Daily Pickup

Be Melodramatic – เมื่อชีวิตถึงวัยสามสิบ

“เมื่อเราเข้าวัยสามสิบ สิ่งที่เราคิดในวัยเด็กมันใกล้จะเป็นจริงแล้วหรือยัง?”

‘Be Melodramatic’ (멜로가 체질) ซีรีส์เกาหลี 16 ตอนจบที่ตีแผ่ชีวิตช่วงวัยสามสิบได้ครบรสและถ่ายทอดทุกอนูความรู้สึกของตัวละคร นำเสนอความเป็นจริงในชีวิตที่จะทำให้คนดูมองในมุมคนวัย 30 ปีแตกต่างออกไป ทั้งในเรื่องของความรัก ความฝัน ความสมบูรณ์แบบ และความไม่สมบูรณ์ของชีวิตรักหรือมิตรภาพ คุณจะส่งเสียงหัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมกับนักแสดงนำที่น่าทึ่งอย่าง ‘ชอนอูฮี’ (천우희), ‘จอนยอบิน’ (전여빈) และ ‘ฮันจีอึน’ (한지은) ที่โลดเล่นในวงการภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีมาอย่างยาวนาน ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของชีวิตจนสามารถดูทีเดียว 16 ตอนรวดโดยไม่รู้ตัว

เรื่องดำเนินโดยตัวละครหลักสามคน ‘อิมจินจู’ (임진주 – รับบทโดย ซอนอูฮี), ‘อีอึนยอง’ (이은영 – รับบทโดย จอนยอบิน) และ ‘ฮวังฮันจู’ (황한주 – รับบทโดย ฮันจีอึน) พวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยมหา’ลัยและเข้าสู่วัยสามสิบด้วยกัน อิมจินจูเป็นผู้ช่วยนักเขียนบทละคร เธอมีความฝันและความทะเยอทะยานในสายอาชีพ อีอึนยองเป็นผู้กำกับสารคดี เธอชอบดูสารคดีตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และในปัจจุบันก็ได้บริหารบริษัทโปรดักชันของตัวเอง ฮวังฮันจูเป็นพนักงานทีมการตลาดของบริษัทผลิตละคร เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทุ่มเทเพื่องานและลูกจนถึงที่สุด 

บทสนทนาของตัวละครแต่ละตัวนั้นเขียนได้ไร้ที่ติ ตรงประเด็น และสัมพันธ์กัน สาเหตุหลักที่แฟนๆ ซีรีส์เกาหลีหลายคนติดใจ เป็นเพราะบทพูดที่จะทำให้คุณหัวเราะ ร้องไห้ และพยักหน้าให้กับเรื่องจริงที่สะท้อนผ่านจอ บทสนทนาอันยอดเยี่ยมจากซีรีส์เรื่องนี้อาจจะทำให้คุณอยากลุกไปหยิบปากกาและสมุดโน้ตเพื่อจดไว้เตือนตัวเองทุกวัน การรับชม Be Melodramatic ไปทีละตอนทำให้เราได้เติบโตไปพร้อมกับตัวละครทุกตัว เหมือนกับค่อยๆ ได้ซึมซับความรู้สึกและผูกพันไปด้วยกัน ทั้งกับตัวละครหลักและสมทบ แม้ในตอนแรกๆ เนื้อเรื่องจะยังคงมีความเนิบนาบ แต่มันคือแผนที่นักเขียนบทและผู้กำกับวางไว้ให้เราค่อยๆ ติดกับความรู้สึก และโจมตีเราด้วยปมต่างๆ ของตัวละครแต่ละตัวในรวดเดียว

ซีรีส์จะค่อยๆ นำเสนอชีวิตของตัวละครหลักไปอย่างเรียบง่าย ไม่ยืดเยื้อ ตัดฉับเข้าประเด็นต่างๆ โดยไม่ได้กระชากความรู้สึกของคนดูเลย ความงดงามของมิตรภาพระหว่างเพื่อนรักทั้งสามแสดงให้เห็นว่าพวกเธอปลอบโยนกันอย่างไร ผ่านการกระทำที่แบ่งปันความรู้สึกสบายๆ หลังจากใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งวัน ด้วยเบียร์และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเป็นอะไรที่เรียบง่ายมาก แต่ถือเป็นจุดเด่นของ Be Melodramatic เลยก็ว่าได้ เพราะมันสามารถเข้าถึงคนได้หลายวัย ไม่จำเป็นต้องอายุสามสิบถึงจะเข้าใจการใช้ชีวิตแบบนี้ นักเขียนชอบบทของซีรีส์เรื่องนี้ตรงที่มันให้ความรู้สึกว่า อายุสามสิบที่ใกล้เข้ามานั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร มันก็แค่ตัวเราคนเดิมกับช่วงอายุที่เพิ่มขึ้นเฉยๆ และแน่นอนว่ามันต้องมีความกดดันในชีวิต เพราะจะมีคำว่า “อายุ 30 แล้ว” ที่คอยบีบคั้นเราอยู่ แต่เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่ามันเป็นเพียงจุดผ่านของชีวิตที่เราเติบโตขึ้น ปัญหาที่เคยเจอตอนอายุน้อยกว่านี้ เราก็อาจจะตัดสินใจหรือแก้ไขมันได้ในวิธีที่ดีกว่า แม้ว่า Be Melodramatic จะมีฉากโรแมนติกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เน้นที่มุมมองความรักต่อผู้ชายอย่างที่มักจะมีในละครเกาหลีกระแสหลัก ตัวละครหญิงทั้งหมดที่ปรากฏในเรื่องนี้ รวมทั้งตัวละครสนับสนุน ต่างทุ่มเทอย่างมากในเรื่องของอาชีพการงาน ความเป็นตัวของตัวเอง การพัฒนาตนเอง และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำหรับการกระทำของพวกเขาหลายครั้งในเนื้อเรื่อง โดยปราศจากเรื่องรักใคร่อย่างที่เห็นในซีรีส์รักโรแมนติกทั่วไป

Be Melodramatic หลุดพ้นจากแบบแผนของซีรีส์เกาหลีในอดีต ขณะที่ยังคงให้ความรู้สึกครบรสและสอดแทรกมุกตลกมาให้เราคลายเครียดอยู่ด้วย ช่วยให้คนดูมีทางเลือกใหม่ๆ อีกทั้งยังแฝงเรื่องความหลากหลายทางเพศ และตั้งคำถามเกี่ยวกับบรรทัดฐานความเท่าเทียมทางเพศได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะเดียวกันก็แสดงภาพที่อบอุ่นหัวใจตามแบบฉบับซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ สำหรับนักเขียน ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้อาจจะอยู่นอกกระแส แต่ก็อยากให้ทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้ลองรับชมดูสักครั้ง เพราะนักเขียนเองก็ได้ข้อคิดอะไรมากมายจากเรื่องนี้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์เกาหลีที่ตลกขบขัน สมเหตุสมผล และจะอยู่ในใจคนดูไปอีกนานแน่นอน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก JTBC