Culture

Let’s Talk About Nostalgia: ว่าด้วยเรื่องวันวานของเหล่า Gen Y และ Gen Z พวกเขามีอะไรที่คิดถึงกันบ้าง

‘Nostalgia’ คือความรู้สึกคิดถึงอดีต เมื่อนึกถึงอดีตแล้วอบอุ่นหัวใจ รู้สึกมีความสุข และอาจจะมีความคิดถึงอยากกลับไปในช่วงเวลานั้น บทความนี้เราได้ชวนวัยรุ่น Gen Z ได้แก่ ‘พัด’ (ppattw) ‘เหมือง’ (178.5x87) ‘ดอลลาร์’ (itsmangkon) ‘หวีด (smvveed)’ ‘ฟลุ๊ค‘ (fulukk) ‘แก้ม’ (___khamyawee___) พร้อมทั้งพี่ๆ Gen Y อย่าง ‘ต๊ะ’ (tanachote101) และ ‘ต้า’ (tar311photo) มารีแอ็กมิวสิกวิดิโอเพลงไทย รายการเกมโชว์เก่าๆ พร้อมทั้งเล่นเกมฮิตสมัยก่อน และสัมภาษณ์พวกเขาสั้นๆ ว่าจากที่ได้รีแอ็กกันมา มีอะไรบ้างที่พวกเขาชอบในวัยเด็ก, ของเล่น ไอเทมอะไรที่คิดถึงแล้วอยากให้มันกลับมา, ทำไมยุค 90s - 2000s ถึงเป็นยุคทองของวงการวาไรตี้ และเพลงไทย ก่อนจะให้พวกเขาส่งท้ายด้วยควาามในใจที่อยากกลับไปย้อนบอกตัวเองในวัยเด็ก

สิ่งที่ชอบในวัยเด็ก

พัด: เราชอบความสนุกในวัยเด็กมันมีความสนุกมากกว่า ในวัยเด็กเรารู้สึกมีอิสระ ได้ดูการ์ตูน ได้เล่นเกม มันมีอะไรที่ทำให้รู้สึกสนุกต่างจากวัยผู้ใหญ่ที่โตมามีแต่เรื่องให้เครียด ชอบเพลง ชอบการได้ใช้เวลาดูการ์ตูน ชอบที่ตอนเด็กไม่ต้องใช้เวลาไปกับเรื่องที่ทำให้เราเครียด หรือต้องทำอะไรหลายๆ อย่างเหมือนทุกวันนี้ ตอนเด็กๆ มันรู้สึกว่ามีเวลา ตอนเด็กเราชอบดูช่อง Cartoon Network มาก เพราะมีแต่การ์ตูนสนุกๆ ดีๆ ที่ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงอยู่

เหมือง: คิดว่าน่าจะเป็นเพลงในยุคนั้น เพราะเอาจริงๆ ทุกวันนี้เราก็ยังฟังเพลงจากปลายๆ ยุค 90s - 2000s อยู่เลย โดยเฉพาะเพลง Alternative ในยุคนั้นที่บอกได้เลยว่าเป็นการปล่อยของของวงการเพลงไทยสุดๆ อีกอย่างคือน่าจะชอบความ Slow บางอย่างในสังคมยุคนั้นที่อินเทอร์เน็ต กับเทคโนโลยียังไม่แพร่หลาย เพราะทุกวันนี้เอาจริงๆ เราก็แอบรู้สึกเหนื่อยกับการต้องมานั่ง Up-to-date อะไรหลายๆ อย่างแม้แต่เรื่องที่เราไม่ได้สนใจเพื่อเข้าสังคม การที่เราสามารถเข้าถึงสื่อได้ตลอดเวลา หรือแม้แต่เป็นสื่อได้ด้วยตัวเองได้ด้วยในยุคนี้ บางทีมันก็อาจจะเป็น Too much information ได้เหมือนกันนะ

ต๊ะ: ผมชอบที่ไม่ต้องคิดมาก ตอนเด็กชอบเล่นเกม กีฬา ชอบไปดูหนังทุกวันเสาร์ วันอาทิตย์ ไม่มีอะไรทำก็ไปดูหนังจนแทบไม่มีหนังให้ดูในโรงภาพยนตร์สมัยก่อน มันมีอะไรให้ทำเยอะ เกมยุคนั้นที่ดีๆ น่าคิดถึงก็มีพวกแนวเกมปลูกผัก เกม RPG ในวัยเด็กชอบเล่นเกมพวก Harvest Moon หรือ Kingdom Heart มาก

ต้า: ตอนเด็กชอบการที่ได้เล่นหลายๆ อย่าง มีเวลาได้เล่นเยอะ ผมชอบเล่นทุกอย่างทั้งกีฬา เกม ฟุตบอล แล้วก็ชอบไปดูหนังยิ่งช่วงนั้นหนังแนวคนเหล็กมัดเทวดาดัง หนังกำลังภายในจีนสนุก หนังตระกูลอะไรพวกนี้ผมชอบดูหมดเลยตอนวัยเด็ก

ดอลลาร์: ชอบที่ไม่ต้องคิดอะไรตลอดเวลา มันไม่ได้มีอะไรต้องคิดถึงเยอะในวัยเด็ก เราค่อยๆ ใช้ชีวิตไป มีอะไรให้เล่นให้สนุกเยอะ มีของเล่นหลายประเภทให้เล่นอย่างตอนเด็กๆ ก็ชอบเล่นเกมการ์ดยูกิกับพวกพี่ๆ เพราะมันสนุก

หวีด: ชอบอะไรที่มันช้า เรารู้สึกว่าพอช่วงวัยเด็กทุกอย่างมันค่อนข้างช้า ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบมันทำให้เราได้มีเวลาโฟกัสกับหลายๆ เรื่องไปตามสเต็ปของมัน

ฟลุ๊ค: ตอนเด็กๆ สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือ การได้ดูการ์ตูน ตอนเด็กๆ ผมตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อมาดูการ์ตูน

แก้ม: ทุกอย่างเลยค่ะ เพราะเหมือนเราหยิบจับอะไรก็สนุกไปหมด ถ้าชอบมากที่สุดก็น่าจะเป็นการหยิบใบไม้ดอกไม้มาทำกับข้าว เล่นขายของ โรลเพลย์ใดๆ แค่นั้นก็สนุกแล้ว พอย้อนกลับไปคือจินตนาการเริ่ดมาก แล้วเราก็ไม่ได้มีทางเลือกของเล่นอะไรมากมาย ความสร้างสรรค์และจินตนาการคือสูงมาก อีกอย่างที่อยากพูดถึงคือ รอดูการ์ตูนตามตารางเวลา ตอนโตมานี้ก็ยังรออยู่บ้าง ปกติเราจะดูช่อง Boomerang เราถูกฝึกให้ตื่นแต่เช้ามาตั้งแต่เด็กแล้ว มารอช่วยพ่อทำกับข้าวแต่บางทีก็แอบอู้มาดูการ์ตูน แต่ที่เศร้ามากคือบางช่องเขาไม่ยอมฉายตอนใหม่ๆ ซีซั่นใหม่ๆ เลย น่าจะซื้อลิขสิทธิ์มาไม่ครบ ดูจนจำไดอะล็อกได้ (หัวเราะ)

อยากให้อะไรในวัยเด็กกลับมา

พัด: Nostalgia ที่อยากให้กลับมาคือการ์ตูนเด็กๆ อย่างพวกการ์ตูนใน Cartoon Network เพราะว่าทุกวันนี้ผู้ใหญ่เขาก็ดูการ์ตูนกันนะ การ์ตูนมันไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก

เหมือง: นิตยสาร (Magazine) เพราะตอนเด็กๆ พอไม่มีมือถือ ไม่มีอินเทอร์เน็ต เราจะอ่านหนังสือเยอะมากๆ แต่บางทีเราก็ขี้เกียจพกหนังสือออกจากบ้าน เวลาไปธุระกับแม่ตามสถานที่ที่ต้องรอ เช่นร้านทำผม ธนาคาร ห้าง เขาก็จะมีนิตยสารที่วางๆ ไว้ให้อ่านนี่แหละ ซึ่งมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราชอบอ่านอะไรไปเรื่อยๆ เพราะเนื้อหาในนิตยสารมันก็จะมีความแบบปกิณกะพอสมควร I Like, Berry, เธอกับฉัน, Candy, สีสัน, เอนเตอร์เทน, คู่สร้างคู่สม ฯลฯ โห เยอะมากอะ ซึ่งเรามองว่ามันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่โซเชียลมีเดียในปัจจุบันมันให้ไม่ได้นะ

ทุกวันนี้เราอาจจะเลือกไถฟีดอ่านแต่สิ่งที่เราสนใจ แต่บางทีการได้เสพสิ่งที่เราเลือกไม่ได้ มันก็อาจจะพาให้เราเจอสิ่งน่าสนใจใหม่ๆ ได้ดีเหมือนกันนะ อันนี้แถมนิดนึง คือนิตยสาร และหนังสือโป๊ก็ด้วย มันคือความตื่นเต้นอย่างหนึ่ง ที่ Internet Porn ไม่สามารถให้ได้ เราไถทวิตฯ เปิดเว็บดูในโทรศัพท์ได้ตลอดเวลา ถ้ามีคนมาก็แค่เปลี่ยนแท็บ ล็อกจอหนี แต่กับหนังสือโป๊มันไม่ใช่ มันจับต้องได้ มันมาเป็นเล่ม มันตื่นเต้นกว่าตั้งแต่วิธีที่จะได้มันมา ซื้อก็ต้องซื้อแบบแอบๆ เวลาอ่านก็ต้องซ่อนจากพ่อแม่ หรือคนรู้จัก มันมีความ Erotic & Excitement ที่มาจากความ Taboo ของตัวมันเอง

ต้า: สิ่งที่อยากให้ย้อนกลับมาจากวัยเด็กคือความไม่เครียด ผมอยากให้พวกดนตรีแนว Alternative Rock ในยุคนั้นกลับมาอีกครั้งนะเพราะรู้สึกว่าเพลงมันหลากหลาย มันเท่ มันสนุก มีอะไรแปลกใหม่ให้ฟังเยอะ ส่วนเรื่องเทรนด์อย่างเสื้อผ้ารู้สึกว่าทุกวันนี้มันก็กำลังย้อนกลับมาอยู่แล้ว คิดว่าอะไรที่คนคิดถึงยุคก่อนที่เป็นเทรนด์มันค่อยๆ กลับมาแล้วในทุกวันนี้

ต๊ะ: ผมอยากให้ของเล่นสมัยก่อนกลับมาฮิตอีกครั้ง ผมรู้สึกของเล่นสมัยก่อนมันมีความตั้งใจทำมากกว่าสมัยนี้อย่างพวกหุ่น Power Ranger สมัยก่อนก็อยากให้กลับมา ผมรู้สึกว่าของเล่นในทุกวันนี้มันไม่ค่อยทำให้ตื่นเต้นได้เหมือนเวลาเราเห็นของ

เล่นสมัยก่อนที่มันมีหลายแบบ มันน่าซื้อ มันน่าเล่นจริงๆ ยุคนี้ของเล่นมันดูไม่ค่อยพิถีพิถันเท่ายุคก่อนแล้วผมเลยอยากให้ของเล่นยุคก่อนที่คนตั้งใจทำมันกลับมา

ดอลลาร์: อยากให้ไก่ทอดร้านชื่อดังกลับมา เมนู รสชาติ สีเริ่ดๆ กลับมา พวกของเล่นก็อยากให้พวกตระกูลการ์ดเกมมันได้กลับมาฮิตอีกครั้ง

หวีด: อยากให้การโดดยางกลับมามันทำให้ได้คุยกับเพื่อน มันได้สนุกกับร่างกาย ไอเทมเก่าในวัยเด็กที่อยากให้กลับมาฮิตอีกครั้งคือ อยากได้โทรศัพท์บีบี (Blackberry) กลับมาเพราะชอบความรู้สึกที่ได้ พิมพ์ข้อความเยอะๆ สนุกดีแล้วก็จำได้ว่าตอนนั้นที่พิมเยอะๆ ภาษาที่เราใช้ก็สวยมากด้วย

ฟลุ๊ค: อยากให้เทรนด์หลายๆ อย่างในยุคนั้นกลับมาฮิตอีก ทั้งแบบขนมรสแปลกๆ การไปซื้อแผ่นซีดีมาฟังกับเพื่อน ถ้ากลับมาฮิตอีกครั้งคงจะสนุกน่าดู

แก้ม: เชื่อว่าตอนนี้เทรนด์ Y2K มันกำลังพาหลายๆ อย่างจากยุค 90s - 2000s กลับมา และมีแนวโน้มว่าจะมีอีกหลายอย่างที่จะกลับมา แต่มีหนึ่งอย่างที่เรารู้สึกว่ามันไม่มีอะไรแทนได้คือ เกมกระดาษ เช่น พับกระดาษทายใจ พับจรวด พับรถ แอดวานซ์หน่อยก็ พับนกกระเรียน พับดาว ไปให้คนที่ชอบ คือมันน่ารักมากเลย ไม่มั่นใจว่าเดี๋ยวนี้เค้ายังจีบกันอย่างนี้หรือเปล่า

อยากบอกอะไรกับตัวเองในวัยเด็ก

พัด: ถ้าได้กลับไปได้คุยกับตัวเองในวัยเด็กอยากจะบอกว่าให้เอนจอยวัยเด็กให้เยอะๆ เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่มีไว้ให้ดีเพราะมันไม่ได้จะย้อนกลับมาอีก

เหมือง: อยากบอกว่า อยากทำอะไรก็ทำเลย เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ เพราะสมัยเด็ก สังคมอาจจะยังไม่ได้เปิดกว้างเท่ากับในปัจจุบัน แต่ไม่ว่ายุคไหนๆ การเป็นตัวของตัวเองก็ไม่เคยเป็นเรื่องผิด อีกอย่างคือคงจะอยากขอบคุณ และให้กำลังใจตัวเองในวัยเด็กที่แข็งแกร่ง ไม่ยอมแพ้ และโตขึ้นมาเป็นตัวเราในวันนี้ เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ชอบมากที่สุด

ต้า: สนุกให้สุดเหวี่ยง

ต๊ะ: ถ้าได้กลับไปบอกอะไรตัวเองในวัยเด็กอยากจะบอกเราว่าเลือกเส้นทางเดินในชีวิตถูกแล้ว

ดอลลาร์: อยากบอกให้ตัวเองสาวกว่านี้เพราะหนูติดแอ๊บ ติดแอ๊บเก้ง สมัยมัธยมไม่ค่อยกล้าเปิดแต่พอเปิดแล้วมันก็สนุกมาก ชีวิตแฮปปี้เลยอยากจะกลับไปบอกให้ตัวเองเป็นตัวเอง

หวีด: ถ้าได้กลับไปบอกตัวเองในวัยเด็กอยากจะบอกว่า จริงๆ ก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรจะบอก ไม่ได้มีอะไรที่เสียดายแต่ถ้าต้องบอกตัวเองในวัยเด็กจริงๆ อยากจะบอกว่าไม่ต้องเครียดเกินในวัยเด็ก ร้องไห้ทำไมไม่รู้เพื่อนไปกินข้าวก่อน ถ้าเราคิดดีแล้วทำต่อไปเรื่อยๆ อยากจะบอกว่าให้ไปต่อ เร่งเครื่องต่อไป

ฟลุ๊ค: ถ้าได้ย้อนกลับไปก็อยากจะบอกตัวเองในวัยเด็กว่าให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตวัยเด็กให้มากๆ นะ แล้วจะคิดถึงช่วงเวลานี้มากๆ เลย

แก้ม: คืออยากจะให้คำนึงถึงลิขสิทธิ์มาก ตอนเด็กๆ เราไม่รู้จัก แผ่นผี หนังเถื่อน หรือพวกโหลดเพลงผิดลิขสิทธิ์เราเลยเตือนตัวเองในวัยเด็กเรื่องนี้ เพราะในวัยนั้นเราแค่โหยหาความบันเทิงเข้าชีวิตเท่านั้นเองโดยที่ไม่ได้มีความรู้ หรือคำนึงถึงตรงนี้มาก

คิดว่าอะไรที่ทำให้ยุค 90s ถึง 2000s เป็นยุคทองของเพลง และรายการโทรทัศน์ในไทย

พัด: ปกติไม่เคยได้ดูรายการทีวีไทยเท่าไหร่เพราะตอนเด็กดูการ์ตูนมากกว่าแต่รู้สึกว่ายุคนั้นรายการทีวีมันมีความหลากหลาย รูปแบบรายการมันสนุกดี เพลง MV มันก็จะเน้นความน่ารักๆ เพลงมันฟังติดหูง่าย

เหมือง: อาจเป็นเพราะความบันเทิงในยุคนั้นที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย ซึ่งความบันเทิงในยุคนั้นมันก็มีจำกัดอยู่แค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น แต่สิ่งที่เราเห็นจากในยุคนั้นคือ ความคิดสร้างสรรค์ที่อยู่ในรายการโทรทัศน์ เพลง และสื่อต่างๆ ที่มันไม่สามารถหาได้แล้วในยุคนี้ที่ทุกอย่างเน้นมาไวไปไว ไม่ได้ชวนให้เท่าสิ่งที่มาจากยุคนั้น หรือถึงน่าจดจำก็อาจจะเป็นในระยะเวลาสั้นๆ แต่ความบันเทิงในยุคก่อนๆ มันเป็นมากกว่านั้น มันคือ Pop Culture มันคือความไอคอนิกที่เป็น Archetype (แม่แบบ) ให้กับหลายๆ สิ่งในปัจจุบัน

ต๊ะ: มันแหวกแนว มันสนุก เวลาไปไหนมาไหนก็ได้ยินบ่อย

ต้า: ชอบความเท่ ความวัยรุ่น กล้าสนุกสุดเหวี่ยง เท่าที่ดูรีแอ็กมาก็ทันหมดเลยเพราะมันเป็นสิ่งที่เราโตกับมันมาตั้งแต่ตอนเด็กถึงวัยรุ่น

ดอลลาร์: MV มันน่ารัก บางอันมันก็จะมีความการ์ตูนๆ หน่อยฟีลเหมือนได้อิทธิพลจากญี่ปุ่น เกาหลีทั้งสไตล์ทรงผม แฟชั่นก็จะค่อนข้างโดดเด่นที่มองแล้วรู้เลยว่ามาจากยุคนั้น คิดว่าคนคงคิดถึงช่วงเวลาที่ความบันเทิงมีความคิดสร้างสรรค์เยอะ

หวีด: รายการสมัยก่อนมันมีความกล้าเยอะ มันท้าทายและชอบเล่นกับอะไรที่มันเว่อร์ๆ มันสนุกดูเพลินจนตอนที่เรารีแอ็กยังคิดเลยว่าคิดถึงอยากให้รายการในทีวีเก่าๆ กลับมามากอย่างพวกเกมโชว์ เกมส์กึ๋ย รายการเกมโชว์ที่อะไรพวกนี้มันมีความท้าทายมากกว่าปกติ เพราะยุคก่อนชอบทำรายการที่ยาก ชาเลนจ์โหดๆ ไม่ธรรมดาจริงๆ มันเลยสนุกมากและคิดว่าเลยทำให้หลายคนชอบดูรายการพวกนั้นในยุคนั้น อีกอย่างที่เห็นก็คือแฟชั่นที่มีความเป็นตัวของตัวเองกันสูง เสื้อผ้าสีสันสดใส

ฟลุ๊ค: ผมคิดว่าน่าจะเป็นการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ง่ายขึ้นกว่ายุคก่อนหน้านี้เยอะเลย มันเป็นยุคที่อินเทอร์เน็ต เทคโนโลยีกำลังเติบโตและก็คิดว่าคนในยุคนั้นเริ่มเข้าถึงวัฒนธรรมต่างชาติกันเยอะเลยทำให้รู้สึกว่า คนในช่วงนั้นน่าจะใช้ชีวิตกันสนุกมาก

แก้ม: คิดว่าด้วยเทคโนโลยี และหลายๆ อย่างที่ได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศมันเพิ่งจะเข้ามาในไทยอย่างเช่นพวก ซีจี คอนเทนต์ หรือเสียงบางเสียงที่มันไม่เคยมีมาก่อนก็เริ่มถูกเอามาใช้เพิ่มมากขึ้นๆ

ติดตามวิดีโอรีแอ็กชั่นจากพวกเขาได้แล้วที่

YouTube: EXOTIC QUIXOTIC