ในยุคที่ดนตรีฮิปฮอปและอิเล็กโทรนิกกลายมาเป็นดนตรีกระแสหลักของเมืองไทย เราได้เห็นศิลปินหน้าใหม่ที่มีความสามารถมากมาย ฮิปฮอปไม่ใช่แค่เพลง แต่มันคือวัฒนธรรม ส่วนดนตรีอิเล็กโทรนิกก็กลายมาเป็นเพลงกระแสหลักที่เข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อนแถมยังดัดแปลง Sound แตกแขนงออกไปได้หลายแนว แม้ว่าตอนนี้ฮิปฮอปจะเป็นแนวเพลงที่นิยมที่ในตอนนี้ แต่ศิลปินไทยส่วนใหญ่ก็ได้รับอิทธิพลจากศิลปินฝั่งตะวันตกเสียมาก เพลงดี ซาวน์ดี แต่อาจไม่โดดเด่นเตะตาทั่วโลก

ความนิยมของฮิปฮอปนั่นเองที่ทำให้เราได้รู้จักกับค่ายเพลง Zquad Records เป็นค่ายที่รวมกลุ่มเด็กไทยมากความสามารถและมีเอกลักษ์เฉพาะตัวมาไว้ด้วยกัน นำเสนอดนตรีฮิปฮอปและอิเล็กโทรนิกด้วยการดึงเอาความเป็นไทยและดนตรีทางฝั่งอีสานมาผสมในเมโลดี้  มีการใช้ภาษาท้องถิ่นและการเขียนที่แหวกแนวแต่สละสลวยมาบวกเข้ากับสำเนียงการร้องแบบพื้นเมือง 

หนึ่งในนั้นคือสองแร็ปเปอร์ Morlamboi และ Not'toy กับเพลง “ก.ไก่” เพลงสุดไวรัลที่นำฮิปฮอปและแทร็ปมาชนกับการแหล่และสำเนียงสุพรรณ รวมไปถึงนำเครื่องดนตรีไทยอย่างฉิ่งมาใส่ในดนตรีแทร็ปและอิเล็กโทรนิก ถือเป็นส่วนผสมที่ประหลาดแต่ลงตัวจนมียอดคนฟังบน Youtube หลักล้านแล้ว

https://www.youtube.com/watch?v=y1TGM64QRDU

กำเนิด ZQUAD Records

“จริงๆ ก็เริ่มมาจากตอนแรกเอิร์ธ (Morlamboi) กับแน่น (Posneg) รู้จักกันผ่านโต๋ รุ่นพี่ที่มหาลัยของเอิร์ท แนะนำว่ามีน้องที่ทำงานชื่อ แน่น ทำเพลงอิเล็กโทรนิกอยู่ ลองมาทำความรู้จักกันดู หลังจากนั้นก็ได้รู้จักกัน ด้วยความที่ฟังเพลงแนว Trap EDM คล้ายๆ กัน หลังจากนั้น ก็คุยกันว่าลองทำค่ายเพลงที่เป็นที่รวมแนวทางคนที่ชอบแนวเพลงนี้กันไหม เราสามคนก็เลยชวนกันตั้งค่ายชื่อว่า ZQUAD Records ซึ่งหมายถึง การลุยกันเป็นทีม จากนั้นเอิร์ทก็ชวนเพื่อนที่สนิทในกลุ่มมาช่วยกันทำ นั้นก็คือ เอ็ม (Emiryblack) ที่จัดรายการ Rap Battle ในนาม REZT และภูมิ (Poomindent) กับ อุ๊คที่เป็นช่างภาพวีดีโอเข้ามาร่วมในทีม ZQUAD Records กับเราด้วย” 

ZQUAD Records เป็นค่ายเพลงแนวไหน

“ZQUAD Records ผมมองว่า เราเป็นคอมมิวนิตี้ของคนที่ทำเพลงแนว อิเล็กโทรนิก/ฮิปฮอป (จริงๆ เคยมีคนมานิยามพวกเราว่าเป็นแนว Future Hop ด้วย) เราจะเน้นไปทางอิเล็กโทรนิกผสานงานซาวน์ดีไซน์ ซาวน์แปลกใหม่ เข้ากับดนตรีฮิปฮอปโดยที่เราไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นแนวใดแนวหนึ่ง”

เพลงหรือศิลปินที่สร้างชื่อให้กับค่ายมากที่สุด

“ถ้าเป็นในฝั่งของโปรดิวเซอร์ก็จะเป็น POSNEG (แน่น) เป็นโปรดิวเซอร์ที่มีซาวน์เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการใช้ซาวน์ของปี่มาผสมกับดนตรีอิเล็กโทรนิก ล่าสุด POSNEG ก็ได้ออกเพลงกับค่าย AVEX ทางฝั่งประเทศญี่ปุ่น เป็นการรีมิกซ์เพลง Bye Bye Boy ของนานาเซะ ไอกาวะที่เคยฮิตในไทยเมื่อสมัยก่อน”

“ถ้าเป็นในฝั่งแร็ปเปอร์ จะเป็นเพลง “รังสิตแดน” เพลงนี้ทำให้คนทั่วไปรู้จักพวกเราเลย เป็นเพลงที่เอ็ม (Emiryblack) อยากพูดอะไรเกี่ยวถิ่นที่เขาโตมา และได้เพื่อนในซอยตอนเด็ก 2 คนมาร่วมแจมนั่นคือ Blackhawk และ Arm Ohana ด้วยความที่ทั้ง 3 เป็นคนรังสิตมาตั้งแต่เด็กจนโต เลยทำให้เนื้อหาอาจจะทำคนรังสิตอินกับเพลงนี้ได้ในจำนวนมาก เพลงนี้จึงเหมือนเป็นเพลงเปิดบ้าน ZQUAD ให้วงการฮิปฮอปได้มองเห็นเรามากขึ้น” 

https://www.youtube.com/watch?v=IdfBuVAmx54

อยากให้คนรู้จัก ZQUAD Records ในแบบไหน

“เป็นกลุ่มทำเพลงที่นำเสนอไอเดีย เนื้อหา ที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร เน้นความสนุกสุดมันส์ เป็นค่ายที่พัฒนาวงการเพลงฮิปฮอป/อิเล็กทรอนิกส์ไทยให้ไปไกลอย่างมั่นคง”

มองอนาคตของค่ายไว้ยังไงบ้าง

“อยากให้คนเข้าใจว่า จริงๆ โปรดิวเซอร์ที่ทำเพลงก็สามารถเป็นศิลปินหรือเจ้าของเพลงได้ ซึ่งปกติคนจะมองว่าคนทำบีทหรือดนตรีแนวนี้ จะเป็นแค่คนทำดนตรีให้กับแรปเปอร์หรือนักร้องเท่านั้น ศิลปินแต่ละคนที่มาออกเพลงกับ ZQUAD ล้วนมีซาวน์หรือคาแรคเตอร์ที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน เช่น Posneg จะมีปี่ Hacker404 จะมีสไตล์คาวาอิแบบญี่ปุ่นหน่อย หรือ Morlamboi ที่จะผสมผสานความเป็นหมอลำเข้าไป จึงอยากให้คนเริ่มมาสนใจในดีเทลของโปรดิวเซอร์และซาวน์เพลงมากขึ้น”

Talk With Morlamboi & Not'toy

เริ่มต้นการเป็น Producer และศิลปินได้ยังไง

Morlamboi: เริ่มมาจากเป็นคนชอบฟังเพลง แล้วอยู่ๆ ก็มีความคิดว่าอยากจะทำเพลงให้คนได้ฟังกัน ก็เลยเริ่มจากมาทำเพลง ตอนแรกก็ลองผิดลองถูก ทำมาหลายแนวมาก ซึ่งก็มีโต้ย (Not’toy) นี่แหละที่ทำด้วยกันตั้งแต่เพลงแรกๆ จริงๆ แล้วก็เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่คนละคณะ ก็เริ่มต้นรู้จักมาจากตอนอยู่มหาลัย ตอนนั้นจะมีกลุ่มที่เต้น B-Boy ผมกับ Not’toy เคยอยู่ทีมเดียวกันแล้วเคยไปแข่งประกวดด้วยกัน เลยรู้จักกันมาตั้งแต่ตอนนั้น หลังจากนั้นเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ทำเพลงกันมาเรื่อยๆ แล้วก็เริ่มไปเที่ยวผับ ได้เริ่มเปิดโลกดนตรีมากขึ้น 

ช่วงแรกๆ ที่ทำก็จะทำแต่เพลง EDM เป็นหลัก จนหลังๆ ฟังเพลงมากขึ้น ได้มาทำเพลงฮิปฮอป บวกกับตอนเด็กๆ อยู่ต่างจังหวัดเลยค่อนข้างจะซึมซับมากับเพลงพวกลูกทุ่ง หมอลำเป็นส่วนใหญ่ เลยอยากจะลองผสมผสานความเป็น หมอลำ กับ ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เข้าด้วยกัน ก็เลยตั้งชื่อขึ้นมาว่า Morlamboi เราไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นหมอลำจริงๆ แต่เรานิยามว่ามันคือการผสมผสานสิ่งใหม่ๆ มากกว่า ถ้านับตั้งแต่วันแรกที่ทำเพลงมา ก็น่าจะประมาณเกือบ 8 ปีได้”

Not’toy: รู้จักพี่เอิร์ท ที่มหาลัย เราเต้น B-Boy ด้วยกัน ตอนนั้นพี่แกก็ทำเพลงแนว EDM อยู่ด้วย มีวันหนึ่งช่วงที่เพลงแร็ปกำลังฮิตพี่เอิร์ทกับทีมจัดงานปาร์ตี้แร็ปแบทเทิ้ลชื่องานว่า “โย่ว ปาร์ตี้” เลยมาถามผมว่า แร๊พเป็นไหมลองดูไหม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็เริ่มแร๊พและเริ่มแต่งเพลงมาเรื่อยๆ

เพลง “ก.ไก่” มาได้ยังไง

“ตอนนั้นผมมีความคิดว่าอยากจะทำเพลงแนว Drill ที่ผสมผสานความเป็นไทยบ้าน ก็เลยโทรไปคุยกับ Not’toy ว่ามีไอเดียอยากลองทำให้มันผสมผสานความเป็นไทย คุยถึงไอเดียต่างๆ ตอนแรกเมนไอเดียน่าจะเป็นเรื่องแนวพูดพรีเซนต์ตัวเองปกติ ซึ่งก็ค่อนข้างที่จะใช้เวลาคิดกับมันมากไม่รู้จะเล่าประเด็นอะไรดี แต่พอคุยไปๆ มาๆ ก็เลยเกิดไอเดียกันว่าทำไมเราไม่ต้องทำอะไรคลายเครียดปั่นๆ กันดู ดูตัวอย่างแบบเพลง “Man Not Hot” ของ Big Shaq ก็เลยบอก Not’toy ว่า โอเคงั้นเราหาวันไปอัดกัน แบบไปสดกันตอนนั้นเลย หลังจากนั้นผมก็ตั้งกรุ๊ป แล้วชวนน้องญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนางเอกคณะลิเกเข้ามาร่วมในเพลงนี้ ด้วยความที่ว่าอยากจะนำเสนอให้ออกมาเป็น Drill ที่มีกลิ่นไทยบ้านสนุกๆ หน่อย”

“พอถึงวันที่ไปสตู เราก็เข้าไปลองอัดเพลง ก.ไก่ กัน ซึ่งเนื้อเพลง กอเอ๋ยกอไก่ ขอไข่ในกางเกง มันเหมือนเป็นประโยคที่เราต่างพูดกันมาแต่เด็ก แต่เราอยากเอามาเล่าให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ พออัดไปได้สักพัก ก็รู้สึกว่า มันเหมือนขาดอะไรบางอย่าง ตอนนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่า โต้ย Not’toy เป็นคนสุพรรณแท้เลยนิหน่า ทำไมไม่แร็ปเหน่อๆ ไปเลย พรีเซ้นความเป็นตัวเองหน่อย หลังจากนั้นโต้ยก็เหมือนปลดล็อคทุกอย่าง อัดฮุค และเวิสเสร็จภายในสิบนาที เหมือนได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเอง พอถึงคราวน้องญี่ปุ่นเราก็ให้เข้าไปในห้องอัด แล้วบอกว่าอัดเลย ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีเนื้อเพลงว่าจะให้ร้องว่าอะไร (อาจจะเพราะผมอยากได้ความธรรมชาติแบบสดๆ) ไปๆ มาๆ ก็เกิดเนื้อเพลง กรรไกร ไข่ ผ้าไหม ที่เราชอบเล่นกันตอนเด็ก ซึ่งญี่ปุ่นก็ได้นำมาร้องในสไตล์ของการแหล่ จบลงภายในไม่กี่นาที หลังจากนั้นก็เลยไปชวน Black N Bank ที่มีสไตล์อีสานผสม เข้ามาร่วมในเพลงนี้ครับ”

ก.ไก่ ต้องการสื่ออะไรให้กับคนฟัง

“ผมมองว่า ก.ไก่ คือการที่เราเล่าเรื่อง การท่อง ก.ไก่ ในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งตอนเราเด็กก็น่าจะคุ้นเคยกับการท่อง ก.ไก่ กันทุกคน แต่หากว่าเราลองเอามาเล่าให้อยู่ในรูปแบบที่สนุกขึ้น กวนตีนขึ้น ก็อยากให้คนฟังรู้สึกว่าฟังเพลงแล้ว เป็นการคลายเครียดอย่างหนึ่งครับ”

ฮิปฮอปในแบบของ Morlamboi และ Not'toy ต่างกับฮิปฮอปในซีนดนตรีของเมืองไทยยังไง

“ในสไตล์ของ Morlamboi x Not’toy ผมคิดว่าเป็นการที่เราร่วมมือกันนำเสนอวัฒนธรรม หรือสไตล์เพลงทางเลือกให้กับคนฟัง ในส่วนของ Morlamboi จะเป็นการนำเสนอดนตรีแนวใหม่ๆ แปลกๆ ให้กับคนดูได้ฟัง ส่วน Not’toy จะเป็นการเล่าเรื่อง หรือนำเสนอกลิ่นอายความเป็นไทย พอนำมาผสมกัน ก็จะเป็นการนำเสนอความเป็นไทยที่เล่าเรื่องผ่านดนตรีสมัยใหม่”

คิดมั้ยว่าเพลงเราจะเป็นที่ชื่นชอบมากขนาดนี้

“จริงๆ ก็ไม่คิดว่าจะมีกระแสตอบรับขนาดนี้ครับ ก็เกินคาดเหมือนกัน ตอนแรกที่ทำก็รู้สึกว่าเราทำกันสนุกๆ ไม่อยากไปเครียดกันมันมาก อยากให้คนฟังรู้สึกว่าเป็นเพลงที่เราทำให้พวกเขาคลายเครียดกันได้ หรืออาจจะเครียดกว่าเดิม”

อยากเห็นวงการฮิปฮอปไทยเปลี่ยนแปลงไปทางไหน

Morlamboi: อยากให้มีเพลงใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆครับ ซึ่งเนื้อหาบนโลกนี้มันสามารถนำอะไรมาเขียนได้ทั้งนั้น สมัยนี้คนก็ค่อนข้างที่จะเปิดรับมากขึ้น แล้วด้วยความเป็นดนตรีผมเชื่อว่ามันไม่มีพรมแดนหากเราหาตรงกลางของมันเจอ 

Not’toy: สำหรับผมคิดว่าอยากให้ดนตรีฮิปฮอปไทยมีความยกระดับดนตรีมากขึ้น ผสานนำเสนอมุมมองใหม่ๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นไทยได้ชัดเจนครับ

ติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ที่ ZQUAD Records