Culture

การถูกกลั่นแกล้ง รอยสัก และ การรักตัวเอง เรื่องราวของ ‘ไอวา’ ที่จะพาคุณมารู้จักกับอีกนิยามของความงามบนเวทีประกวด

“มีจุดหนึ่งที่เคยคิดว่าไม่ควรสัก แต่สุดท้ายเราก็คิดว่าไม่มีทางรู้หรือเปล่าว่าถ้าไม่มีรอยสัก เราจะมาถึงจุดนี้ได้ไหม”

‘ไอวา – ไอยวริญ บวรวิวรรธน์’ หญิงสาวที่สร้างกระแสฮือฮาในงานมิสแกรนด์มุกดาหาร บอกกับเรา

ในชีวิตประจำวัน คนที่สักแทบทั้งตัวถือเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่กับเวทีนางงาม นี่คงเป็นครั้งแรกๆ ที่ผู้เข้าประกวดที่เปิดเผยรอยสักอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของไอวาไม่ได้มีแค่ลวดลายบนเรือนร่างเท่านั้น ผู้เขียนจะชวนคุณไปทำความรู้จักเธอให้มากขึ้น ผ่านบทสัมภาษณ์ความยาว 3 หน้า A4 นี้

นางงามคือความฝัน

แม้ว่าบุคลิกภายนอกจะดูเท่และห้าวแค่ไหน แต่นางแบบ นักแสดง ครูฝึกสุนัข คนรับเลี้ยงสุนัข อินฟลูเอนเซอร์ ฯลฯ หรือที่เรียกรวมๆ ว่าฟรีแลนซ์คนนี้ มีความฝันไม่ต่างจากผู้หญิงหลายคน นั่นคือเป็น ‘นางงาม’ เธอจึงเดินหน้ากับเวทีมิสแกรนด์

“เราอยากเป็นนางงามตั้งแต่เด็ก เพราะว่านางงามเขาสวย นิยามความสวยของเราตอนนั้นคือตาต้องโต จมูกโด่ง ปากน้อยๆ หน้าเรียว หน้าผากสวย ซึ่งที่พูดมามันสวนทางกับเราทุกอย่างเลย (หัวเราะ) ไม่มีทางที่เราจะเป็นได้ พอโตขึ้น เริ่มอยู่กับความจริงมากขึ้น เรารู้สึกว่ามันเป็นความฝันที่ไปไม่ถึง ก็เลยทิ้งไป แต่มาถึงจุดหนึ่งที่มิสแกรนด์ประกาศรับสมัคร และด้วยความอยากรู้ว่าถ้าเราส่งรูปบิกินี่ที่เห็นรอยสักเยอะขนาดนี้ไป เราจะติดไหม สรุปว่าติดรอบ 20 คน จังหวัดมุกดาหาร จากที่จะส่งเล่นๆ ก็เห็นว่าความฝันมันเริ่มใกล้เข้ามาอีกครั้ง เราก็เลยอยากลองดู อยากไปให้ถึงมง”

สิ่งที่คาดหวังนอกจากมงฯ

“ปกติเวลามองคนๆ หนึ่งก็จะมองได้ 3 รูปแบบ คือ ไม่ชอบ ชอบ และเฉยๆ ซึ่งคนที่มีรอยสักจะมีความเฉยๆ อยู่น้อยมาก มีแต่ชอบกับไม่ชอบ เราอยากให้คนอื่นมองคนที่มีรอยสักแล้วเกิดความเฉยๆ บ้าง มองให้เป็นเรื่องปกติธรรมดา เราเลยเปิดประตูอันนี้ และเอาเท้าไปเหยียบหนามให้ก่อนเลย”

ความกังวลกับการโชว์ตัวครั้งแรก

“ต่อให้เราเป็นคนที่เข้มแข็งแค่ไหน แต่สุดท้ายก็แอบแคร์สายตาคนอื่นอยู่ดี วันนั้นเราแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มที่สุด โชว์รอยสักเยอะมาก ทั้งที่กังวลว่านางงามคนอื่นเขาจะมองเรายังไง บอสจะชอบไหม แต่ทุกคนน่ารักมาก เข้ามาชมว่ารอยสักสวย ทำให้รู้ว่ามิสแกรนด์เป็นเวทีที่เปิดกว้างมากจริงๆ”

สิ่งที่ต้องปรับเมื่อก้าวจากฟรีแลนซ์สู่นางงาม

“การเดิน ท่าทาง และฝึกพูด เพราะยังพูดแบบนางงามไม่ได้ เราอยากพัฒนาจนเป็นมิสแกรนด์ที่ได้ขึ้น TED Talks”

คอมเมนต์ด้านลบเลี่ยงไม่ได้ แต่ปล่อยผ่านได้

“ถึงจะมีคนชมเยอะ แต่กระแสด้านลบก็ยังมี คนที่ไม่ชอบเขาก็จะหาเรื่องติจนได้ แต่ถ้าเป็นการติเพื่อก่อ เช่น ยังเดินไม่สวย แบบนี้โอเค เราจะพัฒนา แต่บางคนติเพราะอยากด่าเฉยๆ อย่างไล่เราไปนอน เพราะตาตี่เหมือนคนง่วงตลอดเวลา มันเป็นเรื่องที่เราแก้ไม่ได้จริงๆ ไม่สามารถเอาไปพัฒนาอะไรได้ ก็จะปล่อยผ่านไป”

“สิ่งที่ได้เรียนรู้ในช่วงที่ผ่านมาคือ เราเปลี่ยนคนที่ไม่ชอบให้หันมาชอบเราได้ และเราก็ไม่ควรผูกมัดหรือยึดติดกับคนที่ไม่ชอบเรา อีกอย่างคือคำพูดด้านลบที่ส่งผลกับเรามากที่สุดจะเกิดจากคนใกล้ตัวเราเอง ไม่ใช่คนนอก”

อดีตที่ทำให้หันกลับมารักตัวเอง

ตลอดการพูดคุยครึ่งชั่วโมง นอกจากเรื่องราวบนเวทีมิสแกรนด์แล้ว เบื้องหลังที่กว่าจะมาเป็นไอวาในวันนี้ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะคนที่ใครๆ มองว่ามีเสน่ห์ และมีความมั่นใจแบบนี้ ก็เคยผ่านช่วงที่ไม่รักตัวเองมาก่อน

“เราเคยเป็นซึมเศร้าในระดับที่ไม่รุนแรง แต่ไม่รู้ตัวและปล่อยไว้นานเกินไป มันก็เลยแย่จนพยายามกินยาฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่รอดมาได้ เพราะยาบางอย่างกินแล้วไม่ตาย คิดว่าน่าจะเป็นตั้งแต่มัธยมที่โดนเพื่อนสนิททิ้งและด่าเรา เพราะนิสัยเราห้าว สนิทกับเพื่อนผู้ชายเยอะ ผู้หญิงก็จะบอกว่าเราแรด ทำให้เรากลายเป็นคนเก็บตัว และเป็นอย่างนั้นจนถึงช่วงมหา’ลัย”

“ตอนนั้นทำให้รู้สึกว่าร่างกายของเราไม่ใช่ของเรา เราไม่มีสิทธิ์ในร่างกายตัวเอง มองตัวเองไม่ดี อ่อนแอ ไร้ค่า จนแม่ต้องพาไปปฏิบัติธรรม ซึ่งนั่นทำให้เราอยู่กับความเจ็บปวดได้มากขึ้น เริ่มกลับมารักตัวเอง ชมตัวเองเป็น แบบ เฮ้ย มึงเรียนจบคอร์สนี้แล้วนะ เก่งว่ะ ไปถ่ายงานนี้มา มึงสวยมาก มึงทำได้ จนตอนนี้กลายเป็นคนหลงตัวเองคนหนึ่งแล้ว (หัวเราะ)”

รอยสัญลักษณ์ของความรักตัวเอง

“รอยสักสำคัญมาก พอสักลายแรกแล้วความมั่นใจมันมาเลย แต่ก็มีจุดหนึ่งที่เคยคิดว่าไม่ควรสักเหมือนกัน เพราะรอยสักทำให้ชวดงานไปเยอะมาก แต่สุดท้ายคิดได้ว่าเราไม่มีทางรู้หรือเปล่าว่าถ้าไม่มีรอยสัก เราจะมาถึงจุดนี้ได้ไหม ถ้าไม่ตัดสินใจสักลายแรก ตอนนี้จะเป็นแบบไหน อาจเป็นคนที่ยังมองตัวเองไม่ดีอยู่ ไม่มีความมั่นใจ หรือไม่ภูมิใจในตัวเองเลยก็ได้”

“ถ้าถามว่าชอบอันไหนที่สุด ก็คงเป็นลายล่าสุด “ขอให้โลกนี้ใจดีกับคุณ” มันเป็นรอยสักเพื่อคนที่เขามองเรา อยากให้เขาได้อ่านอะไรสักอย่างที่รู้สึกว่าเป็นสิ่งดีๆ ที่ได้รับในวันนี้”

เทรนด์ที่สังคมเริ่มชอบคนหน้าตายูนีค ช่วยให้มีงานมากขึ้นและเป็นกระแส

“เทรนด์ถือว่ามีส่วนมากๆ นี่ยังคิดอยู่เลยว่าทำไมเทรนด์นี้มันไม่มาตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว มาตอนนี้มันช้าไปหน่อย เพราะตอนนี้เราอายุใกล้จะ 30 อีกนิดเดียวหน้าจะใช้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเทรนด์มันมาเร็วกว่านี้ เราก็จะไม่โดนด่าว่าไอ้เป็ด (ขี้เหร่) ตั้งแต่เด็กจนโต และไม่ต้องกระเสือกกระสนหนักมากเพื่อให้ได้สักงาน เพราะหน้าไทป์เรามันไม่ได้สวยตามค่านิยม”

“เมื่อก่อนต้องไปเป็นตัวประกอบให้กับนางแบบคนอื่นที่สวยกว่า เพื่อให้ตากล้องถ่ายติดเรา ให้เราได้มีรูปบ้าง เป็นตั้งแต่ตัวประกอบที่ไม่ได้ตังค์ จนขยับมารับงานถ่ายฟรี เริ่มมามีค่ารถ มีบัดเจ็ต ซึ่งเทรนด์หน้าตาแบบนี้เพิ่งมาบูมจริงจังเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งนั่นแหละที่ทำให้เรามีโอกาสผันตัวมาเป็นนักแสดง เป็นนางแบบได้”

ทิ้งท้ายถึงผู้อ่าน

“การที่เรารู้สึกแปลกแยกจากคนอื่น ไม่มีคุณค่า อาจเป็นเพราะอยู่ในที่ที่ยังไม่เหมาะกับตัวเอง เอาความสุขไปผูกกับการกระทำหรือคำพูดของคนอื่นมากเกินไป มันเป็นเรื่องของการสร้างพื้นที่ให้ตัวเอง ค่อยๆ หาให้เจอว่าคุณมีความสุขกับสิ่งไหน แล้วทำสิ่งนั้น ซึ่งไอไม่สามารถบอกได้ว่าคุณต้องทำแบบไหน คุณต้องรู้ด้วยตัวเอง”

เวทีมิสแกรนด์ จ.มุกดาหาร การประกวดครั้งสำคัญของไอวา จะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ติดตามและให้กำลังใจผู้เข้าประกวดที่มาพร้อมความงามแบบใหม่นี้ได้ทางโซเชียลมีเดียของเธอ

Instagram: iva.carob

TikTok: iva.carob

YouTube: Iva Carob