มูฯ เทพฮินดูอย่างไรให้สมหวังทันใจ? หาคำตอบได้กับ ‘เฟิน’ เจ้าของแอ็กเคานต์ ‘โอม~คเณศ ปังปัง!’

เชื่อว่าในช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา คงจะมีหลายๆ คนที่ได้ไปกราบไหว้ขอพรเทพต่างๆ ให้สมหวังในความรัก หรือกระทั่งเรื่องอื่นๆ อย่าง การเงิน การงาน สุขภาพ ฯลฯ และมีจำนวนไม่น้อยเลยที่เลือกแวะเวียนไปหาเทพฮินดู ตามความเชื่อและความศรัทธาของตน แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าทุกคนจะได้ดั่งใจหวัง กี่ครั้งก็ไม่เคยสำเร็จ จนมานั่งคิดว่าต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยสักครั้ง ซึ่งต้นเหตุนั้นไม่ใช่เพราะกรุ๊ปเลือดหรือราศีของดวงดาวอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงจะมาหาคำตอบพร้อมพูดคุยกับ ‘เฟิน’ เจ้าของบ้านแฟนเบสเทพฮินดูบนทวิตเตอร์ ‘โอม~คเณศ ปังปัง!’ ที่ทำให้การนับถือบูชาเทพเข้าถึงง่ายและจับต้องได้ บอกได้เลยว่าถ้าอยากเริ่มเป็นสายมูฯ เทพฮินดู ต้องอ่าน !!!

ความสมหวังที่ผลักให้ก้าวเข้าสู่ ‘กาเนชแฟนด้อม’

“ส่วนตัวเฟินได้มูฯ มาเกือบ 20 ปีแล้ว เพราะคุณแม่อยู่สายนาฏศิลป์ตั้งแต่เรายังเด็กๆ ก็เลยนับถือพระพิฆเนศ ซึ่งเป็นเทพแห่งศิลปะตามความเชื่อของคนไทย พอเราเข้าเรียนมหา’ลัยก็เริ่มทำความรู้จักกับเทพฮินดูมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความสนใจค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเรารู้สึกว่าตัวเองลิงก์เข้ากับเทพได้ เหมือนว่ารู้สึกได้ถึงเขา เวลาขออะไรก็ได้ตลอด เริ่มจากการไปวัดแขกแล้วก็สมหวังจากการขอพร แบบที่สมมติว่าขอปุ๊บ ออกจากวัดก็ได้ปั๊บ มันทำให้เริ่มคิดว่า เอ๊ะ หรือเราจะมาทางนี้

จุดเริ่มต้นที่ทำให้เปิดแอ็กเคานต์นี้ก็เหมือนเป็นการสนองความต้องการของตัวเองด้วย เฟินอยากทำแอ็กฯ ที่เข้าถึงง่าย เพราะบางคนอาจจะมองว่าเทพฮินดูน่ากลัว เราก็อยากทำให้เขารู้ว่าไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ก็เลยสร้างแอ็กฯ ขึ้นมา และใช้รูปโปรไฟล์เป็นพระพิฆเนศในเวอร์ชั่นตัวการ์ตูน ซึ่งแอ็กฯ นี้ก็ไม่ได้จะให้ความรู้เพียงอย่างเดียว แต่ยังเปิดโอกาสให้แฟนด้อมท่านอื่นมาแชร์ประสบการณ์กันได้อีกด้วย ประมาณว่าเราขอแบบนี้แล้วได้นะ แล้วก็เริ่มมีคนสนใจ มาติดตามกันจนยอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องเลยค่ะ”

การเผยแพร่ศาสนาและความเชื่อในรูปแบบของแฟนด้อม

“ส่วนตัวคิดว่าศาสนาหรือความเชื่อไม่จำเป็นต้องมีเส้นกั้นแบ่งอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าเข้าถึงยาก อย่างตัวเราก็ใช้ความเป็นแฟนด้อมในการอธิบายเพื่อให้คนรู้สึกว่าเข้าถึงง่าย เพราะถ้าใช้คำว่าศาสนา บางคนอาจจะรู้สึกว่าต้องปฏิบัติตามหลักคำสอนต่างๆ ที่ดูจับต้องไม่ได้และเข้าถึงยาก แต่สำหรับเทพฮินดู เท่าที่เราศึกษามา คนอินเดียเขามองว่าท่านสูงส่งและน่าเลื่อมใสมากก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็มองว่าเป็นคนในครอบครัวด้วย ประมาณว่ามีท่านคอยอยู่ข้างๆ มาตลอด ถ้าทำผิดก็สามารถมาคุยกันได้ ขัดกับหลักคำสอนของบางศาสนาที่ถ้าทำผิดก็จะต้องชดใช้หรือตกนรก เราว่าตรงจุดนี้คือความแตกต่าง หลักๆ คือความเข้าถึงง่าย”

“ผู้ศรัทธาก็เปรียบได้เหมือนเพื่อนร่วมแฟนด้อม ที่แต่ละคนก็มีเมนของตัวเอง มีวิธีบูชาที่ไม่เหมือนกัน ทำให้มันสามารถเชื่อมโยงกับความเป็นแฟนด้อมได้ และในฐานะแอดมินของบ้านเบสนี้ ก็จะพยายามทำให้มันเป็นพลังบวกของทุกคนในแฟนด้อมค่ะ”

เมนเลือกเรา หรือ เราเลือกเมน

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินเรื่องเทพประจำตัวหรือเทพที่คอยปกปักรักษาเราอยู่บ้าง ตามหลักความเชื่อของศาสนาพุทธก็อาจจะมีพระพุทธรูปให้เลือกบูชาตามวันเกิด แต่ถ้าเป็นเทพฮินดูล่ะ จะรู้ได้อย่างไรว่าใครคอยคุ้มครองหรือว่าเป็นเมนของเราอยู่ และเราสามารถเลือกเมนด้วยตัวเองได้หรือเปล่า เรื่องนี้คุณเฟินอธิบายเอาไว้แบบเข้าใจง่ายมากเลยทีเดียว

“เรามองว่ามันเป็นการเลือกของทั้งสองฝ่าย เมนเลือกเราและเราก็เลือกเมน ประมาณว่าดวงสมพงษ์กัน อาจจะมีเหตุที่ทำให้ได้เจอหรือเกี่ยวข้องกับท่านอยู่บ่อยๆ ไหว้แล้วรู้สึกสบายใจ ศรัทธาตั้งแต่แรกพบก็มี ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องมีเมนแค่คนเดียวด้วย พูดง่ายๆ คือเราสามารถติ่งใครก็ได้ที่ตัวเองชอบ สมมติว่าเป็นคนที่ชอบของสวยๆ งามๆ ก็อาจจะชอบพระแม่ลักษมี หรือถ้าอยู่สายต่อสู้ฟาดฟันก็อาจจะชอบพระแม่ทุรคา มันขึ้นอยู่กับความศรัทธาของเรา สำหรับเทพองค์อื่นๆ ที่ไม่ใช่เมน เราจะนับถือเขาเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งก็ได้ค่ะ”

‘พระพิฆเนศ’ ที่พึ่งทางจิตใจ และตัวกลางในการช่วยให้สมหวัง

ในเมื่อคุณเฟินสร้างแอ็กเคานต์ขึ้นมา โดยแสดงออกชัดเจนว่า ‘เมน’ ของเธอคือพระพิฆเนศ หนึ่งในเทพฮินดูที่มีผู้ศรัทธามากเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในและนอกศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เราจึงอดไม่ได้ที่จะถามจากมุมมองของเธอว่า ทำไมถึงมีผู้ศรัทธาในตัวท่านมากถึงขนาดนี้

“ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้คนนับถือพระพิฆเนศเยอะ ก็คงเป็นเพราะว่าท่านเข้าถึงง่าย ถ้าเอาตามตำนานคือเมื่อก่อนท่านเป็นเด็กธรรมดา ก่อนจะถูกพระศิวะบั่นเศียรเพื่อลดอัตตาในตัว พอมีเศียรของช้างซึ่งเป็นตัวแทนแห่งปัญญา ฟังให้เยอะ คิดให้มาก และด้วยความที่มีเมตตา ท่านก็เป็นเทพที่รับฟังคำขอค่อนข้างเยอะ มีอะไรก็มาเล่าให้ท่านฟังได้ เหมือนเป็นเพื่อนเป็นครอบครัวคนหนึ่ง ทำให้มีแฟนคลับเยอะตามไปด้วย คิดง่ายๆ ว่าถ้าไม่รู้จะบูชาเทพฮินดูองค์ไหนก็ให้บูชาพระพิฆเนศก่อน เพราะเทพองค์อื่นๆ ก็เอ็นดูท่าน ถ้าสมมติว่าเราขอพรในเรื่องไหนกับพระพิฆเนศ ท่านอาจจะไปดีลกับเทพเฉพาะทางในเรื่องนั้นๆ ให้เราได้ เหมือนเป็นตัวกลางในการเจรจา ไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงศรัทธาในตัวท่าน”

เมื่อมีแฟนด้อมแล้วก็ต้องมีเมิร์ช

“ต้องเท้าความก่อนว่าตั้งแต่เราเปิดแอ็กฯ แรกๆ เราก็อยากมีรูปดิสเพลย์ที่ไม่ใช่รูปถ่ายจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งเราคิดภาพเป็นพระพิฆเนศ องค์สิทธิวินายัก ก็เลยจ้างน้อง piecebypeacho มาวาดให้ แถมยังวาดรูปเฮดแถมให้ด้วย หลังจากนั้นเราก็เริ่มมีความคิดว่า ปกติเวลามีอีเวนต์ต่างๆ ของศิลปินก็จะมีแฟนคลับเอาของไปแจก แสดงว่าเราก็ทำ giveaway ของพระพิฆเนศได้นะ เมื่องานนวราตรีปีที่แล้วเราเลยจ้างน้องให้ดีไซน์ของแจก ได้เป็นพวงกุญแจกับโปสการ์ดลายพระแม่อุมาเทวีอุ้มพระพิฆเนศมา อันที่สองคือพระศิวะกับพระพิฆเนศ และเร็วๆ นี้ก็จะมีพระแม่ลักษมีกับพระพิฆเนศด้วยค่ะ มาเป็นซีรีส์ แต่เราไม่ขายนะคะ และไม่ได้ทำแจกเยอะ เพราะต้องการให้เฉพาะคนที่มาทันรับจริงๆ ไม่อยากให้มันกลายเป็นของเชิงพาณิชย์ด้วย”

สายมูฯ มือใหม่ ควรจะเริ่มที่…

“มีหลายคนที่เข้ามาปรึกษาเราว่าจะเริ่มบูชายังไงให้ถูกวิธีและได้ผล แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรมากเลยค่ะ แค่ต้องใช้ ’พวงมาลัยหนึ่งพวง น้ำหนึ่งแก้ว แล้วก็อธิษฐาน’ ขอพรไปเลย ‘ไม่ต้องบน’ มีผู้ติดตามเราคนหนึ่งทำตามแล้วก็มาเล่าให้ฟังว่าสมหวังแล้ว ขายที่ดินได้ในราคา 4 ล้าน คือขอวันหนึ่งแล้ววันถัดไปก็มีคนมาติดต่อขอซื้อเลย บางคนขอแล้วได้มากกว่าเราอีก (หัวเราะ) นอกจากเรื่องการเงิน เดี๋ยวนี้บางคนก็ไปขอเรื่องการสอบเข้า กดบัตรคอนเสิร์ต หรือสุ่มแฟนไซน์ก็มีค่ะ อย่างที่เคยมีคนไปขอพระพิฆเนศแล้วได้ ตอนนี้ท่านก็เลยโด่งดังในเรื่องการให้บัตรคอนฯ กับสิทธิ์แฟนไซน์ไปด้วย”

ยิ่งศรัทธา = ยิ่งสมหวัง

“เฟินเชื่อว่า ‘ถ้าเราศรัทธา ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นได้เสมอ’ เราเคยถามเพื่อนคนหนึ่งที่เมนพระพิฆเนศเหมือนกันว่า คิดว่าพระพิฆเนศมีจริงไหม เขาก็ตอบกลับมาว่า ไม่รู้หรอกว่ามีจริงหรือไม่จริง แต่ถ้าศรัทธาแล้ว ยังไงท่านก็มีจริง หลักๆ มันอยู่ที่ความศรัทธาเลย แต่ก็มีบางคนที่มาขอพรกับท่านโดยหวังว่าจะต้องได้อะไรสักอย่าง แค่เพราะเห็นคนอื่นเขาได้ แต่ใจไม่ได้ศรัทธาจริงๆ”

“ถ้าใครมาถามเราว่าต้องเริ่มบูชายังไง เราจะตอบเสมอว่าให้เริ่มที่ศรัทธาก่อน มันไม่สูตรตายตัวว่าต้องทำยังไง แต่ต้องมีความศรัทธาอยู่ในนั้น”

เมื่อได้ยินคำตอบแบบนี้แล้ว เราจึงถามคุณเฟินต่อว่า นอกจากการไร้ศรัทธาแล้วยังมีเหตุผลอื่นอีกไหม ที่ทำให้ขอพรแล้วไม่ได้ดั่งใจหวัง อย่างบางคนที่เคยขอคนรักจากพระแม่ลักษมี แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมาสักที

“ในกรณีที่ขอพรเรื่องความรักจากพระแม่ลักษมีแล้วไม่ได้ คือท่านเป็นเทพแห่งโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ ถ้ามีอะไรแล้วมันสามารถเติมเต็มให้ชีวิตของเราดีขึ้นได้ ท่านก็จะให้”

“ของบางอย่างก็ต้องมีการทำบุญร่วมกับการขอ ยิ่งถ้าขอเรื่องใหญ่ๆ ก็ต้องทำบุญใหญ่ เปรียบกับการสะสมแต้มเพื่อแลกของก็ได้ค่ะ ต้องดูว่าแต้มของเรามีเยอะพอไปแลกของสิ่งนั้นหรือยัง”

แต่ถ้าทำอะไรต่างๆ แล้วยังไม่ได้ เราก็ต้องมาพิจารณาดูอีกที เพราะมันมีเรื่องของบุญ, เจ้ากรรมนายเวร และอีกอย่างที่คนมักจะลืมก็คือ ‘ก่อนขอพรกับเทพองค์ไหน ให้สวดมนต์บทประจำของเทพองค์นั้นๆ ก่อน’ ถ้าอยากให้แน่ใจ อาจจะไปขอกับพระพิฆเนศก่อน แล้วค่อยขอกับเทพเฉพาะทางเรื่องที่อยากขออีกที อย่างเช่น ขอพรพระพิฆเนศแล้วจึงไปขอกับพระแม่อุมาเทวี ท่านจะได้เอ็นดูเราเป็นพิเศษ เพราะเรานับถือลูกของท่านด้วย”

ทริคที่ช่วยให้ขอแล้วสมหวังได้จริง

“ส่วนตัวจะเน้นการพูดตรงๆ ค่ะ ไม่ต้องอ้อมค้อม”

“อยากได้อะไรพูดเลย เปรียบเทียบกับการออดิชั่น กรรมการเขาไม่มีเวลามานั่งฟังเราทั้งวัน เพราะฉะนั้น ก็ต้องรีบโชว์จุดเด่นของเราภายในระยะเวลาสั้นๆ การขอพรก็เหมือนกัน”

“ในวันหนึ่งมีคนมาขอพรกับท่านเยอะ ‘ควรขอให้ง่ายและกระชับ’ ท่านจะได้ไม่ลืม เท่าที่สังเกต คนที่ขอพรแล้วได้เร็วจริงๆ ก็คือคนที่รักษาสัจจะ พูดไปแล้วว่าจะทำอะไรก็ต้องทำจริงๆ และถ้าสำเร็จก็ให้กลับมาไหว้ท่านอีก จะได้สร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันค่ะ”

5 สิ่งที่ห้ามลืม เมื่อคิดจะมูฯ เทพฮินดู

1. ห้ามถวายเนื้อสัตว์ เพราะเทพทุกองค์เป็นมังสวิรัติ และห้ามนำเนื้อสัตว์เข้าไปในบริเวณวัด

2. ห้ามถวายขนมไทย เพราะขนมไทยส่วนมากมีส่วนผสมของไข่ ยกเว้น ‘ขนมโค’ ที่ไม่มีส่วนผสมของไข่

3. ไม่ทานเนื้อวัว เพราะวัวคือพาหนะของพระศิวะ

4. ให้ขอพรกับพระพิฆเนศก่อนขอพรกับเทพองค์อื่นๆ

5. กระซิบคำขออีกรอบที่หูของหนูมุสิกะ เพราะเป็นเหมือนเลขาส่วนตัวของพระพิฆเนศ ที่จะคอยกำชับคำขอให้ท่านไม่ลืม คนอินเดียเชื่อว่ากระซิบแล้วจะสมหวังเร็วขึ้น