Culture

วงการ K-Pop สุด Toxic – ฉากหลังสุดดำมืดที่สปอตไลต์ส่องไม่ถึง

Photo credit: Vaagustar.me

Trigger Warning: บทความนี้มีการกล่าวถึงการริดรอนอิสรภาพความเป็นมนุษย์ การคุกคาม การเหยียดเพศ โรคซึมเศร้า และการฆ่าตัวตาย (Dehumanization, Human rights violation, Sexism, Depression, Suicide)

เรามักจะเห็นภาพไอดอลที่ร้องเต้นอยู่บนเวทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มกันจนเคยชิน เพราะหน้าที่ของศิลปินมืออาชีพคือการทำให้ผู้ชมมีความสุขและอินไปกับบทเพลง แต่ชีวิตจริงเบื้องหลังใบหน้าเปื้อนยิ้มของพวกเขาและเธอเหล่านี้ ยังมีเรื่องราวที่แอบซ่อนเอาไว้อยู่กับเบื้องหลังการทำงานที่ไม่สวยงามแบบฉากหน้า กับเรื่องราวสุดฉาวต่างๆ นานา ของค่ายเพลง ตัวศิลปิน และแฟนคลับ ที่ต้องปิดบังเอาไว้ เพื่อให้ไอดอลยังคงเป็นที่รัก และไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง 

ตัวตน ที่ไม่ใช่ของตน

“ค่ายมองว่าศิลปินก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง” คือประโยคที่พูดกันบ่อยในแฟนด้อม K-Pop ด้วยความที่ไอดอลมักจะถูกค่ายต้นสังกัดควบคุมแทบทุกอย่างของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นบุคลิก วิธีการวางตัว เสื้อผ้า สีผม ไปจนถึงรูปร่างหน้าตา เป็นที่รู้กันดีว่าไอดอลต้องทำตามค่ายต้องการอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ด้วยสัญญาที่ระบุเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเดบิวต์

Photo credit: Asian Boss

‘เวย์’ (Way) หรือ ‘ฮอ มินซอน’ (허민선) อดีตสมาชิกวง Crayon Pop เจ้าของเพลงดัง “Bar Bar Bar” ที่ใครๆ ก็คุ้นชินกับลุคสาวน้อยสวมหมวกกันน็อคแสนโด่งดัง ในตอนนี้ที่วงได้เหลือเพียงชื่อและตำนาน มินซอนได้เปิดช่อง YouTube ชื่อ ‘웨이랜드WayLand’ และเปิดใจพูดถึงชีวิตของเธอสมัยยังเป็นไอดอลฝึกหัดภายใต้สังกัด Chrome Entertainment ว่าเธอและสมาชิกคนอื่นๆ ถูกห้ามไม่ให้ทานขนม และต้องห้อยกระสอบทรายน้ำหนัก 5 กก. ไว้ที่ขาแต่ละข้างเพื่อให้รู้สึกตัวเบาเวลาเต้น ที่น่าตกใจไปมากกว่านั้น ก็คือการที่เด็กฝึกทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือออกไปข้างนอกได้ตามใจชอบ เวย์เล่าว่า:

“มีวันเกิดครั้งหนึ่ง พ่อมาหาฉันที่บริษัท แต่พวกเขาก็ให้พ่อของฉันกลับไป กฎระเบียบมันเข้มงวดมากจนเราไม่สามารถเจอครอบครัวของตัวเองได้ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องถามถึงการเดตเลย”

Photo credit: Koreaboo

เมื่อปี 2020 ในรายการ “CBS This Morning” ‘แอมเบอร์ หลิว’ (Amber Liu) อดีตสมาชิกวง f(x) จากค่ายเพลงท็อป 3 ในเกาหลีใต้อย่าง SM Entertainment ได้เปิดเผยว่าในตอนที่ยังเป็นไอดอลฝึกหัด มันง่ายมากที่จะถูกยกเลิกสัญญาการเป็นศิลปินฝึกหัด เพียงแค่น้ำหนักตัวไม่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ก็สามารถทำให้ถูกบริษัทปฏิเสธได้แล้ว ถ้ายังอยากจะขึ้นไปเฉิดฉายบนเวที เธอก็ต้องทำ พูด และคิดตามที่ค่ายบอกไว้ทั้งหมด

Photo credit: Suco de Mangá

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ‘เจสสิก้า จอง’ (Jessica Jung) ที่เดบิวต์ในวง Girls’ Generation ก่อนจะแยกทางออกมาตามฝันของตัวเอง ก็ได้เขียนหนังสือชื่อว่า “Shine” เกี่ยวกับเด็กสาวอายุ 17 ปี ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นไอดอล โดยที่ตัวละครนี้อิงมาจากชีวิตของเธอเอง ภายในหนังสือนั้นไม่เพียงแค่เล่าถึงเส้นทางสู่ประตูฝัน แต่ยังประกอบไปด้วยประสบการณ์ที่เด็กฝึกและไอดอลต้องเจอ เช่น การถูกค่ายยึดโทรศัพท์ ไม่ให้ใช้โซเชียลมีเดียทุกชนิด ห้ามเดต และต้องควบคุมอาหารอยู่ตลอดเวลา เธอยังบอกอีกด้วยว่ากฎเหล่านี้ยังคงมีอยู่ และอาจไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

คงเป็นเพราะความคาดหวังของค่ายและแฟนคลับบางส่วน ว่าไอดอลจะต้องมีรูปลักษณ์ที่ดูดีและทำตัวเหมาะสมตลอดเวลา จึงยากที่ไอดอลจะได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระ ตราบใดที่ไอดอลยังคงถูกมองเป็น ‘สินค้า’ ในโลกอุดมคติซึ่งถูกสร้างเพื่อตอบสนองความบันเทิง

รักล้ำเส้นของซาแซงแฟน และความเห็นที่เกินจะรับไหว

Photo credit: Koreaboo

นอกจากปาปารัสซี่แล้ว คนอีกกลุ่มที่ไอดอลต้องคอยระวังก็คือ ‘ซาแซงแฟน’ (사생팬) เป็นคำภาษาเกาหลีที่มาจาก ‘ซาแซงฮวัล’ (사생활) แปลว่า ‘ความเป็นส่วนตัว’ และคำว่าแฟนคลับสื่อถึงกลุ่มแฟนคลับที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของศิลปิน ซึ่งบางครั้งก็มาในรูปแบบของบ้านแฟนไซต์ (Fansite) หรือก็คือแฟนคลับเจ้าของบ้านเบสที่คอยตามไปถ่ายรูปศิลปินตามงานอีเวนต์ต่างๆ นั่นเอง

Photo credit: Creatrip

หลายครั้งที่การแสดงออกถึงความรักอันบิดเบี้ยวของซาแซงแฟนได้สร้างความเดือดร้อนให้ศิลปิน เราอาจจะเคยเห็นข่าวที่ซาแซงแฟนเข้าไปซ่อนตัวในห้องพักของไอดอล ปลอมตัวเพื่อตามไอดอลเข้าห้องน้ำ เขียนจดหมายด้วยเลือดประจำเดือน ฯลฯ และบางครั้งการคุกคามก็รุนแรงถึงขั้นทำให้บาดเจ็บ อย่างกรณีของ ‘ชิม ชางมิน’ (심창민) สมาชิกวง TVXQ (ทงบังชินกี) ที่มักจะถูกซาแซงแฟนตามติดด้วยรถแท็กซี่ ในวันๆ หนึ่งเขาต้องถูกรถแท็กซี่เหล่านี้ตามประมาณ 150 คัน จนถึงจุดที่เขาทนไม่ไหวและลงจากรถไปตำหนิ ซาแซงแฟนก็ไม่พอใจที่ถูกต่อว่า จึงปิดกระจกทับมือของชางมินจนเลือดไหลออกมา

Photo credit: Hipwee

ไม่ใช่แค่ซาแซงแฟนที่ทำร้ายศิลปิน กลุ่มคนที่เรียกว่า ‘แอนตี้แฟน’ (Anti-fan) หรือคนที่แสดงออกชัดเจนว่าเกลียดศิลปินเองก็น่ากลัวไม่แพ้กัน เพราะความเกลียดชังมักจะไม่จบแค่ที่เรื่องของความรู้สึก และยังลามไปสู่ความรุนแรง ล่าสุด ‘เฉิน’ (첸) หรือ ‘คิม จงแด’ (김종대) จากวง EXO ถูกขู่ฆ่าผ่านทางแอคเคานต์ของวงบนแอปพลิเคชัน Lysn ซึ่งเขาถูกคุกคามและด่าทอโดยแอนตี้แฟนมาตลอด ตั้งแต่ประกาศว่าตนได้สร้างครอบครัวและมีลูกกับคนรักนอกวงการ แม้บทบาทหน้าที่ความเป็นพ่อและสามีของเขาจะไม่เคยส่งผลกระทบต่อการเป็นไอดอล แม้ว่าปัจจุบันเขาจะมีลูกคนที่ 2 แล้ว เฉินก็ยังถูกต่อว่าด้วยอคติ และเคยถูกคนกลุ่มนี้ตั้งชุมนุมเรียกร้องให้เขาลาออกจากการเป็นสมาชิกวง

Photo credit: 서울신문

น่าเศร้าที่การโจมตีทางอินเทอร์เน็ต (Cyber bullying) สามารถส่งผลเสียร้ายแรงต่อสภาพจิตใจได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อข้อความเหล่านั้นถูกทิ้งไว้เป็นหลักฐาน (Digital footprint) ที่ใครจะมาค้นดูก็ได้ ความบั่นทอนนั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ไอดอลบางคนมีภาวะทางจิตใจและเลือกจบชีวิตลง หนึ่งในความสูญเสียที่สะเทือนไปทั่วทั้งวงการคือการจากไปของ ‘ซอลลี่’ (Sulli) หรือ ‘ชเว จินรี’ (최진리) อดีตสมาชิกวง f(x) และเพื่อนรักของเธอ ‘คู ฮารา’ (구하라) อดีตสมาชิกวง KARA ที่เสียชีวิตห่างกันเพียงแค่เดือนเดียว

จากซ้ายไปขวา: คู ฮารา - ซอลลี่ (ชเว จินรี) | Photo credit: Tumblr

ทั้งสองคนเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกโซเชียล เกี่ยวกับพฤติกรรมการเดตและการใช้ชีวิตของพวกเธอ โดยเฉพาะซอลลี่ที่ได้รับความเกลียดชังอย่างมากจากการคบแฟนหนุ่ม สนิทสนมกับไอดอลชาย แต่งตัวในแบบที่เป็นตัวเอง และไม่สวมชุดชั้นใน (No bra) นอกจากนี้ เธอยังถูกกล่าวหาว่าใช้ยาเสพติดขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Real” และฉากเซ็กส์ซีนของเธอจากเรื่องเดียวกันก็ถูกนำมาเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตจนเป็นที่แพร่หลาย และเหล่าเนติเซ่นก็รุมทึ้งแสดลงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นก็มีการดูถูกเธอว่าเป็นผู้หญิง ‘ง่าย’ แต่ในขณะที่นักแสดงชายในซีนนั้นไม่ถูกต่อว่า ทั้งที่จุดต่างมีเพียงแค่ความเป็นชายหญิง

ด้านของฮาราก็ถูกกระแสด้านลบโถมเข้าใส่มากมายไม่แพ้กัน ในปีก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอถูกอดีตแฟนหนุ่มขู่ว่าจะปล่อยคลิปลับขณะมีเพศสัมพันธ์ถ้าหากว่าเลิกรากันไป ซ้ำร้าย เธอยังถูกตบตีแม้ว่าจะคุกเข่าขอร้อง แต่ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือการถูกตำหนิทั้งที่เธอเป็นเหยื่อ เพราะในสายตาของกลุ่มอนุรักษ์นิยม ผู้หญิงที่กระทำการ ‘เสื่อมเสีย’ ทางเพศไม่ควรได้รับแสงในวงการบันเทิง แน่นอนว่ามีฝั่งที่แสดงความเห็นใจ ถึงอย่างนั้นคำพูดเสียดแทงก็บาดลึก กลายเป็นแผลที่ไม่มีวันสมานได้

Photo credit: rahman syahputra

“เมื่อคุณตายไปแล้วนั่นล่ะ คนทั้งโลกถึงจะหันมารักคุณ” – ซอลลี่

อาจจะเป็นเรื่องดีที่พวกเธอทำให้ผู้คนจำนวนมากหันมารณรงค์เรื่องการกลั่นแกล้งบนโลกอินเทอร์เน็ต ถึงมันจะเกิดขึ้นในวันที่สายไป เราจึงได้แต่หวังว่าจะไม่มีใครเจอประสบการณ์เลวร้ายเช่นนี้อีก

ปิตาธิปไตยและการกดขี่ในวงการไอดอล

จากเรื่องของซอลลี่และฮารา หลายๆ คนคงจะทราบกันดีแล้วว่าระบบชายเป็นใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้นั้นยังคงเข้มข้นอยู่ในทุกอนูของสังคม นับเป็นเรื่องยากที่ไอดอลหญิงจะไม่เคยถูกคุกคามทางเพศ เพราะพวกเธอต้องรับมือทั้งกับคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย และการกระทำของคนในวงการด้วยกันเอง

Photo credit: Wallpaper Access

สมาชิกวง SISTAR ‘ฮโยลิน’ (효린), ‘โซยู’ (소유), ‘คัง โบรา’ (강보라), และ ‘คิม ดาซม’ (김다솜) เคยพูดกับรุ่นน้องนักแสดง ‘คิม โซฮเย’ (김소혜) ในรายการ “Star Show 360” ว่าเธอต้องระวังผู้ชายเอาไว้ “ตอนที่ยังเป็นไอดอลฝึกหัด พวกรุ่นพี่ผู้ชายจะไม่ปล่อยเธอเอาไว้หรอก รุ่นพี่ไม่ได้ใจดีทุกคน” และยังเสริมด้วยว่า “อย่าเดตพวกเขาเลย ทางที่ดีที่สุดคืออยู่บ้าน” ซึ่ง ‘อีทึก’ (이특) จากวง Super Junior ที่อยู่ในรายการก็ยังพยักหน้าเห็นด้วย

Photo credit: Hallyu K Star

อีกหนึ่งความเห็นที่ชวนให้ทั้งแฟนด้อม K-Pop ตั้งคำถามกับอุตสาหกรรม คือคำพูดของ ‘ซอ เฮริน’ (서헤린) หญิงสาวที่เคยฝึกฝนเป็นไอดอลภายใต้สังกัด SM Entertainment ก่อนจะลากกระเป๋าไปอาศัยอยู่กับพี่สาวที่ประเทศอังกฤษ บ้างก็เดาว่าเธอออกจากค่ายเพราะไม่มีวี่แววว่าจะได้เดบิวต์สักที แต่สิ่งที่เธอโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเมื่อปลายปี 2018 ทำให้การคาดเดานั้นเปลี่ยนไป เฮรินกล่าวว่าเธอจะไม่มีวันสนับสนุน “ระบบที่โปรโมตการเหยียดเพศ เหยียดรูปลักษณ์ภายนอก และล้างสมองคน” เป็นอันขาด และเธอไม่มีท่าทางว่าจะกลับมาในวงการนี้อีกเลย หลังจากจบรายการเซอร์ไววัล “Idol School” (아이돌학교)

ที่เรายกตัวอย่างมานี้ ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับไอดอลในวงการ K-Pop ยังมีอีกหลากหลายเรื่องราวด้านมืดที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังรอยยิ้มอันสดใสของเหล่าไอดอล ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน หรือทางใดจะเป็นทางออกที่แก้ไขปัญหาเรื้อรังเหล่านี้ได้ แต่สิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้เหมือนกันคือ ความตระหนักรู้ในผลจากการกระทำของตัวเอง ก่อนจะแสดงความคิดเห็น หรือพิมพ์อะไรลงไปบนโลกอินเทอร์เน็ต ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อคนอื่น ซึ่งอาจย้อนกลับมาทิ่มแทงเราก็เป็นได้ 

ติดตามและอัปเดตเรื่องราวใหม่ๆ จากพวกเราได้ที่ Exotic Quixotic

อ้างอิง

Asian Boss: https://www.youtube.com/watch?v=KdOA5BCwBi0

Koreaboo: https://www.koreaboo.com/news/fx-amber-alexa-talk-pressures-kpop-idols-stigma-mental-health/

Time: https://time.com/5892708/jessica-jung-shine-interview/

Vogue Thailand: https://www.vogue.co.th/fashion/article/sullifxreflection

MGR Online: https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000068244

Today Line: https://today.line.me/th/v2/article/3n22MM

Allkpop: https://www.allkpop.com/article/2016/10/sistar-warns-kim-so-hye-to-beware-of-male-seniors-in-the-entertainment-business

Kpopmap: https://www.kpopmap.com/netizens-think-former-sm-trainees-criticism-about-sexist-system-in-kpop-is-directed-towards-the-agency/