ทำความรู้จักตัวตน และค้นหาปีศาจภายในจิตใจของ “mute.”

“พยายามหนีแทบตาย สุดท้ายคือฉันเอง ปีศาจในกระจก สะท้อนภาพฉันเอง โปรดประทานอภัยให้กับตัวฉันเองได้ไหม”

ตัวอย่างเนื้อเพลง “แค่ปีศาจ (run)” ผลงานเพลงล่าสุดของ มิ้ว - รวินิษฐ์ เจตน์อริยวิภา หรือ mute. ศิลปินหญิงคนแรกภายใต้สังกัด WHOOP Music ที่พาทุกคนสำรวจปีศาจที่อยู่ภายในใจของตัวเองกับเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ วันนี้ EQ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักตัวตน และร่วมค้นหาปีศาจภายในตัวของ mute. กัน

จุดเริ่มต้นเส้นทางดนตรีของ mute.

mute. เริ่มจากการเล่นดนตรีตั้งแต่เด็ก ในช่วงแรกมิ้วไม่ได้คิดว่าจะเรียนคณะเกี่ยวกับดนตรีเพื่อมาเป็นศิลปิน แค่รับรู้ว่าตนเองชอบร้องเพลงและอยากเข้าใจทฤษฎีทางดนตรี จนเมื่อเข้าเรียนวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้ตัวตนในพาร์ทดนตรีชัดมากยิ่งขึ้น

“เมื่อก่อนการเป็นศิลปินเป็นแค่ความฝันและสิ่งอยู่ลึกๆ ในใจ ไม่กล้าบอกใครและไม่มีความมั่นใจในการเป็นศิลปิน แต่ตอนพอได้เข้ามาเรียนเราได้ทดลองทำหลายอย่าง ได้ลองงานเพลง งานเบื้องหลัง มันก็จุดประกายให้เราอยากกล้าที่จะฝันถึงการเป็นศิลปินแบบจริงจัง”

ความกดดันที่เกิดขึ้น

สังคมของมิ้วทั้งการเรียนและการเป็นศิลปินไม่ต่างกันมาก เนื่องจากเพื่อนๆ และมิ้วนั้นเรียนดนตรี แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความกดดันเป็นสิ่งที่ก่อตัวในจิตใจเมื่อเห็นเพื่อนๆ และคนรอบตัวเริ่มประสบความสำเร็จในเส้นทางดนตรี เราจึงถามมิ้วว่า กดดันบ้างไหม?

“กดดันมากเลยค่ะ ในช่วงปี 2 มีเพื่อนๆ เริ่มปล่อยเพลง เริ่มทำงานในวงการเพลง มันกดดันและรู้สึกไม่มั่นใจ รู้สึกว่ามีแต่คนเก่งอยู่รอบตัว ถามตัวเองซ้ำๆ ว่าเราอยากทำอะไรกันแน่? ถ้าเราเป็นศิลปิน ปล่อยเพลงออกไปคนจะชื่นชอบเพลงเราเหมือนที่ชื่นชอบเพลงของเพื่อนเราไหม”

“จนได้รู้ว่าที่กดดันเพราะเรายังไม่ชัดเจนในเส้นทาง มิ้วก้าวผ่านจุดนั้นมาได้ด้วยลองการปล่องเพลงค่ะ พอเราปล่อยแล้วก็รู้สึกว่าเส้นทางของเรามันชัด ความเป็นศิลปินในใจของเรามันชัดมากขึ้น”

การทำงานภายใต้สังกัด WHOOP Music และ THE TOYS

mute. เป็นหนึ่งในศิลปินภายใต้สังกัด WHOOP Music ในการดูแล THE TOYS พาร์ทการการทำงานฝั่งดนตรีมิ้วเล่าให้ฟังบอกว่า เดอะทอยส์เน้นให้ครีเอทความเป็นตัวเอง และเรียนรู้จุดแข็งหรือจุดเด่นของตัวเอง

“การทำงานภายใต้สังกัด mute. ค่ายอยากให้เราเป็นตัวเอง และเรียนรู้การทำงานต่างๆ ด้วยตัวเอง พี่ทอยส์เหมือนเป็นครู ให้คำปรึกษา พูดคุย และชี้ทางให้ พี่ทอยส์อยู่วงการมานาน เขาจะมีความแม่นในการวางทิศทาง ว่าควรเป็นแบบไหน พี่ทอยส์รับฟังทุกอย่าง เอาเหตุผลของพี่ทอยส์และเหตุผลของมิ้วมาคุยกัน ถ้าเหตุผลของใครมีน้ำหนักมากกว่าในการทำเพลง เราก็จะไปยึดหลักคนนั้น”

Demon in your heart

‘แค่ปีศาจ’ ซิงเกิลล่าสุดของ mute. จุดเริ่มต้นมาจากเดอะทอยส์โยนคำว่า Demon มาให้เป็นโจทย์ในการแต่งเพลง มิ้วจึงคิดถึงคำว่า Demon in your heart ทุกคนล้วนมีปีศาจร้ายในใจที่ไม่อยากเปิดเผยให้ใครเห็น เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหนีจากมันได้

“มิ้วว่าเพลง แค่ปีศาจ เป็นการโตของมิ้วอีกระดับหนึ่งเหมือนกัน เพราะเป็นการพูดถึงข้างในจิตใจของตนเอง มิ้วคิดว่าทุกคนบางวันก็มี Bad days มีความรู้สึกโกรธโลกใบนี้ แต่ไม่สามารถหนีออกจากความรู้สึกนี้ได้ เพราะแท้จริงแล้วปีศาจ คือความรู้สึกข้างในใจของเรา”

“แค่ปีศาจ” เพลงแห่งการ Coming of Age

“การทำงานกับพี่ทอยส์ เรื่องราวและเนื้อหาที่เลือกมาถ่ายทอดในเพลง มันเป็นอีกขั้นของ mute. เลย เพลงแค่ปีศาจมันคือช่วงเวลาของการ Coming of Age ในตัวตน mute. ก่อนหน้านี้ช่วงที่เป็นศิลปินอิสระ เราเป็นคนลังเล ขี้เกรงใจ ไม่กล้าพูด เราไม่กล้าทำ ยังมีความไม่เข้าใจกับอะไรหลายๆ อย่าง หลังจากผ่านการทำงานครั้งนี้ ที่มีพี่ทอยส์เป็นที่ปรึกษาเรารู้สึกว่าโตขึ้น เสียงในใจมันแข็งแรงขึ้น รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร กล้าพูดในสิ่งที่ต้องการ”

https://www.youtube.com/watch?v=x1XA2JjOj_s

ถ้ามีปีศาจมาเสนอซื้อวิญญาณแล้วบอกว่าถ้าขายดังเลยนะ สนใจไหม?

“mute. เลือกไม่ขายค่ะ คำถามนี้มิ้วคิดว่านักดนตรีทุกคนน่าจะถามตนเองตลอด คิดว่าทุกคนยังไงก็อยากมีชื่อเสียง แต่ก็ไม่อยากทิ้งความเป็นตัวเอง ก็เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน ทุกคนก็จะพูดว่า ถ้าเราดังแล้ว เราจะเป็นตัวตนของเรายังไงก็ได้ เชื่อในคำนี้นะ พอเราดังแล้วไม่ว่าเราจะเป็นตัวตนแบบไหน ทุกอย่างมันจะส่องแสงมา ถ้าเริ่มขายวิญญาณไปตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ตัวตนของเราจะเหลืออยู่จริงๆ ไหม อันนี้เป็นสิ่งที่น่าคิดมากกว่า”

ตัวตนคือ สิ่งที่สำคัญ

ปีศาจก็ไม่สามารถซื้อวิญญาณของ mute. ไปได้ เพราะอะไรกันที่ทำให้เธอมองเห็นคุณค่าและหวงแหนตัวตนขนาดนี้

“เมื่อก่อน mute. เคยได้ยินคนพูดว่า เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้ว ตอนเด็กไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่พอโตมามันสำคัญมาก การเป็นตัวของตัวเองมันมีคุณค่ามาก เราเกิดและเติบโตมา ในสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ได้เจอประสบการณ์มาแบบนี้ ทำให้กลายเป็นคนแบบนี้ mute. อยากเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ต่อไป”

“คำว่าเป็นตัวของตัวเองมันจะลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ตามที่เราโตขึ้น ประสบการณ์ทำให้ตัวตนของเรามีค่ามากขึ้น”

ตั้งแต่เราใช้ชีวิตมา สิ่งไหนที่รู้สึกว่า exotic ที่สุด

“สถานการณ์สังคมปัจจุบันค่ะ mute. ให้ความสำคัญกับความเป็นตัวเองและความฝัน มันเลยรู้สึกเศร้า เพราะเราไม่ได้ทำตามความฝันอย่างเต็มที่ เกิดมาควรได้ทำอยากสิ่งที่อยากทำ แต่สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันทำให้เรารู้สึกว่าทำทุกอย่างไม่ได้เต็มที่ ต้องทำในสิ่งที่เราต้องทำมากกว่าสิ่งที่อยากทำ ทุกอย่างมันหยุดพักโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ทำมัน แต่มันทำอะไรไม่ได้ อย่าง mute. เป็นศิลปินที่เริ่มต้นในช่วงโควิด มันก็เลยทำให้ชีวิตการเป็นศิลปินของมิ้วมันถูกหยุดชั่วคราว ทำได้แค่ปล่อยเพลง”

“เราจะมีคุณค่ามากขึ้นในเวลาที่เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำและฝันไว้ พอมาอยู่ ณ จุดนี้ ทำให้รู้สึกว่าคุณค่าของคนมันถูกหยุดไว้ บางคนไม่มีแม้แต่สิทธิได้ทำตามความฝันของตัวเอง”