เมื่อเราเดินเข้าไปร้านขายของแฟนอาร์ตสักร้านหนึ่ง และเดินตรงไปที่ชั้นวางโปสการ์ดที่มีผลงานของนักวาดหลายคนเรียงรายอยู่ ผลงานหนึ่งที่อาจจะสะดุดตาจนใครหลายต้องหยิบโปสการ์ดนั้นแล้วไปชำระเงิน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในผลงานนั้นจะต้องมีชื่อของนักวาดนามปากกาว่า “Paerytopia”
แพร - พิมพ์ชนก ทีปพงศ์ หรือที่ใครหลายคนรู้จักในนาม “Paerytopia” นักวาดภาพอิสระสุดน่ารักที่มีลายเส้นและผลงานชวนให้เราหลุดไปในดินแดนแห่งความฝันที่รวมความเป็นหญิง สร้างแรงบันดาลใจให้คนที่อยากเป็นนักวาดมากมาย วันนี้เราชวน Paerytopia มาทำความรู้จักและมุมมองเกี่ยวกับชีวิตให้มากขึ้น
จุดเริ่มต้นของเส้นทาง Paerytopia
พิมพ์ชนก ทีปพงศ์ หรือนามปากกา “Paerytopia” เรียนจบจากคณะมัณฑนศิลป์ ภาควิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ปัจจุบันเป็นนักวาดภาพอิสระ ทำผลงานเป็นโปรดักส์เพื่อขายและคอลแลปส์กับแบรนด์ต่างๆ ความสนใจการวาดรูปตั้งแต่เด็กเป็นจุดกำเนิดของผลงานในนาม Paerytopia
“แพรเริ่มวาดตั้งแต่เด็กช่วงอนุบาล ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ จำได้ว่าตอนนั้นชอบวาดทุกที่ที่มีกระดาษ ตอนนั้นแพรอยู่กับคุณยายส่วนใหญ่ เขาก็จะปฏิทินจีนเก่าๆ เราก็จะเอาข้างหลังวาดรูปเล่นเต็มไปหมดเลย ถ้าเริ่มจริงจังขึ้นมา เริ่มวาดออกแนวภาพประกอบการ์ตูนช่วงประมาณ ป.3 ตอนนั้นอ่านการ์ตูนชีวประวัติของ Florence Nightingale เราชอบมากจึงอยากวาดการ์ตูนได้แบบหนังสือการ์ตูนเล่มนั้น หลังจากนั้นเราก็หัดวาดตามการ์ตูนที่อ่านหรือดู ก็เลยวาดตามสิ่งที่เราเสพ สิ่งเหล่านี้ส่งอิทธิพลต่องานของเรา ซึ่งตอนเด็กๆ ไม่ได้คิดอะไรวาดตามเลย เป็นแฟนอาร์ตในสิ่งที่เราชอบหรือสนใจ”
“Paerytopia เป็นดินแดนของเราที่จะมีแต่งานวาดของเรา สิ่งที่เราชอบและแพชชั่นของเรา”
เทคนิคในการวาดที่ทำให้ผลงานมีเอกลักษณ์
“จริงๆ เทคนิคไม่มีอะไรมาก นอกจากการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง เรากล้าพูดว่า เราวาดมาทั้งชีวิตจริงๆ ตั้งแต่เด็กจนโตคือเราทำแบบไม่หยุดเลย เราคิดว่าเอกลักษณ์ของงานแต่ละช่วงวัยค่อนข้างต่างกันไปตามสิ่งที่เราเสพ หรืออิทธิพลจากสิ่งที่ชอบช่วงนั้นมันก็จะส่งผลต่องานของเรา เช่น ตอนปี 1 แพรจะชอบวาดสีน้ำเป็นพิเศษ จะชอบวาดภาพ portrait ผู้หญิง ดอกไม้ และชอบวาดธรรมชาติด้วย มันเป็นแพชชั่นของเรา คนก็จะจดจำงานเราในแบบนั้น แต่พอเราโตขึ้นมาในช่วงปี 3 ช่วงที่เราชอบเสพหนัง Hollywood เยอะมาก เรามีแพชชั่นกับการที่เราดูหนังรัก ช่วงนั้นงานของเราส่วนใหญ่วาดออกมาจากซีนจากภาพยนตร์”
“ปัจจุบันงานของเราจะมาไกลจาก ณ ตอนนั้น เหมือนความชอบเราเปลี่ยนเอกลักษณ์ในงานมันก็เปลี่ยนตามไปด้วยจากสิ่งที่เราเสพหรืออินในตอนนั้น ปัจจุบันเราชอบการ์ตูนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ เราก็จะได้อิทธิพลพวกญี่ปุ่นสไตล์และสีต่างๆ ในช่วงยุค 80 เราชอบวัฒนธรรมและเพลงต่างๆ เรารู้สึกว่ามันมีความน่าสนใจในการหยิบเอามาเล่าเรื่องในงาน”
ผลงานที่ชอบในนาม Paerytopia
“ผลงานช่วงล่าสุดเป็นผลงานที่เราชอบ เซตล่าสุดที่เราวาด เล่าเรื่องเกี่ยวกับอาชีพในฝัน เพราะเรารู้สึกว่าตอนเด็กๆ โตขึ้นมีคำถามว่าโตขึ้นอย่างเป็นอะไร เรารู้สึกว่าตอนเด็กๆ เรามีความคิดที่อิสระกว่า เราอยากจะเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องคำนึงถึงว่าจบมาทำอาชีพนี้ต้องเงินเดือนเท่าไหร่ เราจะยกเรื่องเพวกนี้มาเป็นเรื่องเล่า ส่วนมากเราจะเล่าผ่านตัวละครผู้หญิงเป็นหลัก ก็เลยเป็น Dream Jobs ของผู้หญิง
“ในธีมงานนี้ Layout ของงานเราจะออกแบบมาในรูปแบบของเหมือนหน้าการ์ตูนมังงะ จะมีช่องหรือ Layout เป็นแบบที่เราสนใจ เวลาเล่าอ่านเราชอบเสพอาร์ตในหน้าๆ นึง เราไม่ได้มองเป็นการ์ตูนหนึ่งหน้า เรามองว่าเป็นงานศิลปะหนึ่งหน้า เราเลยอยากเอา Layout นี้มาทำเป็นภาพประกอบก็เลยวาดมาเป็นเซต โดยเซตแรกเป็นไอดอล เซตที่สองเป็นสาวเสิร์ฟ และเซตสุดท้ายเป็นรูปนักเขียนการ์ตูน ซึ่งสามอันนี้เรายังคุมโทนรูปคือ สีในภาพ และสไตล์การแต่งตัวมาจากยุคช่วง 80-90 เป็นหลัก”
ความรู้สึกหมดไฟในการวาดรูป
“ช่วงที่รู้สึกหมดไฟ จริงๆ เป็นบ่อยนะคะ มันจะเป็นตลอดเรื่อยๆ ซึ่งเราก็จะหาวิธีจัดการตัวเอง เราจะทำอะไรแล้วรู้สึกสบายใจขึ้น หรือทำอะไรที่เราไม่ต้องคิดตรงนี้มาก เพราะเรารู้สึกว่าเรื่องหมดไฟนี่เป็นตลอดทุกคน สมมติว่าช่วงนี้โควิด เศรษฐกิจก็ไม่ดี ทำให้เรารู้สึกไม่มีไฟที่จะทำอะไร มันก็หาวิธีต้องหาวิธีที่จะเติมอินสไปเรชันให้ตัวเองได้อย่างไร อาจจะดูหนัง ฟังเพลง หรือหาอะไรใหม่ๆ ที่จะทำได้”
ความสำเร็จในปัจจุบันกับเป้าหมายที่วางไว้
“ยังไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ทั้งหมด แต่ก็รู้สึกว่ามาไกลกว่าที่คิดไว้เหมือนกัน คือเราก็ไม่เคยคิดว่า จบมาเราจะได้ทำงานเป็นนักวาดภาพประกอบแบบที่ตอนเด็กอยากจะทำ แต่โตมาเราก็ได้ทำจริงๆ รู้สึกดีที่มาไกลกว่าที่คิด ถึงเราจะทำตามเป้าหมายทุกอย่างไม่สำเร็จ แต่สิ่งที่ทำมาไม่ศูนย์เปล่าแล้ว ถือว่าเรามาได้ไกลแล้ว”
ก้าวต่อไปในอนาคตของ Paerytopia
“จริงๆ เราก็พยายามวางแผนทุกปีว่า ปีนี้เป้าหมายของเราทำอะไรบ้าง ต่อไปเราก็อยากทำให้ผลงานตัวเองเป็นที่รู้จักและเป็นวงกว้างมากกว่านี้ ไปทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นๆ เราก็อยากจะทำผลงานตัวเองออกมาได้เยอะจนพอที่จะทำหนังสืออาร์ทบุ๊กเพื่อที่จะรวมเล่มผลงานของตัวเอง อย่างตอนนี้สิ่งที่เราฝันอยากจะทำให้ได้มากที่สุดคือ เราอยากมีหนังสือรวมเล่มงานตัวเองให้ได้ และจัดนิทรรศการแสดงผลงาน”
“ความฝันของเราไม่ค่อยยิ่งใหญ่มาก เราพยายามก้าวไปทีละเสต็ปเท่าที่เราจะทำได้”
ฝากถึงคนที่มี “Paerytopia” เป็นอินสไปเรชัน
“เราอยากขอบคุณแฟนผลงานที่คอยติดตามผลงาน คอยมาผลงานมาโดยตลอด เพราะเรารู้สึกว่าไม่มีแฟนผลงานเราก็ไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้ และเราก็เชื่อว่าทุกคนที่วาดรูปหรือทำงานออกแบบ เราสามารถทำตามแพชชั่นของเรา ให้เราไปให้ไกลได้ เพียงแต่ว่าเราต้องมีความต่อเนื่องและความขยัน เพราะบางอย่างผลลัพธ์มันอยู่ที่การทำเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอค่ะ”
“สิ่งที่ทำไปด้วยความตั้งใจเราเชื่อว่ามันไม่ศูนย์เปล่า สักวันนึงมันต้องมีสักคนมาเห็นงาน”
“สมมติว่าเราวาดรูปแล้วเรายังไม่ดัง ยังไม่มีใครเห็นงานเรา ไม่มีใครสนใจผลงานเรา มันอาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะเราผ่านตรงนั้นมาหมดแล้ว”
“อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่สร้างสรรค์ผลงานอยู่ อย่าหยุดทำในสิ่งที่ชอบ เราแค่ต้องเจอกลุ่มเป้าหมายของเราที่จะเห็นคุณค่างานของเรา บางทีงานของไม่ได้มีกระแสในไทย คนไทยไม่ได้ชอบหรือแมส ไม่ได้แปลว่างานเราไม่ดี เราอาจจะอยู่ผิดกลุ่มเป้าหมาย เราอาจจะลองลงงานกับต่างชาติ หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ บางทีเราอาจจะเจอคนที่เขาชอบงานเราจริงๆ ก็ได้”
หลังจากรู้จัก Paerytopia แล้ว จะเห็นได้ว่าอินสไปเรชันส่วนหนึ่งมาจากมังงะและอนิเมะ เราจึงให้ Paerytopia แนะนำอนิเมะหรือมังงะที่ชื่นชอบ
3 Recommended Anime/Manga by Paerytopia
1. Nana (นานะ)
เป็นเรื่องที่ชอบมาก ทั้งอนิเมะแล้วก็มังงะ แต่ก็แนะนำให้อ่านเป็นมังงะมากกว่า เพราะว่าลายเส้นของอาจารย์ไอ ยาซาวะ ลายเส้นสวยมาก
2. Ranma ½ (รันม่า ½)
รันม่า ½ ของรูมิโกะ ทากาฮาชิ มีทั้งแบบมังงะแล้วก็อนิเมะ อนิเมะก็สนุกมากๆ เรารู้สึกว่าคาแรคเตอร์และดีไซน์มีความโดดเด่นมาก
3. Tsubaki-chou Lonely Planet (ขยับหัวใจเข้าใกล้นายมาดเข้ม)
ขยับหัวใจเข้าใกล้นายมาดเข้ม ของมิกะ ยามาโมริ เป็นการ์ตูนแนวโชโจ แต่เราชอบเนื้อเรื่องและการเล่าเรื่อง ลายเส้นก็สวยมาก ส่วนเนื้อเรื่องมีความละมุนและเข้มข้นมาก
ติดตามและอัพเดตผลงานสุดน่ารักได้ที่
Facebook: Paerytopia
Twitter: Paerytopiaa
Instagram: Paerytopia Store: Paery.store