Warning: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาและเบื้องหลังตัวละครในเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร ภาค 3 หมู่บ้านช่างตีดาบ (Kimetsu no Yaiba: Swordsmith Village Arc)

ดวงอาทิตย์เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญต่อประเทศญี่ปุ่น หรือ ‘แดนอาทิตย์อุทัย’ มาช้านาน เพราะนอกจากจะเป็นประเทศที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนประเทศอื่นๆ บนโลกแล้ว คนญี่ปุ่นยังเชื่อว่าตนถือกำเนิดจากดวงอาทิตย์ และนำสัญลักษณ์นี้ไปใส่ในธงชาติ อนิเมะมากมายเองก็เลือกหยิบดวงอาทิตย์มาเป็นองค์ประกอบสำคัญของเรื่อง เช่นเดียวกันกับอนิเมะแห่งยุค ‘ดาบพิฆาตอสูร’ ที่ตั้งให้สิ่งที่เกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์ เป็นสิ่งเดียวที่สามารถกำจัดสิ่งชั่วร้ายอย่างอสูร*ได้

ทำไมต้องเป็นแสงแดด?

พอนึกถึงแสงสว่างแล้ว คอนเซ็ปต์ที่แวบเข้ามาในหัวคงไม่พ้นความดีงามและความหวัง ถ้าลองสังเกตดู จะเห็นว่าตัวเอกการ์ตูนโชเน็นปราบปิศาจหลายเรื่องมักมีพลังเกี่ยวกับแสง นั่นก็เพราะแสงแดดเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ จึงถือได้ว่าเป็นขั้วตรงข้ามกับอสูร ที่เป็นอมนุษย์เลยทีเดียว

นอกจากนี้ อสูรกินคนในเรื่องดาบพิฆาตอสูรยังมาจากการผสมผสานระหว่าง ‘โอนิ’ (鬼) ในตำนานของญี่ปุ่นและแวมไพร์ฝั่งตะวันตก จึงมีพละกำลังเหนือมนุษย์และเพิ่มจำนวนผ่านเลือด แต่อสูรในเรื่องก็ได้รับจุดอ่อนของแวมไพร์มาด้วย ทำให้แม้อสูรจะใกล้เคียงความเป็นอมตะมาก ก็ยังไม่สามารถต้านทานแสงตะวันได้ และต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนภายใต้เงามืด

ดวงตะวันกับอสูร

ต่อให้ช่วงกลางวันจะเป็นอุปสรรคสำหรับอสูร พวกมันก็ยังออกล่ามนุษย์ในเวลากลางคืน ทางเดียวที่ฝ่ายมนุษย์ซึ่งอ่อนแอกว่าจะโต้กลับได้คือ ‘การใช้พลังปราณ’ โดยในบรรดาปราณทั้งหมดนั้น ปราณตะวันเป็นปราณที่แข็งแกร่งที่สุด จนแม้แต่ราชาอสูรอย่าง ‘คิบุตสึจิ มุซัน’ (鬼舞辻 無惨) ยังหวาดกลัว

ในภาคแรก แม้คนดูอย่างเราจะยังไม่รู้จักปราณตะวัน แต่ก็ได้รู้เรื่องกระบวนท่า ‘ระบำเทพอัคคี’ หรือ ‘ฮิโนะคามิคางุระ’ (ヒノカミ神楽) ที่สืบทอดกันมาในตระกูลคามาโดะ คำว่า ‘ฮิ’ (火) ที่แปลว่า ‘ไฟ’ นี้ออกเสียงพ้องกับตัวอักษรคันจิ ‘ดวงอาทิตย์’ (日) ในภาษาญี่ปุ่น ฮิโนะคามิเลยมีความหมายโดยนัยอีกอย่างว่าเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งก็คือ ‘เทพีอามาเทราสึ’ (天照) ของลัทธิชินโตนั่นเอง

ส่วนภาค 2 (ย่านเริงรมย์) ที่ผ่านมานี้ก็ได้มีการเปิดเผยตัวละครสำคัญอย่าง ‘สึกิคุนิ โยริอิจิ’ (継国 縁壱) แม้ว่าตอนนี้โยริอิจิจะยังไม่มีบทบาทมากนัก แต่เขาก็เป็นอัจฉริยะในตำนานที่สอนวิธีการใช้ปราณ ทำให้ฝ่ายมนุษย์สามารถต่อกรกับเหล่าอสูรได้ ปราณตะวันที่เขาใช้ก็เป็นปราณแรกเริ่ม และเป็นต้นแบบของปราณสายอื่นๆ ที่เหล่าเสาหลักนักล่าอสูรสืบทอดกันมานับพันปี

มุซันหวาดกลัวอานุภาพของปราณตะวันที่เกือบฆ่าตนสำเร็จ จึงตัดรากถอนโคนด้วยการกวาดล้างผู้มีปราณตะวัน จนไม่เหลือใครที่รู้จักปราณนี้อีก กลับกลายเป็นว่าปราณตะวันยังคงสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลคามาโดะ ในชื่อฮิโนะคามิคางุระ และคืนสู่วงการนักล่าอสูรในยุคของทันจิโร่ เพื่อกำจัดอสูรให้สิ้นไป

จุดนี้ค่อนข้างคล้ายกับตำนานเทพีอามาเทราสึ ที่ครั้งหนึ่งเคยหนีไปหลบซ่อนในถ้ำ และปิดตายขังตัวเองไว้ เมื่อไร้ซึ่งดวงอาทิตย์แล้ว ความมืดอันเหน็บหนาวก็คืบคลานโลกมนุษย์และสวรรค์ เกิดความโกลาหลทุกหย่อมหญ้า สุดท้ายเทพทั้งหลายต้องช่วยกันคิดแผนการล่อให้เทพีอามาเทราสึออกมา เมื่อนั้นแสงสว่างจึงหวนคืนสู่จักรวาล และขจัดภยันตรายทั้งมวล

กว่าจะมาเป็นดาบนิจิริน

‘ดาบเพลิงสุริยัน’ หรือ ‘ดาบนิจิริน’ (日輪刀) เป็นอีกอย่างนอกจากแสงอาทิตย์ที่สามารถใช้ฆ่าอสูรได้ การใช้ดาบตัดคอเพื่อฆ่าอสูรมีที่มาจากตำนานการปราบ ‘ชูเท็นโดจิ’ (朱天童子) โดยเรื่องเล่าบรรยายชูเท็นโดจิว่าเป็นโอนิร่างสูงใหญ่ชั่วร้ายที่มักจับหญิงสาวพรหมจรรย์มาดื่มเลือดกินเนื้อ ท้ายที่สุดมันก็ถูกกลุ่มของ ‘มินาโมโตะ โนะ โยริมิสึ’ (源 頼光) หรือ ‘ไรโค’ (らいこう) มอมเหล้าพิษจนเมา เหล่าซามูไรจึงถือโอกาสนั้นตัดหัวชูเท็นโดจิแล้วเอาไปฝัง

อาจารย์ ‘โคโยฮารุ โกะโทเกะ’ (吾峠 呼世晴) ผู้แต่งเรื่องดาบพิฆาตอสูร จึงวางให้ดาบนิจิรินเป็นอาวุธที่ฝ่ายมนุษย์นำมาใช้สังหารอสูร แต่ความพิเศษที่แท้จริงของดาบอยู่ที่ว่า มันทำมาจากแร่ที่ดูดซับแสงแดดได้ดี เมื่อใช้ฟันแล้วอสูรจะฟื้นตัวช้า และหากฟันที่จุดอ่อนอย่างคอได้ อสูรก็จะตายทันที สมกับเป็นดาบที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อกำจัดความชั่วร้ายของเรื่อง จนได้ชื่อว่า ‘ดาบแห่งดวงอาทิตย์’

นอกจากปราณตะวันแล้ว ยังมีอีกหลากหลายปราณที่แตกแขนงออกมา เช่น ปราณลม ปราณเสียง ปราณความรัก ฯลฯ สามารถรับชมความอลังการของปราณเหล่านี้ได้ในอนิเมะดาบพิฆาตอสูรภาค 3 ‘หมู่บ้านช่างตีดาบ’ คราวนี้กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยตอนแรกที่ยาวนานถึง 1 ชั่วโมง โดยก่อนที่จะออนแอร์อย่างเต็มตัวในเดือนเมษายน ค.ศ. 2023 ทาง Ufotable ก็ได้ประกาศโปรเจ็กต์พิเศษ ฉายตอนที่ 11-12 ของภาคย่านเริงรมย์ ต่อด้วยตอนแรกของภาคหมู่บ้านช่างตีดาบ ซึ่งจะมีกำหนดฉายในโรงภาพยนตร์ของ 80 กว่าประเทศทั่วโลก ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023 รอรับชมกันได้เลย!

*อสูร หรือ โอนิ คืออมนุษย์ที่เชื่อกันว่าเป็นต้นเหตุแห่งเภทภัยที่เกิดกับมนุษย์ มีจุดเด่นคือพละกำลังและรูปลักษณ์น่ากลัว อาศัยอยู่ในนรก ถ้ำ ภูเขา และเกาะที่ห่างไกล ชอบกินเนื้อสัตว์ เนื้อมนุษย์ และเหล้าเป็นพิเศษ หลายตำนานกล่าวว่าคนที่ชั่วร้ายมากๆ ตอนเป็นมนุษย์จะตายไปแล้วกลายเป็นโอนิ

ขอขอบคุณรูปภาพจาก Ufotable

อ้างอิง

Gamerant

The Oriental Economist

amorerana

Yokai

marumura