จากอดีตถึงวันนี้ กับความเป็นศิลปินผู้หญิง ของโอ๋ฟูตอง

เราพบโอ๋ที่ห้างใหญ่ใจกลางเมือง ในวันที่เธออิ่มอกอิ่มใจที่สุดวันหนึ่ง เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงงานเปิดตัวผลงานออกแบบชุดว่ายน้ำแบรนด์ Roxy ของเธอที่เตรียมทยอยขายทั่วเอเชียกำลังจะเริ่มต้นขึ้น นี่คือผลงานพาณิชย์ศิลป์ที่โอ๋ซุ่มทำอยู่เป็นเวลากว่า 2 ปี และครั้งนี้แบรนด์ Roxy สำนักงานใหญ่ที่อเมริการ่วมงานกับศิลปินนักออกแบบไทยเป็นครั้งแรก

หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ หรือ โอ๋ ฟูตอง เป็นศิลปิน นักวาดภาพประกอบ เจ้าของคาแรคเตอร์หญิงสาวนัยน์ตาโต หลายคนอาจจดจำเธอจากผลงานเพลง ทั้งการเป็นมือเบสวง Futon และหนึ่งในสมาชิกวง Styrene Jungle

วันนี้ เราจะมาพูดคุยกับเธอในเรื่อง แฟชั่น ความเป็นผู้หญิง และบทบาทความเป็นศิลปินที่เปลี่ยนไปตลอดหลายสิบปีในวงการสร้างสรรค์

ใครๆ ก็จำได้ว่า “โอ๋ ฟูตอง” แต่งตัวจัด โอ๋คิดว่าแฟชั่นมีส่วนในการเริ่มสร้างตัวตนในฐานะศิลปินในตอนนี้อย่างไรบ้าง

จริงๆ งานแรกในชีวิตของเราคือการเป็นสไตลิสต์ เรารู้สึกว่า เรากับแฟชั่นมันเป็นเรื่องที่ขาดกันไม่ได้อยู่แล้ว ตั้งแต่เล็กเราชอบแต่งตัว โดยที่ไม่ได้มีใครมาสอน แล้วโชคดีที่ได้ไปเรียนที่ศิลปากร ที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนๆ ที่ทำอะไรโดยไม่ต้องมีกรอบ ไม่ต้องมีกฏเกณฑ์ และแฟชั่นเนี่ยแหละที่ทำให้เราได้เข้าสู่วงการ เพราะทำผมทรงหัวฟูแอฟโฟร แล้วมันก็ไปเตะตาป้าตือ งานแรกในวงการที่เราได้ทำคือได้ไปเดินแบบนะ

เราว่าเพราะการแต่งตัวของเรากับทรงผมซึ่งมันคือเรื่องแฟชั่น มันเป็นความชอบ มันหนีไม่พ้นหรอก จะบอกว่ายิ่งแก่ตัว ยิ่งแต่งตัวน้อยลง ก็อาจจะใช่ แต่ก็ตัดไม่ขาด เราก็ยังชอบดูแฟชั่นอยู่ค่ะ พอยิ่งมีคนชวนให้เรามาร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นแบบนี้ก็ยิ่งใจฟู ยิ่งดีใจไปกันใหญ่ ก็คือถือว่าเป็นความสำเร็จหนึ่งของชีวิตเลยที่เราได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกแบบนี้

ทำงานมานาน เจอความเปลี่ยนแปลงมาเยอะ ประสบการณ์ที่มากขึ้นสอนให้มองโลกเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

ตลอดหลายสิบปีที่ทำงานมา สิ่งที่เรียนรู้อยู่ตลอดคือเรื่องความรับผิดชอบ ฝีมือดีแค่ไหน ก็แพ้ความรับผิดชอบ ในการทำงานแบบนี้ เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ร่วมงานเพราะเราไม่ได้ทำงานคนเดียวอีกต่อไปแล้ว เรามีลูกค้า เรามีทีมงาน ตอนเด็กๆ เคยทำไม่ได้แล้วยอมแพ้ หนีไปเลย ไม่เกิดแล้วนะ เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว

โอ๋จะไม่ทำงานแบบตอนเด็กแล้ว ที่จะรับทุกงานพร้อมกันเพราะเสียดายโอกาส สุดท้ายก็ไม่เต็มที่กับสักอย่าง ตอนนี้เราจะทำงานทีละอย่าง และใช้เวลากับมัน เอาให้สุดกับมันไปเลย อย่าง Roxy เนี่ย เราไม่แคร์เลยนะที่ต้องใช้เวลาสองปีไปกับมัน คนข้างนอกไม่เห็นนะ ว่าเราและทีมงานทุกคนมีความสุขขนาดไหนที่โปรเจ็คนี้มาถึงวันนี้ได้

ร่วมงานกับแบรนด์ดังบ่อย งานโชว์เป็นนิทรรศการเดี่ยวของโอ๋จะมีโอกาสได้ดูเร็วๆ นี้ไหมนะ

จริงๆ แล้วอยากทำมากเลยนะ แต่การทำนิทรรศการเราต้องตัดงานอื่นทิ้งไปหมดเลย ครึ่งปีอย่างต่ำ เพราะมันต้องจดจ่อและไม่วอกแวกจริงๆ เริ่มแรกตอนเราทำศิลปะเราทำนิทรรศการบ่อยเลยแหละ ตอนนั้นก็มีที่เยอรมัน มาจนถึงปัจจุบันก็มีที่ชิบูย่าเมื่อปี 2019 หลังจากนั้นพอเจอโควิด ทุกอย่างก็หยุดหมด เราก็ไปย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน แล้วก็ติดอยู่ที่นั่นปีนึง ในระหว่างนั้นเราก็ทุ่มทำของ Roxy อย่างเดียวเลย แต่ก็ไม่รู้นะ อีกหน่อยอาจจะไปนิ่งๆ ที่เยอรมันทำนิทรรศการใหม่ขึ้นมาก็ได้

เนื่องจากใกล้วันสตรีสากลแล้ว อยากให้โอ๋ช่วยพูด 1 ชื่อ ศิลปินหญิงไทยที่น่าจับตามองที่สุดในเวลานี้

เราก็ไม่ได้รู้จักเยอะ เอาคนที่เรารู้จักและชื่นชอบแล้วกันนะ คือจ๋า ภีรตี แห่ง Factory01 เป็นผู้กำกับโฆษณาหญิงที่น่าจับตามองคนหนึ่งเลยแหละ ลองไปชมผลงานสิจะเห็นว่าจ๋าเป็นคนที่มีเทสทางแฟชั่นทีดีมากกก แล้วเป็นคนที่คิดอะไรที่แปลกใหม่ เล่าเรื่องเก่ง หามุมเก่ง เราว่าจ๋าเนี่ย น่าจับตามองจริงๆ ไปสัมภาษณ์เขาดูนะ 

ในฐานะผู้หญิง คุณอยากท้าทายกรอบความคิดใดหรืออยากให้ผู้หญิงลุกขึ้นมาชาเลนจ์กับอะไรมากที่สุด

เราว่ามันถึงยุคที่เราต้องยอมรับในความเป็นตัวเราแล้วแหละ เราจะต้องออกจากกรอบว่ามาตรฐานความสวยของมนุษยชาติคืออะไร มันไม่ควรมีแล้วยุคสมัยนี้ เราควรจะสวยด้วยตัวเอง ไม่ว่าเราจะอ้วน ผอม สูง เตี้ย ดำ ขาว สิ่งที่ท้าทายชีวิตมนุษย์คนหนึ่งที่สุดคือการยอมรับตัวเองและการไม่ดูถูกตัวเอง และพยายามเป็นคนอื่น และสังคมควรจะช่วยกันสนับสนุนความคิดนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้ลืมคือ ต้องสุขภาพดีด้วยนะ