ้านของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ตอนนั้นเราออกอากาศทางเว็บไซต์ชื่อ www.homethestationradio.com เราเริ่มออกอากาศตอนเที่ยงคืน วันแรกมีคนเข้ามาดู 17 คน วันนั้นนั่งเล่าเรื่องผี เปิดสายให้คนทางบ้านเล่า แล้วพอดีคืนนั้นคนที่โทรมาเล่าเรื่องแรกดันน่ากลัวอีก ชื่อคุณปั๊ม โทรมาเล่าเรื่อง ใครมากู้ คนเลยเอามาบอกต่อว่ารายการพี่แจ็คสนุก น่ากลัว หลังจากวันนั้นก็เริ่มเปลี่ยนจากการจัดรายการทางเว็บไซต์พัฒนามาเป็น แอปพลิเคชัน เฟซบุ๊ก แล้วก็เป็นยูทูบจนทุกวันนี้ครับ

การสกรีนเรื่องราวจากทางบ้าน

เราใช้วิธีการสกรีนคือจะมีทีมงานคัดเลือก รายการจัดเสาร์ - อาทิตย์ วันจันทร์จนถึงวันศุกร์ทีมงานจะสกรีนเรื่องแล้ว จากเรื่องที่มีคนฝากเข้ามาทางเพจเยอะมาก เราก็จะให้ทีมงานของเราโทรไปฟังตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วบอกให้เขาเล่าเหมือนที่เล่ากับพี่แจ็ค โดยที่ผมจะไม่อยู่ฟังเลย เพราะผมไม่สามารถฟังเรื่องจากการสกรีนแล้วมาจัดรายการได้ มันจะไม่สนุก

เวลาสกรีนบางเรื่องก็อาจจะได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางเรื่องมันคลุมเครือ ลำดับเรื่องไม่ดี แต่ทีมงานไม่ได้ตัดทิ้งไป ทีมงานใช้วิธีการบอกว่า ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่เรื่องยังไม่ปะติดปะต่อจะให้กลับไปเรียบเรียงและเกลาเรื่องใหม่อีก ถ้าพร้อมโทรมา หลายคนที่ครั้งแรกโทรมาเล่าให้ทีมงานฟังไม่ผ่าน อีกครั้งนึงผ่านแล้วก็ได้มาออกอากาศ 

เคยเจอคนที่ปั่นป่วนหรือเล่าเรื่องโกหกบ้างไหม?

ยุคนี้ผมว่าการส่งข้อความมาปั่นป่วนหรือช่องทางต่างๆ มันยากขึ้น เพราะโซเชียลมันระบุตัวตนได้ สมัยก่อนย้อนกลับไปในยุคที่ยังไม่มีโซเชียล ยุคที่โทรเข้ามารับสายสดหน้าไมค์ อันนั้นเราก็จะเจอแปลกๆ เยอะ เช่น ผีแกงกะหรี่ไก่ ผีเคโระ ผีเต้นบัลเลต์ พอโทรมาเล่าเสร็จแล้ววางหูไป ตามอะไรไม่ได้เลย หลังจากนั้นปรับเปลี่ยนมาว่าต้องมีการสกรีนเรื่อง ต้องได้เบอร์เขามาก่อน ให้ทีมงานโทรไปยืนยันว่าเป็นเบอร์เขาจริงๆ ยุคสมัยนี้เรื่องการส่งข้อความปั่นป่วนเพื่อมาหลอกนั้นไม่มีเลย

“ส่วนการโทรมาเล่าจริงหรือไม่จริงมันอีกเรื่องนึง เราต้องรู้ว่าฟังเพื่ออะไร บางคนอาจจะเสริมเติมแต่งขึ้นมามันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ถ้าเราฟังแล้วรู้สึกสนุกและชอบ ฟังจบก็เหมือนดูหนังผีเรื่องนึงแค่นั้น”

คนรุ่นใหม่กับการถ่ายทอดเรื่องราวสยองขวัญ

เวลาคนรุ่นใหม่ถ่ายทอดเรื่องราวตื่นเต้น สยองขวัญ เรื่องผี มันก็จะเป็นมุมมองใหม่ สมัยก่อนคนโทรมาเล่าแบบ ตรงๆ  ไปเจออย่างนี้ๆ แต่พอยุคนี้เป็นยุคสมัยใหม่ การเล่าเรื่องของบางคนเขามีชั้นเชิงมากขึ้น บางคนเล่าเรื่องแล้วค่อยมาเฉลยทีหลัง ซึ่งมันจะมีจุดพีคและจุดหักมุมเยอะมาก ทำให้เรารู้สึกว่ายุคสมัยนี้มันคนละเจนกับสมัยก่อน ความคิดและการเล่าเรื่องของคนรุ่นใหม่มันแตกต่างจากคนรุ่นก่อน

เชื่อเรื่องผีหรือสิ่งลี้ลับไหม? 

ผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ความเชื่อนี้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ทำงาน The Shock กับพี่ป๋อง กพล ผมมีหน้าที่ออกไปนอกสถานที่ พี่ป๋องก็สอนเสมอว่า เราต้องรู้จักอยู่ตรงกลาง อย่างเอนเอียงไปทางข้างไหนข้างหนึ่ง สมมติว่าเป็นคนจัดรายการ พิธีกรเกี่ยวกับเรื่องผี แต่ไม่เชื่อเรื่องผีเลย คนฟังและคนดูเขาจะสนใจเราไหม กับอีกฝั่งหนึ่งคือเชื่อแบบจมๆ ไปเลย เชื่อว่าสิ่งลี้ลับหรือผีบนโลกมีอยู่จริงล้านเปอร์เซ็นต์แน่นอน ความน่าสนใจของตัวเราจะไม่มีเลย

“สิ่งเหล่านี้มีทั้งฝั่งที่เชื่อและไม่เชื่อ เราเป็นตรงกลางที่เชื่อมทั้งสองฝั่งให้บรรจบกันตรงที่เราอยู่ มาแลกเปลี่ยนและแชร์ประสบการณ์กัน”

ทำรายการผีกลัวผีไหม? 

ผมเป็นคนกลัวผีมาก แต่ไม่เคยเจอผีหรือเรื่องลี้ลับเลยสักครั้งในชีวิต แต่เป็นคนกลัวมากนะ เพราะเราไปมาเยอะ ด้วยบรรยากาศ สถานที่ ประวัติที่เราต้องไปทำงาน ออกนอกสถานที่ ถ้าผมมีความรู้สึกว่าสถานที่นี้มันหนักไป เราจะหลีกเลี่ยง ไม่ปะทะมาก เราจะไม่ห้าวหาญจนเกินขีดความสามารถของเรา 

เวลากลัวผมจะจัดการโดยการเอาความกล้าไปข่มความกลัว สิ่งนึงที่เราถูกสอนมาจากพี่ป๋องคือ การเป็นพิธีกรรายการแบบนี้ ต้องรู้จักคำว่า “กล้าๆ กลัวๆ” อย่ากล้าไปเลย เวลาทำรายการผี ถ้ากล้าไปเลย เดินชนทุกอย่าง ไม่มีใครดูหรอก เช่น ไปสถานที่หนึ่ง แล้วบอกว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย ที่นี่ธรรมดามาก ความสนุกมันอยู่ตรงไหน หรือถ้ากลัวเกินไป เดินเข้าไปสถานที่นี้แล้วบอกว่า โอ๊ย พี่ป๋อง ผมไม่ไหวแล้วผมกลัว ใครเขาจะดู เขาอาจจะรำคาญด้วยซ้ำ 

หากินกับผีและความเชื่อของคน

“ใครจะบอกว่าผมหากินกับผี ผมไม่เถียงเลย ผมโอเคด้วยซ้ำ”

ผมไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดนี้ แล้วผมหากินกับผีแล้วยังไง มันก็คือรายการความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง ที่มันไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน ผมเป็นคนทำมาหากินเกี่ยวกับเรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับผีจริงๆ เราไม่ปฏิเสธตัวเอง ถ้าปฏิเสธตัวเองก็ดูตลกไป เราทำมีโปรดักชัน เราไม่ได้ทำแบบส่งๆ เรามีการพัฒนารูปแบบให้ดีและทันสมัย เป็นการผสมผสานกันระหว่างเรื่องลี้ลับกับเทคโนโลยีเอามาเสนอให้กับคนดู 

ความแตกต่างของตัวเองในอดีตจนถึงปัจจุบัน

อันดับแรกคือเรื่องของความรับผิดชอบ สมัยก่อนเป็นทีมงาน ความรับผิดชอบเราน้อยมาก เมื่อก่อนพี่ป๋องถึงพร่ำด่าและสอนเราตลอดเวลา จนวันหนึ่งเรากลายมาเป็นเจ้าของเองเราจึงมีความรับผิดชอบมากขึ้น อีกอย่างคือความเป็นผู้ใหญ่และการควบคุมอารมณ์ สมัยก่อนผมหัวร้อนเวลาจัดรายการ เรื่องไหนที่พูดไม่รู้เรื่อง เล่าไม่ดี ก็เริ่มมีอาการออกทางน้ำเสียง สมัยก่อนไม่มีกล้อง ไม่เห็นหน้า แต่สมัยนี้พอมันมีกล้อง เห็นหน้า แล้วอายุเรามากขึ้น เราต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น สิ่งเรานี้ทำให้เราต้องลดบางอย่างในตัวเราลง เรื่องของอารมณ์ ทิฐิ และสิ่งที่มันส่งผลไม่ดีต่อองค์กรแล้วก็ตัวเรา 

“คนที่โทรมาเล่ากับเราทุกคนคือ คนที่เขาสละเวลาโทรมาเล่าให้เราและคนอื่นๆ ฟัง เราต้องให้เกียรติเขา และลดอารมณ์พวกนั้นลง”

The Ghost House นั่งคาเฟ่ ฟังเรื่องผี

The Ghost House เป็นร้านกาแฟแนวผีๆ อยู่ในชั้นล่างสุดของออฟฟิศ เราเป็นคนชอบกินกาแฟและฝันว่าอยากมีร้านกาแฟ พอทำร้านกาแฟก็อยากทำคอนเซ็ปต์ผี มีเมนูเกี่ยวกับผีๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ ผลตอบรับดีมากช่วงก่อนสถานการณ์โควิด ร้านเราจะมีคอนเซ็ปต์คือ เสาร์ - อาทิตย์ กินกาแฟฟังเรื่องผี คนก็จะมานั่งกินกาแฟเต็มข้างล่างเลย เราจัดรายการอยู่ข้างบน รายการก็จะออกอากาศอยู่ข้างล่างด้วย คนมารอคิว นั่งฟังเรื่องผี ตอนนั้นมันสนุกมาก

เป้าหมายต่อไปของ The Ghost Radio

เป้าหมายของผมและรายการ The Ghost Radio ก็ยังคงทำรายการแนวนี้ต่อไป เราคงจะทำให้มันใหญ่ขึ้น เช่น ต่อยอดในเฉพาะเรื่องเล่าที่มีแค่เสียง เราอาจจะพัฒนาไปในรูปแบบของหนัง แอนิเมชัน และภาษาที่มันหลากหลายมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดมีแพลนไว้อยู่แล้ว แน่นอนว่าทั้งบริษัท ทีมงาน และตัวผมก็คงอยากให้เติบโตขึ้นมากกว่านี้

ฝากถึงแฟนรายการ The Ghost Radio

ใครที่เคยฟังผมว่าเขารู้มือกันอยู่แล้ว เสาร์-อาทิตย์มาเจอกัน ประมาณ 21.45 น. ส่วนใครที่ไม่เคยฟังแล้วอยากมาลองสัมผัสฟังเรื่องราวสยองขวัญ ให้ตัดความเป็นจริงทิ้งไปก่อน แล้วลองใช้คำว่า “ฟังเพื่ออรรถรส” หลับตาแล้วจินตนาการตามเรื่องเล่านั้นๆ หรือคุณคิดว่ามันน่ากลัวเกินไป แนะนำให้เปิดแชทไปด้วย จะมีเหล่าบรรดาแฟนรายการที่เขามาคุยกันสนุกๆ ในห้องแชท

“อยากให้ทุกคนลองมาเป็นครอบครัว The Ghost Radio ทั้งสนุกและตื่นเต้น ที่สำคัญได้ข้อคิดและรู้จักเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ อันนี้คือหัวใจสำคัญในการฟังเรื่องราวลักษณะแบบนี้เลย”

ติดตามและฟังเรื่องราวสยองขวัญได้ที่
FB: The Ghost Radio
YT: The ghost radio Official