Daily Pickup

#BookTok เทรนด์รักการอ่านชาว Gen Z

วาทกรรมคนรุ่นใหม่ไม่รักการอ่านอาจไม่ใช่ความจริงอีกต่อไป เมื่อเทียบสถิติในปี 2019 สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยข้อมูลว่าประชากรไทยอายุ 15-24 ปี มีเปอร์เซ็นต์การอ่านหนังสือมากที่สุด และใช้เวลาอ่านหนังสือเฉลี่ย 109 นาที/วัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลเพราะพฤติกรรมการอ่านของคนในช่วงวัยดังกล่าวมีแนวโน้มขยันอ่านเพื่อการศึกษาเป็นหลัก รองลงมาคือการอ่านเพื่อความบันเทิงที่รวมทั้งนิยายและการ์ตูน

จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 ส่งผลกระทบให้คนทุกช่วงวัยต้องใช้ชีวิตประจำวันอยู่ติดบ้าน กิจกรรมนันทนาการนอกบ้านจึงเป็นอันต้องถูกปัดตกไปเป็นเวลาหลายปี จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมองหากิจกรรมผ่อนคลายที่สามารถทำได้เองที่บ้าน กิจกรรมแรก ๆ ที่คนเราจะนึกออกก็คงไม่พ้น: การอ่านหนังสือ

       แต่จะอ่านคนเดียวแล้วจบไปในยุคสมัยที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงโซเชียลมีเดียได้ก็อาจจะดูเงียบเหงาไปหน่อย เพราะฉะนั้นนอกจาก Facebook และ Instagram แล้ว เหล่าผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok จึงเริ่มใช้เจ้าแอปนี้เป็นตัวช่วยในการเรียกคนมาอ่านหนังสือด้วยกันแก้เหงา ถือกำเนิดแฮชแท็ก #BookTok (เป็นการรวมคำว่า Book และ TikTok เข้าด้วยกัน) และในปัจจุบันมีผู้ใช้งานอัปโหลดวิดีโอขนาดสั้นพร้อมติดแฮชแท็ก #BookTok นี้เป็นจำนวนมากกว่า 30.6 ล้านโพสต์เข้าไปแล้ว

       และด้วยความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องของ #BookTok ไม่ใช่แค่นักอ่านเท่านั้นที่ผลิตวิดีโอสั้น ทางนักเขียนจำนวนไม่น้อยก็ใช้โอกาสนี้โปรโมทผลงานผ่านช่องทางนี้ สร้างความใกล้ชิดกับผู้อ่านมากขึ้น เป็นการเปิดช่องทางพูดคุยและรับฟังความคิดเห็นร่วมกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

เล่มนี้มันต้องมี

       เคยมั้ยที่นอนไถ Tiktok อยู่แล้วเจอครีเอเตอร์ 3-4 คนแนะนำหนังสือเรื่องเดียวกันจนผู้รับสารอย่างเราเกิดกิเลส รู้ตัวอีกทีก็กดเข้าแอพพลิเคชัน E-Commerce หยิบเรื่องที่เขาออกปากชมกันว่าดีอย่างนั้นเริ่ดอย่างนี้ใส่ตะกร้าจนได้ แถมสมัยนี้ก็มีฉบับ E-book ให้บริการอย่างแพร่หลายมาพร้อมกับราคาที่เบากว่าฉบับเล่มพิมพ์

       การที่คอนเทนต์รีวิวหนังสือใน TikTok ได้รับการแพร่หลายมากขึ้นถือเป็นเรื่องที่ดีในสังคมคน Gen Z เนื่องจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียในช่วงอายุ 18-24 มีการใช้งาน TikTok มากเป็นอันดับ 1 (อ้างอิงจาก: Insightera) และด้วยช่องทางการซื้อขายหนังสือที่มีให้เลือกหลากหลาย ควบคู่กับคอนเทนต์วิดีโอแนะนำหนังสือสั้น ๆ ไม่เกิน 1 นาทีที่ใครก็เข้าถึงง่ายแบบในทุกวันนี้ ยิ่งนับเป็นตัวผลักดันให้คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจการอ่านหนังสือมากขึ้น อาจด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวจะตามเทรนด์ไม่ทัน หรืออยากรีบเก็บเข้ากองดอง แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การมีอยู่ของแฮชแท็ก #BookTok ก็ได้ช่วยป้ายยาให้คนรุ่นใหม่มองเห็นความสำคัญของวงการหนังสือ

       เมื่อดูผลสำรวจงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 51 ระหว่างวันที่ 30 มี.ค. – 9 เม.ย. 2023 โดยเก็บข้อมูลจากผู้ร่วมงานจำนวน 1,696 คน พบว่าผู้เข้าร่วมงานอายุระหว่าง 23-28 ปีมีจำนวนมากที่สุด (22.4%) ในขณะที่ช่วงอายุ 19-22 ปี (16.1%) มีมากเป็นอันดับ 3 และ 15-18 ปี (10.7%) มีจำนวนอยู่ที่อันดับ 6 จึงอนุมานได้ว่าชาวไทย Gen Z (ปัจจุบันอายุระหว่าง 12-27 ปี) ที่ชีวิตติดโซเชียลนั้นมีจำนวนไม่น้อยที่ให้การใส่ใจกับการอ่าน

ร้านหนังสืออิสระยังไม่ตาย

     แม้ว่าความนิยมของผู้บริโภคในการซื้อหนังสือตามร้านขนาดใหญ่จะสูงกว่าการซื้อจากร้านเล็ก ๆ ไร้แฟรนไชส์หลายเท่าตัว แต่ไม่ได้แปลว่าร้านหนังสืออิสระในประเทศไทยจะสูญหายไป ในกทม.ยังมีร้านหนังสืออิสระเปิดให้บริการและมีคนแวะเวียนไปอุดหนุน​อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Dasa Book Cafe ร้านหนังสือมือสองขนาด 3 ชั้น มีบริการเครื่องดื่มให้ลูกค้า ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 26 และ 28, Fathom Bookspace ซอยสาทร 3 ที่เป็นทั้งร้านหนังสือ คาเฟ่ และพื้นที่จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนรักหนังสือ, และยังมี Siwilai Cafe ถนนเจริญกรุง คาเฟ่น่านั่งมาพร้อมโซนจัดแสดงหนังสือเก่าหายาก และบางเล่มก็วางขายให้ลูกค้าที่มาทานอาหารสามารถซื้อกลับบ้านได้

   พื้นที่นอกกรุงเทพฯเองก็ไม่น้อยหน้า ถึงจะจำนวนไม่เยอะ แต่ต่างจังหวัดก็มีร้านหนังสือขนาดเล็กดูอบอุ่นน่าเข้าเปิดทำการ ทั้งร้าน Rare Finds Bookstore and Cafe ในเทศบาลนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เปิดขายทั้งกาแฟ หนังสือ และของจิปาถะ, Booktopia ร้านหนังสือที่เน้นขายแนววรรณกรรมและปรัชญาในต.อุทัยใหม่ จ.อุทัยธานี ก่อตั้งจากแพชชั่นของนักเขียนนามปากกาญามิลา, และ Swiftlet Bookshop & Coffee ร้านหนังสือฝีมือนักเขียนรุ่นใหม่เจ้าของผลงาน การเดินอากาศบางประการ โดยร้านนี้เปิดรอต้อนรับชาวหนอนหนังสืออยู่ที่ ต.คูหาสวรรค์ จ.พัทลุง

TikTok ส่งเสริมคอมมูนักอ่าน

       นอกจากนักเขียนนักอ่านที่ทำช่อง TikTok แล้ว ร้านหนังสือชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Se-ed, นายอินทร์ และ B2S ก็มีช่องออฟฟิเชียลทำคอนเทนต์ตีตลาดนักอ่านทาง TikTok ด้วยเช่นกัน และเพราะความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ #BookTok ในไทย เมื่อไม่นานมานี้ทาง กทม. ได้ร่วมมือกับ TikTok จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน โดยเชิญชวนผู้มีอายุ 13 ปีขึ้นไปถ่ายคลิปติดแฮชแท็ก #BKKBookTok ร่วมลุ้นเงินรางวัลกว่า 140,000 บาท เมื่อ 15 ก.พ. – 15 มี.ค. 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Bangkok Read & Learn Festival 2024

       และเนื่องในโอกาสต้อนรับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 52 ในปี 2024 นี้ ทาง Tiktok ก็ได้จัดกิจกรรมลุ้นรางวัลสุด exclusive โดยมีเงื่อนไขง่าย ๆ เพียงถ่ายคลิปรีวิวหนังสือติดแฮชแท็ก #อ่านตามTikTok ก็มีสิทธิ์ชนะรางวัลไปครอง โดยกิจกรรมดังกล่าวมีระยะเวลาตั้งแต่ 15 มี.ค. – 10 เม.ย. 2024 นี้ และล่าสุดก็มีผู้ใช้งาน TikTok โพสต์คลิปร่วมเล่นกิจกรรมที่ว่าเกินกว่า 76,000 คลิปแล้ว

       เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนว่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องของคอนเทนต์ #BookTok ส่งผลในแง่บวกกับวงการหนังสือภายในประเทศ เป็นอีกช่องทางสำคัญที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐบาลและเอกชนเริ่มจับตามอง เป็นโอกาสที่จะแผ่ขยายชุมชนนักอ่านไปในวงกว้าง ต่อลมหายใจอุตสาหกรรมหนังสือในประเทศไทย และสนับสนุนให้คนไทยยุคใหม่สนุกกับการอ่านด้วยการสร้างคอมมูนิตี้นักอ่านที่เข้าถึงได้จากทั่วทุกสารทิศ

 

Reference

insightera

pubat

สำนักงานสถิติแห่งชาติ

https://www.fathombookspace.co/

https://www.dasabookcafe.com/

lemon8

smethailandclub

urbancreature

Rare find bookstore