เชื่อว่าคนที่เล่นรถ ภายใต้นิยามของคำว่า “เล่น” ก็อาจจะมีได้หลากหลาย ทั้งแต่งให้สวย แต่งให้แรง หรือแม้กระทั่งทำให้เดิมที่สุด เหมือนเดิมที่สุดในรถรุ่นเก่า ๆ ที่เอามารีสโตร์กลายเป็นรถใหม่ข้ามกาลเวลา
แต่จะมีสักกี่คนที่ชอบรถเพราะสนุกกับการได้ “ควบคุม” ทั้งในแง่ของความเร็วสูงสุดที่รถสักคันจะสามารถทำได้ การเข้าโค้งให้เนี๊ยบที่สุด บวกกับความมุ่งมั่นและชัดเจนจนสามารถต่อยอดกลายมาเป็น “นักแข่ง” คว้ารางวัลมากมายระดับประเทศ และกลายมาเป็นนักแข่งที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้
ไปรู้จักกับเขาให้มากขึ้นจากบทสัมภาษณ์นี้กันกับ “Mai ISR” หรือ “ใหม่ ISoldRACE” อณิวัฏ ล้อมมหาดไทย
บางคนที่ไม่ได้ติดตามวงการมอเตอร์สปอร์ตในเมืองไทยอาจจะไม่คุ้นชื่อเขาคนนี้ คงจะดีกว่าถ้าเราจะพาไปร่ายดูผลงานของเขาสักหน่อย ตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา
- ปี 2020 กับรายการแข่งขัน Idemitsu Super Endurance 12hr (แข่งขันวิ่งระยะเวลา 12 ชั่วโมง) ได้แชมป์ในรุ่น Vios One Make Race ภายใต้สังกัดทีม TMC-Drive68 by WBB3
- แชมป์คะแนนสะสมประจำปีรายการ RAAT Endurance Champion Ship (แข่งขันระยะยาว 6ชั่วโมง 3สนาม) ในรุ่น Toyota Vios One Make Race 2 ปีซ้อน (ปี 2019-2020) ขับให้กับทีม TMC-Drive68 by WBB3, เป็นแชมป์รายการ Bangsaen Grand Prix 2019 (แข่งขันระยะยาว3ชั่วโมง) ในคลาส Vios One Make Race ภายใต้สังกัดทีม TMC-Drive68 by WBB3
- ปี 2018 ในรายการ Idemitsu Super Turbo Thailand 2018 ได้ที่ 1 คว้าแชมป์ประจำปีในรุ่น Overall / AM+Junior และรายการ Honda Racing 2018 [Super GT Support Race] ที่ 1 ในคลาส Overall Pro Car Modify, Class C Pro Car Modify ภายใต้สังกัดทีม WaxOne Racing Project
ที่ว่ามานี้เป็นแค่ “ส่วนหนึ่ง” เท่านั้นของผลงานในรายการใหญ่ ๆ การพัฒนาและเติบโตของนักแข่งรถคนหนึ่งภายในระยะเวลาไม่นาน อะไรเป็นแรงผลักดันสำคัญจนทำให้เขามายืนถึงจุดนี้ได้ เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย
อยู่กับรถตั้งแต่จำความได้
“เด็ก ๆ นี่พ่อใช้เลย บางทีก็บอกให้เปิดฝาสูบให้หน่อย บางทีก็ให้ช่วยถอดโช๊ค และก็มาดูว่าเป็นอะไร พอตอนเย็นก็บอกเสร็จละ ประกอบเก็บใส่เข้าไปเหมือนเดิม ทำจนมันรู้สึกว่าชินกับเพราะเป็นสิ่งที่ทำแทบจะทุกวัน”
“ช่วยพ่อทำรถมาเรื่อย ๆ จนจบ ม. 3 ต่อ ปวช. ในตอนนั้นด้วยความที่ที่ได้อยู่แต่กับรถตลอด ก็เลยคิดว่านี่แหละคือสิ่งที่ตัวเองชอบ การได้ซ่อมรถ อยู่กับรถ จึงเรียนต่อในเรื่องการซ่อมเครื่องยนต์ จนจบก็ไปต่อยอดในสายที่คิดว่าน่าจะไปได้ไกล เลยเลือกเรียนต่อในการซ่อมเครื่องบินที่การบินพลเรือน”
รถคันแรกกับคำตอบที่พาไปสู่เป้าหมาย
“รถคันแรกก็เป็นรถแม่ เราก็ขับไปซ่อมไปจริง ๆ เป็น Toyota Corona ปี 87 คือไม่ได้แต่งเลยนะ เพราะยุคนั้นพวกของแต่งแพงมาก ล้อชุดนึงนี่เรื่องใหญ่มาก ทำได้เพียงแค่ซ่อมให้ขับได้ เอาโช๊คไปอัดน้ำมัน ซ่อมเครื่องไป เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ จนเรารู้ตัวว่า จริงๆ เราไม่ได้ชอบซ่อมมัน จริงๆ เราแค่ชอบขับรถดีๆ อยากได้รถที่ขับดีๆ เราชอบควบคุมมัน”
“วันนึงได้ไปเล่นโกคาร์ท แล้วก็แบบว้าวมาก งงว่ามันเลี้ยวได้ขนาดนี้เลยหรอวะ เฮ้ย! มันเป็นอีกศาสตร์นึงที่เราอยากเรียนรู้เลย รถเหมือนๆ กันแต่ทำไมคนนั้นวิ่งเร็วกว่าเรา น๊อครอบเราได้เลย ทั้งๆ ที่ทางตรงก็พอๆ กัน แต่ทำไมพอในโค้งมันหายไปแล้ว”
สัมผัสแรกของสนามจริง!
“จนวันนึง ได้มีโอกาสไปขายของในสนามแข่ง น่าจะประมาณ 8 ปีที่แล้วตอนนั้นเราก็เริ่มทำพวกขายของออนไลน์ละ ขายอะไหล่รถแต่งทั่วไป ครั้งแรกในชีวิตเลยที่ไปสนามแข่ง เป็นผู้จัดในสนามแข่งเรียกเราไปที่สนามพีระฯ เราก็เลยไปเลยกับเพื่อน 3-4 คน”
“จริงๆ จะไปขายของนะ แต่พอไปถึงสนามไม่ขายเลย เดินดูรถอย่างเดียว แล้วให้ลูกน้องกับเพื่อนก็ขายไป แต่เราก็ไปเดินดูรอบสนาม ได้เห็นเลยว่าก็มีทั้งคนเก่ง คนไม่เก่ง เราดูออกเลยนะว่าคนเก่งๆ รถมันจะเลี้ยวแบบไหน เราไปเดินดูตามโค้งเลยนะ เดินไปถามเขา พี่ๆ เป็นนักแข่งเขาจ้างพี่มามั้ยเพราะตอนนั้นเราไม่รู้อะไรเลย”
“จนกลับบ้านมาเราตั้งเป้าเลยว่า เราอยากแข่งรถ ทำไงก็ได้ให้มีเงินซื้อรถแข่ง แล้วก็เริ่มเลย โดยการซื้อรถ Civic 3 Door ในราคา 1 แสนบาท ถ้วนจากลูกค้าที่มาซื้ออะไหล่ที่ร้านเราเนี่ยแหละ”
รถแข่งคันแรกกับการเรียนรู้ไปด้วยกันกับทีม
“รถทั้งคันทำกับเพื่อน มาปรับนิดหน่อยให้ตรงกติกา แล้วก็ลงแข่งเลย เพื่อนเป็นอู่ชื่อ อ๊อบ จัดทรง, พีท ไวริ่ง ตอนนั้นทั้งคู่เริ่มฝึกทำทั้งช่วงล่างและระบบไฟ เริ่มเดินมาด้วยกันตั้งแต่วันนั้นแหละวันแรก ส่วนเราก็หาของหาอะไหล่มาใส่ 3 คนเนี่ยหารเงินกันใส่ของด้วยนะ ทุกคนเอาเงินมาลง เอาแรงมาลงเพื่อเสาร์อาทิตย์นี้จะได้ไปแข่งรถกัน”
“ปีแรกก็พยายามเรียนในการขับ เพื่อนก็พยายามเรียนรู้ในการทำรถ ใครอยากลองอะไรก็มาลองกับรถคันนี้ เราเก็บข้อมูลไปกับรถคันนี้ ได้ถ้วยบ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็เริ่มมีชื่อเสียงในคลาสนั้น"
ความบ้าและกล้าลอง หัวใจคือการซัพพอร์ตของทีม
“มาปีที่สองในการแข่ง อ๊อบ รื้อรถใหม่หมดเลยทั้งคันแล้วประกอบเข้าไปใหม่ เปลี่ยนสี คือต่างคนต่างบ้า ก็อยากพลิกรถคันนี้ให้เป็นรถคันที่เร็วเลย ใช้เงินมันเองด้วย พีทก็เหมือนกันไปยืมกล่องเขามาทำสายไฟใหม่ทั้งคัน ปรากฎว่าลงไปขับนี่เป็นเหมือนรถคนละคันจริง ๆ รถมันเร็วขึ้นระดับที่อยู่หัวแถวของคลาส วันนั้นลงแข่ง 3 รุ่น ได้ที่ 1 ทั้ง 3 รุ่นเลย”
“เร็วแบบผิดสังเกตเลย ที่สำคัญเพื่อน ๆ บอกเราให้ขับไปเลย ไม่ต้องกลัวรถจะพัง พังเดียวซ่อมใหม่ได้ ใส่ให้เต็มที่ เราไม่เอารถกลับบ้านก็ได้ แลกได้เลย”
“ทีมทำให้เราวางใจรถมาก พอใส่ชุดอยู่หลังพวงมาลัย ไม่ต้องพวงอะไรทั้งสิ้น คือยัดอย่างเดียว ยัดคือปริ่มหลุดโค้ง ทีมไม่มีใครว่า บอกให้ใส่ได้เต็มที่เลย”
ความเป็นมืออาชีพที่มากขึ้นจากข้อมูลตัวเลขที่ไม่เคยโกหก
“2018 ทีม WaxOne Racing Project ดึงตัวไปขับรถให้พร้อมกับทีมงาน ทั้งอ๊อบ และพีท ก็ไปกันหมดเพื่อช่วยในการเซ็ทรถ เป็นปีแรกที่เข้ามาในรายการ Super Turbo ปีนั้นได้แชมป์ประเทศรุ่นนั้นไปเลย”
“จากนั้น 2019 ทาง Idemitsu ก็เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้ คราวนี้เริ่มได้เป็นเม็ดเงินละ ส่วนโปรดักส์ก็พวกน้ำมันเครื่อง ของเหลวต่างๆ ที่ต้องใช้ในสนาม บัดเจ็ดสำหรับทำทีมก็มีดคือรูปแบบการจัดการมีความเป็นมืออาชีพเหมือนทีมแข่งมากขึ้น”
“คือต้องบอกว่าสปอนเซอร์เราไม่เคยหาเลย เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะไปทำอะไรให้เขาได้ จริงๆ แล้วเป้าหมายเราไม่ได้แข่งรถเพื่อหาเงิน เราแข่งรถเพื่อเป็นกีฬา พอปี 2021 จะเป็นการที่ทาง Idemitsu ไปร่วมมือกับทางทีมแข่ง Star Performance เป็นทีมใหญ่ที่เขามีรถระดับสูงที่เป็นรถแข่งซึ่งถูกทำมาสำหรับไว้แข่งจริงๆ และเราก็ได้ใช้รถของทาง Star Performance ในการแข่ง“
“ทีมงานเหมือนเดิมแต่รถและระบบทีมเป็นเทคโนโลยีสูงที่เราต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด ชนิดจูนเนอร์ที่อยู่ต่างประเทศสามารถรู้ข้อมูลในการขับขี่แล้วสั่งการมาได้เลย ตัวเลขเวลาไม่เคยโกหก เขาแจ้งเลยว่าโค้งนี้คุณต้องเบรกเร็วกว่าเดิม 25 เมตร, 15 เมตร, 7 เมตร คุณถึงจะเร็วขึ้นกว่าเดิม 0.2 วินาที คือทุกอย่างจะเน้นเรื่องของข้อมูลมากกว่าแค่ความรู้สึก และการทำงานเป็นทีมมากขึ้น ตรงไหนที่เราต้องแก้ไขปรับปรุงเขาก็จะสั่งมาเลย”
เป้าหมายสูงสุดคือก้าวไปด้วยกัน
“เป้าหมายระยะใกล้ๆ นี้เราก็หวังให้ได้แชมป์ในรุ่นในรายการที่ลงแข่งขันปีต่อปีไปเรื่อยๆ และอยากขับในรายการ TCR Thailand ซึ่งรถเป็นรถแข่งที่อยากขับที่สุดในตอนนี้เลย 2 ปีเราก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ขับให้กับทีม ส่วนเป้าหมายระยะยาวเลยคือการพาทีมหรือเพื่อนทุกคนที่อยู่รอบตัว เติมโตมากับเรา ให้เขาสำเร็จไปกับเรา เรามีอะไร เขาต้องมีด้วย”
อยากฝากอะไร ถึงคนที่อยากจะเป็นนักแข่งรถ
“อยากฝากบอกว่า จริงๆ แล้วการเป็นนักแข่งมันไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อมเลยในการแข่งรถเซอร์กิต ใครก็ขับได้ ถ้าชอบ จะเริ่มจากโกคาร์ทหรือจะไปสมัครลงแข่งเลยก็ได้จะได้รู้ว่าชอบมั้ย แต่สิ่งสำคัญก็คือ ก่อนลงไปแข่งต้องทำการบ้านมาหน่อยให้มันปลอดภัย”
ขอขอบคุณภาพบางส่วนจากคุณใหม่ด้วยครับ
ติดตามความเคลื่อนไหวของคุณใหม่ได้ที่ Instagram: Aniwat Lommahadthai