ถ้าพูดถึง Influencer หรือ YouTuber สายท่องเที่ยวทุกวันนี้คงมีหลายชื่อ หลายช่อง ผุดขึ้นมาในหัวของแต่ละคน พวกเขาเหล่านั้นกลายเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยพาเราออกเดินทางเปิดหูเปิดตา ได้ออกไปเห็นโลกในมุมใหม่ๆ การท่องเที่ยวด้วยไลฟ์สไตล์ที่เราไม่เคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวคนเดียว, เที่ยวกับกลุ่มเพื่อน, เที่ยวกับคนแปลกหน้า, เที่ยวแบบประหยัด หรือเที่ยวแบบ Luxury แต่อีกสไตล์การท่องเที่ยวหนึ่งที่เราอยากชวนทุกคนไปสำรวจด้วยกันคงเป็น ‘Travel With a Purpose’ หรือการท่องเที่ยวเพื่อตอบสนองจุดประสงค์เฉพาะตัวบางอย่าง เช่น การเที่ยวเพื่อชิมอาหารตามรอยนักวิจารณ์, การไปเที่ยวเพื่อเข้าร่วมเทศกาลต่างๆ, การเดินทางเพื่อออกไปเที่ยวกลางคืน ปาร์ตี้ หรือแม้กระทั่งการออกเดินทางไปต่างที่เพื่อ Hookup กับใครสักคน การยกเป้าหมายเหล่านี้ขึ้นมาเป็นอันดับแรกของการออกเดินทาง เมื่อเป้าหมายสำเร็จการทำอย่างอื่นในทริปนั้นก็เป็นเหมือนโบนัส นี่แหละคือ สิ่งที่เรากำลังพูดถึง
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลายคนคงเคยเห็นคอนเทนต์จาก ‘Saran In Taiwan’ อินฟลูฯ สาย ‘เที่ยว’ ที่พาเราไปรู้จักกับวัฒนธรรมการปาร์ตี้ ซาวน่า และผับเกย์ในหลากหลายประเทศ หลายเมือง ซึ่งเรามีโอกาสได้คุยกับ ‘จ๊อบ’ – ศรัณย์ กาญจนาภาส ถึงเส้นทางการเป็น Content Creator, ความสนุกในการเที่ยวผับ, ประสบการณ์สุดประทับใจในการออกไปเที่ยว ไปจนถึง ’Travel With a Purpose’ ในมุมมองของจ๊อบ
‘Saran In Taiwan’
พูดถึง ‘Saran In Taiwan’ ทุกวันนี้หลายๆ คนคงนึกถึงอินฟลูฯ ที่พาเราไปตะลุยผับเกย์ พร้อมประสบการณ์ที่ชวนให้ใครหลายคนวูบวาบจนอยากจองตั๋วแล้วบินไปเที่ยวตามในทันที แต่ใครจะรู้ว่า อินฟลูฯ หนุ่มที่เราพูดถึงอยู่นี้มีดีกรีเป็นถึงนักเรียนทุนระดับปริญญาโทของ National Taipei University of Technology และนี่แหละคือ จุดเริ่มต้นของ Saran In Taiwan
“พอได้ทุนเต็มจำนวนมาเรียนต่อที่ไต้หวัน ตอนแรกที่ย้ายมาก็คิดว่า มันไม่ได้มีแค่เราแน่ๆ ที่รู้ว่าทุนไต้หวันมีเยอะขนาดนี้ ถ้าคนที่ตาม Saran In Taiwan มานานๆ จะรู้ว่าเรามีหลายช่วงมาก คนที่ตามตั้งแต่ตอนแรกก็จะรู้ว่าความจริงแล้วมันเริ่มมาจากทุนการศึกษา ไม่ใช่เรื่องผับ หรือท่องเที่ยวต่างประเทศ แล้วจุดประสงค์คือ เราอยากให้ทุกคนรู้ว่า จริงๆ แล้วการมาเรียนต่อต่างประเทศแล้วมีทุนเนี่ยมันไม่ได้ยากเกินเอื้อม หรือว่ายากเกินฝันขนาดนั้น เรามองภาพรวมแล้วรู้สึกว่า มันไม่ได้เป็นเรื่องยากมากที่จะมาเรียนต่อต่างประเทศ ก็เลยอยากจะทำช่องให้คนรู้ว่ามาเรียนต่อต่างประเทศได้นะ” จ๊อบเล่าย้อนจุดเริ่มต้นของ Saran In Taiwan
“มันเป็นไลฟ์สไตล์ของจ๊อบเองเลยดีกว่าครับ” เจ้าตัวตอบขึ้น เมื่อเราถามว่า คอนเทนต์ที่เขาทำในตอนนี้คืออะไร?
“เราทำช่องจากความชอบของเรา และก็อยากให้ทุกคนดูว่า เราเป็นคนอย่างไร เราใช้ชีวิตอย่างไร หรือว่าการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศเป็นอย่างไร แล้วก็อาจจะมีคนที่มองว่า อยากจะดูช่องของศรัณย์เพราะอยากจะรู้ว่า ผับที่ต่างประเทศมันเป็นอย่างไร เหมือนได้ไปเที่ยวแต่ว่าไม่ต้องไปเอง”
จากวันแรกที่ทำคอนเทนต์เรื่องการเรียนต่อต่างประเทศ จนมาถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 3 ปีแล้ว ซึ่งก็เป็นเวลาที่นานพอสมควร เราเลยชวนให้จ๊อบลองสะท้อนสิ่งที่เขาได้จากการทำคอนเทนต์ออนไลน์ให้เราฟัง
“รู้สึกว่าเราเริ่มต้นทำคอนเทนต์จากความชอบของเรา แล้วเราก็เริ่มต้นจากศูนย์จริงๆ ตั้งแต่ไม่มีฟอลโลเวอร์ จนมีถึง 100,000 ฟอลโลเวอร์ เรารู้สึกว่า มันมีแฟนคลับที่โตมาพร้อมกับเราจริงๆ นะครับ อย่างที่บอกว่า Saran In Taiwan มันมีหลายช่วงมาก และทุกครั้งที่มีคนเข้ามาบอกว่า ดูเราตั้งแต่เราทำเรื่องทุนนะ ดูเราตั้งแต่เราหางานนะ ดูตั้งแต่เราไปนิวยอร์กนะ มันไม่รู้สึกว่าเราตัวคนเดียวจริงๆ ทุกวันนี้เวลาเหงาเราก็ไปไลฟ์ในเฟสบุ๊ก รู้สึกว่า เพื่อนที่อยู่ในออนไลน์มันเป็นคนที่โตมากับเราจริงๆ แล้วก็รู้สึกว่า ทุกๆ การเจริญเติบโตของเรา เราก็อยากจะแชร์กับเขา รู้สึกว่า มันมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ติดตามเราจริงๆ”
ในทุกการสร้างสรรค์ย่อมมีแรงบันดาลใจอยู่เบื้อง คอนเทนต์ของศรัณย์เองก็เช่นกัน
“จริงๆ แล้วมาที่นี่ (ไต้หวัน) ก็อยากมาเรียนด้วย แล้วก็อยากมาใช้ชีวิตด้วย และจริงๆ แล้วเราเป็นคนชอบเที่ยวอยู่แล้ว โดยเฉพาะเที่ยวผับ (หัวเราะ) รู้สึกว่า การเที่ยวผับเกย์มันน่าสนใจ ซึ่งเราอยากจะไปหลายๆ ประเทศแล้วก็ไปดูว่า ผับเกย์ที่คนที่นั่นเขาเที่ยวกันอย่างไร เพราะฉะนั้นเวลาจะไปต่างประเทศหลังจากนี้จ๊อบจะพยายามไปประเทศที่ไม่ซ้ำแล้ว”
“แต่ก่อนจะไปต้องทำการบ้านแล้วว่า จริงๆ เขาเที่ยวที่ไหนกัน เห็นในช่องออกมาเหมือนไม่ตั้งใจอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วเราทำการบ้านเยอะมากครับ เราก็ไม่อยากให้คลิปเราไม่มีสาระ”
“จ๊อบก็ไม่ถึงขั้นเป็นโปรเฟสชันนัลใน YouTube ทุกวันนี้รู้สึกว่าจ๊อบยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะเลย เรายังต้องปรับการใช้ชีวิตอีกเยอะ แต่ ณ ตอนนี้ รู้สึกว่า เราทำคอนเทนต์จากความชอบส่วนตัวของเราให้มากที่สุดดีกว่า เพราะมันจะมีช่วงหนึ่งที่เราคิดว่า คนดูอยากดูอะไรแล้วบางทีเราปรับตามเขา แต่เราไม่ได้มีความสุข หรือเป็นตัวเองขนาดนั้น สุดท้ายคนดูเขาก็ดูออก เพราะฉะนั้นพอกลับมาได้ช่วงนี้เรารู้สึกว่า เราทำอะไรที่เราอยากทำจริงๆ ดีกว่า เพราะฉะนั้นเวลาไปเที่ยวแต่ละครั้งมันก็จะเอนจอยกับการเที่ยวตอนนั้นมากๆ แล้วรู้สึกว่า ทุกครั้งที่เราอยากอัดคลิป มันคือช่วงที่เราอยากอัดจริงๆ เราไม่ได้ฝืนตัวเอง” จ๊อบเล่าถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวพร้อมการทำคอนเทนต์
The Diverse Cultures of Gay Pubs
“สำหรับจ๊อบ การท่องเที่ยวคือ การไปที่ๆ ไม่เคยไปมาก่อน ไปอยู่ในวัฒนธรรมที่เราไม่คิดว่าจะมีแบบนั้นอยู่ด้วย หรือว่าไปในสถานที่ๆ คนเขาบอกว่าดี ไปดูว่ามันดีจริงๆ ไหม เราอยากพาตัวเองไปมองโลกข้างนอกให้กว้างให้ไกลมากที่สุด แต่เราก็อยากจะพาทุกคนไปด้วย อันนี้เลยเป็นจุดประสงค์ที่ว่า ทำไมจ็อบถึงอยากไปเที่ยวต่างประเทศหลายๆ ที่”
จ๊อบอธิบายมุมมองการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปหลังจากที่เขาเริ่มทำคอนเทนต์ออนไลน์ เราเลยถามเจ้าตัวเพิ่มเติมว่า สไตล์การท่องเที่ยวของเขาเป็นอย่างไร?
“จริงๆ จ๊อบไม่ได้มีสไตล์ที่ชอบหรือไม่ชอบ แต่อยากรู้ว่า ที่นั่นเขามีอะไร เที่ยวกันอย่างไรมากกว่า เพราะเราอยากไปดูอะไรที่เราไม่เคยได้เห็น ทุกที่ๆ ไป อย่างเช่น ผับเกย์เนี่ย เรารู้สึกว่า อะไรที่ในประเทศเราไม่เคยเห็น หรือแม้กระทั่งเขาบอกว่า ที่นี่เปิดเพลงป็อปเหมือนที่เกาหลีเลย ถ้าเราไม่เคยไปเที่ยวผับในเกาหลี เราก็ไม่รู้อยู่ดี เพราะฉะนั้นก็เลยคิดว่า เราชอบไปลองอะไรใหม่ๆ มากกว่า อย่างที่ไต้หวันเนี่ย มันก็มีอะไรอีกหลายอย่างที่ประเทศอื่นไม่มี หรือถ้าเกิดในอนาคตเจาะไปที่จีนแผ่นดินใหญ่ แน่นอนว่า มันต้องมีอะไรที่จ๊อบไม่เคยเจอในไต้หวัน หรือว่าไม่เคยเจอในเกาหลี”
“มันเป็นบทเรียนชีวิตให้เราออกไปเรียนรู้โลกกว้างว่า มันยังมีอะไรที่เราไม่เคยเจออีกเยอะ มันไม่ได้มีแค่ที่เราเคยเห็น”
แล้วอะไรคือเหตุผลที่จ๊อบชอบเที่ยวผับ?
“จ๊อบชอบไปเที่ยวผับที่จ๊อบไม่เคยไป ไปให้รู้ว่าผับนั้นมันเป็นอย่างไร คนเขาเที่ยวกันแบบไหน แล้ววัฒนธรรมในการเที่ยวผับของเขาเป็นอย่างไร เพราะว่าแต่ละที่เขามีวัฒนธรรมการเที่ยวผับไม่เหมือนกัน อย่างเช่น เกาหลีเขาก็จะเที่ยวกันหลายๆ ผับเที่ยวกันยันเช้า แต่ถ้าเป็นเวียดนามเขาก็จะไม่ได้เที่ยวกันหลายผับขนาดนั้น แต่เขาก็เอนจอยกับเพื่อน หรือถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นก็อาจจะเป็นการเที่ยวอีกแบบหนึ่ง ที่ไม่เหมือนทั้งเกาหลี และเวียดนาม อันนี้มันเป็นสิ่งที่จ๊อบอยากรู้
ถ้าถามว่า ต้องการจะไปสนุกที่ผับไหนสักผับหนึ่งไหม อันนี้ตอบเลยว่าไม่ เพราะว่าจ๊อบไม่ได้อยากจะไปสนุกแบบนั้น ถ้าให้จ๊อบสนุกก็สนุกได้ แต่ถามว่ามันมีจุดประสงค์ที่อยากจะไปสนุก ไปเมา ไปเต้น หรือว่าต้องได้ผู้ชายในผับเลยไหม ตอบเลยว่าไม่ เพราะว่าเราไม่อยากจะไปถึงจุดที่สนุกขนาดนั้น แค่อยากรู้ว่า เขาเที่ยวกันอย่างไรยัง ถ้าเกิดมันสนุกได้มากขนาดนั้นได้ ก็ถือเป็นผลพลอยได้ ก็โอเค ถือว่าแฮปปี้ ซึ่งทุกครั้งจะเป็นอย่างนั้น”
Traveling With a Purpose
ได้ฟังจ๊อบเล่ามาถึงตรงนี้เราก็เห็นแล้วว่า เขาก็เป็นคนหนึ่งที่ออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยจุดประสงค์บางอย่าง แล้วการออกเดินทาง ‘With a Purpose’ ในมุมของจ๊อบมันดีอย่างไร?
“การไปเที่ยวมันก็มีหลายแบบ อย่างจ๊อบเองก็มีครั้งที่เราอยากไปแบบ No Plan จริงๆ กับวันที่เราแพลนไว้แล้วว่าเราอยากได้อะไร อยากไปที่ไหน จ๊อบรู้สึกว่า การไปเที่ยวสักครั้งหนึ่ง เราต้องรู้ว่า เราอยากไปที่ไหน แล้วเรื่องราวระหว่างทาง หรือที่อื่นๆ มันเป็นผลพลอยได้แล้วครับ จะไปได้ครบทุกที่ไหม หรือว่าไปที่นั่นแล้วมันจะสวยไหม อันนี้จ๊อบถือว่ามันเป็นผลพลอยได้แล้วจริงๆ
ถ้าเราได้ไปตามที่เราแพลนไว้แล้ว อย่างจ๊อบอยากไปผับเกย์สักประมาณ 3 ที่ในประเทศนั้น ถ้าจ๊อบได้ไปครบ 3 ผับแล้ว ก็โอเคแล้ว ที่เหลือไปไหนก็ได้แล้ว ไม่มีปัญหา และรู้สึกว่า ที่ๆ เราได้ไปก็เป็นบทเรียนชีวิตที่เราได้กลับมา อันนี้จะโอเคกับทุกอย่าง แค่รู้สึกว่า ถ้าเราตั้งเป้าไว้แล้ว จ๊อบก็อยากจะทำมันให้สำเร็จ”
พอได้พูดถึงการตั้งเป้าหมายในการไปเที่ยว จ๊อบเลยเล่าเรื่องการแพลนทริปของเขาให้เราฟังต่อ
“ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลังๆ เวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็ตั้งใจว่าจะไปอัดคลิป YouTube เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราอยากไปก็คือผับ ซึ่งเราก็จะแพลนไว้แล้วว่า เราอยากจะไปผับไหนบ้าง หรือถ้าเราไม่รู้ เราก็ไปออนแอพฯ ถามเอาหน้างาน แต่จุดประสงค์คือ เราอยากไปผับ นอกเหนือจากนั้นอย่าง เรื่องไปเที่ยวสถานที่ธรรมชาติ หรือถ้าเกิดเราเจอร้านอาหารที่เราอยากไป ก็จะพยายาม Makes it happen ให้ได้ แต่ไม่ได้ก็คือไม่ได้ เราไม่ได้มานั่งมาเครียดกับอะไรแบบนั้น รู้สึกว่าชีวิตมีเรื่องให้เครียดมากพออยู่แล้ว ยิ่งเอาเรื่องพวกนี้มาเครียดอีก มันเสียดายเวลา”
ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกทริปที่วางแผนเอาจะสำเร็จลุล่วงได้ตามเป้าทั้งหมด ซึ่งจ๊อบก็แชร์ประสบการณ์ล่าสุดกับทริปที่สิงคโปร์ให้เราฟังว่า บางครั้งสิ่งที่ตั้งเป้าไว้ มันก็อาจไม่เป็นอย่างที่คิด
“เราพูดได้แต่ยังไม่ได้ลงคลิปนะครับ ยังไม่ได้ตัด (หัวเราะ) ก็คือไปที่สิงคโปร์ มีเวลาแค่วันเดียว แล้วเราก็ไปทั่วทุกผับที่เกย์ไปในตัวเมืองสิงคโปร์ แต่ว่ามันเป็นวันธรรมดา ซึ่งมันก็ไม่มีคนเลย ในผับมีแค่จ๊อบที่เดินเข้าไปถ่ายคลิป แต่ก็มีเพื่อนที่เป็นคนสิงคโปร์พาไป แล้วก็ไปทุกผับในสิงคโปร์จริงๆ ซึ่งทุกผับก็คือ ไม่มีคนเลย มากที่สุดคือมี 5 คน
แต่ถ้าถามว่า มันสำเร็จเป้าหมายของจ๊อบไหม มันสำเร็จนะ ที่จ๊อบได้ไปดูว่า ผับมันเป็นอย่างไร มันมีกี่ที่ แต่ว่ามันไม่ใช่วันที่คนเยอะ ซึ่งถามว่าเสียดายไหม ก็มีเสียดายครับ แต่ว่ามันก็ไม่ได้เป็นความทุกข์ขนาดนั้น เพราะอย่างน้อยๆ เราก็ได้ไปแล้ว ได้รู้ว่า ผับนั้นเขาเป็นอย่างไรแล้ว”
“ถ้ายังไม่ตายก็ไปใหม่ได้ เราก็เลือกไปวันที่เขามีคนเยอะๆ วันที่เขาจอยๆ สนุกๆ ก็ได้ อันนี้เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งก็อย่าไปเครียดกับมัน”
The Unforgettable Journeys
พอได้แชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวของตัวเอง จ๊อบก็เริ่มมีเรื่องราวพลั่งพลูออกมาแชร์ให้เรามากมาย เราเลยขอให้จ๊อบเริ่มเล่าจากทริปที่เจ้าตัวประทับใจก่อน
“เอาจริงๆ ที่ประทับใจที่สุดตอนนี้ก็น่าจะเป็นที่เกาหลีครับ ซึ่งจ๊อบไม่เคยไปเกาหลีเลย แล้วก็ไม่คิดด้วยซ้ำว่า วันหนึ่งจะได้ไป จนมาทำ YouTube แล้วรู้สึกว่า อยากไปผับเกาหลี แล้วบังเอิญรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่งเขาก็พาไปเที่ยวผับเกาหลี ซึ่งเป็นการไปเที่ยวประมาณ 15 ผับในคืนเดียวครับ มันเป็นอะไรที่ใหม่มาก เพราะเราไม่เคยเที่ยววนผับแบบนี้เลยในประเทศไหน แล้ว 15 ผับมันสนุกมาก มันเป็นการเข้าออกผับ หรือว่าเข้าไปดูว่าร้านนี้เขาสนุกกันอย่างไร เพราะว่าวัฒนธรรมผับที่เกาหลี มันต่างกันทุกผับ
อย่างเช่นผับหนึ่งเป็นผับจูบ อีกร้านหนึ่งก็เป็นบาร์ที่ห้องสูบบุหรี่เปิดเสียงหนังโป๊ หรือว่าอีกร้านก็เป็นร้านที่คนเกาหลีมาเต้นกันอย่างเดียวเลย ทุกผับมันแปลกตามาก รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ประทับใจมาก เพราะเราเป็นคนชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไปเจออะไรใหม่ๆ ก็เลย Complete มาก”
จ๊อบเล่าความประทับใจอย่างสนุกสนานก่อนที่จะเริ่มพาเราเข้าสู่ประสบการณ์ตื่นเต้นที่ ‘บาร์จูบ’ ในเกาหลี
“อันนี้เป็นเรื่องแปลกที่เราไม่รู้มาก่อนก็คือ บาร์จูบที่เกาหลี ซึ่งตอนที่เราไปครั้งแรก บอกตรงๆ ว่า เราตื่นเต้นมาก เพราะว่าเกาหลีอะเนอะ ผู้ชายก็แบบเป็นเทสที่เราชอบ แต่ไม่ใช่ว่าจะไปจูบใครก็ได้ พอเข้าไปในร้านเขาจะแบ่งเป็นโต๊ะ แล้วแต่ละโต๊ะจะต้องเล่นเกมผ่านหน้าจอ และเขาก็จะเลือกว่าโต๊ะไหนจะจูบกับโต๊ะไหนโต๊ะไหน จะเล่นเกมกัน กติกาของเขาคือ ถ้าแพ้ต้องเดินไปจูบ ถ้าชนะเขาจะเดินมาจูบเรา แล้วก็ต้องเลือกโต๊ะว่าเขาจะเล่นกับเราไหม ถ้าเกิดโดนปฏิเสธเราก็อายนิดหนึ่ง (หัวเราะ) แต่ว่ามันก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก แล้วที่ร้านเขาก็จะมีกำไรข้อมือให้ใส่ว่า คนไหนเป็นรุก เป็นรับ อันนี้ก็ตื่นเต้นในระดับหนึ่ง แต่เขาจะมีป้ายเป็นสติ๊กเกอร์วงกลมให้แปะที่หน้าอกว่า ‘คืนนี้คนนี้อยากโดนอมทั้งคืน’ หรือว่า ‘คืนนี้ฉันแข็งมาก’ แล้วก็มีอันหนึ่งแปลว่า ‘คืนนี้มาที่โรงแรมฉันได้นะ ฉันรอเธออยู่’ ซึ่งทุกอย่างมันเกิดอยู่ในร้านเดียว แล้วมันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากนะครับ แล้วเป็นคนเกาหลีทั้งร้านไม่มีคนไทยเลย มีแค่จ๊อบกับเพื่อน 2 คน และทุกอย่างเป็นภาษาเกาหลีหมดเลย”
“อีกเรื่องหนึ่งนะครับ คือเราไปเกาหลี แล้วเขาก็พูดกันมาตลอดว่า มันมีซาวน่าที่หนึ่ง ที่เข้าได้เฉพาะคนเกาหลี แล้วจ๊อบไปเกาหลี 2 รอบ รอบแรกจ๊อบไปที่ซาวน่า ก็จ่ายเงินไปแล้วนะ แต่เขาพูดภาษาเกาหลีกลับมา และเขาก็จับได้ว่า เราไม่ใช่คนเกาหลี เราไม่ได้เข้า ก็เฟลมาก แต่พอรอบ 2 ที่ไป ก็เตรียมการอย่างดีแล้ว คือเขาเคร่งมาก ถ้าเกิดหน้าไม่เหมือนคนเกาหลี หรือพูดเกาหลีไม่ได้ หรือว่าใช้บัตรเครดิตที่ไม่ใช่ของเกาหลี เขาจะไม่ให้เข้าเลย แต่ว่ารอบที่ 2 เราไปแล้วเข้าได้ ตอนที่เราเข้าได้ปุ๊บ มันเป็นจังหวะที่เราดีใจมาก แล้วตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นจนต้องโทรหาเพื่อนก่อน แล้วบอกว่าเข้ามาได้แล้ว เป็นอะไรที่อยากแชร์ อยากเล่ามาก ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งเลยที่เราเข้าซาวน่าที่เข้าได้เฉพาะคนเกาหลี แล้วเราไม่เหมือนคนเกาหลีด้วย แต่เราเข้าได้ แฮปปี้มากครับ” จ๊อบเล่าโมเมนต์ประทับใจให้เราฟังอย่างตื่นเต้น จนเราอยากรู้ว่า สำหรับจ๊อบแล้วความสนุกของการได้ไปเที่ยวคืออะไร?
“ความสนุกของการไปเที่ยวของจ๊อบมันคือการที่เราไปเจออะไรใหม่ๆ แล้วจ๊อบตื่นเต้นกับมัน มันเป็นสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะมีแบบนี้อยู่ด้วย แล้วเราก็เอนจอยกับโมเมนต์ตรงนั้น ไปที่ๆ เราไม่เคยไป
พูดถึงเรื่องผับก็คือ ไปผับที่เราไม่เคยไป แล้วรู้สึกว่า เราอยากเอาเรื่องที่เรารู้สึกว่า มันแปลกใหม่สำหรับเรา แล้วเราไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เราอยากเอาเรื่องพวกนั้นมาแชร์ให้กับทุกคนฟัง มันคือการได้เจออะไรใหม่ๆ ครับ”
Saran in The Future
“ณ ตอนนี้รู้สึกว่า แค่คนดูเขายังติดตามเราอยู่ ยังคอมเมนต์ ยังรู้สึกว่าเห็นเราไปเที่ยวแล้วเหมือนได้เที่ยวกับเราด้วย ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตในทุกพาร์ท คือช่องจ๊อบมันไม่ได้เป็นแค่ช่องพาเที่ยว แต่มันอัพเดตไลฟ์สไตล์ อัพเดตชีวิตจ๊อบจริงๆ มันไม่ได้มีแค่ใน YouTube แต่มันก็มีแพลตฟอร์มอื่นด้วย รู้สึกว่าแค่นี้ที่เป็นอยู่ก็รู้สึกว่า ดีมากแล้ว แต่ถ้าเกิดถามถึงอนาคต มันก็ต้องแน่อยู่แล้วว่า เราก็อยากจะมีคนติดตามเราเพิ่มมากขึ้น แต่เราก็อยากให้เขาติดตามเพราะว่า เขาติดตามคอนเทนต์ของเรา เขาเป็นแฟนคลับช่องเรา แล้วก็ชอบในความเป็นตัวของเราจริงๆ รู้สึกว่ามันต้องมีวันหนึ่งที่เราอาจจะล้ม หรือว่าทำอะไรไม่ถูกใจ แต่ถ้าเกิดมีคนเหล่านี้คอยเตือนเราอยู่เสมอเหมือนเพื่อนที่โตไปพร้อมกันก็จะดี”
“ไม่เคยรู้สึกเลยว่าแฟนคลับคือใครก็ไม่รู้ แฟนคลับคือคนที่อยู่ข้างๆ เราดูคลิปของเราแล้วก็โตไปด้วยกันกับของเรา”
แล้วคอนเทนต์ของ Saran In Taiwan ในอนาคตล่ะ?
“เราโตมาจากไต้หวันเนอะ เราก็ยังใช้ชื่อ Saran In Taiwan อยู่ แต่ว่าความจริงแล้วมันค่อนข้างจะเป็นไลฟ์สไตล์ของเรา ซึ่งมันก็จะมีไต้หวันด้วย แล้วมันก็จะมีต่างประเทศด้วย รู้สึกว่า คนก็ยังอยากดูที่เราเอนจอยกับการทำช่องนี้อยู่ เพราะฉะนั้นเราคิดว่า อนาคตก็อาจจะทำคอนเทนต์อื่นๆ บ้าง ที่ไม่ใช่เฉพาะเรื่องผับ แต่ว่ามันก็ยังเป็นตัวเราอยู่ แล้วมันก็ยังเบสจากความสุขของเราอยู่ ยังเป็นไลฟ์สไตล์เราอยู่ ไม่ได้ประดิษฐ์ขึ้นมา” จ๊อบพูดส่งท้าย
Fun Facts
- คอนเทนต์ที่ทำให้จ๊อบมีความสุขที่สุด และอยู่ในใจของเขามาตลอดคือ ‘ความในใจของ Saran In Taiwan 💛🍌’ คอนเทนต์ที่จ๊อบอัดคลิปเล่าความในใจของการเป็น Saran In Taiwan ในวันที่มีผู้ติดตาม 30,000 คน
“มันแฮปปี้มากมันมีความสุขมากแล้วมันก็จะเป็นคอนเทนต์ที่ทำให้เรามีกำลังใจเวลาเรารู้สึกว่าเหนื่อย” - ทริปแรกในต่างประเทศของ Saran In Taiwan (ที่ไม่ใช่ในไต้หวัน) คือ ประเทศญี่ปุ่น เป็นทริปที่ไปกับแฟนเก่า ซึ่งจ๊อบอยากทำคอนเทนต์ซาวน่าที่ญี่ปุ่น ซึ่งแฟนในขณะนั้นก็ซัพพอร์ตเขาเต็มที่ แถมยังไปเที่ยวผับเกย์ด้วยกันด้วย
“ก็ไม่น่าจะมีใครที่ซัพพอร์ตได้ขนาดนี้ครับ ก็เป็นอีกความประทับใจเหมือนกัน” - ทริปล่าสุดที่จ๊อบอยากให้รอติดตาม คือ โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ทริปที่จ๊อบบอกว่า ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แต่ซาวน่าที่โฮจิมินห์กลายเป็น ซาวน่าอันดับหนึ่งในใจของจ๊อบในตอนนี้
“ทุกอย่างมันดีไปหมด แล้วคนที่นั่นเข้าถึงง่าย เป็นเกย์ที่น่ารักซึ่งรู้สึกว่า เกย์เวียดนามน่ารักมาก อยากให้ติดตาม เวียดนามไม่ไกลบินไปเถอะ”
ติดตามผลงานต่อๆ ไปของ Saran In Taiwan ได้ที่
YouTube: Saran In Taiwan
Facebook: Saran in taiwan
Instagram: sarankanjanapas
Twitter: sarankanjanapas