ในช่วงล็อคดาวน์ที่หลายคนต้องอยู่แต่บ้าน Work from home เกิดความเหงาเมื่อไหร่ก็ต้องพึ่งพาตนเอง นัดเจอคนแปลกสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้ ทำให้ยอดขายเซ็กซ์ทอยพุ่งกระฉูด จนเกิดประเด็นคำถามเรื่องของกฎหมาย Brandthink ได้เผยแพร่คอนเทนต์หัวข้อ “กักตัวพาตลาดเซ็กส์ทอยในไทยพุ่งปรี๊ด...แต่มันยังผิดกฎหมายอยู่” โดยในโพสต์สอบถามความเห็นว่า อยากให้เซ็กซ์ทอยถูกกฎหมายหรือไม่ จนได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
จากการพูดคุยกับร้านค้ารับพรีออเดอร์ของเล่นผู้ใหญ่จากต่างประเทศ ได้เล่าให้เราฟังถึงประสบการณ์สั่งสินค้ามาขายเป็นครั้งแรก ที่เริ่มจากการที่เธอเองมีความสนใจ อยากจะสั่งมาทดลองใช้งานเอง เลยคิดได้ว่าไหนๆ จะสั่งมาแล้ว ลองเปิดพรีออเดอร์ดูแบบขำๆ ขายไม่ได้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ผลปรากฏว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด สาวๆ ทั้งหลายแห่แหนกันมาสั่งซื้อผ่านอินบ็อกด้วยเฟสบุ๊คบัญชีส่วนตัวกันเลยทีเดียว เธอบอกว่าเซอไพรส์มากที่มีคนสนใจสั่งเข้ามาเยอะขนาดนั้น เพราะคิดว่าสาวๆ น่าจะเขินอายที่จะติดต่อมาคุยโดยตรง ส่วนมากจะถามหาสินค้าตัวอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
หลังจากนั้นก็เลยได้ลู่ทางการทำมาหากินเพิ่ม มีลูกค้าประจำที่ถามว่า “มีแบบนั้น แบบนี้ไหม” บางทีหาแบบที่ต้องการมาให้พรีออเดอร์ให้ จนกลายเป็นการซื้อขายสินค้าปกติทั่วไป บางทีมีถามถึงความรู้สึกตอนใช้งาน รีวิวให้ฟังบ้าง เป็นเรื่องเม้ามอยแซ่บๆ ของกันและกันไป ปัจจุบันก็ยังมีลูกค้าทั้งหน้าใหม่และหน้าเดิมวนเวียนเข้ามาเรื่อยๆ และก็ยังมียอดขายที่เติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน สิ่งที่ร้านค้ารู้สึกสงสัยก็คือ ทำไมถึงยังไม่เป็นสินค้าถูกกฎหมายในประเทศไทยซักที ทั้งที่ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แถมอาจจะช่วยลดอาชญากรรมการข่มขืนลงด้วยซ้ำ แถมยังมีเรื่องสรรพากรเก็บภาษีนำเข้ามหาโหดแทบจะทำกำไรต่อไม่ได้ในบางล็อทก็มี
เรื่องของกฎหมายเซ็กซ์ทอยในประเทศไทย คำถามยอดฮิตที่ว่า ทำไมมันถึงยังถูกกฎหมายซักที ผู้ใหญ่บ้านเมืองเรามองว่าเป็นเรื่องขัดต่อศีลธรรมอันดี ดูเป็นเรื่องมั่วสุม ถูกโยงเข้าเรื่องศาสนา ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจจะมีฮิดเดนอะเจนดาในแนวทางเรื่องของผลประโยชน์ซ่อนอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า ?
นิศารัตน์ จงวิศาล หนึ่งในผู้เคลื่อนไหวเรื่องเซ็กส์ทอยในประเทศไทยกลุ่มแรกๆ เธอเปรียบเรื่องเซ็กส์ทอยผิดกฎหมายนั้นเป็นยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นผิวน้ำ แต่ภายใต้ยอดภูเขาน้ำแข็งนั้นเป็นเรื่องของแนวคิดชายเป็นใหญ่ อคติและความเข้าใจผิดต่อการมีเซ็กส์ โดยมีตัวแปรสำคัญที่สุดคือรัฐบาล
จะว่าไปแล้วเรื่องเซ็กส์ทอยผิดกฎหมายนั้นก็คงเป็นเรื่องของความเชื่อและวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกในทัศคติของคนบางกลุ่ม ที่ยังไม่ยอมรับว่ามนุษย์มีความต้องการทางร่างกายเป็นเรื่องปกติที่ถูกสร้างมาด้วยธรรมชาติก่อนที่ความเชื่อเหล่านี้จะเกิดขึ้นเสียอีก ไม่ช้าผู้หญิงก็สามารถยอมรับได้ว่ามีความต้องการทางเพศ ไม่ต่างกับเพศตรงข้าม และไม่เขินอายที่จะใช้ของเล่นผู้ใหญ่เพื่อสนองความต้องการ
ถ้านึกย้อนกลับกันมีการสนองความต้องทางเพศของผู้ชายมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ จึงเกิดอาชีพ “โสเภณี” ขึ้น แต่ทำไมเมื่อถึงยุคที่โลกก้าวไปสู่การยอมรับความหลากหลายมากขึ้น ผู้หญิงจะไม่สามารถมีเครื่องบำเรอร่างกายอย่างที่เธอทั้งหลายต้องการบ้าง?
อ้างอิง:
https://www.facebook.com/brandthink.me/photos/a.1767934240198787/3025778684414330/