Art

The Perfect Little Love Song: เส้นทางสายดนตรี และเพลงรักธรรมดาที่แสน ‘Perfect’ ของ ‘Blackbeans’

วงอินดี้หน้าใหม่ที่เดินตามความฝันของตนเองสมัยมัธยมจนมีผลงานเพลงมากมาย และเป็นศิลปินที่คนในวงการอินดี้คุ้นหูเป็นอย่างดี กับ Blackbeans 4 หนุ่ม สายเลือดป็อปร็อก ได้แก่ ‘บูม’ – พีรวิทย์ จิตการุณ (นักร้องนำ), ‘ทาม’ – นฤเบศร์ พัวพันบุญ (กีตาร์), ‘เกม’ – นันทกร พันธ์วุ้น (เบส) และ ‘พีท’ – นลธวัช บัวเผื่อน (กลอง) ที่จะมาเล่าถึงเส้นทางการเติบโตในวงการดนตรี มุมมองและตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา รวมถึงเพลง 'Perfect' ซิงเกิลใหม่ของวง ที่เปรียบเทียบเรื่องความรักในบรรยากาศที่แตกต่าง

Blackbeans รวมตัวกันมาได้อย่างไร?

พีท: เราเป็นเพื่อนมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี เริ่มจากเราที่เป็นมือกลอง กับทาม (มือกีต้าร์) เล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่มัธยมต้น ส่วนบูมกับเกมเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน และสมาชิกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนมาเป็น 4 คนนี้ และทำงานด้วยกันมาจนถึงตอนนี้

ซึ่งจริงๆ เราเป็นวงประกวดของโรงเรียน เพราะตอนนั้นอาจารย์ต้องการหาวงไปประกวดนอกโรงเรียน ก็เลยเป็นพวกเรานี่แหละ ซึ่งกว่าจะรวมตัวกันได้ก็ใช้ระยะเวลานานพอสมควร

เกม: ย้อนกลับไป 12 ปี มีพีทกับทามตั้งวงกัน มีสมาชิกหลายท่าน และวง Blackbeans ในมุมมองของผมเป็นวงประจำโรงเรียนที่มันโคตรเท่ จนสุดท้ายผมขึ้น ม.4 ผมก็ได้เข้าวง และรับอานิสงส์ความเท่ไปด้วย (หัวเราะ) ส่วนเราก็ทาบทามบูมเข้ามาอยู่ในวง

บูม: เราเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ถ้าให้ไปร้องเพลงบนเวทีเมื่อก่อนเป็นไปไม่ได้เลย แต่อยู่ดีๆ พวกเราน่าจะมีจุดๆ หนึ่งที่พอเราฟังเพลงแล้วความร็อคเข้ามาอยู่ในสายเลือด และมีอะไรบางอย่างที่เหมือนๆ กัน ตอนแรกก็ทำคัฟเวอร์ก่อน ไม่คิดว่าจะเข้ามาอยู่ในวง

เริ่มทำเพลงจริงจังตั้งแต่เมื่อไร?

พีท: ผมว่าเป็นช่วงรอยต่อ หลังจากที่รู้สึกว่าอิ่มจากการประกวด ก็เริ่มอยากมีเพลงเป็นของตัวเอง

ทาม: จริงๆ ผมอยากให้บูมมาร้องเพลง มาทำเพลงด้วยกัน แต่ตอนนั้นบูมมีวงของตัวเองอยู่ ซึ่งวงของเขาค่อนข้างนักเลงนิดนึง (หัวเราะ) เราก็ไม่กล้าชวนให้มาอยู่วงด้วยก็เลยชวนมาลองคัฟเวอร์ก่อน แต่ใจจริงๆ ก็คิดไว้แล้วว่าอยากจะทำเพลง

บูม: ให้พูดตามตรง วงผมพึ่งเริ่มทุกคน ไม่มีใครเคยเล่นดนตรีจริงจังขนาดนั้น และพวกพี่เขาก็มีความสามารถในการทำเพลงเบื้องต้น ผมก็อยากจะลองทำสิ่งใหม่ๆ ดู ซึ่งตอนแรกยังจับจุดไม่ได้ พอพี่ทามแต่งเพลงแรกขึ้นมา มันเหมือนเป็นการวางรากฐานให้กับ Blackbeans อย่างแท้จริง ก็คือเพลง 'Moon' เป็นเพลงแรกของ Blackbeans ที่ได้ปล่อย เป็นภาษาที่สวยมาก เราไม่คิดว่าจะมีเพลงแบบนี้ ซึ่งในตอนนั้นเรายังไม่มีฐานแฟนเพลงมากพอ จนมีเพลงที่เหมือนเป็นประตูเปิดทำให้ได้รู้จักกับทุกคน ก็คือเพลง 'Wish' เหมือนเป็นหนึ่งในเพลงหลักของเราไปแล้ว

ทาม: หลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มต้นการทำเพลงแบบจริงจัง ซึ่งปกติเราจะไปประกวดที่อื่นเพื่อให้ได้เงินรางวัล หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าเบื่อแล้ว อยากมีผลงานเป็นของตัวเองบ้าง ก็เลยได้บูมเข้ามาอยู่ในวง และหลังจากนั้นก็ตั้งใจทำเพลง

แนวเพลงของ Blackbeans เป็นอย่างไร?

พีท: ในสายเลือดพวกเราเป็น Pop Rock สมัยตอนเล่นประกวดเป็น Punk Rock แต่เพลงที่หลายๆ คนได้ยินอาจจะเป็นแนว Dream Pop ที่มีความ Alternative ผมว่าเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอของ Blackbeans แต่เราอาจจะค่อยๆ เสริมในหลายสัดส่วนเข้ามาเพื่อให้วงมันมีมิติมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้คือทิศทางที่กำลังจะทำในอัลบั้มนี้ด้วย และถือเป็นการเดินทางที่ท้าทายสำหรับพวกเรา

เสน่ห์ของเพลงจาก Blackbeans คืออะไร?

ทาม: บรรยากาศของเพลงคือ สิ่งที่ทำให้ Blackbeans แตกต่าง ซึ่งเนื้อเพลงก็คือส่วนหนึ่ง แต่ผมคิดว่าซาวด์สำคัญมาก พอเอามาเข้ากับเนื้อร้อง ทำนอง บรรยากาศ มันจะมีองค์ประกอบบางอย่างที่ทำให้รู้ว่า นี่แหละ! คือเพลงของ Blackbeans ซึ่งผมว่ามันดีนะ แต่ถ้าทำเยอะไปมันอาจจะจำเจ ก็เลยอยากเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลาในทุกๆ อัลบั้ม

อะไรคือแรงบันดาลใจในการแต่งเพลง?

ทาม: เพลงของ Blackbeans ไม่ได้มีความจริงมาเกี่ยวข้อง เราอยากจะแต่งให้มันดีที่สุด อยากแต่งเพลงนี้ให้กำลังใจใครสักคนที่มีประสบการณ์คล้ายกัน ให้มาแชร์ต่อๆ กัน และเราก็ภูมิใจมากๆ กับเพลงที่เราทำ ทุกเพลงเราพยายามทำให้เต็มที่ ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นแนวนี้ตลอดไป หรือใช้วลีสวยงามตลอดไป ขึ้นอยู่กับบริบทของตอนนั้นด้วย เรามองว่าทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความสุขแล้วมันจะลื่นไหลไปเอง

อย่างเพลงที่ Blackbeans ทำ เรามีหลายเดโม่มาก เพื่อที่จะตัดสินใจเอาเดโม่ของเพลงไหนมาอยู่ในอัลบั้มบ้าง ซึ่งก็จะมีความครึ่งๆ ระหว่างผู้ฟังสามารถฟังได้ง่าย และเพลงที่แสดงถึงกลิ่นของวง พอมารวมกันทำให้อัลบั้มมันดูมีมิติมากขึ้น และในส่วนของยอดวิวมันเกินคาดมากๆ มันสำคัญสำหรับเราเช่นกัน ถ้าไม่มียอดวิวเยอะ เราก็ไม่สามารถทำต่อได้ ถ้าเราไม่มีเพลง 'Wish' ที่เป็นประตูเปิดที่ทำให้ทุกคนรู้จักพวกเรามากขึ้น ก็คงทำให้กลุ่มผู้ฟังหายไปไม่มากก็น้อย

ความรักในมุมมอง Blackbeans คืออะไร?

บูม: เพลงส่วนใหญ่ที่เราได้ยินไม่ว่าในไทยหรือต่างประเทศ มองว่าความรักมันเข้าถึงง่าย ทุกเพศทุกวัยสามารถมีความรักได้ พวกผมก็มีความรัก เราสามารถพูดเรื่องนี้ได้ไม่จำกัด ซึ่งแต่ละวงจะมีมุมมองความรักแตกต่างกัน และสามารถนำไปใช้ในแบบของตัวเองได้ไม่รู้จบ

ทาม: ในมุมของเรา เรามองว่าความรักคือการกระทำ สิ่งที่เราทำกับคนอื่น และคนอื่นทำกับเราแบบนั้น ถ้าเรารักเขาฝ่ายเดียวก็อาจจะไม่ใช่ความรัก

Blackbeans มีใครเป็นไอดอลบ้าง?

พีท: วง 5 Seconds of Summer เป็นวงหนุ่มออสเตรเลีย ที่เป็นไอดอลพวกเราตั้งแต่สมัยมัธยม

ทาม: จริงๆ วง 5 Seconds of Summer ก็เป็นเหมือนประตูบานแรกที่ทำให้เราเปิดไปฟังเพลงสากลด้วยซ้ำ ด้วยลักษณะท่าทาง แนวดนตรีที่เล่น และบุคลิก ก็ทำให้อยากเป็นเหมือนพวกเขา แต่พอโตขึ้นแต่ละคนก็จะมีไอดอลแตกต่างกันไป อย่างพีทก็จะชอบ G-Dragon ส่วนผมชอบ Coldplay

บูม: จริงๆ พวกเราชอบคล้ายๆ กัน ผมชอบ Coldplay กับ Kodaline

เกม: มีหลายศิลปินที่ชอบเลย แต่หลักๆ ก็ Coldplay ที่เรามองว่าที่สุดแล้ว

มีแพลนจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ไหม?

ทาม: แน่นอนครับ ปีหน้า ไม่เกินกลางปี เดี๋ยวรอให้อัลบั้มที่ 3 ของพวกเราเสร็จ เราจะจัดคอนเสิร์ตใหญ่ ซึ่งตอนนี้ก็มีคุยคอนเซ็ปต์คร่าวๆ แล้ว ในคอนเสิร์ตมีเซอร์ไพร์สแน่นอน

คิดว่าวงการดนตรีในไทยในตอนนี้เป็นอย่างไร?

บูม: ในตอนนี้มีศิลปินมากมายเกิดขึ้นทุกวัน ผู้ฟังก็ฟังเพลงมากขึ้น วงดนตรีก็มีเพลงออกมาให้ฟังมากมาย ผมว่าตลาดเพลงไทยตอนนี้กำลังเติบโตได้ดี ในวงการดนตรีอินดี้บ้านเราอยู่ก้ำกึ่งระหว่างอินดี้กับแมส

พีท: พอมีคนฟังเยอะขึ้น ตลาดการฟังเพลงใหญ่ขึ้น พอคนฟังมีทางเลือกมากขึ้น พวกเขาก็จะได้เสพความเป็นตัวตนของศิลปินที่มากขึ้นเช่นกัน โลกของการฟังเพลงค่อนข้างไปเร็ว และเปิดกว้างมากๆ ได้มีการเสพวงดนตรีหลากหลายแนวมากขึ้น ผมว่ามันเติบโตไปในทิศทางที่ดีเลย

ก้าวต่อไปของ Blackbeans คืออะไร?

บูม: ตอนนี้ในอัลบั้มที่ 3 เราจะลองกลับไปสู่รากเหง้าที่มีความร็อกมากขึ้น แต่ไม่เสียความเป็นตัวตน ก็ยังคงเป็น Blackbeans ในแบบที่ผู้ฟังหลายๆ คนชอบ ซึ่งล่าสุดได้ปล่อยซิงเกิลแรกของอัลบั้มที่ 3 ชื่อเพลง 'Perfect' เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับพวกเรามาก หวังว่าทุกคนจะชอบการเดินทางครั้งใหม่ของพวกเรา

เพลง 'Perfect' สื่อถึงเรื่องอะไร?

บูม: เป็นการเปรียบเทียบในเรื่องความรัก เกี่ยวกับหญิงสาวที่เรารักว่า ต่อให้เราจะเอาดอกไม้มาเปรียบกับความสวยของเธอก็ไม่สามารถเทียบกับความสมบูรณ์แบบของเธอได้เลย

เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน?

ทาม: ผมว่ามันไม่ใช่แรงบันดาลใจ แต่มันคือ สิ่งปกติที่ผมทำอยู่แล้ว ชอบแต่งเพลงอยู่แล้ว เหมือนผมนั่งคิดไปเรื่อยแล้วก็เขียนเพลงออกมา ทั้งที่ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวไม่ได้เยอะ

Mood & Tone ของเอ็มวีเพลงนี้เป็นอย่างไร?

เกม: เราให้ทางเอ็มวีครีเอทออกมาเลย เราวางคอนเซ็ปต์ไว้ว่า ต้องการความสนุก และเขาได้นำไปสร้างคาแรคเตอร์ให้กับพวกเรา ตอนแรกเราก็ตกใจ เพราะมันเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเราด้วย

ทาม: ต้องพูดตามตรงว่าเราไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน เหมือนเป็นการก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซน จริงๆ เราอยากทำอะไรใหม่ๆ บ้าง ผมคิดว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องกลับไปแบบเดิม แบบเดิมที่เป็นแบบใหม่ ซึ่งเพลงนี้เราทำมาเพื่อแก้เลี่ยนเฉยๆ แต่ก็ยังมีเพลงที่เรามองว่าสามารถเสิร์ฟแฟนเพลง Blackbean ได้แน่ คือเพลงต่อไปที่กำลังจะปล่อย ชื่อเพลง 'How are you' เพลงนี้มีความเป็นซิกเนเจอร์ มีองค์ประกอบต่างไป บรรยากาศเหมือนเดิม แต่อยู่ในช่วงเวลาที่โตขึ้น อยากให้รอฟัง เราตั้งใจทำมาก

พีท: ในเอ็มวีตัวนี้มันค่อนข้างยากตรงที่เป็นสิ่งใหม่สำหรับเรา และต้องเล่นเองให้สนุกด้วย มันแปลกใหม่ทั้งเรื่องของบทบาท Mood&Tone ภาพรวมต่างๆ มันต่างจากที่เราเคยเป็นอยู่ แต่ความยากคือการเจอสิ่งใหม่ยังไงให้เราสามารถปรับตัวได้เร็ว

Blackbeans มีผลงานอะไรให้ชาว EQ ติดตามได้บ้าง?

บูม: เพลง 'Perfect' ของพวกเราก็ได้ปล่อยไปในทุกช่องทางเป็นที่เรียบร้อย ไปตามฟังกันนะครับ หวังว่าทุกคนจะชอบการเดินทางครั้งใหม่ของพวกเรา ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

ติดตามผลงานของ Blackbeans ได้ที่

YouTube: Blackbeans

Facebook: BlackBeans

Instagram: blackbeanssss